กับเวลาที่เหลือ 180 วัน (ผ่านมาแล้ว 1 ปี 167 วัน update 26/01/2013) ผลตรวจล่าสุด เหลือเวลาอีกประมาณ 7-10 วัน

กระทู้สนทนา
อยากแบ่งปันเรื่อวราวของพี่ saria แห่งบอร์ด dvdgameonline หน่อยนะครับ

ก่อนอื่นผมอยากขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ขอบคุณ admin มากนะครับที่ให้สิทธิ์ผม edit กระทู้ได้เป็นพิเศษ

ผมอยากบอกว่าทุกข้อความที่ reply นั้นผมอ่านทุกตัวอย่างตั้งใจ แต่ที่สำคัญผมไม่ได้รับรู้แค่ตัวอักษร แต่ผมรู้ได้ถึงความรู้สึกที่ทุกคนอยากแบ่งปัน ทั้งความห่วงใย อยากให้กำลังใจ อยากช่วยเหลือ อยากแบ่งปันข้อมูล และอีกมากมาย ผมว่าคนที่อ่าน reply ตามก็คงรับรู้ว่าไม่ใช่แค่ข้อความแต่เป็นความรู้สึกแน่นอน

ผมยังเชื่ออีกว่าคนที่พิมพ์ก็คงรู้สึกดีที่ได้แบ่งปันสิ่งต่างๆร่วมกัน นี้ไงครับที่เค้าเรียกกันว่าความดี มันเป็นความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับ ผมได้เจอคนดีๆมากมาย ต้องขอบคุณจากใจจริงๆครับ

------ 1 Mar 2012

มาเล่าถึงสาเหตุที่น่าจะทำให้ผมเป็นมะเร็งให้ฟังนะครับ ส่วนนึงน่าจะมาจากไวรัสบี อีส่วนนึงน่าจะมาจากการทำงานหนักมากไป
ผมทำงานในสาย IT ERP ส่วน Solution developer เพื่อให้ business ทำงานสะดวกตอบสนองความต้องการมากขึ้น งานนี้เป็นงานที่ผมชอบมากไม่เคยเบื่อที่จะทำให้ผู้ใช้มีความสุขจางงานของผม ทีที่ผมดูแลอยู่เป็นทีมที่มีคนจากหลายประเทศและหลาย timezone บางครั้งผมทำงานมากกว่า 30 ชม.ต่อเนื่องโดยไม่พักเพราะมีบางอย่าที่อยากรีบทำให้เสร็จ ผมนึกถึงคนที่รอใช้งานมันเสมอเลยทำให้ผมหยุดเร่งงานไม่ได้ ผม/ม่เคยเครียดกับงานแต่หลายคนเคยเตือนว่ามันอาจไม่ดีต่อสุขภาพ สุดท้ายการทำงานหนักอาจเป็นสาเหตุครับ หลังจากที่ผมทราบว่าผมเป็นมะเร็ง เพื่อนที่ร่วมงานกับผมที่ US ก็พบมะเร็งระยะแรกๆ อีก 2 คน ทั้งสองคนเป็นพวกที่ทำงานหนักพอๆกับผมเลย นี้อาจเป็นสาเหตุจริงๆ คือการใช้ร่างกายโดยไม่ถนอมมัน

นอกจากมะเร็งแล้วผมอยากเตือนทุกคนว่า ยังมีอีกหลายโรคที่แย่ๆ จาการที่เราไม่ถนอมร่างกายครับ เช่น กระดูกสันหลัง ไต เป็นต้น โรคพวกนี้ไม่ทำให้ตาย แต่การอยู่อย่างทรมานมันก็ไม่ดีนะครับ ถึงจะรักษาให้หายได้ แต่ความเจ็บปวดระหว่างการรักษาก็แย่ทีเดียว

ผมจึงอยากเตือนทุกคนด้วยใจว่าพยายามใส่ใจกับกายใช้ร่างกายของเรากันนะครับ ทำงานนาน เล่นเกมส์นาน ก็ควรนั้งให้ดี มีการพักทุก 1-2 ชม. นะครับผมอยากให้ทุกคนแข็งแรงตลอดไปนะครับ

