สืบเนื่องจากกระทู้
http://ppantip.com/topic/30137730
มีเพื่อนสมาชิกถามผมว่า ผมคิดว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร
ผมเองก็ไม่ค่อยมีความรู้ในเรื่องนี้ แต่ก็อยากนำเสนอครับ เพื่อนๆท่านใดมีความคิดเห็นเพิ่มเติมก็ขอเชิญนะครับ
ปัญหาเด็กขอทานเร่ร่อนนั้น ตามความเข้าใจของผมแบ่งเด็กออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
1. เด็กที่ถูกบุพการีพามาขอทาน
2. เด็กที่ถูกลักพาตัว/ บังคับ/ ซื้อขาย ให้มาขอทาน
เด็กทั้ง 2 กลุ่มควรจะได้มีโอกาสใช้ชีวิตวัยเด็กเหมือนอย่างที่ควรจะเป็น ได้อยู่อาศัยในสภาพแวดล้อมที่ดี ได้กินอาหารดีๆได้เรียนหนังสือ และได้รับความรักจากผู้เลี้ยงดู
ปัจจุบันหน่วยงานที่รับผิดชอบในเรื่องนี้เป็นหลักคือ ศูนย์ประชาบดี เป็นหน่วยงานของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งที่ผ่านมาก็ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระดับหนึ่ง สำหรับผมแล้วถือว่าน่าพอใจ ในการปฏิบัติการ ศูนย์ประชาบดีได้ร่วมมือกับตำรวจออกตรวจจับเด็กขอทานเร่ร่อน ผมขอยกตัวอย่างจากข่าวในลิงค์นี้นะครับ -->
http://www.learners.in.th/blogs/posts/466152
เนื้อข่าวดังนี้
“ วันที่ 8 เม.ย. ที่ บก.สปพ. (191) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธนพล สนเทศ ผบก.สปพ. ร่วมกันแถลงข่าวการระดมกวาดล้างคนเร่ร่อนและขอทานทั่วกรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ประเทศ และ ลดปัญหาอาชญากรรมจึงร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จับกุมขอทานได้ทั้งสิ้น 148 คน แบ่งเป็นบุคคลต่างด้าว 92 คน แยกเป็นชาย 36คน หญิง 31 คน เด็กชายและเด็กหญิงรวม 25 คน นอกจากนั้น ยังมีคนไทยอีกทั้งสิ้น 56 คน แยกเป็นชาย 23 คน หญิง 30 คน และเด็กชาย 3 คน
ทั้งนี้ จับกุมทั้งหมดได้จากบริเวณแยกสัญญาณไฟจราจร เช่น วงเวียนใหญ่ ประตูน้ำ ซอยนานา และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จากนี้ หากขอทานเหล่านี้เป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองจะผลักดันกลับสู่ประเทศภูมิลำเนา กรณีเป็นคนไทยจะมอบหมายให้ศูนย์ประชาบดีรับไปดูแล ส่วนขอทานที่เป็นพ่อแม่ลูกกันจะให้สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ นำไปตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอว่าเป็นพ่อแม่ลูกกันจริงหรือไม่ “
กรณีข่าวที่ยกตัวอย่างมานั้น ผมมองว่าเป็นการแก้ปัญหาได้ถูกจุด ถูกวิธี เนื่องจากจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของตำรวจ ซึ่งมีความสามารถในการจับกุมผู้กระทำความผิดได้ หากเจ้าหน้าที่ของศูนย์ประชาบดีไปจับเอง คงไม่สำเร็จ เผลอๆจะถูกทำร้ายเอาเสียด้วย เพราะเมื่อดูจากตัวเลขการจับกุม เป็นต่างด้าวซะ 92คน จากทั้งหมด 148 คน ซึ่งแน่นอนว่า มีขบวนการอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง
แต่เราจะสังเกตเห็นได้ว่า ยังพบเด็กขอทานอยู่ทุกวันเช่นเคย เพราะอะไร?
