ตอนแรกยังเคยคิดว่าจะชื่นชมการทำการตลาดของบริษํทนี้ที่เก่งมากที่มองตลาดออกว่ายังมีช่องว่างตรงตลาดล่าง จึงเน้นเล่นที่ปริมาณมากที่ราคาไม่แพงเจาะตลาด ตจว และเน้นทำการตลาด below the line

แต่ว่าต่อมามีการร้องเรียน เรื่องการเทนํ้าบิ้กโคล่า หมดอายุเน่า จากชลบุรีลงคลองในชุมชนที่ฉะเชิงเทรา ทำให้ผมรุ็สึกว่าบริษํทก้เป็นบริษัทใหญ่ที่มียอดขายระดับก้หลายพันล้าน ควรจะมีความรับผิดชอบอย่างน้อยเรื่องการกำจัดของเสียจากการผลิตที่ดี ไม่เป็นพิษต่อชุมชน นี่ยังไม่คิดถึงสารพิษต่างที่อยู่ในขั้นตอนการผลิตนะครับไม่รุ็ว่าพนักงานในนั้นจะมีการดูแลอะไรดีเพียงพอหรือไม่
นี่ข่าวครับ


หลังจากนั้นไม่นานก้มาเกิดเหตุมีแมลงสาปใน ขวดบิ้ก ที่โพสในเฟสบุ้คจนโด่งดัง ซึ่งผมไม่ได้จะบอกว่าเป็นความผิดที่มีแมลงสาป การผิดพลาดในขั้นตอนการผลิตเกิดขึ้นได้กับทุกผลิตภัณฑ์แต่จุดสำคัญคือต้องสร้างความเข้าใจว่าความผิดพลาดดังกล่าวที่เจอสาเหตุคืออะไรและเยียวยาให้ผู้บริโภคทีได้รับความเสียหาย


ซึ่งเป็นปกติของบริษัทที่มีธรรมาภิบาลไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก
ที่จะต้องพิสูจน์และสร้างความเข้าใจพร้อมกับเยียวยา ให้กับลูกค้าโดยเร็วเมื่อมีข้อผิดพลาดขึ้น
เช่นกรณีที่ดังในพันทิพที่mk ในกระทู้นี้นะครับ
จากกระทู้ข้าวหน้าเป็ขดสามชิ้นของMK กับความรับผิดชอบองMK:http://ppantip.com/topic/30107975

แต่สิ่งที่บริษัทนี้ทำคือการแก้ตัวและไม่แก้ไขสิ่งใดๆ รวมทั้งไม่มีการสร้างความมั่นใจในการป้องกันที่จะไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต


เป็นเรื่องดีนะครับที่จะมีการแข่งขันในทางธุรกิจให้ผู้บริโภคมีทางเลือก แต่2เหตุการณ์ข้างต้นเกิดห่างกันไม่นาน ปลายปี 55 และต้นปี 56
ที่ ริงน่าจะใช้เป็นโอกาสในการแก้ตัวหรือแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยซํ้าแต่กลับไม่มีการพัฒนาตรงนี้เลย ถ้าบอกได้ผมอยากบอกว่าสิ่งสำคัญแรกสุด ถ้าผู้บริโภคเลือกได้คงเลือกปริมาณที่น้อยลงหน่อยแลกกับกระบวนการผลิตที่ให้สินค้าปลอดภัยกับผู้บริโภคและความรับผิดชอบที่มากขึ้นของผู้ผลิตต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมครับ

ฝากถึงทางบริษัท อาเจไทยด้วยละกันครับ ว่าถ้าจะทำธุรกิจระยะยาวในประเทศไทย ช่วยคิดถึง สุขภาพของคนไทยและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยด้วย หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีกนะครับ ทั้งนํ้าเสีย ทั้งแมลงสาป
แล้วนี่ยังจะมาตั้งโรงงานผลิตเบียร์  การใช้นํ็าก้มาก ของเสียจากการผลิตก้เยอะ ควบคุณดีๆหน่อยละกันครับ