------ 1 Mar 2012




เข้าเรื่องนะครับ

ก่อนตรวจเจอ : ผมมีอาการเป็นใข้บ่อย อาเจียรหลังทานอาหารทุกครั้ง อ่อนเพีย ไปตรวจทุกครั้งค่าการทำงานของตับก็เกินปกติไม่เกิน 10 หน่วย หมอก็คิดว่าอาจเป็นโรคกระเพาะ เป็นหวัด เล็กๆน้อยๆ แต่ผมก็เป็นบ่อยจนไปหาหมอเกือบทุกอาทิตย์ (ที่อยู่ผมอยู่แถวงามวงศ์วานเลยใช้บริการ รพ.เอกชนใกล้ๆ The Mall) จนผมรบเร้าให้หมอตรวจอย่างละเอียด คราวนี้เค้าเลยตรวจไวรัสตับอักเสบ กับค่า AFP ด้วยค่าตรวจ AFP 6800 บาท (AFP เป็นค่าบ่งชี้ความเป็นไปได้ของมะเร็งตับ) เค้านัดฟังผลเลือด 1 เดือนให้หลัง (ผมไม่ทราบเหตุผลว่าทำไม่ต้องรอผลเลือดนานเค้าบอกว่าตรวจ AFP นาน ตอนหลังผมทราบว่าที่ รพ.จุฬากับ รพ.เซนหลุย ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชม. ก็รู้ผล แถมราคาไม่เกิน 600 บาทเอง) พอไปพบตามกำหนดค่า AFP ก็พบว่าปาไปเกิน 6000 หน่วย (คนปกติไม่ควรเกิน 4 หน่วย) และเจอไวรัสตับอักเสบบี (ผมตรวจไวรัสบีที่นี้เมือสองปีก่อนเค้าบอกว่าหายแล้ว งงเลยครับ) หมอก็เลยให้ผมทำ ultra sound ก็เจอก้อนขนาดใหญ่มากจนเค้าไม่มั้นใจว่าเป็นอะไรเลยส่งไปทำ MRI (รพ.นี้ไม่มีเครื่อง MRI หรือ CT เลยต้องไปทำแถวประชาชื่นแล้วค่อยมา งงเลยได้ ISO มาได้ไง) คราวนี้ชัดครับเจอก้อนมะเร็งขนาดใหญ่ที่ซีกขวาของตับและขนาด 3-4 cm อีก 2-3 ก้อนแถมยังพบส่วนล่างของปอดด้วย คราวนี้หมอตกใจแล้วอธิบายการรักษาทุกวิธีให้ฟัง แล้วลงท้ายว่าใชวิธีให้ก็ไม่ได้ อ้าวกำเลยเค้าให้ไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ว่าแล้วผมก็ถามว่าเป็นระยะที่เท่าใหร่ เค้าไม่ยอมตอบตรงๆ ได้แต่บอกว่าเป็นมะเร็งตับประถมภูมิ (ตอนหลังผมมาทราบว่าคำนี้หมายถึงมะเร็งเริ่มจากตับ) ผมรบเร้าถามว่าผมอยู่ได้นานแค่ใหนเค้าเลยบอกว่า ไม่เกิน 6 เดือน จากตรงนี้แฟนผมร้องให้ไม่หยุดส่วนผมได้แต่ปลอบ หมอก็เริ่มพิมพ์ใบส่งตัว (ให้ไปหาคนรักษาเอาเอง) ถึงตรงนี้ผมตัดสินใจว่าจะปิดการเป็นมะเร็งของผมให้เป็นความลับไม่อยากให้ใครเครียด จดกว่าผมจะสู้ไม่ใหวจริงๆ ยังไงผมถึอว่าผมยังไม่ยอมแพ้จนร่างกายมันไม่ใหวเอง
ตรงนี้สรุปได้ว่า
-     ถ้ารพ.นี้มี LAB ตรวจเลือดที่ดีพอผมอาจเข้ารับการรักษาเร็วขึ้นอีกเดือน
-     มะเร็งตับตรวจเจอยากครับผมไม่โทษหมอเพราะอาการมันเหมือนโรคทั้วไป
-     ถ้าเป็นไปได้ผมอยากเตือนเพื่อนๆ ว่าเลือกรพ. ดีๆนะครับ แพงๆไม่ใช้ว่าดี

