บ้านเราตอนนี้หากด้อมๆ มองๆ ตามสถานเสริมความงามทั้งเล็กใหญ่ ดูเหมือนการศัลยกรรมเสริมหน้าอกจะได้รับความนิยมไม่น้อยเลยค่ะ
นอกจากจะเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สถานที่ รีวิวต่างๆแล้ว ตัว implant หรือก้อนซิลิโคนก็เป็นสิ่งที่สำคัญนะคะ เพราะสิ่งนี้เองที่จะช่วยเสริมบุคลิก ความภาคภูมิใจในภาพลักษณ์ของตัวเราเอง ที่สำคัญจะต้องปลอดภัยด้วยใช่มั้ยล่ะคะ เพราะเราตั้งใจหมายว่าจะต้องอยู่กับเขาไปตลอดชีวิตของเรา
รูปทรงซิลิโคนในปัจจุบันแบ่งออกง่ายๆ เป็น 2 ชนิดค่ะ
1. ทรงกลม
จะมีทั้งชนิด high profile (ทรงพุ่ง คล้ายปิรามิด) และ Low profile (แบนคล้ายจาน)
implant ชนิดนี้ จะมีขนาดที่หลากหลาย ทั้งความกว้าง และน้ำหนัก ซึ่งจะต้องเลือกให้เหมาะกับคยไข้แต่ละคนค่ะ
หาก ความกว้างของเต้านมเล็ก ฐานของซิลิโคนก็ต้องมีขนาดที่เหมาะสมค่ะ หากลักษณะของเต้านมมีความพุ่งอยู่แล้ว
การใส่ชนิด low profile ก็อาจจะเหมาะสมกว่า.....คราวนี้อย่าเพิ่งยั๊วหมอ เวลาคุณหมอจัดขนาดเล็กไปไม่ถูกใจนะคะ เราคงไม่อยากได้น้องนมสี่เต้าใช่มั้ยล่ะคะ สาวๆ ทั้งนี้ต้องปรึกษาแพทย์ด้วยนะคะ ว่ามีเทคนิกการเลาะขยายฐานเพื่อช่วยให้ใส่ซิลิโคนขนาดใหญ่หรือไม่ และอย่างไร
อีกอย่างที่จะละเลยไปไม่ได้คือผิวของซิลิโคน จะมีทั้งผิวทราย และผิวเรียบ
ซึ่งผิวทรายนี้เป็นวิวัฒนาการของซิลิโคนเสริมเต้านมค่ะ ผิวทรายนี้จะช่วยให้ลดผลข้างเคียงบางชนิดค่ะ อาทิ เต้านมบิด หรือผังผืดรอบเต้านม รวมไปถึงการหย่อนยานในอนาคตด้วยค่ะ ด้วยหลักง่ายๆ คือเนื้อเยื่อในร่างกายเราจะชอนไชเข้าไปในผิวพรุนนี้ (แล้วแต่คุณภาพของบริษัทผู้ผลิต) และยึดเกาะไว้ติดกับเนื้อเยื่อของเราค่ะ
แล้วทำไมชนิดผิวเรียบยังคงมีอยู่???
แพทย์อาจเลือกใช้ในเคสที่ต้องการใส่ขนาดที่ใหญ่มากๆ เพราะแผลที่สอดก็ต้องใหญ่เท่าเดิม คือประมาณ 5 ซม. แต่ตัวซิลิโคนใหญ่ ก็ต้องเลือกชนิดที่บีบได้มากกว่า และลื่นพอ (เมื่อหล่อด้วยสารหล่อลื่นทางการแพทย์ หรือน้ำเกลือ)เพื่อที่จะเข้าไปได้ง่ายขึ้น ชนิดผิวเรียบนี้ ต้องนวดหลังจากการใส่ค่ะ เป็นคำแนะนำจากผู้ผลิตเลยค่ะ
ข้อดีที่แพทย์บางท่านบอกก็คือการสัมผัสค่ะ แบบผิวเรียบจะหยุ่นๆ มือมากกว่า ลองขอคุณหมอเอามาบีบดูสิคะ ลองดูว่าชอบแบบไหน ดูหลายๆแง่นะคะ
ล่าสุด
2. ทรงหยดน้ำ หรือ anatomical shape
หากสาวๆ อยากได้แบบดูเป็นธรรมชาติที่สุด ไม่เป็นสเตปเหมือนใส่ทรงกลม ก็ต้องสู้กับราคานิดนึงค่ะ...อิอิ
เทคโนโลยี ล่าสุดของซิลิโคนเสริมเต้านมค่ะ รวมไปถึงเทคนิกการใส่ที่ควรใส่ใต้รามนมเท่านั้นเพื่อความเที่ยงตรงสวยงาม
ของหน้าอกเรา เนื่องจากไม่ใช่ทรงสมมาตร การใส่ซิลิโคนก็ต้องใช้ความชำนาญของแพทย์ค่ะ การจัดทรงซิลิโคนไม่ให้เบี้ยวนี่สำคัญมากทีเดียว เลือกที่ดีที่สุดนะคะ
