สวัสดี่ค่ะ เพื่อนนักอ่าน
ตอนเก่าๆอ่านได้ที่นี่นะคะ
http://writer.dek-d.com/icy-queen/story/view.php?id=886617
บทที่ 7 ...มองเห็น...
นับจากตกปากรับคำรับงานร้องเพลง มณฑารพก็ต้องรับมือกับความเจ้ากี้เจ้าการเล็กๆของคุณมด สาวน่ารักช่างจ้อผู้อยากอาสาดูแลเรื่องการแปลงโฉมของนักร้องสาว ดูเหมือนคุณมดจะสนุกสนานกับการหมายมั่นปั้นมือที่จะจับเธอแต่งตัว ท่าทางสนุกราวกับจะเล่นตุ๊กตาทีเดียว หากท้ายที่สุด สาวแม่ลูกอ่อนก็เอาตัวรอดมาได้ไม่ต้องแต่งกายเจิดจ้าส่องประกายอะไรมากนัก หญิงสาวอาศัยความนิ่งเป็นเกราะกำบัง เธอวางเฉยและยังคงเอกลักษณ์การแต่งกายที่เรียบง่ายและปกปิดมิดชิด
“คุณโยคะ แหม มดอยากเห็นคุณโยใส่กระโปรงจัง คงน่ารักน่าดู เวลาร้องเพลงหวานๆ แบบ คนก็หวาน เพลงก็หวานไงคะ ” เสียงสาวนักการตลาดและการประชาสัมพันธ์ยังคงหว่านล้อมหากมณฑารพไม่ตกหลุม
“เอาไว้โอกาสพิเศษดีกว่านะคะ โยไม่ถนัดนุ่งกระโปรงเลย ” หญิงสาวยิ้มอ่อนๆ พลางอธิบาย”บุคคลิกโยคงไม่ให้ ไม่เหมือนคุณมด แต่งอะไรก็ขึ้น ขอโยใส่อะไรที่คุ้นไว้ก่อนดีกว่านะคะ เดี๋ยวร้องเพลงไม่ออก”
เพราะกลัวนักร้องสาวร้องเพลงไม่ออก คุณมดจึงต้องยอมถอย ปล่อยให้มณฑารพคงความเรียบง่ายต่อไป
..............................................................................
สัปดาห์แรกของการรับงานร้องเพลง มณฑารพสังเกตเห็นเด็กชายหญิงวัยอนุบาลคู่หนึ่งมาวิ่งเล่นป้วนเปี้ยนอยู่ในรีสอร์ท โดยเฉพาะแถวบ้านพักนายจ้างและแถวๆสำนักงานโดยมีสาวใหญ่นามแจ๋มคอยดูแล นึกสงสัยหากก็ไม่ได้ถามใครว่าเด็กทั้งสองเป็นลูกหลานใคร
มื้อเที่ยงวันนี้ หญิงสาวตั้งใจจะไปทำอาหารง่ายๆรับประทานเองที่บ้านพักแทนการไปใช้สวัสดิการพนักงานอย่างเคย หญิงสาวขับรถกอล์ฟไปช้าๆ จากหางตาบังเอิญเหลือบไปเห็นเด็กชายยืนร้องไห้อยู่คนเดียวจึงจอดรถลงไปทักทาย เสียงหนุ่มน้อยสะอื้นฮักบอกกระท่อนกระแท่นว่าหลงกับพี่เลี้ยง เธอจึงโทรไปถามที่ส่วนของสำนักงานและได้ความว่าแม่บ้านสาวใหญ่นามแจ๋มกำลังหาตัว “คุณเอ” หลานชายของคุณศิลาอยู่ให้ควั่ก
“โอ้ย คุณโยคะ พี่แจ๋มใจหายใจคว่ำหมดเลย ทำหลานนายหาย”
“พี่แจ๋มคุยกับคุณเอนิดนะคะ แล้วบอกแกว่าโยจะขับรถไปส่งที่บ้าน แกจะได้ไม่กลัวโย” หญิงสาวจัดการส่งโทรศัพท์ให้หนุ่มน้อยได้คุยกับพี่เลี้ยง
“ไม่เป็นไรแล้วนะครับ เดี๋ยวอาโยขับรถไปส่งนะครับคนเก่ง”
คนเก่งสูดจมูกฮืดก่อนรับคำด้วยสีหน้าชื่นขึ้นทันตา “ขอบคุณคับ”
หญิงสาวดึงกระดาษเปียกขึ้นมาเช็ดหน้าให้หนุ่มน้อยเบาๆ ก่อนจะจูงมือเล็กๆพาขึ้นรถกอล์ฟแล้วขับไปส่งที่บ้านพักนายจ้าง