เริ่ม week แรก : แม่เพื่อนผมเคยเป็น ผอ. คลินิคพิเศษรพ. จุฬาอาจช่วยได้ เลยได้คิวตรวจรักษาในวันถัดมาเลย พบหมอรังษี ก่อนเค่าตรวจ film แล้วพบว่าใช้รังษีไม่ได้ส่งหาหมอศัลย์ ต่อมาก็พบว่าผ่าก็ไม่ได้ เปลี่ยนถ่ายก็ไม่ได้ เลยส่งตัวไปหาหมอ intervention เค้านันไปทำ TACE ในอีก 2 week แล้วให้ยารักษา ไวรัสบีมาด้วย (TACE เป็นการฉีด chemo ที่ตับโดยตรงมักใช้กับผู้ป่วยระยะสุดท้ายเพื่อลดความเจ็บปวดและใช้ชีวิตที่เหลือได้ดีขึ้น) ระหว่างนั้นผมก็ไปหาหมอจีนเค้าเคยเป็นหัวหน้าแผนกมะเร็งที่หัวเฉียว เห็น film ก็บอกว่ายากแต่ลองทานยาหม้อดู ผมไม่กลัวยาขมอยู่แล้วแต่ที่เหนื่อยคือทุกว่าต้องใช้เวลา 8 ชม. เพื่อต้มยาลองไปอาทิตย์นึงร่างกายก็ยังไม่ดีขึ้นเลยลองไปที่ใหม่ คราวนี้ไปกาญจนบุรีไปมูลนิธิไทยกรุณา ที่นี้ดีมากนะครับเค้ารักษาทุกคนฟรีทุกโรค(ผมพยายามหากล่องบริจาคยังไม่เจอเลย) concept คือร่างกายรักษาตัวเองได้ถ้าได้ อาหารที่เหมาะสมใครป่วยผมว่าที่นี้ดีนะครับ แต่ผมไปไม่ใหวคนเยอะมากกกก แล้วยังไกลผมไม่สามารถรักษาที่นี้ได้เลยไปที่อื่น (ผมรับสมุนไพรที่เค้าให้มาผมก็กินจนหมอนะครับเสียดาย) ต่อไปหมอสมหมาย (หมดหวังครับเคสผมเค้าไม่รับ)
ตรงนี้สรุปได้ว่า
-     การรักษาผมทำได้แค่ยืดอายุ
-     ผมได้ PSP V1 มาทานแพงอยู่ แนะนำนะครับสำหรับคนเป็นมะเร็งตับ (แฟนผมเป็นเภสัชเค้าหาข้อมูลให้มันใช้ใน US และ JP) ไม่มีขายในไทยเลยสั่งจาก HK
-     มูลนิธิไทยกรุณาเป็นที่ๆดี สำหรับคนเดินทางใหวแถมรักษาฟรี
-     ยาจีนดีมากสำหรับการปรับสภาพร่างการให้สมดุลเพื่อให้ไม่เจ็บป่วย แค่เลือกหมอที่ดีๆหน่อยนะครับ PM มาถามได้ครับ

เริ่ม week ที่สาม : เข้า Admit ทำ TACE ครับ chemo เป็นพิษนะครับแฟนผมบอกคนปกติไม่ควรแตะต้อง แต่มันกำลังจะไปอยู่ในตับผมแล้ว หลังทำทรมานมากครับได้แต่นอนมองนาฬิกา รอเวลายาแก้ปวด หลับตาท่องชินบัญชรตลอดเลยผม เข้าวันที่สามก็ดีขึ้นพอกลับบ้านได้ พร้อมกับอาการปวดทุกครั้งที่หายใจ เนื่องจากก้อนมะเร็งผมอยู่ชิดขอบตับใกล้กระบังลม
เพิ่มเติม : ผม admit ที่รพ.จุฬาแผกคลินิคพิเศษ ห้องหาไม่ยากนะครับแต่อาจารย์หมอไม่ค่อยชอบเดินมาเพราะตึกอยู่ใกลใครจำเป็นต้อง admit แล้วหาห้องไม่ได้ลองเข้าแผนกนี้ดูครับคืนละไม่เกิน 3800 บาท