ผมคิดว่าขบวนการค้ามนุษย์นั้นมีศักยภาพไม่น้อยกว่าขบวนการค้ายาเสพย์ติด ที่สำคัญ ทำง่ายและอาจสร้างรายได้ ได้มากกว่าการค้ายาเสพย์ติดด้วยซ้ำ ในการจับกุมบางครั้งมีการแสดงตัวเลขรายได้จากการขอทานต่อวันถึงวันละกว่า 1 หมื่นบาท -->
http://hilight.kapook.com/view/79637
การปฏิบัติจากหน่วยงานที่รับผิดชอบนั้นต้อง “ต่อเนื่อง” จะทำแบบนานๆทีไม่ได้ ต้องมอบหมายให้เป็นภารกิจหลักอย่างหนึ่งของตำรวจ ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ทุกวัน มีโอกาสพบเห็นเด็กขอทานทุกวัน
แต่จากประสบการณ์ของผม เคยเห็นเด็กขอทานนั่งขอทานอยู่หน้าป้อมตำรวจด้วยซ้ำไป เพราะอะไร? ก็เพราะมันไม่ใช่หน้าที่หลักของเค้า แค่ไปช่วยจับกุมเป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้น
ศูนย์ประชาบดีมีข้อจำกัดในหลายด้าน โดยเฉพาะด้านบุคลากรที่จะออกตรวจจับ ถ้าลำพังรอให้ประชาชนไปพบเห็นแล้วโทรเข้ามาแจ้งที่Call Center คงไม่มีวันจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน
สรุป ผมคิดว่าต้องเริ่มจากนโยบายก่อนครับ การขอทานนั้นเป็นความผิดตามกฎหมายอยู่แล้ว (พระราชบัญญัติควบคุมการขอทานพุทธศักราช ๒๔๘๔) แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยปละละเลยมาโดยตลอด
ดังนั้นรัฐต้องมอบนโยบายให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ ให้การตรวจจับเป็นภารกิจหลักเรื่องหนึ่งเลย คือถ้าพบเห็นต้องจับ ถ้าไม่จับคือบกพร่องต่อหน้าที่ มีความผิด พอจับแล้วก็ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งก็คือศูนย์ประชาบดีนั่นเอง
ในอนาคตถ้าเป็นไปได้ ควรแก้ไขพรบ.ควบคุมการขอทานฯดังกล่าว เพราะเป็นกฎหมายที่เก่า ไม่เหมาะกับสภาพปัจจุบัน แต่ตอนนี้ถ้ารอให้แก้กฎหมายก่อนก็คงไม่ไหว มอบนโยบบายให้ตำรวจไปก่อนเลยครับ
เป็นวิธีการแก้อย่างง่ายๆที่อาจช่วยแก้ปัญหายากๆ ซึ่งอยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนาน
…………………………………………………………
ลองดูเรื่องการค้ามนุษย์เพิ่มเติมในลิงค์นี้ครับ จะยิ่งสลดใจว่าเด็กๆถูกซื้อขายเยี่ยงสิ่งของ เพื่อมานั่งขอทานตามข้างถนน
-->
http://www.mirror.or.th/autopagev4/show_page.php?topic_id=803&auto_id=18&TopicPk=
การแก้ปัญหาเด็กขอทาน/ขบวนการค้ามนุษย์
มีเพื่อนสมาชิกถามผมว่า ผมคิดว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร
ผมเองก็ไม่ค่อยมีความรู้ในเรื่องนี้ แต่ก็อยากนำเสนอครับ เพื่อนๆท่านใดมีความคิดเห็นเพิ่มเติมก็ขอเชิญนะครับ
ปัญหาเด็กขอทานเร่ร่อนนั้น ตามความเข้าใจของผมแบ่งเด็กออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
1. เด็กที่ถูกบุพการีพามาขอทาน
2. เด็กที่ถูกลักพาตัว/ บังคับ/ ซื้อขาย ให้มาขอทาน
เด็กทั้ง 2 กลุ่มควรจะได้มีโอกาสใช้ชีวิตวัยเด็กเหมือนอย่างที่ควรจะเป็น ได้อยู่อาศัยในสภาพแวดล้อมที่ดี ได้กินอาหารดีๆได้เรียนหนังสือ และได้รับความรักจากผู้เลี้ยงดู
ปัจจุบันหน่วยงานที่รับผิดชอบในเรื่องนี้เป็นหลักคือ ศูนย์ประชาบดี เป็นหน่วยงานของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งที่ผ่านมาก็ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระดับหนึ่ง สำหรับผมแล้วถือว่าน่าพอใจ ในการปฏิบัติการ ศูนย์ประชาบดีได้ร่วมมือกับตำรวจออกตรวจจับเด็กขอทานเร่ร่อน ผมขอยกตัวอย่างจากข่าวในลิงค์นี้นะครับ --> http://www.learners.in.th/blogs/posts/466152
เนื้อข่าวดังนี้