หลังจากนั้นจึงได้ทราบว่าเด็กชายหญิงทั้งคู่เป็นฝาแฝดและเป็นหลานตาของคุณศิลา หากหญิงสาวก็ไม่เห็นบิดาและมารดาของเด็กทั้งคู่เลยตลอดเวลาสองสัปดาห์ที่หนุ่มน้อยสาวน้อยวัยอนุบาลมาอยู่กับคุณตาที่รีสอร์ท
วันนี้เป็นวันหยุดของหญิงสาวซึ่งไม่มีแผนจะเข้าเมืองเพราะยังไม่ถึงกำหนดนัดพบกุมารแพทย์ของนายมะตูมตัวน้อย หลังจากได้พบกับหลานชายหญิงของคุณศิลา เด็กทั้งสองก็ดูเหมือนจะติดใจ”อาโย” และร้องขอมาเที่ยวเล่นที่บ้านพักของหญิงสาวอยู่หลายครั้ง และบางครั้งเธอก็เชิญเด็กทั้งคู่และพี่เลี้ยงมาร่วมรับประทานอาหารมื้อกลางวันง่ายๆด้วยกัน ส่วนวันนี้มีโปรแกรมพิเศษคือการพาเด็กๆไปปิคนิคที่ริมลำธาร ก่อนที่เด็กทั้งสองจะต้องกลับกรุงเทพในวันรุ่งขึ้น
ศาสตรามองเห็นความตื่นเต้นคึกคักของหลานตัวน้อยทั้งคู่จึงอดถามไม่ได้
“ มื้อเที่ยงวันนี้เอกับบีอยากทานอะไรครับ เดี๋ยวลุงพาไป” ชายหนุ่มกลั้นหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางอึกอักของหลานแฝด ก่อนที่คนหนึ่งจะตัดสินในตอบออกมา
“วันนี้พวกเรามีนัดคับ”
“มีนัด? มีนัดไปไหน กับใครครับผม” ชายหนุ่มอมยิ้ม หลานวัยอนุบาลมีนัดกับเขาด้วย
“นัดกับอาโยค่า อาโยบอกว่าจะพาไปปิคนิค” คราวนี้ฝ่ายสาวน้อยชิงตอบ
“ไปปิคนิค ที่ไหนครับผม”
“ไปปิคนิคที่ริมลำธารคับ” หนุ่มน้อยตอบ และหนุ่มฉกรรจ์ก็หลอกล่อ ด้วยการทำเสียงขอความเห็นใจ
“ไปปิคนิคที่ริมลำธารเหรอ ลุงอยากไปด้วยจังครับผม ลุงไม่อยากกินข้าวกลางวันคนเดียวเลย วันนี้คุณตาก็ไม่อยู่ เอกับบีคิดว่าอาโยจะว่าอะไรไหมครับถ้าลุงขอไปด้วยคน”
เสียงเด็กๆชิงกันตอบว่าอาโยของพวกเขานั้นใจดีที่สุดและเธอต้องไม่ว่าอะไรที่คุณลุงของเด็กๆจะไปไปปิคนิคด้วยกัน แล้วหลังจากนั้นเสียงโฆษณาเกี่ยวกับอาโยก็เข้าหูเขาไปตลอดทางจนถึงริมลำธาร อาโยใจดี อาโยร้องเพลงเพราะ อาโยทำข้าวผัดอร่อย ทำไก่ทอดก็อร่อย ผัดมักกะโรนีก็อร่อย อาโยบอกว่าจะหัดเย็บตุ๊กตาหมีและคราวหน้าอาโยจะให้ตุ๊กตาหมีแก่เด็กๆคนละตัว น้องมะตูมลูกอาโยก็น่ารัก
สงสัยเหลือเกิน คนพูดน้อยอย่างมณฑารพ ทำอย่างไรหลานๆเขาถึงได้หลงใหลได้ปลื้มขนาดนี้นะ?
ชายหนุ่มแอบขำที่เห็นนัยน์ตาคู่สวยของแม่นายมะตูมเบิกโตนิดๆเมื่อเห็นแขกไม่ได้รับเชิญปรากฏตัวขึ้นที่ริมลำธาร
ปิคนิคมื้อเที่ยงที่ริมลำธารนั้นสนุกสนานและน่าประทับใจจนชายหนุ่มคิดไว้ว่าคงต้องพาหลานแฝดมาค้างที่รีสอร์ทให้บ่อยขึ้น ไม่ใช่อะไร แค่เพียงอยากให้หลานๆมีความสุขเหมือนอย่างวันนี้ก็เท่านั้น
..................................................................................................................