กลับไปพักฟื้นที่บ้านต่อครับ เดี๋ยวตอนผมใหวผมจะมาต่อนะครับ
------ 5 Mar 2012
ต่อนะครับ
หลังจากออกมาจากรพ. ผมยังคงปวดจนเคลื่อนใหวยากและหายใจยากครับคืนที่สองผมทรมานมากขนากทำสมาธิไม่ใหวสวดมนต์ตลอดก็ยังแย่ ผมเคยคุยกับเพื่อนเรื่องพระคริสต์ ผมเลยลองอธิฐานให้หายปวดดู โดยบอกว่าถ้าผมหายผมจะไปเข้าโบสถ์ทันทีที่ไปใหว ไม่นานปาฎิหารเกิดครับผมหายปวด แต่ตรงที่ผมไม่ได้ขอมันก็ปวดครับรุ่งขึ้นเลยต้องเข้า ER ด่วน


ชีวิตใน ER : ห้อง ER รพ. จุฬา คนเยอะมากที่ผมห่วงคือแฟนผมที่คอยเฝ้าอยู่ คนที่เฝ้าต้องรอตลอดถ้าหมอจะใช้ยาอะไรต้องออกไปซื้อทันที แต่ใน ER มีเครื่องมือพร้อมมีหมอมาเยี่ยมบ่อยครับ แต่ละเตียงเบียดกันแทบไม่มีที่ให้ยืนได้ เตียงที่ผมนอนโดนลากไปลากมาตลอด พอตกเย็นก็มี แพทย์ฝึกหัดมาดูทุกเตียงเพื่อศึกษา case ตรงนี้แหละครับที่ผมรู้ว่าผมเป็นระยะสุดท้าย เค้าพูดกันเป็นภาษาอังกฤษ แต่ผมฟังคล่องเลยรู้อาการตัวเอง (หมอที่จุฬาพยามไม่บอกระยะนะครับ) หมอหลายท่านลงความเห็นว่า เป็นถุงน้ำดีอักเสพหลังทำ chemo งดน้ำงดอาหาร (เวลาคนป่วยงดน้ำนี้มันทรมานมากครับ ผมแนะนำว่าการอมน้ำแล้วบ้วนทิ้งช่วยได้แยะเลยครับ) ในที่สุดหมอที่ผมปรึกษาอยู่ก็ลงความเห็นว่าแค่อาการอักเสพจากการทำ chemo ครับแต่เนื่องจากก้อนมะเร็งมันใหญ่มาก 11cm เลยส่งผลเยอะ ที่สุดผมก็ได้ Admit อีก 5 วัน ให้ยาแก้ปวดกับแก้อักเสพ จนหายแล้วกลับบ้านรอมาเช็กผล

------ 5 Mar 2012

Update ------ 10 Mar 2012

หลังจากรับ chemo TACE : ผมเริ่มเข้าโบสถ์(กระแสพร แถวสะพานพระราม5)ตามที่สัญญาก่อนเข้า ER ผมพยายามหาวิธีที่จะไปอย่างสงบครับ แต่หลังจากผมเริ่มรู้จักพระเจ้าผมกลับได้ความหวัง ผมไม่กลัวความตาย และผมเริ่มเชื่อว่าการเป็นมะเร็งของผมไม่ใช่บังเอิญ

ผมได้เจอคนเป็นมะเร็งมากมาย แปลกตรงที่ผมเป็นหนักสุดแต่สภาพของผมดีสุดเลยครับ หลังจากนั้นผมเข้าทำ TACE ครั้งที่สองอาการหลังทำแย่มากผมต้องใช้ Morphine ทุก 4 ชม.แต่ที่แย่คือหลังจากฉีดไป 1 ชม.ผมก็ปวดอีก ได้แต่มองนาฬิกาว่าเมื่อใหร่จะได้ฉีดอีกครับ ผมได้ Morphine 6 เข็มทุกวันเพื่อระงับความปวด แต่หลังจากนั้นสี่วันที่โบสถ์มาเยี่ยมและเล่าให้ฟังถึงคนที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ตอนนี้นอนให้ Morphine เหมือนผมเลย

ผมเลยคิดว่านี้แน่เลยสิ่งที่ผมควรทำ วันรุ่งขึ้นอาการปวดผมดีขึ้น ผมเลยเชื่อว่าพระเจ้าอยากให้ผมมีประสพการณ์ก่อนไปหนุนใจผู้อื่น สองวันถัดมาผมออกจากรพ. ได้ผมมุ่งตรงไป รพ.ที่พี่ที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายอยู่เพื่อไปบอกว่าทุกอย่างที่เค้าเจอทุกความเจ็บปวดผมก็ได้เจอมาแล้วและตอนนี้ผมมายืนตรงหน้าด้วยความเชื่อและปาฎิหารครับ แต่ไม่กี่อาทิตย์หลังจากนั้นพี่เค้าก็จากไปแต่ไม่มีความกลัวเหลืออยู่เลย

