‘เสถียร’ ถูกปล่อยตัว หลังจำคุกเกือบ 2 ปี มาตรา 112
คนขายซีดีที่ถูกจับจากมาตรา 112 เมื่อปี 2554 เนื่องจากขายซีดีเข้าข่ายหมิ่น ได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา ท่ามกลางการต้อนรับจากคนเสื้อแดงราว 20 คน
2 ก.พ. 56 เวลา 9.40 น. เสถียร หนึ่งในผู้ต้องขังคดี ม.112 ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยมีญาติและคนเสื้อแดงประมาณ 20 คนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น หลายคนได้มอบเงินขวัญถุงให้กับเขาและญาติเพื่อเป็นกำลังใจในการดำรงชีวิตต่อไป
เสถียรกล่าวว่า ตนเองรู้สึกดีใจที่ได้รับการปล่อยตัวในวันนี้ โทษจำคุกของตนเองจะถึงกำหนดในต้นเดือน เม.ย. นี้ แต่เนื่องจากตนเองได้รับโทษมา 2 ใน 3 จึงได้ยื่นคำร้องขอพักโทษตามเงื่อนไขของกรมราชทัณฑ์ และได้รับการลดโทษ ซึ่งตนเองยังคงต้องไปรายงานตัวกับกรมราชทัณฑ์ในอีก 3 วันข้างหน้าที่ จ.สระแก้ว บ้านของตนเอง รวมเวลาที่ถูกจำคุกเกือบ 1 ปี 11 เดือน
เสถียรถูกจับกุมเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 54 ที่หน้าศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ ถ.ราชดำเนิน และถูกกล่าวหาว่า จำหน่ายวีซีดีอันมีลักษณะหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จำนวน 20 แผ่น ต่อมา 4 ก.ค. 54 ศาลพิพากษาจำคุก 6 ปี และปรับ 100,000 บาท แต่เขาให้การรับสารภาพมีเหตุให้บรรเทาโทษเหลือโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือโทษจำคุก 3 ปี และปรับ 50,000 บาท
เขากล่าวว่า ที่ผ่านมาเขาได้ดำเนินการยื่นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ แต่ฎีกาของเขาไม่ผ่าน อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังได้รับการลดโทษ 2 ครั้ง จาก พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษ 2554 และ พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษ 2555 จนทำให้โทษของเขาลดลงจนสามารถขอพักโทษได้และได้รับการปล่อยตัว
ส่งเอสเอ็มเอส สามข้อความโดนโทษตามมาตรา 112 ไป 15 ปี ไม่ให้ประกันตัวในชั้นต้น และ อุทธรณ์ (เสียชีวิตไปแล้ว)
แปลหนังสือจากภาษาอังกฤษ เป็น ไทย ในต่างประเทศ โดนไป 5 ปี ไม่ให้ประกันตัวในชั้นต้น (ได้รับประราชทานอภัยโทษ)
บรรณาธิการ ปล่อยให้มีบทความ 2 บทความ โดนไป 10 ปี ไม่ให้ประกันตัวในชั้นต้น และ อุทธรณ์ (อยู่ระหว่างอุทธรณ์)
ขาย ซีดี 20 แผ่น โดนกฏหมายอาญามาตรา 112 ไป 6 ปี ไม่ให้ประกันตัวในชั้นต้น (จำคุก 2 ใน 3 และขอพักโทษ)
แต่
โกงเงินพันล้าน ทำเอกสารปลอมผิดหลายมาตรา โทษ 80 ปีรับสารภาพลดเหลือ 40 ปี ไม่รอลงอาญา แต่ ให้ประกันตัวตั้งแต่ศาลชั้นต้น
และ ในชั้นอุทธรณ์ (ตอนนี้ก็ยังนั่งลอยหน้าลอยตาอยู่แถว กทม.)