“ วันที่ 8 เม.ย. ที่ บก.สปพ. (191) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธนพล สนเทศ ผบก.สปพ. ร่วมกันแถลงข่าวการระดมกวาดล้างคนเร่ร่อนและขอทานทั่วกรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ประเทศ และ ลดปัญหาอาชญากรรมจึงร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จับกุมขอทานได้ทั้งสิ้น 148 คน แบ่งเป็นบุคคลต่างด้าว 92 คน แยกเป็นชาย 36คน หญิง 31 คน เด็กชายและเด็กหญิงรวม 25 คน นอกจากนั้น ยังมีคนไทยอีกทั้งสิ้น 56 คน แยกเป็นชาย 23 คน หญิง 30 คน และเด็กชาย 3 คน
ทั้งนี้ จับกุมทั้งหมดได้จากบริเวณแยกสัญญาณไฟจราจร เช่น วงเวียนใหญ่ ประตูน้ำ ซอยนานา และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จากนี้ หากขอทานเหล่านี้เป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองจะผลักดันกลับสู่ประเทศภูมิลำเนา กรณีเป็นคนไทยจะมอบหมายให้ศูนย์ประชาบดีรับไปดูแล ส่วนขอทานที่เป็นพ่อแม่ลูกกันจะให้สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ นำไปตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอว่าเป็นพ่อแม่ลูกกันจริงหรือไม่ “
กรณีข่าวที่ยกตัวอย่างมานั้น ผมมองว่าเป็นการแก้ปัญหาได้ถูกจุด ถูกวิธี เนื่องจากจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของตำรวจ ซึ่งมีความสามารถในการจับกุมผู้กระทำความผิดได้ หากเจ้าหน้าที่ของศูนย์ประชาบดีไปจับเอง คงไม่สำเร็จ เผลอๆจะถูกทำร้ายเอาเสียด้วย เพราะเมื่อดูจากตัวเลขการจับกุม เป็นต่างด้าวซะ 92คน จากทั้งหมด 148 คน ซึ่งแน่นอนว่า มีขบวนการอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง
แต่เราจะสังเกตเห็นได้ว่า ยังพบเด็กขอทานอยู่ทุกวันเช่นเคย เพราะอะไร?
ผมคิดว่าขบวนการค้ามนุษย์นั้นมีศักยภาพไม่น้อยกว่าขบวนการค้ายาเสพย์ติด ที่สำคัญ ทำง่ายและอาจสร้างรายได้ ได้มากกว่าการค้ายาเสพย์ติดด้วยซ้ำ ในการจับกุมบางครั้งมีการแสดงตัวเลขรายได้จากการขอทานต่อวันถึงวันละกว่า 1 หมื่นบาท --> http://hilight.kapook.com/view/79637
การปฏิบัติจากหน่วยงานที่รับผิดชอบนั้นต้อง “ต่อเนื่อง” จะทำแบบนานๆทีไม่ได้ ต้องมอบหมายให้เป็นภารกิจหลักอย่างหนึ่งของตำรวจ ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ทุกวัน มีโอกาสพบเห็นเด็กขอทานทุกวัน
แต่จากประสบการณ์ของผม เคยเห็นเด็กขอทานนั่งขอทานอยู่หน้าป้อมตำรวจด้วยซ้ำไป เพราะอะไร? ก็เพราะมันไม่ใช่หน้าที่หลักของเค้า แค่ไปช่วยจับกุมเป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้น
ศูนย์ประชาบดีมีข้อจำกัดในหลายด้าน โดยเฉพาะด้านบุคลากรที่จะออกตรวจจับ ถ้าลำพังรอให้ประชาชนไปพบเห็นแล้วโทรเข้ามาแจ้งที่Call Center คงไม่มีวันจะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน
สรุป ผมคิดว่าต้องเริ่มจากนโยบายก่อนครับ การขอทานนั้นเป็นความผิดตามกฎหมายอยู่แล้ว (พระราชบัญญัติควบคุมการขอทานพุทธศักราช ๒๔๘๔) แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยปละละเลยมาโดยตลอด ดังนั้นรัฐต้องมอบนโยบายให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ ให้การตรวจจับเป็นภารกิจหลักเรื่องหนึ่งเลย คือถ้าพบเห็นต้องจับ ถ้าไม่จับคือบกพร่องต่อหน้าที่ มีความผิด พอจับแล้วก็ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งก็คือศูนย์ประชาบดีนั่นเอง
ในอนาคตถ้าเป็นไปได้ ควรแก้ไขพรบ.ควบคุมการขอทานฯดังกล่าว เพราะเป็นกฎหมายที่เก่า ไม่เหมาะกับสภาพปัจจุบัน แต่ตอนนี้ถ้ารอให้แก้กฎหมายก่อนก็คงไม่ไหว มอบนโยบบายให้ตำรวจไปก่อนเลยครับ
เป็นวิธีการแก้อย่างง่ายๆที่อาจช่วยแก้ปัญหายากๆ ซึ่งอยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนาน
…………………………………………………………
ลองดูเรื่องการค้ามนุษย์เพิ่มเติมในลิงค์นี้ครับ จะยิ่งสลดใจว่าเด็กๆถูกซื้อขายเยี่ยงสิ่งของ เพื่อมานั่งขอทานตามข้างถนน
--> http://www.mirror.or.th/autopagev4/show_page.php?topic_id=803&auto_id=18&TopicPk=