สิ่งที่ทำนั้นคือความรัก หรือ บงการ ชีวิต

กระทู้คำถาม
ผมเติบโตในช่วงเวลาที่ครอบครัวมีปัญหาเรื่องการเงิน มีหนี้สินรุงรัง ธุรกิจขายน้ำดื่มขาดทุน จนมีหนี้สินมากมายจนถึงขั้นต้องปิดบ้านหนีเจ้าหนี้ที่ตามราวีทวงหนี้ไปซักพักใหญ่จนกลับมาตั้งหลัก ประกอบอาชีพขายก๋วยเตี๋ยว ตอนนั้นจำได้ว่าผมเรียนอยู่ประมาณป.4 ทุกๆวันหยุดเสาร์อาทิตย์ แม้กระทั้งวันหยุดเทศกาลต่างๆ ผมไม่เคยได้ออกไปเที่ยวไหน ต้องอยู่ร้านขายของ หลายครั้งที่เห็นเด็กมากับครอบครัวในวันหยุดมีรอยยิ้มมีเสียงหัวเราะที่พ่อและแม่เค้าพามาเที่ยวพักผ่อนกันทั้งครอบครัว  จนกระทั้งผมเข้าเรียนระดับมัธยมชีวิตผมก็เป็นเช่นนี้ ไม่ค่อยได้มีโอกาสเหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่ได้เที่ยวเล่น ออกไปเที่ยวห้าง เดินเล่นกับเพื่อนๆ  เนื่องจากผมเป็นเด็กต่างจังหวัด  จะเที่ยวทีก็ต้องนั่งรถบัส เดินทางเข้ากรุงเทพก็เวลา  2 ชั่วโมงกว่าจะถึง  

ด้วยความที่ผมเป็นลูกคนโต ถูกเลี้ยงดูมาแบบถนุถนอมแต่เด็ก จึงถูกโอ๋มาแต่เล็ก แต่ใช่ว่าผมจะไม่เคยถูกตีนะ ผมถูกตีจมเขี้ยวเลยทีเดียว นึกภาพตามนะครับ ไม้แขวนเสื้อโดนจนมันงอ ด้ามไม้กวาดจนหัก  จำได้ว่าโดนครั้งสุดท้ายตอน ป.6   ทุกวันนี้ผมเป็นคนไม่ค่อยจะสงสิงกับใครมากนักถ้าไม่รู้จักหรือสนิทกัน เพราะว่าผมอยู่แต่บ้านมาตั้งแต่เล็กทำงานทุกวัน ตั้งแต่เช้า 05.30 - 16.00น. เวลาปิดร้าน เป็นแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา  

จนกระทั้งผมจบม.6 ได้เข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย ถามว่าผมใช้ชีวิตอิสระมากขึ้น มากขึ้นครับ มากจนเหมือนนกที่ถูกขังในกรงมาตลอดชีวิต แล้วหลุดออกนอกกรง เห็นอะไรก็ตื่นเต้นตระการตาไปหมด  ลองผิดลองถูก  ทำทุกอย่าง  แต่...ทุกวันหยุดผมก็ต้องกลับไปช่วยงานที่บ้านทุกครั้ง หลายครั้งถูกเพื่อนว่าว่าไม่มีเวลาให้กับเพื่อนบ้างในการใช้ชีวิต ผมอยากนะ แต่...ฐานะทางบ้านผมก็ไม่ได้ดีอะไร เงินก็ยังต้องกู้เค้ามาหมุนใช้จ่าย ดอกเบี้ยร้อยละ 20 แหนะ  ซึ่งเงินนี้ก็ทำให้ผมเรียนจบมาได้

หลายครั้งที่ผมน้อยใจตัวเอง ที่ไม่สามารถทำอะไรตามอย่างที่ใจตัวเองต้องการ  ทางเดินที่ผมอยากจะเดิน  เวลาผมมีความคิดและอยากที่จำทำอะไรผมจะเอ่ยปากบอกครอบครัวทุกครั้งเผื่อว่าเค้าจะสนับสนุน  น้อยครั้งที่จะเห็นดีงามด้วย โดยมากแล้วบอกว่าไม่ดี อย่าทำ ทำไม่ได้หรอก  ทำอาชีพเราหนะดีสุดแล้ว....ได้ยินคำตอบแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา ก็เหมือนภาพวาดที่ตั้งใจบรรจงร่างขึ้นเพื่อการแต่งแต้มสีให้สมบูรณ์ถูกฉีกทิ้งไปต่อหน้าต่อตาซ้ำแล้วซ้ำเล่า  เหมือนหัวใจที่ถูกเหยียบจนหมดกำลังใจที่จำทำอะไรต่อ   ลืมบอกผมมีน้องชายหนึ่งคน เราห่างกัน 6 ปี เค้าโชคดีที่เกิดมาในช่วงเวลาที่ครอบครัวฐานะมั่นคงขึ้น เค้าเป็นเด็กผู้ชาย มีความมุ่งมั่น และมีความคิดเป็นของตัวเอง  ครอบครัวจะให้ในสิ่งที่เค้าต้องการเสมอ  ผิดดับผมที่ผิดหวังหลายต่อหลายครั้งแต่ก็มีหลายอย่างที่เค้าก็ให้ผมได้ทำแต่ก็ไม่ได้สนับสนุนเต็มที่ ....  

