ความแตกต่างของตัวแทนประกัน กับนายหน้าขายประกัน

ผมกำลังสนใจอยากจะทำอาชีพเสริมเกี่ยวกับการขายประกันชีวิตอะครับ โดยส่วนตัวเป็นคนมีทักษะด้านการขาย แต่เมื่อต้องมาเจอกับประกันชีวิตซึ่งเป้นสินค้าที่เราต้องดูแลลูกค้าคนนั้นไปตลอดชีวิต ก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะทำได้ดีรึเปล่า ทีนี้มาเห็นว่ามันก็มีอาชีพนายหน้าขายประกันที่สามารถขายประกันได้ทุกบริษัทก็เลยสนใจ แต่อยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมอีก รบกวนผู้รู้ด้วยนะครับ

1. ข้อดี-ข้อเสียของการเป็นตัวแทนขายประกันชีวิตกับนายหน้าขายประกันชีวิต

2. รายได้ของทั้งสองอย่างเป็นอย่างไร

3. เป็นไปได้ไหม๊ที่เราเป็นตัวแทนขายประกันบริษัทหนึ่ง แล้วก็ไปขายประกันของบริษัทอื่นด้วย (คือผมมองว่ามันเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าอะครับ)

4. ถ้าเป็นนายหน้า ขายได้แล้ว ใครจะมาดูแลลูกค้าต่อให้

5. ถ้าอย่างจะเริ่มทำในแต่ละแบบ ผมต้องเริ่มทำยังไงบ้างครับ ต้องสอบอะไร สอบที่ไหน หาข้อมูลได้จากไหน

6. ถ้าจะเป็นนายหน้าขายประกัน จำเป็นต้องก่อตั้งเป็นนิติบุคคลรึเปล่า

ขอบคุณไว้ล่วงหน้านะครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
งั้นขอตอบ แบบบ่นๆละกันนะครับ
ข้อ 1. ข้อดีของการเป็นนายหน้าประกันภัย คือ  ขายง่ายครับ เพราะ เป็นความต้องการ ของผู้ที่จะซื้ออยู่แล้ว เรามีหน้าที่เพียงเลือก บริษัทประกัน และราคาประกันที่เหมาะสมเป็นที่ถูกใจลูกค้า  ส่วนข้อเสียก็ ได้เงินไม่มากเมื่อเทียบกับ ประกันชีวิต แถมต้องแข่งกับนายหน้าหรือตัวแทนคนอื่น  โบรกเกอร์บางแห่งก็ได้ราคาดีกว่าเรา หรือ อาจจะติดปัญหาหลายๆอย่างเช่น   บริษัทประกัน ก  มีนาย ข  และ ค เป็น  นายหน้าอยู่  แต่ นายหน้า ข มียอดเดือนละ 100 ล้านบาท จึงไปขอต่อรองกับบริษัท ก  ว่า ถ้าจะรับทำเป้า ให้กับ บริษัท ก เดือนละ 150 ล้าน โดย ถ้าถึงเป้า บริษัท ก จะต้องให้ส่วนลด กลุ่ม ให้กับงาน ของ  นาย ข ทุกคัน  ซึ่ง เมื่อทั้ง นาย ข  และ  ค  ได้ สอบถามราคาเบี้ยประกัน ในรถคันเดียวกัน ก็จะได้ราคาที่ต่างกัน คือ ของนาย ค จะแพงกว่า 10 % ซึ่ง จะทำให้ นาย  ค  ปิดงานไม่ได้ เพราะเบี้ย แพงกว่า  นาย  ข   ( อย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้นะครับ เพราะ มันเกิดไปแล้ว กับบริษัทประกัน แห่งหนึ่ง ที่ ใหญ่เป็น อันดับ 2 ของประเทศ และภาครัฐเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ผมไม่ขอบอกนะ ว่าบริษัทอะไร )
หรือ  บ่อยครั้งที่ ลูกค้ามีประวัติดี มากๆเช่น   เดิมทำอยู่กับสินมั่นคง  5 ปีแล้วไม่เคยเคลมเลย เบี้ยชั้น 1 เหลือ ประมาณ 10000 ต้นๆ ไม่ถึง 12000 แต่พอลูกค้ามาให้เราเช็ค กลับกลายเป็น โอนโค้ดเปลี่ยนผู้ดูแลไม่ได้  และ เมื่อเราเช็คให้ที่อื่น ก็ 14000 ขึ้นทั้งนั้น ก็บ่อยนะครับ
และอย่าสุดท้าย  คือ  คุณเป็น นายหน้า คุณต้อง ไปแข่งกับ นายหน้าเจ้าใหญ่ๆที่มีลูกเล่นเยอะ เช่น  TQ""  ที่โทรหาลูกค้าก่อน เป็น 5-6 เดือน กว่าจะหมดประกัน  หรือ  ของ  sil""pla""   ที่ให้ลูกค้าสามารถผ่อนได้ เป็น 10 เดือน  ในขณะที่คุณเอง ไม่สามารถให้ลูกค้าผ่อนได้


