ก๊อกๆๆ ...
เสียงเคาะเรียกจากประตูหน้าห้อง ทำให้ศิราที่กำลังเตรียมอาหารมื้อค่ำเงยหน้าขึ้นอย่างแปลกใจ
พร้อมๆกับปลดผ้ากันเปื้อนออกวางไว้ แล้วเดินไปยังต้นเสียงนั้น
“ที่รัก ผมมาแล้วจ้ะ”
เสียงชายหนุ่มนำมาก่อนที่ศิราจะทันก้าวไปหา และเป็นอีกครั้งที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว กว่าจะรู้ว่าอะไร
เป็นอะไรเธอก็เข้าไปอยู่ในวงแขนนั้นเรียบร้อยแล้ว
“ว้าย .. “
อุทานได้เพียงเท่านั้น ริมฝีปากบางที่ไร้สีสันสังเคราะห์แต่งแต้ม ก็ถูกขโมยจุมพิตไปอีก
“อื้อ .. “
แม้จะตกใจเพราะถูกจู่โจมแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว หากรสสัมผัสทำให้ศิราอดที่จะโต้ตอบไปบ้างไม่ได้
“ชื่นใจจัง ที่รักของผม”
เนิ่นนานกว่าประโยคแรกจะหลุดคำถามออกมาจากปากของศิรา แต่ตัวของเธอกลับยังคงอยู่ในอ้อมกอดนั้น
“คุณมาเร็วจังค่ะ .. ฉันยังเตรียมของไม่เสร็จเลย”
“ผมหิวน่ะสิ เลยรีบมา”
คำพูดนั้นคงจะเป็นเพียงคำพูดธรรมดาทั่วไป ถ้าคนพูดจะไม่มองศิราด้วยสายตาที่ทำให้เธอต้องรีบพาตัวเอง
หนีจากวงแขนของเขาแล้วหันหลังเดินเข้าครัวไปพร้อมด้วยอาการเต้นแปลกๆที่หัวใจ
ชายหนุ่มเดินตามศิราไปนั่งตรงข้ามโต๊ะที่เธอกำลังเตรียมอาหารจานสุดท้าย ระหว่างแกะกระดุมแขน
เสื้อแล้วพับขึ้นมาสองสามทบก่อนเอ่ยว่า
“เหนื่อยจังเลย ผมอยากอาบน้ำ”
อีกครั้งที่คำพูดเรียบๆของเขา ทำให้เธอต้องละมือจากจานอาหารแล้วหันไปที่อ่างล้างจานก่อนหยิบ
บางสิ่งขึ้นมา
“นี่ครัวค่ะ และนี่ก็น้ำยาล้างจาน ฉันมีสก็อตไบรท์ด้วย คุณจะใช้แบบสีเขียวหรือแบบฟองน้ำมีตาข่ายคะ”
เสียงหัวเราะดังขึ้นทันทีที่ศิราพูดจบ เขาต้องข่มอารมณ์ขันครู่หนึ่งก่อนจะใช้ส้อมที่วางอยู่ใกล้จิ้มหมูน้ำผึ้ง
เข้าปากเคี้ยวพลางพูดขึ้น
“แหม ที่รักจ๊ะ ก็ผมร้อนนี่นา แต่ถ้าคุณใส่ตาข่ายแทนฟองน้ำ ผมก็จะยอมใช้น้ำยาล้างจานแทนสบู่ เอ้า
ยอมใช้ครัวเป็นห้องน้ำเลยก็ได้”
เพี๊ยะ ..
>>>>>>>>>
วาเลนไทน์ของเรา (อีก) สักครั้ง
เสียงเคาะเรียกจากประตูหน้าห้อง ทำให้ศิราที่กำลังเตรียมอาหารมื้อค่ำเงยหน้าขึ้นอย่างแปลกใจ
พร้อมๆกับปลดผ้ากันเปื้อนออกวางไว้ แล้วเดินไปยังต้นเสียงนั้น
“ที่รัก ผมมาแล้วจ้ะ”
เสียงชายหนุ่มนำมาก่อนที่ศิราจะทันก้าวไปหา และเป็นอีกครั้งที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว กว่าจะรู้ว่าอะไร
เป็นอะไรเธอก็เข้าไปอยู่ในวงแขนนั้นเรียบร้อยแล้ว
“ว้าย .. “
อุทานได้เพียงเท่านั้น ริมฝีปากบางที่ไร้สีสันสังเคราะห์แต่งแต้ม ก็ถูกขโมยจุมพิตไปอีก
“อื้อ .. “
แม้จะตกใจเพราะถูกจู่โจมแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว หากรสสัมผัสทำให้ศิราอดที่จะโต้ตอบไปบ้างไม่ได้
“ชื่นใจจัง ที่รักของผม”
เนิ่นนานกว่าประโยคแรกจะหลุดคำถามออกมาจากปากของศิรา แต่ตัวของเธอกลับยังคงอยู่ในอ้อมกอดนั้น
“คุณมาเร็วจังค่ะ .. ฉันยังเตรียมของไม่เสร็จเลย”
“ผมหิวน่ะสิ เลยรีบมา”
คำพูดนั้นคงจะเป็นเพียงคำพูดธรรมดาทั่วไป ถ้าคนพูดจะไม่มองศิราด้วยสายตาที่ทำให้เธอต้องรีบพาตัวเอง
หนีจากวงแขนของเขาแล้วหันหลังเดินเข้าครัวไปพร้อมด้วยอาการเต้นแปลกๆที่หัวใจ
ชายหนุ่มเดินตามศิราไปนั่งตรงข้ามโต๊ะที่เธอกำลังเตรียมอาหารจานสุดท้าย ระหว่างแกะกระดุมแขน
เสื้อแล้วพับขึ้นมาสองสามทบก่อนเอ่ยว่า
“เหนื่อยจังเลย ผมอยากอาบน้ำ”
อีกครั้งที่คำพูดเรียบๆของเขา ทำให้เธอต้องละมือจากจานอาหารแล้วหันไปที่อ่างล้างจานก่อนหยิบ
บางสิ่งขึ้นมา
“นี่ครัวค่ะ และนี่ก็น้ำยาล้างจาน ฉันมีสก็อตไบรท์ด้วย คุณจะใช้แบบสีเขียวหรือแบบฟองน้ำมีตาข่ายคะ”
เสียงหัวเราะดังขึ้นทันทีที่ศิราพูดจบ เขาต้องข่มอารมณ์ขันครู่หนึ่งก่อนจะใช้ส้อมที่วางอยู่ใกล้จิ้มหมูน้ำผึ้ง
เข้าปากเคี้ยวพลางพูดขึ้น
“แหม ที่รักจ๊ะ ก็ผมร้อนนี่นา แต่ถ้าคุณใส่ตาข่ายแทนฟองน้ำ ผมก็จะยอมใช้น้ำยาล้างจานแทนสบู่ เอ้า
ยอมใช้ครัวเป็นห้องน้ำเลยก็ได้”
เพี๊ยะ ..
>>>>>>>>>