...วิมานภุมรา...(บทที่7 ...มองเห็น...)
ตอนเก่าๆอ่านได้ที่นี่นะคะ
http://writer.dek-d.com/icy-queen/story/view.php?id=886617
บทที่ 7 ...มองเห็น...
นับจากตกปากรับคำรับงานร้องเพลง มณฑารพก็ต้องรับมือกับความเจ้ากี้เจ้าการเล็กๆของคุณมด สาวน่ารักช่างจ้อผู้อยากอาสาดูแลเรื่องการแปลงโฉมของนักร้องสาว ดูเหมือนคุณมดจะสนุกสนานกับการหมายมั่นปั้นมือที่จะจับเธอแต่งตัว ท่าทางสนุกราวกับจะเล่นตุ๊กตาทีเดียว หากท้ายที่สุด สาวแม่ลูกอ่อนก็เอาตัวรอดมาได้ไม่ต้องแต่งกายเจิดจ้าส่องประกายอะไรมากนัก หญิงสาวอาศัยความนิ่งเป็นเกราะกำบัง เธอวางเฉยและยังคงเอกลักษณ์การแต่งกายที่เรียบง่ายและปกปิดมิดชิด
“คุณโยคะ แหม มดอยากเห็นคุณโยใส่กระโปรงจัง คงน่ารักน่าดู เวลาร้องเพลงหวานๆ แบบ คนก็หวาน เพลงก็หวานไงคะ ” เสียงสาวนักการตลาดและการประชาสัมพันธ์ยังคงหว่านล้อมหากมณฑารพไม่ตกหลุม
“เอาไว้โอกาสพิเศษดีกว่านะคะ โยไม่ถนัดนุ่งกระโปรงเลย ” หญิงสาวยิ้มอ่อนๆ พลางอธิบาย”บุคคลิกโยคงไม่ให้ ไม่เหมือนคุณมด แต่งอะไรก็ขึ้น ขอโยใส่อะไรที่คุ้นไว้ก่อนดีกว่านะคะ เดี๋ยวร้องเพลงไม่ออก”
เพราะกลัวนักร้องสาวร้องเพลงไม่ออก คุณมดจึงต้องยอมถอย ปล่อยให้มณฑารพคงความเรียบง่ายต่อไป
..............................................................................
สัปดาห์แรกของการรับงานร้องเพลง มณฑารพสังเกตเห็นเด็กชายหญิงวัยอนุบาลคู่หนึ่งมาวิ่งเล่นป้วนเปี้ยนอยู่ในรีสอร์ท โดยเฉพาะแถวบ้านพักนายจ้างและแถวๆสำนักงานโดยมีสาวใหญ่นามแจ๋มคอยดูแล นึกสงสัยหากก็ไม่ได้ถามใครว่าเด็กทั้งสองเป็นลูกหลานใคร
มื้อเที่ยงวันนี้ หญิงสาวตั้งใจจะไปทำอาหารง่ายๆรับประทานเองที่บ้านพักแทนการไปใช้สวัสดิการพนักงานอย่างเคย หญิงสาวขับรถกอล์ฟไปช้าๆ จากหางตาบังเอิญเหลือบไปเห็นเด็กชายยืนร้องไห้อยู่คนเดียวจึงจอดรถลงไปทักทาย เสียงหนุ่มน้อยสะอื้นฮักบอกกระท่อนกระแท่นว่าหลงกับพี่เลี้ยง เธอจึงโทรไปถามที่ส่วนของสำนักงานและได้ความว่าแม่บ้านสาวใหญ่นามแจ๋มกำลังหาตัว “คุณเอ” หลานชายของคุณศิลาอยู่ให้ควั่ก
“โอ้ย คุณโยคะ พี่แจ๋มใจหายใจคว่ำหมดเลย ทำหลานนายหาย”
“พี่แจ๋มคุยกับคุณเอนิดนะคะ แล้วบอกแกว่าโยจะขับรถไปส่งที่บ้าน แกจะได้ไม่กลัวโย” หญิงสาวจัดการส่งโทรศัพท์ให้หนุ่มน้อยได้คุยกับพี่เลี้ยง
“ไม่เป็นไรแล้วนะครับ เดี๋ยวอาโยขับรถไปส่งนะครับคนเก่ง”
คนเก่งสูดจมูกฮืดก่อนรับคำด้วยสีหน้าชื่นขึ้นทันตา “ขอบคุณคับ”
หญิงสาวดึงกระดาษเปียกขึ้นมาเช็ดหน้าให้หนุ่มน้อยเบาๆ ก่อนจะจูงมือเล็กๆพาขึ้นรถกอล์ฟแล้วขับไปส่งที่บ้านพักนายจ้าง