ข้อดีของซิลิโคนชนิดนี้ก็คือรูปทรงที่เป็นธรรมชาติ
และในบางแบรนด์ ก็มีการศึกาาเรื่องผิวพรุนภายนอก ที่ลดข้อแทรกซ้อนจากการใส่ที่เป็นสถิติที่น่าสนใจมากเลยค่ะ
แต่อันนี้ต้องลองถามคุณหมอค่ะ นอกจากนี้แล้วยังรับประกันว่าไม่แตกรั่วตลอดชีพด้วยนะคะ
และข้อมูลที่น่าสนใจจากผู้ผลิตอีกข้อก็คือ ไม่ต้องนวด ใช่ค่ะ ไม่ต้องนวด เพราะเนื่องจากทรงซิลิโคนที่ไม่สมมาตร
นวดไปอาจทำให้เบี้ยวได้....ก็ดีนะไม่ต้องเจ็บด้วย ไม่ยุ่งยากด้วย
แล้วแผลล่ะ ทำไง
คนไทยเรานิยมผ่าเข้าทางรักแร้ก็เพราะห่วงสวยเรื่องแผลเป็นนี่แหละค่ะ แต่ที่จริงแล้วผ่าใต้ราวนมจะไม่เป็นแผลเลย
เวลาใส่เสื้อสายเดี่ยวแขนกุดนะคะ ในขณะเดียวกันลักษณะของเต้านมจะคล้อยลงมาอยู่แล้ว ก็จะปิดแผลไปโดยปริยาย
ก็ไม่น่าจะมีปัญหาแม้ใส่ชุดว่ายน้ำ ทูพีซ หรือชุดชั้นใน ว่ามั้ย เว้นแต่จะนอนเปลือย และเปิดไฟ ก็อาจจะสังเกตเห็นได้....เอิ๊กๆๆ
หรือหากเป็นแผลจริงๆ เดี๋ยวนี้ก็มีหนทางให้เลือกค่ะ ทั้งฉีด Steroid ลงบนแผล หรือ Laser Flexel ก็กำลังมาแรงเลยทีเดียว
เอาล่ะค่ะ วันนี้แค่นี้ก่อน เปิดกว้างสำหรับคำถามนะคะ รู้อะไรก็จะเอามาแบ่งกันค่ะ
มีข้อมูลซิลิโคนเสริมหน้าอกทรงหยดน้ำ มาแบ่งค่ะ
นอกจากจะเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สถานที่ รีวิวต่างๆแล้ว ตัว implant หรือก้อนซิลิโคนก็เป็นสิ่งที่สำคัญนะคะ เพราะสิ่งนี้เองที่จะช่วยเสริมบุคลิก ความภาคภูมิใจในภาพลักษณ์ของตัวเราเอง ที่สำคัญจะต้องปลอดภัยด้วยใช่มั้ยล่ะคะ เพราะเราตั้งใจหมายว่าจะต้องอยู่กับเขาไปตลอดชีวิตของเรา
รูปทรงซิลิโคนในปัจจุบันแบ่งออกง่ายๆ เป็น 2 ชนิดค่ะ
1. ทรงกลม
จะมีทั้งชนิด high profile (ทรงพุ่ง คล้ายปิรามิด) และ Low profile (แบนคล้ายจาน)
implant ชนิดนี้ จะมีขนาดที่หลากหลาย ทั้งความกว้าง และน้ำหนัก ซึ่งจะต้องเลือกให้เหมาะกับคยไข้แต่ละคนค่ะ
หาก ความกว้างของเต้านมเล็ก ฐานของซิลิโคนก็ต้องมีขนาดที่เหมาะสมค่ะ หากลักษณะของเต้านมมีความพุ่งอยู่แล้ว
การใส่ชนิด low profile ก็อาจจะเหมาะสมกว่า.....คราวนี้อย่าเพิ่งยั๊วหมอ เวลาคุณหมอจัดขนาดเล็กไปไม่ถูกใจนะคะ เราคงไม่อยากได้น้องนมสี่เต้าใช่มั้ยล่ะคะ สาวๆ ทั้งนี้ต้องปรึกษาแพทย์ด้วยนะคะ ว่ามีเทคนิกการเลาะขยายฐานเพื่อช่วยให้ใส่ซิลิโคนขนาดใหญ่หรือไม่ และอย่างไร
อีกอย่างที่จะละเลยไปไม่ได้คือผิวของซิลิโคน จะมีทั้งผิวทราย และผิวเรียบ
ซึ่งผิวทรายนี้เป็นวิวัฒนาการของซิลิโคนเสริมเต้านมค่ะ ผิวทรายนี้จะช่วยให้ลดผลข้างเคียงบางชนิดค่ะ อาทิ เต้านมบิด หรือผังผืดรอบเต้านม รวมไปถึงการหย่อนยานในอนาคตด้วยค่ะ ด้วยหลักง่ายๆ คือเนื้อเยื่อในร่างกายเราจะชอนไชเข้าไปในผิวพรุนนี้ (แล้วแต่คุณภาพของบริษัทผู้ผลิต) และยึดเกาะไว้ติดกับเนื้อเยื่อของเราค่ะ
แล้วทำไมชนิดผิวเรียบยังคงมีอยู่???
