"........อย่างไรก็ตาม “แม่ลูกจันทร์”
ไม่อยากให้ฝ่ายไหนใช้ข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนไทย– กัมพูชาในอ่าวไทย เป็นเครื่องมือโจมตีทางการเมือง
เพราะปัญหาพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทยติดค้างลำกล้องมานานเต็มที
ควรที่ทั้ง 2 ประเทศจะเร่งเจรจาปัญหาเส้นเขตไหล่ทวีป 26,000 ตร.กม.ให้ได้ข้อยุติอย่างโปร่งใส และเป็นธรรม
เพราะหลุมก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่ดูดขึ้นมาใช้กันโครมๆจะเริ่มหมดลงใน 5 ปี และคาดว่าจะหมดเหี้ยนภายใน 10 ปี จากนี้ไป
ถ้าไม่เร่งพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติแห่งใหม่ๆ ขึ้นมาทดแทน ในอนาคตประเทศไทยจะต้องควักกระเป๋านำเข้าก๊าซธรรมชาติจากต่างประเทศมาใช้จนริดสีดวงบาน
“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่าการที่นายกฯ อภิสิทธิ์ส่งรองนายกฯ “สุเทพ เทือกสุบรรณ”และ รมว.กลาโหม “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ไปขอเจรจาปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลกับ “นายกฯ ฮุนเซน” เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องและไม่ใช่เรื่องเสียหายตรงไหนเลย
ไหนๆพูดถึงเรื่องนี้ “แม่ลูกจันทร์” ต้องชื่นชมวิสัยทัศน์อดีตนายกฯ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เจ้าของนโยบายแปลงสนามรบเป็นสนามการค้าที่เป็นผู้ริเริ่มเจรจาร่วมมือพัฒนาแหล่งพลังงานพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทย
แสดงว่า “น้าชาติ” มองอนาคตพลังงานไทยล้ำหน้ากว่า 20 ปี
แต่
“แม่ลูกจันทร์” ไม่เห็นด้วยกับ “อภิสิทธิ์” 2 ประเด็น
1, ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทยเกี่ยวกับเส้นเขตแดนทางทะเลและผลประโยชน์มหาศาลจากแหล่งพลังงาน
ควรดำเนินการเจรจาอย่างเปิดเผยและเป็นทางการ
2,
เมื่อเจรจาไม่คืบหน้า (ไม่ว่าสาเหตุใด) ไม่ควรผลีผลาม ยกเลิกเอ็มโอยู 2544 ที่ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีต รมว.ต่างประเทศ (ยุครัฐบาลทักษิณ) ทำข้อตกลงไว้กับกัมพูชา
เพราะ
ผลจากการยกเลิกเอ็มโอยูเท่ากับข้อตกลงเกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลที่ได้เจรจากันไว้ทั้งหมด ต้องถูกฉีกทิ้งทั้งยวง!!
เรา
มั่นใจหรือว่าการเจรจาใหม่ ฝ่ายไทย จะได้ประโยชน์มากกว่าเอ็มโอยู 2544 ที่ยกเลิกไป??
“แม่ลูกจันทร์” เสียดายเอ็มโอยู 2544 (เกี่ยวกับปัญหาพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทย) เพราะไทยเป็นฝ่ายได้ประโยชน์ในสาระสำคัญ
1,
เอ็มโอยูฉบับนี้ได้รับรองว่า “เกาะกูด” เป็นของประเทศไทย ถ้าวัดจากเกาะกูดออกไปในอ่าวไทย พท.ทับซ้อนจะเป็นของไทยมากกว่ากัมพูชา
2,
หลักการแบ่งผลประโยชน์จากแหล่งพลังงานก็ใช้หลักการเดียวกับไทย–มาเลเซีย
แหล่งก๊าซอยู่ใกล้ฝั่งไทย ไทยได้ส่วนแบ่ง 80 เปอร์เซ็นต์
แหล่งก๊าซอยู่ใกล้ฝั่งกัมพูชา ไทยได้ส่วนแบ่ง 20 เปอร์เซ็นต์
แหล่งก๊าซที่อยู่ตรงกลาง ไทย–กัมพูชา แบ่งผลประโยชน์กัน ฝ่ายละ 50 เปอร์เซ็นต์
สูตรนี้ก็ยุติธรรมดีไม่ใช่หรือ แล้วไปยกเลิกทำไม??
"แม่ลูกจันทร์"
ไทยรัฐออนไลน์ 26 มกราคม 2556, 05:00 น.
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/322427
????????????????????????????????????
เออ...ก็น่านนะซี
เอ็มโอยู 2544 ไทยก็ได้ประโยชน์เต็มที่อยู่แล้ว เหมือนกับที่ได้ทำไว้กับมาเลเซีย
แล้ว "มาร์ค" ไปยกเลิกทำไม...??????
หรือเพราะความอิจฉาริษยาตาร้อนที่อยากทำลายผลงานของฝ่ายตรงข้ามจนหน้ามืดตามัว
ลืมไปว่านี่คือผลประโยชน์ของชาติ
แต่ดันเอาความริษยาส่วนตัวลงมาผสมโรงด้วย......
มาร์คเอ๋ย....
ในความกลิ้งกลอกกะล่อนปลิ้นปล้อนทางการเมืองนายอาจจะอยู่ในขั้นจิ้งเหลนน้อยเรียกพี่
แต่ในทางการบริหารงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ
นายเป็นได้เพียงลูกน้ำยุงลายที่อยู่ใต้กะลาครอบจริงๆ.....