หลังจากนั้นจึงได้ทราบว่าเด็กชายหญิงทั้งคู่เป็นฝาแฝดและเป็นหลานตาของคุณศิลา หากหญิงสาวก็ไม่เห็นบิดาและมารดาของเด็กทั้งคู่เลยตลอดเวลาสองสัปดาห์ที่หนุ่มน้อยสาวน้อยวัยอนุบาลมาอยู่กับคุณตาที่รีสอร์ท
วันนี้เป็นวันหยุดของหญิงสาวซึ่งไม่มีแผนจะเข้าเมืองเพราะยังไม่ถึงกำหนดนัดพบกุมารแพทย์ของนายมะตูมตัวน้อย หลังจากได้พบกับหลานชายหญิงของคุณศิลา เด็กทั้งสองก็ดูเหมือนจะติดใจ”อาโย” และร้องขอมาเที่ยวเล่นที่บ้านพักของหญิงสาวอยู่หลายครั้ง และบางครั้งเธอก็เชิญเด็กทั้งคู่และพี่เลี้ยงมาร่วมรับประทานอาหารมื้อกลางวันง่ายๆด้วยกัน ส่วนวันนี้มีโปรแกรมพิเศษคือการพาเด็กๆไปปิคนิคที่ริมลำธาร ก่อนที่เด็กทั้งสองจะต้องกลับกรุงเทพในวันรุ่งขึ้น
ศาสตรามองเห็นความตื่นเต้นคึกคักของหลานตัวน้อยทั้งคู่จึงอดถามไม่ได้
“ มื้อเที่ยงวันนี้เอกับบีอยากทานอะไรครับ เดี๋ยวลุงพาไป” ชายหนุ่มกลั้นหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางอึกอักของหลานแฝด ก่อนที่คนหนึ่งจะตัดสินในตอบออกมา
“วันนี้พวกเรามีนัดคับ”
“มีนัด? มีนัดไปไหน กับใครครับผม” ชายหนุ่มอมยิ้ม หลานวัยอนุบาลมีนัดกับเขาด้วย
“นัดกับอาโยค่า อาโยบอกว่าจะพาไปปิคนิค” คราวนี้ฝ่ายสาวน้อยชิงตอบ
“ไปปิคนิค ที่ไหนครับผม”
“ไปปิคนิคที่ริมลำธารคับ” หนุ่มน้อยตอบ และหนุ่มฉกรรจ์ก็หลอกล่อ ด้วยการทำเสียงขอความเห็นใจ
“ไปปิคนิคที่ริมลำธารเหรอ ลุงอยากไปด้วยจังครับผม ลุงไม่อยากกินข้าวกลางวันคนเดียวเลย วันนี้คุณตาก็ไม่อยู่ เอกับบีคิดว่าอาโยจะว่าอะไรไหมครับถ้าลุงขอไปด้วยคน”
เสียงเด็กๆชิงกันตอบว่าอาโยของพวกเขานั้นใจดีที่สุดและเธอต้องไม่ว่าอะไรที่คุณลุงของเด็กๆจะไปไปปิคนิคด้วยกัน แล้วหลังจากนั้นเสียงโฆษณาเกี่ยวกับอาโยก็เข้าหูเขาไปตลอดทางจนถึงริมลำธาร อาโยใจดี อาโยร้องเพลงเพราะ อาโยทำข้าวผัดอร่อย ทำไก่ทอดก็อร่อย ผัดมักกะโรนีก็อร่อย อาโยบอกว่าจะหัดเย็บตุ๊กตาหมีและคราวหน้าอาโยจะให้ตุ๊กตาหมีแก่เด็กๆคนละตัว น้องมะตูมลูกอาโยก็น่ารัก
สงสัยเหลือเกิน คนพูดน้อยอย่างมณฑารพ ทำอย่างไรหลานๆเขาถึงได้หลงใหลได้ปลื้มขนาดนี้นะ?
ชายหนุ่มแอบขำที่เห็นนัยน์ตาคู่สวยของแม่นายมะตูมเบิกโตนิดๆเมื่อเห็นแขกไม่ได้รับเชิญปรากฏตัวขึ้นที่ริมลำธาร
ปิคนิคมื้อเที่ยงที่ริมลำธารนั้นสนุกสนานและน่าประทับใจจนชายหนุ่มคิดไว้ว่าคงต้องพาหลานแฝดมาค้างที่รีสอร์ทให้บ่อยขึ้น ไม่ใช่อะไร แค่เพียงอยากให้หลานๆมีความสุขเหมือนอย่างวันนี้ก็เท่านั้น
..................................................................................................................