ชีวิตผมตั้งแต่เล็กจนโต ถูกจำกัดขีดเส้นทางเดินในแบบที่ครอบครัวต้องการ อยู่บนความต้องการที่ทุกคนอยากจะให้เป็น หรือสิ่งที่เค้าขาดหายในวันของเค้า เพื่อให้ผมได้ทำ เค้าอาจอยากให้ผมเป็นตัวแทนในตัวตนของเค้า  แต่!!! นี้คือชีวิตของผม ชีวิตที่ต้องเดินทางอีกไกล  ชีวิตที่ต้องก้าวเดินไปคนเดียวเมื่อถึงเวลาที่ไม่มีเค้าอยู่กับผมอีกแล้ว .... ผมกลัว กลัวว่าเมื่อถึงวันนั้นชีวิตผมจะไม่มีอะไรเป็นหลักประกันในชีวิตผมเลย ในขณะที่คนอื่นๆ สร้างอาชีพและฐานะของเค้าได้หมดแล้ว  อายุผมใกล้เข้าเลข 3 ในอีกไม่กี่ปี ผมยังไม่มีอะไรเลย แม้แต่เงินในบัญชี เพื่อทุกอย่างถูกรวมอยู่ในกองกลาง ซึ่งก็หมุนใช้ไปวันๆ กับการขายก๋วยเตี๋ยวที่บ้าน   รายได้แต่ละวันแต่พอใช้จ่าย มีเหลือเก็บนิดหน่อยก็ไม่มากมายอะไรนัก  

ผมเคยออกมาอยู่ข้างนอก ผมให้เหตุผลว่า ผมอยากออกไปทำงาน ซึ่งประจวบกับที่เพื่อนของผมได้ทำผลิตภัณฑ์ชนิดหนึ่งออกมา ถามว่าดีไหม มันไปได้เรื่อยๆ ผมชอบไหมหรอ คิดว่ามันก็ไม่ใช่สำหรับผม  แต่รุ้สึกว่าการที่เราออกมาเรารู้สึกสบายใจขึ้นกว่าที่ได้อยู่ในบ้าน เราไม่ต้องฟังเสียงพร่ำบ่น เสียงดุว่า เสียงโวยวาย  และความวุ่นวายที่ใครต่อใครเริ่มเข้ามาวุ่นวายกับครอบครัวและร้านของครอบครัว  ช่วงระยะเวลา6 เดือน ครอบครัวจะโทรมาหาผมเสมอ บอกให้กลับมาบ้าน มาทำงาน หาวิธีสาระพัดให้ผมกลับมาอยู่บ้าน ให้บริหารกิจการ ให้ดูแล ทุกๆอย่าง จนสุดท้ายผมกลับมา  ก็ไม่ได้อย่างที่เค้าบอก  .....   ผมต้องมาช่วยเหมือนเดิม .....  เหมือนหายใจทิ้งไปวันๆ   ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าที่เค้าให้ผมกลับมาอยู่บ้านเพราะความรัก หรือ บงการชีวิตผม กันแน่ ....  

ผมไม่ได้อคติกับครอบครัว ผมรักครอบครัวผมมากที่ผมไม่หนีหรือทำอะไรที่ก้าวร้าว ก็เพราะว่าผมรัก .... ผมถึงต้องทนกับสภาพแบบนี้ .... แต่อยากให้เข้าใจว่า ชีวิตผมยังเดินหน้าต่อ  ถ้าให้ผมอยู่อย่างนี้ ไปวันๆ  อนาคตผมมองไม่เห็นแน่ ผมไม่อยากมีบั้นปลายชีวิตที่รันทด ไม่อันจะกิน ไม่มีอาชีพ เงินเก็บที่จะเลี้ยงดูตัวเองไปจนแก่เฒ่านะ .....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่