มีใครเคยพบเจอคนจำพวกที่ชอบแต่งเรื่องแกล้งใส่ร้ายคนอื่น พอถูกจับได้ก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองทำผิด กลับแต่งเรื่องใหม่ขึ้นมาหนีต่อไปอีกไม่จบสิ้น......คนแบบนี้ใครเคยเจอบ้างไหมครับ
เรื่องราวประมาณทำนองว่า
... มีคนแต่งเรื่องว่าผมร่วมกับเพื่อนอีกคนไปขโมยพระพุทธรูปของหมู่บ้าน แต่งเรื่องว่าผมเข้ามาขโมยเวลานั้น เวลานี้ ทั้งที่ในความเป็นจริงเวลาดังกล่าวผมไม่ได้อยู่ซักหน่อย แถมพยายามถามประจานผมต่อหน้าสาธารณะชนว่าผมเอาไปขายที่ไหน ทั้งๆ ที่เอาเข้าจริงพอทุกคนเงยหน้าขึ้น พระพุทธรูปก็ตั้งอยู่ตามปกติ ไม่เคยขยับเขยื้อน ไปไหน ถูกเทคอนกรีตติดกับฐานอย่างดี มีหลักฐานชัดเจนว่าเขาแต่งเรื่องขึ้นโกหก พอผมชี้ว่าพระพุทธรูปไม่เคยหายไป จูงมือเขาไปจับองค์พระเลย ก็โวยวายว่าทำไมไม่ตอบคำถามเขาว่าเอาพระไปขายที่ไหน ผมไม่ตอบ กลัวตำรวจจับใช่ไหม .... ซึ่งจริงๆ ผมตอบไม่ได้ เพราะผมไม่ได้เอาไป และพระพุทธรูปองค์นั้นก็ไม่เคยหายไปต่างหาก
สุดท้ายพอทุกคนมองไปที่พระ เห็นว่าจริงๆ แล้วก็อยู่ที่เดิม ไม่เคยหาย จูงมือเขาเองไปจับต้ององค์พระด้วย... คนที่พูดว่าหาย เห็นว่าหายคือเขาคนเดียว เขาก็ไม่ยอมรับว่าพระไม่ได้หายครับ เขากลับแต่งเรื่องอีกว่าที่เขาเขามีเจตนาดี เห็นผมเดินผ่านก็รู้ว่าต้องคิดจะขโมยแน่ๆ แล้วผมก็ขโมยไปจริงๆ ทุกคนเห็นไหม ทั้งๆ ที่เขากับผมไม่เคยรู้จักมักจี่กันมาก่อนเลย และที่สำคัญ ขนาดมีหลักฐานให้ทุกคนเห็นว่าเขาแต่งเรื่องขึ้นมา บอกเขาดีๆ ก็แล้ว แรงๆ ก็แล้ว เขาก็ยังยืนยันว่าพระหายไปจริงๆ ทั้งๆ ที่พระอยู่ตรงหน้าเขานั่นเองจนปัจจุบันนี้
ปัญหาคือ...คนที่โกหกไม่จบไม่สิ้นนี้ ก็เรียนมาสูงพอสมควร วัยวุฒิก็เกือบห้าสิบอีกไม่กี่ปี ก่อนหน้าจะมาใส่ร้ายผมครั้งนี้ ก็มีปัญหากับคนอื่นมาเนืองๆ คนที่รู้จักเขาอย่างน้อยสองสามคน ( บางคนบอกรู้จักดีมากด้วย ) ก็ไม่ชอบเขา มาด่าเขาให้ผมฟังอีก ...... ผมยังมองสาเหตุที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ไม่เจอเลยครับ อาจจะเพราะไม่เคยเจอมาก่อน แบบนี้จะเรียกว่าป่วยได้ไหมครับ คือคิดว่าเขาป่วยซะเราจะได้สบายใจ ไม่ต้องมัวหาคำตอบอีก
อ่อนใจจัง ..... เคยเจอคนที่ชอบแต่งเรื่องให้ร้ายคนอื่น และไม่สำนึกตัวเองบ้างไหมครับ
เรื่องราวประมาณทำนองว่า
... มีคนแต่งเรื่องว่าผมร่วมกับเพื่อนอีกคนไปขโมยพระพุทธรูปของหมู่บ้าน แต่งเรื่องว่าผมเข้ามาขโมยเวลานั้น เวลานี้ ทั้งที่ในความเป็นจริงเวลาดังกล่าวผมไม่ได้อยู่ซักหน่อย แถมพยายามถามประจานผมต่อหน้าสาธารณะชนว่าผมเอาไปขายที่ไหน ทั้งๆ ที่เอาเข้าจริงพอทุกคนเงยหน้าขึ้น พระพุทธรูปก็ตั้งอยู่ตามปกติ ไม่เคยขยับเขยื้อน ไปไหน ถูกเทคอนกรีตติดกับฐานอย่างดี มีหลักฐานชัดเจนว่าเขาแต่งเรื่องขึ้นโกหก พอผมชี้ว่าพระพุทธรูปไม่เคยหายไป จูงมือเขาไปจับองค์พระเลย ก็โวยวายว่าทำไมไม่ตอบคำถามเขาว่าเอาพระไปขายที่ไหน ผมไม่ตอบ กลัวตำรวจจับใช่ไหม .... ซึ่งจริงๆ ผมตอบไม่ได้ เพราะผมไม่ได้เอาไป และพระพุทธรูปองค์นั้นก็ไม่เคยหายไปต่างหาก
สุดท้ายพอทุกคนมองไปที่พระ เห็นว่าจริงๆ แล้วก็อยู่ที่เดิม ไม่เคยหาย จูงมือเขาเองไปจับต้ององค์พระด้วย... คนที่พูดว่าหาย เห็นว่าหายคือเขาคนเดียว เขาก็ไม่ยอมรับว่าพระไม่ได้หายครับ เขากลับแต่งเรื่องอีกว่าที่เขาเขามีเจตนาดี เห็นผมเดินผ่านก็รู้ว่าต้องคิดจะขโมยแน่ๆ แล้วผมก็ขโมยไปจริงๆ ทุกคนเห็นไหม ทั้งๆ ที่เขากับผมไม่เคยรู้จักมักจี่กันมาก่อนเลย และที่สำคัญ ขนาดมีหลักฐานให้ทุกคนเห็นว่าเขาแต่งเรื่องขึ้นมา บอกเขาดีๆ ก็แล้ว แรงๆ ก็แล้ว เขาก็ยังยืนยันว่าพระหายไปจริงๆ ทั้งๆ ที่พระอยู่ตรงหน้าเขานั่นเองจนปัจจุบันนี้
ปัญหาคือ...คนที่โกหกไม่จบไม่สิ้นนี้ ก็เรียนมาสูงพอสมควร วัยวุฒิก็เกือบห้าสิบอีกไม่กี่ปี ก่อนหน้าจะมาใส่ร้ายผมครั้งนี้ ก็มีปัญหากับคนอื่นมาเนืองๆ คนที่รู้จักเขาอย่างน้อยสองสามคน ( บางคนบอกรู้จักดีมากด้วย ) ก็ไม่ชอบเขา มาด่าเขาให้ผมฟังอีก ...... ผมยังมองสาเหตุที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ไม่เจอเลยครับ อาจจะเพราะไม่เคยเจอมาก่อน แบบนี้จะเรียกว่าป่วยได้ไหมครับ คือคิดว่าเขาป่วยซะเราจะได้สบายใจ ไม่ต้องมัวหาคำตอบอีก