เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอบคุณภาพประกอบจาก bizarrezoology.blogspot.com
เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ รายงานว่า ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กำลังมองหาหญิงใจกล้า อุ้มท้องมนุษย์โคลนนิ่งที่ถอดรหัสดีเอ็นเอจากมนุษย์ยุคดึกดำบรรพ์
รายงานระบุว่า ศาสตราจารย์จอร์จ เชิร์ช จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กำลังมองหาผู้หญิงที่จะมาอุ้มบุญให้กับเด็กที่ถอดรหัสพันธุกรรมจากมนุษย์ยุคหิน หรือนีแอนเดอร์ธัล ที่สูญพันธุ์ไปเมื่อ 33,000 ปีก่อน หวังจะปลุกชีวิตมนุษย์ยุคหินให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง
โดยศาสตราจารย์เชิร์ช จะนำดีเอ็นเอที่ถอดได้จากโครงกระดูกมนุษย์ยุคหิน มาปลูกถ่ายในเซลล์ต้นกำเนิด หรือสเต็มเซลล์ ซึ่งมาจากตัวอ่อนของมนุษย์ จากนั้น จะนำเซลล์ที่ได้ไปฝังไว้ในมดลูกของผู้หญิงที่จะรับหน้าที่อุ้มบุญ
ส่วนเรื่องการโคลนนิ่ง ที่ดูหมิ่นเหม่และเป็นสิ่งผิดกฎหมายนั้น ศาสตราจารย์เชิร์ช เปิดเผยว่า นี่เป็นโครงการที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ เพราะเผ่าพันธุ์มนุษย์ยุคหินนี้ น่าจะฉลาดกว่ามนุษย์เผ่าพันธุ์ที่ดำรงอยู่ในปัจจุบัน เพราะพวกเขาเป็นผู้ริเริ่มประดิษฐ์เครื่องมือรุ่นแรก ๆ ของโลก และอาจจะมีความคิดที่แตกต่างจากมนุษย์เผ่าพันธุ์ปัจจุบันก็ได้ ซึ่งอาจจะเป็นผลดีกับโลกในอนาคต เมื่อยามต้องเผชิญกับภัยพิบัติต่าง ๆ
อย่างไรก็ดี โครงการโคลนนิ่งมนุษย์ยุคหินยังคงเป็นเพียงแค่ทฤษฎีอยู่ และอาจต้องเจอกับอุปสรรคหนักหนาอยู่เหมือนกัน เพราะการโคลนนิ่งยังถูกต่อต้านจากสังคมปัจจุบันอยู่ แต่เขาเชื่อว่าเขาน่าจะทำได้
ที่มา:
http://hilight.kapook.com/view/81260
ถ้าทำได้จริงคิดว่าเราจะได้อะไรจากโครงการนี้ครับ??
นักวิทย์มะกันผุดโครงการโคลนนิ่งมนุษย์ยุคหิน หาหญิงอุ้มบุญ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอบคุณภาพประกอบจาก bizarrezoology.blogspot.com
เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ รายงานว่า ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กำลังมองหาหญิงใจกล้า อุ้มท้องมนุษย์โคลนนิ่งที่ถอดรหัสดีเอ็นเอจากมนุษย์ยุคดึกดำบรรพ์
รายงานระบุว่า ศาสตราจารย์จอร์จ เชิร์ช จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กำลังมองหาผู้หญิงที่จะมาอุ้มบุญให้กับเด็กที่ถอดรหัสพันธุกรรมจากมนุษย์ยุคหิน หรือนีแอนเดอร์ธัล ที่สูญพันธุ์ไปเมื่อ 33,000 ปีก่อน หวังจะปลุกชีวิตมนุษย์ยุคหินให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง
โดยศาสตราจารย์เชิร์ช จะนำดีเอ็นเอที่ถอดได้จากโครงกระดูกมนุษย์ยุคหิน มาปลูกถ่ายในเซลล์ต้นกำเนิด หรือสเต็มเซลล์ ซึ่งมาจากตัวอ่อนของมนุษย์ จากนั้น จะนำเซลล์ที่ได้ไปฝังไว้ในมดลูกของผู้หญิงที่จะรับหน้าที่อุ้มบุญ
ส่วนเรื่องการโคลนนิ่ง ที่ดูหมิ่นเหม่และเป็นสิ่งผิดกฎหมายนั้น ศาสตราจารย์เชิร์ช เปิดเผยว่า นี่เป็นโครงการที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ เพราะเผ่าพันธุ์มนุษย์ยุคหินนี้ น่าจะฉลาดกว่ามนุษย์เผ่าพันธุ์ที่ดำรงอยู่ในปัจจุบัน เพราะพวกเขาเป็นผู้ริเริ่มประดิษฐ์เครื่องมือรุ่นแรก ๆ ของโลก และอาจจะมีความคิดที่แตกต่างจากมนุษย์เผ่าพันธุ์ปัจจุบันก็ได้ ซึ่งอาจจะเป็นผลดีกับโลกในอนาคต เมื่อยามต้องเผชิญกับภัยพิบัติต่าง ๆ
อย่างไรก็ดี โครงการโคลนนิ่งมนุษย์ยุคหินยังคงเป็นเพียงแค่ทฤษฎีอยู่ และอาจต้องเจอกับอุปสรรคหนักหนาอยู่เหมือนกัน เพราะการโคลนนิ่งยังถูกต่อต้านจากสังคมปัจจุบันอยู่ แต่เขาเชื่อว่าเขาน่าจะทำได้
ที่มา: http://hilight.kapook.com/view/81260
ถ้าทำได้จริงคิดว่าเราจะได้อะไรจากโครงการนี้ครับ??