2. รายได้นั้น โดยปกติ ค่าคอมของนายหน้าประกัน หรือตัวแทน จะอยู่ที่ 18 %  แต่ ก็จะมากกว่านั้น ถ้าเป็นโบรคเกอร์ที่มียอดเยอะๆ ก็จะได้ + ค่าการตลาด  หรือ ค่าออกกรมธรรม์ แล้ว แต่ เขาจะเลี่ยงไปใช้  จะเป็น 18+1  หรือ 18+2  หรือ 18+3  ก็แล้วแต่ยอด ครับ
และ ในสิ้นปี หาก ลูกค้าของคุณ มียอดเคลมน้อย  บริษัทประกัน ก็จะมีโบนัสพิเศษให้ครับ

3. เยอะแยะไปครับ ที่เป็น ตัวแทน ของบริษัทนึง แล้ว แอบไปส่งอีกบริษัทนึง ไม่ใช่ว่าเพราะไม่ซื่อสัตย์ นะครับ แต่เพราะเหตุผลบางประการ เช่น เบี้ยแพงกว่ากันเยอะ   ก็ต้องขอบอกก่อนว่า บริษัทประกัน แต่ละบริษัท จะมีกลุ่มรถที่เขา จะเล่นอยู่ครับ ถ้าไม่ใช่ในกลุ่มรถนั้น แพงครับ เช่น
อิซูซุ Dmax cab   ถ้า ซ่อมห้าง สินมั่นคง ราคา 21000  วิริยะ ไม่รับ  LMG  22,000   ไทยพานิชย์  16500  บาท  แบบนี้ ตัวแทน วิริยะ  สินมั่นคง  ปวดหัวเลยครับ เพราะเบี้ยสู้ของ ไทยพานิชย์ไม่ได้  หรือ บางที บริษัทประกันที่เราเป็น ตัวแทนอยู่ ไม่รับรถ ชนิดนั้นๆ เช่น  เป็นตัวแทน ของ ทิพย  แต่มีลูกค้า เป็น รถตู้ป้ายเหลือง วิ่งวิน มา แน่นอน ทิพย ไม่เอาครับ  คุณจะทำยังไง จะปล่อยลูกค้าไปหรือ  ในขณะที่ มิตรแท้ รับ  สินมั่นคงรับ  วิริยะ รับ คุณก็ต้องไปส่ง บริษัทอื่นนั่นละ

4. นายหน้าเป็นเพียงผู้ชี้ชอ่ง นะครับ  เมื่อ ลูกค้าตกลงทำประกัน เช่น ลูกค้าเลือกกรุงเทพประกันภัย   เมื่อถึงคราเกิดเหตุ ก็เป็นหน้าที่ของ ลูกค้าละครับ ที่จะแจ้งเหตุไปที่กรุงเทพ ประกันภัย   นายหน้าจะประสานงานให้บ้างในกรณี ที่ ลูกค้ามีอัน ต้อง ถกเถียงกับ บริษัทประกัน เช่น  บริษัทประกัน จะเก็บค่า excess ลูกค้า เราก็อาจจะต้องคอยเถียง หรือ ขอร้องให้ เป็นต้น

5. เริ่มต้นจากไปสอบ เป็นนายหน้าประกันวินาศภัยก่อนเลยครับ

ขั้นตอนการสมัคร  (กรุงเทพ เปิดรับสมัครวันที่ 15 ของทุกเดือน ถึง สิ้นเดือน)
http://www.oic.or.th/th/eservice/index.php/testing

วิธีสมัคร
http://www.oic.or.th/th/eservice/index.php/testing/go2NonLife

สงสัยอะไรดูที่นี่
http://www.oic.or.th/th/eservice/index.php/testing/go2Faq

6. ไม่จำเป็นต้องเป็น นิติบุคคลครับ ไว้ คุณมียอดเยอะๆ เป็นล้าน แล้วค่อยตั้งเป็น นิติบุคคล
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่