แบ่งปันหนังสือแนวคิดดีๆที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยน...

วิธีคิด ที่ทำให้ชีวิตของคุณ ประสบความสำเร็จและแตกต่างกว่าคนอื่น
หยุด ! อย่ารีบกิน ‘มาร์ชมาลโลว์’ แล้วคุณจะประสบความสำเร็จทั้ง งาน เงิน และชีวิต
โดย: ดร.โจอาคิม เดอ โพซาด้า และ เอลเล็น ซิงเกอร์
อาร์เธอร์ เป็นคนฉลาด สามารถแก้ปริศนาอักษรไขว้ใน หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ ได้ในเวลา 30 นาที สามารถวิเคราะห์เศรษฐกิจของลาตินอเมริกา ได้ในเวลาครึ่งชั่วโมง และคำนวณตัวเลขในหัวได้เร็วกว่าคนส่วนใหญ่ที่คำนวณโดยใช้เครื่องคิดเลข แต่ …. เขากลับเป็นแค่คนขับรถ โจนาธาน เพเชี่ยน ฉลาดพอๆ กับ อาเธอร์ ทำงานหนักเท่าๆ กัน แต่โจนาธานเป็นเศรษฐีพันล้าน ทำไม โจนาธานจึงนั่งอยู่บนเบาะหลังของรถยนต์คันใหญ่ ในขณะที่อาร์เธอร์ นั่งอยู่ด้านหน้าเป็นคนขับ
สาเหตุที่ทำให้คน 2 คนที่ฉลาดพอๆ กัน แต่กลับมีชีวิตที่แตกต่างกัน
คำตอบอยู่ที่การวิจัยครั้งสำคัญของ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ที่มีชื่อเสียงในสหรัฐอเมริกา นักวิจัยได้ทดลองปล่อยให้เด็ก ๆ อยู่ในห้องตามลำพัง และแจกขนม “มาร์ชมาลโลว์”( คือขนมหวานชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเบาคล้ายฟองน้ำ ทำจากเจลาติน น้ำตาล น้ำเชื่อมข้าวโพด แป้ง และโรยด้วยน้ำตาลผง มีหลากหลายสี เป็นขนมที่เด็กๆ ชื่นชอบและอร่อยมาก) ให้เด็กคนละก้อน จากนั้นเสนอให้เด็กเลือกว่าจะกินมันเข้าไปทันทีหรือจะคอยอีก 15 นาที ถ้าเด็กคนไหนคอยได้ พวกเขาก็สัญญาว่าจะให้มาร์ชมาลโลว์แก่เด็กคนนั้นเพิ่มอีกก้อน ซึ่งจากการทดลองพบว่า เด็กบางคนอดใจไม่ได้กินขนมมาร์ชมาลโลว์เข้าไปทันทีในขณะที่บางคนเลือกที่จะคอย !
ทฤษฎีนี้สามารถอธิบายได้อย่างน่าสนใจว่า “ ทำไมคนบางคนจึงประสบความสำเร็จ ในขณะที่บางคนล้มเหลว ! ”
โพซาด้า เชื่อว่า ความแตกต่างที่สำคัญของความสำเร็จและความล้มเหลวมิได้อยู่ที่การทำงานหนักหรือมีสติปัญญาที่เหนือกว่า แต่อยู่ที่ความสามารถในการ “ห้ามใจตัวเองให้ชะลอความอยากได้รับความพอใจลงก่อนหรือการรู้จักอดเปรี้ยวไว้กินหวาน” นั่นคือ คนที่ “ห้ามใจไม่กิน ‘มาร์ชมาลโลว์’ จะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จมากกว่า”
ผลวิจัยออกมาว่า เด็กที่สามารถยับยั้งใจไม่กินขนมมาร์ชมาลโลว์ได้นั้นมีผลการเรียนที่ดีกว่า สามารถเข้ากับคนอื่นได้ดีกว่า และจัดการกับความเครียดได้ดีกว่าเด็กที่ไม่สามารถห้ามใจตัวเองไม่ให้กินขนม มาร์ชมาลโลว์ก้อนแรก จากการทดลองด้วยเวลาสั้นๆหลังจากผู้ใหญ่ออกไปจากห้องกลุ่มเด็กที่สามารถห้ามใจตัวเองไม่กินขนมมาร์ชมาลโลว์กลายเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมากกว่ากลุ่มเด็กที่ไม่สามารถยับยั้งใจได้อย่างมากมาย ถ้าไม่รู้จักยับยั้งใจตัวเองก็เท่ากับคุณยอมแพ้ให้กับตัวเอง แน่นอนว่ามันไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง แต่ความสามารถในการยับยั้งหักห้ามใจเพื่อไม่ให้สนองความพึงพอใจของตัวเองทันทีทันใด กลายเป็นปัจจัยที่บ่งบอกถึงความสำเร็จของตัวเราในอนาคตได้