เชื่อใหมครับตอนนี้ผมเจอคนเป็นมะเร็งอีกหลายคนเลย โดยเฉพาะเพื่อนร่วมงานที่ US ทำงานหนักพอๆกันเริ่มพบมะเร็งระยะแรกๆ ตอนนี้ผมบอกเค้าได้ว่าผมระยะสุดท้ายและเจออะไรมาบ้างแล้วผมอยู่กับมันยังไง เค้าดีขึ้นเยอะเลยครับ

เดี๋ยวผมใหวจะมาพิมพ์ต่อนะครับ

Update ------ 10 Mar 2012

Update ------ 24 Mar 2012
ล่าสุดผมหายจากอาการปวดอย่างปาฏิหาร์ ผมร่วงจนว่าจะโกนละครับ รับ Chemo แบบฉีดเข้าเส้นเลือดไปอีก 4 ครั้ง จนล่าสุดหมอบอกว่า ตัวยา Chemo ไม่สามารถคุมเซลมะเร็งได้แล้ว ต้องเปลี่ยนสูตร แล้วถ้าไม่ตอบรับอีกก็หมดยาในประเทศละครับ ล่าสุดได้ข่าวว่ามียาแรงๆ ที่ต่างประเทศเข็มละล้านปลายๆ น่าจะได้ผลแต่ side effect ก็เยอะตามมา ยังไงผมก็ยังสู้ต่อไปนะครับ

ผมอยากบอกทุกคนว่าตราบใดที่ไม่ท้อ ไม่ยอมแพ้ เราก็ยังมีโอกาศ ชนะทุกสิ่งนะครับ อย่าท้อไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรก็ตามนะครับ
Update ------ 24 Mar 2012

---23/05/2012---
ขอโทษด้วยนะครับที่มา update ช้า วันนี้ผมมาขอเล่าการรักษากับการใช้ชีวิตที่ผ่านมาให้ฟังกันต่อนะครับ

หลังจาการรับ chemo หลายครั้งแล้วผมยังพยายามหาวิธีการรักษาแบบอื่นๆ เพิิ่มในต่างประเทศการรักษามีหลายแบบแต่ในไทยก็ยังต้องรอการวิจัย เอกสาร อื่นๆๆ อีกกว่าจะนำมาใช้ได้ครับ ตอนนี้ผมลอง anti body บางชนิดเพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันรัษามะเร็งเอง แต่ผลคือตอนนี้มันไม่ตอบสนองแล้ว แต่ยังครับยังมี anti body อีกหลายตัวที่ต้องลอง ไว้ผมลองกับตัวแล้วอันใหนได้ผล ผมจะมาบอกอีกที

ช่วงนี้ผมเข้า รพ บ่อยจากอาการปวดแบบฉีด morphine แล้วยังไม่หายปวดเลย บ่อยครั้งที่ผมอธิฐานถึงพระเจ้าแล้วก็หายอย่างไม่น่าเชื่อ เพื่อนๆที่โบสถ์ก็ช่วยกันอธิฐานให้ผมทุกวันเลย

ตอนนี้ยังไม่มีสถานะการเปลื่ยนแปลงมากนักแต่ผมก็อยู่มาเกิน 180 วันมาซักระยะแล้วครับ
ผมหวังว่าการรักษาของผมจะทำให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นบ้างถ้าผมสู้ไม้ใหวจริงๆแล้วตอนนั้นผมจะลอง ทุกอย่างไว้เป็นประโยชน์ในการทดลองนะครับ

ผมต้องขอขอบคุณทุกกำลังใจ pm เพื่อนบางคนเอาของมาเยี่ยมถึงที่เลย ขอบอกว่า DGO เป็นที่ๆอบอุ่นมากนะครับ ขอให้รักษาความดีความอบอุ่น ให้อภัย เห็นใจ ตลอดไปนะครับ ของแบบนี้หายากขึ้นทุกทีในยุคนี้ แต่ผมดีใจที่ๆนี้เรายังมีความดีครบเลยครับ
---23/05/2012---

ยังมีต่อที่ rep 2 นะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่