เราเกลียดคนๆหนึ่งมากเลย ไม่รู้ว่าเกลียดหรืออิจฉากันแน่ (เค้าเป็นผู้หญิงนะ ไม่ได้เป็นเรื่องชู้สาวแต่ประการใด) คือ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรนะเราถึงไม่ชอบเค้า มันประมาณว่าสะสมมานานตั้งแต่เป็นเด็ก คือ ตอนแรกเราใสซื่อจริงๆ ไม่รู้หรอกว่าการกระทำของผู้ใหญ่หรือเด็ก ที่เค้ามองข้ามหัวหรือคอยจะพูดจา เป็นทำนองที่ว่าบ้านเราก็งั้นๆ (อะไรทำนองนี้)
พอเริ่มโตเราก็รู้เรื่อง เราเคยคุยกับเค้าดีๆด้วยนะ แต่เค้าไม่ทำเหมือนไม่อยากคุยกับเราอ่ะ ตั้งแต่นั้นมันก็เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นการเกลียด และเราก็ต่างอยู่กันมานานมาก จนเมื่อไม่กี่ปีเราก็เจอเค้าในโลกโซเชียล
เรื่องต่อไปนี้เป็นสิ่งที่หลายๆคนอาจจะรับไม่ได้นะ แต่เราก็อยากให้เปิดใจอ่ะ คือที่เราทำเราไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร และเราคิดว่า เราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนจากการกระทำนี้ของเราอ่ะ
สารภาพละนะ เราตั้งเฟซบุ๊คปลอมอ่ะ!!! คือสารภาพจริงๆนะ เราแค่ต้องการตามดูคนๆนั้นอ่ะ (เพราะเค้าอัพรูปตลอดไง) คืออยากรู้นู่นนั่นนี่ของเค้า เพราะเราไม่สามารถรู้เรื่องเค้าจากทางอื่นได้เพราะ ( นอกเรื่องแป๊รบนึงนะฮัพ คือ ถ้าเราไปถามเรื่องเค้าหรือเรื่องบ้านเค้าจากคนอื่นๆ ที่บ้านเค้าจะรู้ได้ทันทีเลยอ่ะ คือ แบบว่าจะมีคนไปรายงานตลอดอะไรเงี้ย แล้วก็เราคิดเอาเองว่า บ้านเค้าคงกลัวเรื่องเสียๆหายของบ้านเค้ามันรั่วออกมาข้างนอกด้วยมั้ง )
นั่นก็เป็นเหตุผลที่เราตั้งเฟซบุ๊คปลอมเพื่อตามดูคนๆนั้น (แล้วก็แอบนินทาเล็กๆ กะตัวเอง) พอมาเรื่อยๆ เราก็เริ่มอยากลองคุยกับเค้า มันก็แบบว่าไม่ได้เป็นไปได้ด้วยดีหรอกนะ แรกๆเค้าก็คุยกับเราดีอ่ะ แบบตอบบ้างไรบ้าง หลังเค้าก็ไม่ตอบอ่ะ เค้าคงรำคาญประมาณว่าคนไม่จักทักคุยอยู่ได้อะไรเงี้ย
แต่ความรู้สึกเราอ่ะ ไม่รู้เป็นไงนะเราอยากคุยกะเค้า อยากลองถามนู่นนั่นนี่เรื่องที่เราอยากรู้จากเค้าแต่เราไม่สามารถถามเค้าได้โดยตรงอ่ะ (เพราะปรกติเราไม่คุยกับเค้าไงอยู่คนละโลกเลย ถ้าไปคุยมันก็แปลกๆป่ะ คือ อยากคุยกับเค้าเรื่องสวยๆงามๆ เหมือนเค้าจะเก่งเรื่องนี้ แล้วอีกอย่าง แม่เค้าไม่ชอบแม่เราไง คือง่ายๆนะ แม่เราเป็รสะใภ้ แม่เค้าเป็นน้องสาวพ่อเรา แล้วคือพวกอาหญิงเราเนี่ย เหมือนเค้าแบ่งฝักแบ่งฝ่ายยังไงไม่รู้นะ คือ ถ้าเป็นลูกจากพวกทางฝั่งผู้หญิงด้วยกันเนียเค้าจะอวยมากอ่ะ ไม่ต้องทำไรเป็นคุณนาย เวลามาบ้านปู่เนี่ยนั่งสวยอยู่ในห้องกระจกคุยกันเปิดแอร์ แต่ถ้าเป็นลูกจากฝั่งผู้ชาย ลองเผยอไปนั่งกับเค้าดูสิ คือเค้าไม่ว่าอะไรหรอก แต่เค้าจะมองแปลกๆเหมือนอยากไปรู้เรื่องของเค้า แล้วแม่เราก็ไม่ให้ไปยุ่งกับพวกเค้าด้วยแหละ เพราะเดี๋ยวมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมันก็ไม่พ้นตัวเราเอง แต่ถ้าพวกเราไปบ้านปู่ ก็ต้องไปเก็บกวาดล้างจานกัน แต่ลูกๆเค้าไม่ต้องทำ)