คนที่ประสบความสำเร็จต้องเป็นคนที่รักษาคำมั่นสัญญา มีคนบางคนทำเงินได้มากโดยที่ไม่ให้ความสำคัญกับข้อตกลงที่ได้ทำไว้กับคนอื่นแต่สุดท้าย ไม่ช้าก็เร็วผู้คนเหล่านั้นก็จะรู้ทัน และที่สำคัญคือคนส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะมอบสิ่งที่เราต้องการถ้าพวกเขาไว้วางใจเรา คนที่จะประสบความสำเร็จได้ต้องใช้ความศรัทธาและการมีแรงจูงใจ คนที่ประสบความสำเร็จทุกคนตระหนักว่า การที่จะได้ในสิ่งที่คุณต้องการจากคนอื่น คนอื่นต้องมีความปรารถนาที่จะช่วยเหลือคุณเสียก่อน คนเราไม่สามารถควบคุมคนอื่นและไม่สามารถควบคุมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยส่วนใหญ่ได้แต่เราสามารถควบคุมพฤติกรรมของตัวเราเองได้และวิธีการที่เราประพฤติปฏิบัตินั้นมีผลกระทบอย่างมากต่อวิธีการที่คนอื่นประพฤติปฏิบัติรวมทั้งสิ่งที่เราทำในเหตุการณ์และปฏิกิริยาของเราที่มีต่อเหตุการณ์นั้นสำคัญกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ การปฏิบัติตัวให้เป็นตัวอย่างทำให้เรามีอำนาจในการจูงใจคนได้อย่างมากซึ่งมีอำนาจในการโน้มน้าวใจผู้อื่นได้เป็นอย่างดี นี่คือเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการนำเราไปสู่ความสำเร็จ
ความสำเร็จเริ่มต้นขึ้นเมื่อคุณเต็มใจทำในสิ่งที่คนไม่ประสบความสำเร็จ…ไม่เต็มใจทำ สิ่งที่กำหนดอนาคตของเรา ไม่ใช่สิ่งที่เคยได้ทำมาในอดีตแต่คือสิ่งที่เราเต็มใจจะทำในปัจจุบัน ทำชีวิตให้ดีขึ้นด้วยกฎ ‘ 30 วินาที ’ ไม่ว่าคุณจะประกอบอาชีพอะไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่คุณสามารถเชื่อมโยงเข้ากับผู้อื่นได้ คนเหล่านั้นจะเป็นคนตัดสินใจว่าเขาจะเชื่อมโยงเข้ากับคุณได้หรือไม่ภายใน 30 วินาที แรกที่พบคุณ ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของความสำเร็จทางด้านการเงินของคุณนั้นมาจากทักษะ พรสวรรค์ และความรู้ของคุณ ขณะที่อีก 80 เปอร์เซ็นต์มาจากทักษะเกี่ยวกับ ‘ คน ’ ของคุณความสามารถในการเชื่อมโยงเข้ากับคนอื่นและการได้รับความไว้วางใจรวมถึงความนับถือจากคนอื่น ยิ่งคุณสามารถเข้ากับคนอื่นได้มากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งมีโอกาสได้รับในสิ่งที่คุณต้องการมากขึ้นเท่านั้น ผลตอบแทนล้ำค่าจากการฝึกห้ามใจตัวเองตามทฤษฎี “มาร์ชมาลโลว์” ความสำเร็จส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับว่าคุณเชื่อมโยงตัวเองให้เข้ากับคนอื่นได้ดีแค่ไหน “จุดมุ่งหมาย + ความปรารถนาอย่างแรงกล้า + การกระทำ = ความสงบสุขในจิตใจ ” เมื่อมีจุดมุ่งหมายและความปรารถนาก็จะทำให้ได้รับความสงบสุขในจิตใจ เมื่อคนเรามีเป้าหมายและรู้สึกตื่นเต้นที่จะบรรลุถึงมันอีกทั้งทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อจะไปให้ถึงเป้าหมาย ผลก็คือความสงบ ถึงเวลาเริ่มต้นชีวิตที่ดีแล้ว สิ่งที่เต็มใจทำในวันนี้ เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในวันพรุ่งนี้