แพทย์อาจเลือกใช้ในเคสที่ต้องการใส่ขนาดที่ใหญ่มากๆ เพราะแผลที่สอดก็ต้องใหญ่เท่าเดิม คือประมาณ 5 ซม. แต่ตัวซิลิโคนใหญ่ ก็ต้องเลือกชนิดที่บีบได้มากกว่า และลื่นพอ (เมื่อหล่อด้วยสารหล่อลื่นทางการแพทย์ หรือน้ำเกลือ)เพื่อที่จะเข้าไปได้ง่ายขึ้น ชนิดผิวเรียบนี้ ต้องนวดหลังจากการใส่ค่ะ เป็นคำแนะนำจากผู้ผลิตเลยค่ะ
ข้อดีที่แพทย์บางท่านบอกก็คือการสัมผัสค่ะ แบบผิวเรียบจะหยุ่นๆ มือมากกว่า ลองขอคุณหมอเอามาบีบดูสิคะ ลองดูว่าชอบแบบไหน ดูหลายๆแง่นะคะ
ล่าสุด
2. ทรงหยดน้ำ หรือ anatomical shape
หากสาวๆ อยากได้แบบดูเป็นธรรมชาติที่สุด ไม่เป็นสเตปเหมือนใส่ทรงกลม ก็ต้องสู้กับราคานิดนึงค่ะ...อิอิ
เทคโนโลยี ล่าสุดของซิลิโคนเสริมเต้านมค่ะ รวมไปถึงเทคนิกการใส่ที่ควรใส่ใต้รามนมเท่านั้นเพื่อความเที่ยงตรงสวยงาม
ของหน้าอกเรา เนื่องจากไม่ใช่ทรงสมมาตร การใส่ซิลิโคนก็ต้องใช้ความชำนาญของแพทย์ค่ะ การจัดทรงซิลิโคนไม่ให้เบี้ยวนี่สำคัญมากทีเดียว เลือกที่ดีที่สุดนะคะ
ข้อดีของซิลิโคนชนิดนี้ก็คือรูปทรงที่เป็นธรรมชาติ
และในบางแบรนด์ ก็มีการศึกาาเรื่องผิวพรุนภายนอก ที่ลดข้อแทรกซ้อนจากการใส่ที่เป็นสถิติที่น่าสนใจมากเลยค่ะ
แต่อันนี้ต้องลองถามคุณหมอค่ะ นอกจากนี้แล้วยังรับประกันว่าไม่แตกรั่วตลอดชีพด้วยนะคะ
และข้อมูลที่น่าสนใจจากผู้ผลิตอีกข้อก็คือ ไม่ต้องนวด ใช่ค่ะ ไม่ต้องนวด เพราะเนื่องจากทรงซิลิโคนที่ไม่สมมาตร
นวดไปอาจทำให้เบี้ยวได้....ก็ดีนะไม่ต้องเจ็บด้วย ไม่ยุ่งยากด้วย
แล้วแผลล่ะ ทำไง
คนไทยเรานิยมผ่าเข้าทางรักแร้ก็เพราะห่วงสวยเรื่องแผลเป็นนี่แหละค่ะ แต่ที่จริงแล้วผ่าใต้ราวนมจะไม่เป็นแผลเลย
เวลาใส่เสื้อสายเดี่ยวแขนกุดนะคะ ในขณะเดียวกันลักษณะของเต้านมจะคล้อยลงมาอยู่แล้ว ก็จะปิดแผลไปโดยปริยาย
ก็ไม่น่าจะมีปัญหาแม้ใส่ชุดว่ายน้ำ ทูพีซ หรือชุดชั้นใน ว่ามั้ย เว้นแต่จะนอนเปลือย และเปิดไฟ ก็อาจจะสังเกตเห็นได้....เอิ๊กๆๆ
หรือหากเป็นแผลจริงๆ เดี๋ยวนี้ก็มีหนทางให้เลือกค่ะ ทั้งฉีด Steroid ลงบนแผล หรือ Laser Flexel ก็กำลังมาแรงเลยทีเดียว
เอาล่ะค่ะ วันนี้แค่นี้ก่อน เปิดกว้างสำหรับคำถามนะคะ รู้อะไรก็จะเอามาแบ่งกันค่ะ