โทษทีนะคะ แอบระบายยาว เนี่ยแหละมันก็เป็นเหตุผลที่เราต้องแอบดูเค้า จะว่าชอบไหม เราไม่รู้ แต่เราแยกออก ตัวเค้าอ่ะคงไม่ได้อะไรมากหรอกแต่พวกผู้ใหญ่นี่สิ เราไม่ชอบเพราะพวกผู้ใหญ่ชอบเอาความคิดตัวเองใส่ลูกๆไม่ให้รุ่นหลานๆสนิทกันคุยกัน ให้สนิทเฉพาะหลานจากฝั่งผู้หญิงเท่านั้น แล้วแถมยังจะมาพูดอีกนะว่าสงสัยต้องจัดงานรวมญาติกัน แทบจะไม่รู้จักกันแล้วเนี่ย เอ้า ทำแบบนี้ใครมันอยากจะรวมกะคุณวะ พวกเราเป็นขี้ข้า แต่พวกคุณเป็นคุณนายกันอ่ะ (แต่เราบอกว่าเราทำดี อย่าไปทำนิสัยแบบนั้น คนอื่นเค้าจะว่า เราว่าเราทำดีแล้วก็ทำต่อไป)
แต่เราก็มาคิดว่าถ้าไม่ได้มีเรื่องสมันแม่ๆเกิดขึ้นเราคงคุยกันได้เนอะ เพราะเราคิดว่าเรากะเค้ามีอะไรคล้ายกันบ้างอ่ะ มันคงสนุกดีที่ได้เม้ามอยส์นินทา เรื่องสวยงาม ศัลยกรรม นู่น นี่ นั่น
อืม มาคิดๆดูแล้วที่เราเกลียดเค้ามันคงเป็นเพราะความอิจฉา อิจฉาที่เค้าไปที่ไหนก็มีแต่คนอวย (เราไม่ได้ทำแย่ แต่ไม่ได้ดีมาก ก็ยังถูกแขวะแล้วแขวะอีก เราพยายามเข้าคณะดีๆที่เราไม่คิดว่าจะทำได้ แต่เค้าได้คณะธรรมดาๆ มหาลัยดี แต่วิทยาเขต ต่างจังหวัด กลับมีแต่คนอวยว่าเก่งอย่างนู้นเก่งอย่างนี้ ทั้งๆที่ตอนเรียนมอปลาย เค้าพูดกันว่าเค้าเรียนเก่งมาก เก่งแบบเรียนหมอ แต่เข้าได้แค่คณะประมาณบริหาร)
มาคิดๆดูแล้วที่เราเกลียดเค้ามันคงเป็นเพราะความอิจฉา อิจฉาที่เค้าดูสวย ดูงาม ดูขาวโอโม่ ในสายตาคนอื่น แต่เรากลับต้องมาช่วยพ่อแม่ออกไร่ เพราะบ้านเราไม่ได้มีเงิน ทำอะไรก็ถูกคนอื่นกีดขวาง ได้แต่ถูกดูถูกว่าทำอะไรก็ล้มเหลว (แต่เราไม่ท้อที่คนอื่นดูถูก แต่เราท้อที่พ่อเราเหวี่ยงคนในครอบครัว และไม่เคยเชื่อใจคนในครอบครัวเลย เชื่อแต่บ้านเค้า เราก็วัยรุ่น ก็มีอยากได้ของนู่นนี่นั่นตามประสาวัยรุ่น แต่เรารู้ว่าพ่อแม่เราลำบากไม่มีปัญญาหาให้ได้หรอก เชื่อไหม เรายอมอด ยอมเก็บเงินค่าข้าว ยอมแม้กระทั่งกินแต่มาม่ากะน้องเป็นอาทิตย์ เป็นเดือน น้องเรา มีเงินเก็บมาก ยังให้แม่ยืมบ่อยๆเลย พอแม่ไปทวงพ่อว่าเป็นหนี้ลูก ห้าพัน พ่อบอกว่าอะไรเป็นหนี้ลูกอีกแล้ว คือจริงๆ พ่อเราถ้าเค้าให้ก็ให้ได้นะ ทยอยให้ ทีละ ห้าร้อย พันนึง น้องเราไม่เคยว่าเลย แต่ง่าย พ่อเราเอาเงินมาให้แม่ถือ พ่อเอาไปซื้อนู่นนี่ ให้เรากะน้องค่ารายอาทิด พอใช้ไปได้สักพักเงินก็หมด พ่อเราก็บ่นเงินหมดอีกและ พ่อเราบ่นบ่อยมาก จนแม่เราต้องมายืมน้องเรา วนเวียนอยู่อย่างนี้