ถึงเวลาหรือยังที่ควร สังคยนา กฏหมายอาญามาตรา 112
1. ควรให้ ผู้แจ้งความเอาผิด ต้องผ่านการกลั่นกรองจาก กระทรวงยุติธรรม หรือ สำนักพระราชวัง
2. ควรเปลี่ยนจากโทษจำคุก 3-15 ปี เป็น ไม่เกิน 15 ปี หรือ กลับไปเมื่อก่อนเผด็จการแก้กฏหมายเป็น ไม่เกิน 5 ปี
3. ควรแก้กฏหมายนี้ ผ่าน สภา เพื่อให้ ถกประเด็น จนตลกผลึก และ ทำให้เป็นที่เข้าใจกับประชาชน
ถ้าคิดว่า โทษสูง คนเกรงกลัว คุณคิดผิด เพราะ สถิติกลับย้อนศร เพราะ โทษยิ่งสูง คดีกลับยิ่งเยอะ
ถ้าคิดว่า "พระเดช" มันต้องดีกว่า "พระคุณ" พวกคุณนั่นแหละ ฮาร์ดคอร์ ตัวจริง
ถ้าคิดว่า โหนเจ้า เพื่อไปถีบหน้าคนอื่นให้เละเทะตายจนชั่วนิรันดร ก็ให้กลับไปมองเสื้อเหลือง โหนเจ้าถีบหน้าทักษิณ
ถ้าคิดว่า การเอา มาตรา 112 มานั่งไล่คนทั้งประเทศให้ออกไปจากเมืองไทย คุณคือคนที่ไม่เข้าใจมาตรา 112 อย่างแท้จริง
ถ้าคิดว่า การเชิดชู มาตรา 112 เพื่อให้สถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยคงอยู่ คุณนั่นแหละคือคนทำลายสถาบันของชาติตัวยง
วันนี้นักการเมืองบางคนเอามาตรา 112 เอามาฆ่านักการเมืองที่คิดต่างให้ตายต่อหน้าต่อตาประชาชน .............. พวกคุณรู้กันบ้างหรือเปล่า
ถ้าจะวิจารณ์ เกินเลยกว่าตัวบทกฏหมายอาญามาตรา 112 ขอความกรุณา อย่าคลิกเข้ามาอ่าน ถ้าทนไม่ได้ต้องคลิก อย่าวิจารณ์
คนขายซีดีที่ถูกจับจากมาตรา 112 เมื่อปี 2554 เนื่องจากขายซีดีเข้าข่ายหมิ่น ได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา ท่ามกลางการต้อนรับจากคนเสื้อแดงราว 20 คน
2 ก.พ. 56 เวลา 9.40 น. เสถียร หนึ่งในผู้ต้องขังคดี ม.112 ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยมีญาติและคนเสื้อแดงประมาณ 20 คนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น หลายคนได้มอบเงินขวัญถุงให้กับเขาและญาติเพื่อเป็นกำลังใจในการดำรงชีวิตต่อไป
เสถียรกล่าวว่า ตนเองรู้สึกดีใจที่ได้รับการปล่อยตัวในวันนี้ โทษจำคุกของตนเองจะถึงกำหนดในต้นเดือน เม.ย. นี้ แต่เนื่องจากตนเองได้รับโทษมา 2 ใน 3 จึงได้ยื่นคำร้องขอพักโทษตามเงื่อนไขของกรมราชทัณฑ์ และได้รับการลดโทษ ซึ่งตนเองยังคงต้องไปรายงานตัวกับกรมราชทัณฑ์ในอีก 3 วันข้างหน้าที่ จ.สระแก้ว บ้านของตนเอง รวมเวลาที่ถูกจำคุกเกือบ 1 ปี 11 เดือน
เสถียรถูกจับกุมเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 54 ที่หน้าศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ ถ.ราชดำเนิน และถูกกล่าวหาว่า จำหน่ายวีซีดีอันมีลักษณะหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จำนวน 20 แผ่น ต่อมา 4 ก.ค. 54 ศาลพิพากษาจำคุก 6 ปี และปรับ 100,000 บาท แต่เขาให้การรับสารภาพมีเหตุให้บรรเทาโทษเหลือโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือโทษจำคุก 3 ปี และปรับ 50,000 บาท