การห้ามใจตัวเองไม่ให้กิน “มาร์ชมาลโลว์” ไม่ได้เป็นเพียงแค่ทฤษฎี แต่มันสามารถประยุกต์ให้เป็นประโยชน์ต่อวิธีการดำเนินชีวิต ไม่ว่าคุณจะมีอาชีพอะไร คำจำกัดความของความสุขของคุณคืออะไร ชีวิตความฝัน หรือชีวิตทางธุรกิจในอุดมคติของคุณคืออะไร การใช้วิธีห้ามใจไม่รีบกิน ‘มาร์ชมาลโลว์’ จะทำให้คุณประสบความสำเร็จโดยไม่สำคัญว่าคุณจะมี ‘มาร์ชมาลโลว์’ มากหรือน้อยที่อยู่แค่เอื้อมมือคว้าของคุณ คนทุกคนสามารถมี ‘มาร์ชมาลโลว์’ ได้อย่างล้นเหลือหากทำตามหลักการในหนังสือเล่มนี้
แผนการเปลี่ยนแปลงชีวิต 5 ขั้นตอน
1. คุณจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง ? กลยุทธ์ใดที่คุณสามารถทำได้ในตอนนี้เพื่อไม่รีบกิน ‘มาร์ชมาลโล’ ของคุณ อะไรที่คุณมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลง
2. จุดแข็งและจุดอ่อนของคุณคืออะไร ? คุณจำเป็นต้องปรับปรุงอะไรบ้าง แล้วคุณจะปรับปรุงให้ดีที่สุดได้อย่างไร
3. เป้าหมายหลักของคุณคืออะไร ? เลือกมาอย่างน้อยห้าเป้าหมายและเขียนมันลงไป หลังจากนั้นเขียนสิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านั้น
4. แผนการของคุณคืออะไร ? ให้เขียนมันลงไป ถ้าคุณมองไม่เห็นเป้าหมาย คุณก็ไม่สามารถบรรลุมันได้
5. คุณจะทำอะไรบ้าง เพื่อให้แผนการของคุณกลายเป็นการกระทำ ? คุณมุ่งมั่นที่จะทำอะไรในวันนี้ พรุ่งนี้ อาทิตย์หน้า ปีหน้า เพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายของคุณ คุณจะต็มใจทำในสิ่งที่คนที่ไม่ประสบความสำเร็จไม่เต็มใจทำได้อย่างไร
จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้ คือ เป็นหนังสือที่ผู้เขียนต้องการชี้ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตเพื่อให้ประสบ และผลสำเร็จในชีวิต ซึ่งหนังสือเล่มนี้ใช้เรื่องเล่าง่าย ๆ ผ่านตัวละคร 2 ตัว คือ อาร์เธอร์ และโจนาธาน เพเชี่ยน และได้สอดแทรก “ วิธีคิดในการใช้ชีวิตที่ดี ” เป็นบทเรียนให้กับอาร์เธอร์
จุดด้อยของหนังสือเล่มนี้ คือ เป็นการเสนอแนวความคิดที่เขียนจากงานวิจัยเรื่อง “ ทฤษฎี มาร์ชมาลโลว์ ” แต่การนำมาปฎิบัติในชีวิตจริงอาจจะทำยากและจำเป็นต้องใช้เวลาในการนำมาปฎิบัติ
ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้ คือ หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับทุกๆ คนที่ต้องการมีชีวิตที่ประสบความสำเร็จที่แตกต่างจากคนอื่น และแน่นอนมันเหมาะสำหรับวัยรุ่นที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตัวเองเพื่อที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต ซึ่งบทเรียนจากหนังสือเล่มนี้จะเปลี่ยนวิธีคิดและชีวิตของเราได้ และยังแสดงให้เห็นว่าการกระทำของเราในวันนี้ สามารถส่งผลต่ออนาคตของเรา เพียงแต่ไม่รีบกิน “ มาร์ชมาลโลว์ ” และจะทำให้เราสามารถประสบความสำเร็จและแตกต่างกว่าคนอื่น ดังนั้นการที่เราจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้นั้นเราจึงควรที่จะอดทน รอคอย มีความตั้งใจจริงในการทำสิ่งต่าง ๆ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างต้องใช้เวลาไม่สามารถที่จะทำสำเร็จได้ในเวลาสั้นเพียง วันสองวัน ทุกอย่างจึงต้องอาศัยความพยายาม ในไม่ช้าก็จะประสบความสำเร็จได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่