สืบเนื่องจากการดูรายการพื้นที่ชีวิต TPBS

กระทู้สนทนา
สืบเนื่องจากการดูรายการพื้นที่ชีวิต TPBS เมื่อวานนี้ ซึ่งดูไม่ครบทั้งตอนหรอก แต่มาสะดุดคำพูดของนิ้วกลมในช่วงท้าย ๆ เรื่องบทบาทพระสงฆ์กับสังคมในยุคปัจจุบัน และได้พูดถึงพิธีกรรมของพระสงฆ์บ้านเรา

เท่าที่ผมเป็นเด็กวัด และอยู่กับวัด พอได้เรียนนักธรรมกับเขาบ้าง ได้ฟังมาบ้างว่า พิธีกรรมของพุทธ จริง ๆ แล้วมีน้อยมาก ถ้าคัดกันจริง ๆ จัง ๆ ในบ้านเรา มีแค่พิธีอาราธนาศิล แค่นั้นเอง ขึ้นต้นด้วยการกราบพระ กล่าวคำอาราธนาศิล รับศิล กราบพระ หลัก ๆ พิธีกรรมของพุทธสายเถรวาท ที่พระสงฆ์กับฆาราวาส ก็มีเพียงเท่านี้ แต่ที่นิ้วกลิ้มพยายามกล่าวถึงและชวนให้นึกถึง ก็คงเป็นแบบที่เราเห็น ๆ กันอยู่ในทุกวันนี้ ที่มีพิธีแก้กรรม แก้ชง ลงของ ลงอาคม อะไรกันมั่วไปหมดนั่นแหละ

ผมเข้าใจเอาเองว่า พิธีกรรมคงปรับไปตามสภาพแวดล้อมของสังคมนั้น ๆ ในยุคแรก ๆ บ้านเราก็รับอิทธิพลของอินเดียมาเยอะ และศาสนาอินดู ก็มีผลในเรื่องความเชื่อต่าง ๆ มากมาย จึงได้มีพิธีกรรมของอินดู หรือ พราหมณ์เขามาปนในพิธีของพุทธในบ้านเรามากมาย จนบ้างครั้งหลาย ๆ คนก็แยกไม่ออก เช่นการบวงสรวงต่าง ๆ เป็นพิธีของพราหมณ์
วัฒนธรรมท้องถิ่นหลาย ๆ ที่นับถือผี จึงเอาคติความเชื่อเรื่องผีเขามาป่นในพิธีกรรมของพุทธ จนบ้างครั้งผมก็มองว่ามันเลอะเทอะ
และยิ่งสมัยนี้ไม่ต้องพูดถึง เรียกได้ว่าจับรวมขย่ำ ๆ ทั้งมหายาน หินยาน บางทีก็รวมเอาสัทธิขงจือ เต๋า มาผสมอย่างเมามัน อย่างปฎิทินจีน ก็จะมีเรื่องปีชง ซึ่งผมเองไม่ได้สนใจศึกษา ก็ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของมันเท่าไร แต่ดันมีข้อห้ามสารพัด

คุณนิ้วกลม พยายามตั้งประเด็นเรื่องบทบาทพระสงฆ์ในสังคมไทยในยุคปัจจุบัน จะว่าไปพระสงฆ์มีบทบาทน้อยลงมาก ๆ ก็เมื่อตอนมีโรงเรียน ย้อนไปแค่สมัยรัชกาลที่ 5 เริ่มมีการตั้งโรงเรียนสอนหนังสือ มีครูผู้สอน แทนการศึกษาการเล่าเรียนจากวัด ซึ่งพระจะเป็นผู้สอน ในสมัยก่อนผู้ที่จะอ่านออกเขียนได้ จะต้องบวชเรียน ก็หมายความว่าี้ต้องไปเรียนหนังสือกับพระจริง ๆ และพระที่สามารถสอนหนังสือได้นั้นก็ต้องเป็นพระที่มีความรู้ความสามารถ

การอ่านออกเขียนได้ของพระและการศึกษาพระธรรมและการเทศนา เป็นการฝึกให้เป็นผู้นำโดยปริยาย ในสมัยก่อนพระจึงเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของชุมชน เป็นผู้นำ เป็นผู้ที่เคารพศรัทธา และเป็นผู้ที่แก้ปัญหาหลาย ๆ เรื่องให้กับชาวบ้าน และการที่ชาวบ้านอยู่ในศิลในธรรมก็เป็นการควบคุมทางสังคมอย่างหนึ่ง ให้อยู่กันอย่างปกติสุข โดยใช้บาปบุญ เป็นตัวควบคุม

สำหรับปัจจุบัน บทบาทของพระสงฆ์เปลี่ยนไปตามยุคสมัย พระหลาย ๆ ก็ตามใจชาวบ้าน ทำทุกอย่างเพื่อให้คนเข้าวัด และหาทุนทรัพย์ในการบริหารจัดการภายในวัด เพราะในยุคสมัยปัจจุบัน วัดมีค่าใช้จ่ายมาก ไหนจะค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าแรงงาน ทุกวันนี้พระในแต่ละวัดมีจำนวนน้อย และการดูแลสิ่งก่อสร้าง อาคารสถานที่ บางครั้งทำได้ไม่ทั่วถึง จึงต้องมีการจ้างแรงงานมาช่วยทำหลาย ๆ เรื่อง จึงทำให้มีค่าใช้จ่าย

วัดส่วนมากในประเทศไทยจึงจำเป็นต้องหากลวิธีดึงคนเข้าวัด โดยการจัดมหรสพในวัด ทั้งดนตรี ลิเก หนังกลางแปลง และจำหน่ายวัตถุมงคลต่าง ๆ ซึ่งในสมัยก่อน ๆ อาจจะไม่หลากหลายมาก อย่างปัจจุบัน ซึ่งได้คิดมุขต่าง ๆ มาขายเช่นตัวต่อ ต่อเงินต่อทอง กำไรข้อมือ เป็นกำไรเงิน กำไรทอง จนกระทั้งแหวนไก่ย่าง พลอยเอิร์ทเคว็ก

พระสงฆ์กับพิธีกรรมแปลก ๆ จึงมีให้เห็นโดยทั่วไป แล้วยิ่งผสมกับไสทยศาสตร์ ยิ่งไปกันใหญ่ พระไปกราบฤาษี กราบนักพรต ไปกราบอาจารย์สักยันต์ ก็มี ทั้ง ๆ ถ้านับศักดิ์แล้วพระต้องสูงกว่า

และด้วยเหตุนี้ พระครู จริง ๆ จึงได้หายไปจากสังคมไทย พระครูผู้สอนหนังสือ สอนธรรมะ ให้ชาวบ้านมีปัญญา มีดวงตาเห็นธรรมที่สามารถดำรงค์ชีวิตด้วยความมีสติได้

สงสัยจะยาวไป ไว้ต่อตอนหน้าแล้วกัน งานนี้คงต้องเขียนเป็นเล่มแล้วละ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่