เขากล่าวว่า ที่ผ่านมาเขาได้ดำเนินการยื่นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ แต่ฎีกาของเขาไม่ผ่าน อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังได้รับการลดโทษ 2 ครั้ง จาก พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษ 2554 และ พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษ 2555 จนทำให้โทษของเขาลดลงจนสามารถขอพักโทษได้และได้รับการปล่อยตัว
ส่งเอสเอ็มเอส สามข้อความโดนโทษตามมาตรา 112 ไป 15 ปี ไม่ให้ประกันตัวในชั้นต้น และ อุทธรณ์ (เสียชีวิตไปแล้ว)
แปลหนังสือจากภาษาอังกฤษ เป็น ไทย ในต่างประเทศ โดนไป 5 ปี ไม่ให้ประกันตัวในชั้นต้น (ได้รับประราชทานอภัยโทษ)
บรรณาธิการ ปล่อยให้มีบทความ 2 บทความ โดนไป 10 ปี ไม่ให้ประกันตัวในชั้นต้น และ อุทธรณ์ (อยู่ระหว่างอุทธรณ์)
ขาย ซีดี 20 แผ่น โดนกฏหมายอาญามาตรา 112 ไป 6 ปี ไม่ให้ประกันตัวในชั้นต้น (จำคุก 2 ใน 3 และขอพักโทษ)
แต่
โกงเงินพันล้าน ทำเอกสารปลอมผิดหลายมาตรา โทษ 80 ปีรับสารภาพลดเหลือ 40 ปี ไม่รอลงอาญา แต่ ให้ประกันตัวตั้งแต่ศาลชั้นต้น
และ ในชั้นอุทธรณ์ (ตอนนี้ก็ยังนั่งลอยหน้าลอยตาอยู่แถว กทม.)
ถึงเวลาหรือยังที่ควร สังคยนา กฏหมายอาญามาตรา 112
1. ควรให้ ผู้แจ้งความเอาผิด ต้องผ่านการกลั่นกรองจาก กระทรวงยุติธรรม หรือ สำนักพระราชวัง
2. ควรเปลี่ยนจากโทษจำคุก 3-15 ปี เป็น ไม่เกิน 15 ปี หรือ กลับไปเมื่อก่อนเผด็จการแก้กฏหมายเป็น ไม่เกิน 5 ปี
3. ควรแก้กฏหมายนี้ ผ่าน สภา เพื่อให้ ถกประเด็น จนตลกผลึก และ ทำให้เป็นที่เข้าใจกับประชาชน
ถ้าคิดว่า โทษสูง คนเกรงกลัว คุณคิดผิด เพราะ สถิติกลับย้อนศร เพราะ โทษยิ่งสูง คดีกลับยิ่งเยอะ
ถ้าคิดว่า "พระเดช" มันต้องดีกว่า "พระคุณ" พวกคุณนั่นแหละ ฮาร์ดคอร์ ตัวจริง
ถ้าคิดว่า โหนเจ้า เพื่อไปถีบหน้าคนอื่นให้เละเทะตายจนชั่วนิรันดร ก็ให้กลับไปมองเสื้อเหลือง โหนเจ้าถีบหน้าทักษิณ
ถ้าคิดว่า การเอา มาตรา 112 มานั่งไล่คนทั้งประเทศให้ออกไปจากเมืองไทย คุณคือคนที่ไม่เข้าใจมาตรา 112 อย่างแท้จริง
ถ้าคิดว่า การเชิดชู มาตรา 112 เพื่อให้สถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยคงอยู่ คุณนั่นแหละคือคนทำลายสถาบันของชาติตัวยง
วันนี้นักการเมืองบางคนเอามาตรา 112 เอามาฆ่านักการเมืองที่คิดต่างให้ตายต่อหน้าต่อตาประชาชน .............. พวกคุณรู้กันบ้างหรือเปล่า