เรื่องสั้น หนึ่งฝันวันวาน..ตอนที่ ๑
ความรักอาจเกิดขึ้นได้หลายครั้ง ทว่า...รักแท้นั้นมีได้แค่ครั้งเดียว และต้องเป็น เธอ คนเดียวเท่านั้น..
มือเรียวไล้ปกสมุดบันทึกสีชมพูซีดจางอย่างเบามือ พลางจ้องมองราวกับจะให้ทะลุไปยังแผ่นกระดาษที่อยู่ด้านใน อันเป็นกระดาษสีขาวหม่นตามอายุของการใช้งาน ซึ่งถ้าจะดูตามวันเวลาที่ระบุไว้บนหน้าปกนั้น สมุดบันทึกเล่มนี้อายุแก่กว่าเธอถึงสามสิบกว่าปี ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นอยู่หรอก ในเมื่อผู้เป็นเจ้าของมันก็ล่วงเลยวัยกลางคนไปแล้ว หากแต่ใบหน้าขาวเนียนนั้นยังคงเค้าความงามในอดีตไว้ได้อย่างพร้อมสรรพ
‘ฉันขอให้หนูใส่มันลงไปตอนเผาศพคุณอาด้วยเถอะ ฉันอยากให้ความทรงจำดีๆของเราอยู่กับเขาตลอดไป‘ คุณกุลธิดา เจ้าของสมุดบันทึกเล่มนี้ยื่นมันให้เธอในงานศพของคุณอาทัพน้องชายคนเดียวของบิดา
ในวันนั้นหญิงสาวเพียงแค่รับคำโดยไม่ถามต่อ แม้จะรู้สึกสงสัยอยู่ครามครันว่า สตรีผู้มีใบหน้างามและมีความเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้วผู้นี้ คือใคร
“หนูแพร ทำความสะอาดห้องคุณอาเสร็จหรือยังลูก” จู่ๆเสียงมารดาก็ดังขึ้นทำให้หญิงสาวหลุดออกมาจากห้วงภวังค์โดยฉับพลัน
“ใกล้เสร็จแล้วค่ะ คุณแม่”
“เสร็จแล้วรีบลงมาทานข้าวนะลูก จะได้ไปวัดกัน”
“ค่ะคุณแม่” รับคำแล้วหญิงสาวจึงรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปยังตู้หนังสือของคุณอาผู้ล่วงลับ ก่อนจะลงมือปัดฝุ่นและจัดเรียงหนังสือให้เป็นระเบียบ แล้วสายตาของเธอก็สะดุดกับสมุดปกแข็งอันคุ้นตาที่วางอยู่ปะปนกับหนังสือเล่มหนาชั้นบนสุด พรรัมภาจึงรีบดึงมันออกมาด้วยความตื่นเต้น
สมุดบันทึกสีชมพูเก่าซีดเล่มนี้เป็นแบบเดียวกันกับที่วางอยู่บนโต๊ะ อีกทั้งวันเวลาที่ระบุบนหน้าปกก็ยังเป็นวันเดียวกัน ความสงสัยปะทุขึ้นในใจของหญิงสาวทันที เธอจึงรีบสาวเท้าไปยังโต๊ะไม้ข้างหน้าต่าง พลางวางสมุดบันทึกของผู้เป็นอาเทียบกับเล่มก่อนหน้า ก่อนจะคลี่เปิดมันออกอย่างเบามือราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า
จากนั้นภาพความหลังจากปลายปากกาจึงปรากฏขึ้นในจินตนาการของเธอ...
แนะนำเรื่องสั้นจากหนังสือ"ตราบแผ่นดินไม่สิ้นรัก"เพื่อเจ้าหน้าที่ผู้เสียสละในพื้นที่ ‘สามจังหวัดชายแดนภาคใต้’
ความรักอาจเกิดขึ้นได้หลายครั้ง ทว่า...รักแท้นั้นมีได้แค่ครั้งเดียว และต้องเป็น เธอ คนเดียวเท่านั้น..
มือเรียวไล้ปกสมุดบันทึกสีชมพูซีดจางอย่างเบามือ พลางจ้องมองราวกับจะให้ทะลุไปยังแผ่นกระดาษที่อยู่ด้านใน อันเป็นกระดาษสีขาวหม่นตามอายุของการใช้งาน ซึ่งถ้าจะดูตามวันเวลาที่ระบุไว้บนหน้าปกนั้น สมุดบันทึกเล่มนี้อายุแก่กว่าเธอถึงสามสิบกว่าปี ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นอยู่หรอก ในเมื่อผู้เป็นเจ้าของมันก็ล่วงเลยวัยกลางคนไปแล้ว หากแต่ใบหน้าขาวเนียนนั้นยังคงเค้าความงามในอดีตไว้ได้อย่างพร้อมสรรพ
‘ฉันขอให้หนูใส่มันลงไปตอนเผาศพคุณอาด้วยเถอะ ฉันอยากให้ความทรงจำดีๆของเราอยู่กับเขาตลอดไป‘ คุณกุลธิดา เจ้าของสมุดบันทึกเล่มนี้ยื่นมันให้เธอในงานศพของคุณอาทัพน้องชายคนเดียวของบิดา
ในวันนั้นหญิงสาวเพียงแค่รับคำโดยไม่ถามต่อ แม้จะรู้สึกสงสัยอยู่ครามครันว่า สตรีผู้มีใบหน้างามและมีความเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้วผู้นี้ คือใคร
“หนูแพร ทำความสะอาดห้องคุณอาเสร็จหรือยังลูก” จู่ๆเสียงมารดาก็ดังขึ้นทำให้หญิงสาวหลุดออกมาจากห้วงภวังค์โดยฉับพลัน
“ใกล้เสร็จแล้วค่ะ คุณแม่”
“เสร็จแล้วรีบลงมาทานข้าวนะลูก จะได้ไปวัดกัน”
“ค่ะคุณแม่” รับคำแล้วหญิงสาวจึงรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปยังตู้หนังสือของคุณอาผู้ล่วงลับ ก่อนจะลงมือปัดฝุ่นและจัดเรียงหนังสือให้เป็นระเบียบ แล้วสายตาของเธอก็สะดุดกับสมุดปกแข็งอันคุ้นตาที่วางอยู่ปะปนกับหนังสือเล่มหนาชั้นบนสุด พรรัมภาจึงรีบดึงมันออกมาด้วยความตื่นเต้น
สมุดบันทึกสีชมพูเก่าซีดเล่มนี้เป็นแบบเดียวกันกับที่วางอยู่บนโต๊ะ อีกทั้งวันเวลาที่ระบุบนหน้าปกก็ยังเป็นวันเดียวกัน ความสงสัยปะทุขึ้นในใจของหญิงสาวทันที เธอจึงรีบสาวเท้าไปยังโต๊ะไม้ข้างหน้าต่าง พลางวางสมุดบันทึกของผู้เป็นอาเทียบกับเล่มก่อนหน้า ก่อนจะคลี่เปิดมันออกอย่างเบามือราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า
จากนั้นภาพความหลังจากปลายปากกาจึงปรากฏขึ้นในจินตนาการของเธอ...