แม่ลูกจันทร์ตอกหน้าแง"อภิสิทธิ์"ไม่ควรผลีผลามยกเลิกเอ็มโอยู 2544 กับเขมร..สูตรนี้ก็ยุติธรรมดีไม่ใช่หรือ แล้วไปยกเลิกทำไม
เพราะปัญหาพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทยติดค้างลำกล้องมานานเต็มที
ควรที่ทั้ง 2 ประเทศจะเร่งเจรจาปัญหาเส้นเขตไหล่ทวีป 26,000 ตร.กม.ให้ได้ข้อยุติอย่างโปร่งใส และเป็นธรรม
เพราะหลุมก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่ดูดขึ้นมาใช้กันโครมๆจะเริ่มหมดลงใน 5 ปี และคาดว่าจะหมดเหี้ยนภายใน 10 ปี จากนี้ไป
ถ้าไม่เร่งพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติแห่งใหม่ๆ ขึ้นมาทดแทน ในอนาคตประเทศไทยจะต้องควักกระเป๋านำเข้าก๊าซธรรมชาติจากต่างประเทศมาใช้จนริดสีดวงบาน
“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่าการที่นายกฯ อภิสิทธิ์ส่งรองนายกฯ “สุเทพ เทือกสุบรรณ”และ รมว.กลาโหม “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ไปขอเจรจาปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลกับ “นายกฯ ฮุนเซน” เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องและไม่ใช่เรื่องเสียหายตรงไหนเลย
ไหนๆพูดถึงเรื่องนี้ “แม่ลูกจันทร์” ต้องชื่นชมวิสัยทัศน์อดีตนายกฯ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เจ้าของนโยบายแปลงสนามรบเป็นสนามการค้าที่เป็นผู้ริเริ่มเจรจาร่วมมือพัฒนาแหล่งพลังงานพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทย
แสดงว่า “น้าชาติ” มองอนาคตพลังงานไทยล้ำหน้ากว่า 20 ปี
แต่ “แม่ลูกจันทร์” ไม่เห็นด้วยกับ “อภิสิทธิ์” 2 ประเด็น
1, ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทยเกี่ยวกับเส้นเขตแดนทางทะเลและผลประโยชน์มหาศาลจากแหล่งพลังงาน
ควรดำเนินการเจรจาอย่างเปิดเผยและเป็นทางการ
2, เมื่อเจรจาไม่คืบหน้า (ไม่ว่าสาเหตุใด) ไม่ควรผลีผลาม ยกเลิกเอ็มโอยู 2544 ที่ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีต รมว.ต่างประเทศ (ยุครัฐบาลทักษิณ) ทำข้อตกลงไว้กับกัมพูชา
เพราะผลจากการยกเลิกเอ็มโอยูเท่ากับข้อตกลงเกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลที่ได้เจรจากันไว้ทั้งหมด ต้องถูกฉีกทิ้งทั้งยวง!!
เรามั่นใจหรือว่าการเจรจาใหม่ ฝ่ายไทย จะได้ประโยชน์มากกว่าเอ็มโอยู 2544 ที่ยกเลิกไป??
“แม่ลูกจันทร์” เสียดายเอ็มโอยู 2544 (เกี่ยวกับปัญหาพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทย) เพราะไทยเป็นฝ่ายได้ประโยชน์ในสาระสำคัญ
1, เอ็มโอยูฉบับนี้ได้รับรองว่า “เกาะกูด” เป็นของประเทศไทย ถ้าวัดจากเกาะกูดออกไปในอ่าวไทย พท.ทับซ้อนจะเป็นของไทยมากกว่ากัมพูชา
2, หลักการแบ่งผลประโยชน์จากแหล่งพลังงานก็ใช้หลักการเดียวกับไทย–มาเลเซีย
แหล่งก๊าซอยู่ใกล้ฝั่งไทย ไทยได้ส่วนแบ่ง 80 เปอร์เซ็นต์
แหล่งก๊าซอยู่ใกล้ฝั่งกัมพูชา ไทยได้ส่วนแบ่ง 20 เปอร์เซ็นต์
แหล่งก๊าซที่อยู่ตรงกลาง ไทย–กัมพูชา แบ่งผลประโยชน์กัน ฝ่ายละ 50 เปอร์เซ็นต์
สูตรนี้ก็ยุติธรรมดีไม่ใช่หรือ แล้วไปยกเลิกทำไม??
"แม่ลูกจันทร์"
ไทยรัฐออนไลน์ 26 มกราคม 2556, 05:00 น.
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/322427
????????????????????????????????????
เออ...ก็น่านนะซี
เอ็มโอยู 2544 ไทยก็ได้ประโยชน์เต็มที่อยู่แล้ว เหมือนกับที่ได้ทำไว้กับมาเลเซีย
แล้ว "มาร์ค" ไปยกเลิกทำไม...??????
หรือเพราะความอิจฉาริษยาตาร้อนที่อยากทำลายผลงานของฝ่ายตรงข้ามจนหน้ามืดตามัว
ลืมไปว่านี่คือผลประโยชน์ของชาติ
แต่ดันเอาความริษยาส่วนตัวลงมาผสมโรงด้วย......
มาร์คเอ๋ย....
ในความกลิ้งกลอกกะล่อนปลิ้นปล้อนทางการเมืองนายอาจจะอยู่ในขั้นจิ้งเหลนน้อยเรียกพี่
แต่ในทางการบริหารงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ
นายเป็นได้เพียงลูกน้ำยุงลายที่อยู่ใต้กะลาครอบจริงๆ.....