ล่าสุดน้องเราขอดัดฟันเพราะฟันมันเหยินมาก ก็ไปหาข้อมูลพบหมอ หมอถามน้องเราว่าทำไมเพิ่งมาดัด ฟันหนูยื่นมาก อ่าเสร็จก็ไปบอกพ่อว่าขอดัดฟัน แต่ต้องจ่ายเดือนละสองพัน แปดเดือน พ่อก็โอเค แต่พอมาเคลียร์ฟัน จะไปอุดฟัน ผ่าฟันคุด พ่อไม่ให้เงินสักบาท แม่เราต้องเอาตุ้มหูเพชรที่แม่เก็บมานานมากไปขายป้า ป้าก็เอาเงินให้ แล้วถามว่าพอไหม ถ้าไม่พอก็มาเอาอีกได้ ) แต่ถ้าเป็นบ้านเค้า ต้องการเงินทุนไปซื้อของเพิ่มขยายกิจการ พวกอาหญิงก็พร้อมที่จะให้ แถมเก็บเป็นความลับอย่างดี คือง่ายๆเค้าคงกลัวคนอื่นรู้ว่าเค้าเองก็ต้องยืมเงินคนอื่นเพื่อสร้างกิจการตัวเอง แต่ถ้าเป็นบ้านเรา จริงๆแล้วเค้าก็ให้นะคะ แต่เรื่องมันจะกระจายไปทั้งตำบลว่าบ้านเราต้องคอยให้ช่วยไม่สามารถยืนเองได้ เอ้า เราก็คิดนะว่ามันจะมีสักกี่คนวะที่ยืนได้ด้วยขาตัวเองตั้งแต่แรกเริ่ม โดยที่ไม่มีใครพยุง แล้วปู่เราก็ไม่อยากช่วยบ้านเราเพราะบ้านเราไม่ได้ให้ปู่กินค่าดอก เพราะเราไม่มีปัญญา แล้วเค้าก็กลัวไม่ได้คืน เพราะปู่เค้าบอกว่า เมิงจะเอาปัญญาที่ไหนมาคืน (ตามภาษาชาวบ้านนะคะ)
มาคิดๆดูแล้วที่เราเกลียดเค้ามันคงเป็นเพราะความอิจฉา ที่เค้ามีของดีๆใช้ แต่งตัวสวยงาม แต่งหน้าสวยงาม มีโน๊ตบุ๊คราคาหลายหมื่น มีไอโฟนใช้ มีแทปเล็ตราคาสแงหมื่นกว่าใช้ในตัวคนๆเดียว ทั้งๆที่เค้าเรียนอยู่ ป.ตรี (เราอยากได้นะ แต่ไม่มีปัญญา ก็หวังๆกันไปตามพวกที่เค้าชิงโชคเราก็แอบส่งบวกกับเก็บตังค์รอ อาจจะได้ )
บ่นมายาวมากกกกกกกกกกกกกกกก
ถามความคิดเห็นหน่อยค่ะว่าที่เราคอยส่องเฟซเค้า เราโรคจิตมั้ย (จริงๆนะเราแอบกังวล) แล้วความรู้สึกทั้งหลายที่เราระบายมาเนี่ยทุกคนคิดเราเข้าขั้นโรคจิตแล้วรึยังคะ คือ แบบเวลาเราอยู่เฉยๆ บางทีมันก็คิดอะค่ะ คิดเรื่องพวกนี้
แล้วมันผิดมากมั้ยที่ส่องเฟซเค้า
พี่เราเคยบอกว่าคนเรากิดมาวาสนาไม่เท่ากัน มันอยู่ที่ทำตัว การที่เราทำตัวเหมือนขี้ข้าคอยเก็บกวาด แต่ถ้าเราไม่คิดว่าเราเป็น คิดว่ามันเป็นแค่หน้าที่ ต่อให้คนทั้งโลกบอกว่าเราเป็นขี้ข้า เราก็ไม่ใช่ขี้ข้า เราทำในสิ่งที่ควรทำไม่เห็นต้องอาย คนที่ต้องอายคือพวกเค้า ต่อให้ทำตัวสูง สักแค่ไหนแต่จริงๆแล้วเค้าเองก็ไม่ได้สูงไปกว่าเรา แถมจิตใจอาจจะต่ำกว่าเราด้วยซ้ำ
พี่เรายังบอกอีกว่า เราควรดีใจนะที่แม่เราสอนมาอย่างนี้ มันเป็นสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้ อยากได้ต้องทำเอา ไม่ว่าไปที่ไหนก็จะมีแต่คนชื่นชม ส่วนคนที่นินทาเรามันก็แค่พวกไม่อยากให้คนอื่นได้ดีไปกว่าตัวเองเท่านั้นเอง
พูดจริงๆ บางครั้งเวลาที่พวกเค้าพูดเหมือนแขวะเรา เราก็จี๊ดอ่ะ ทนแทบไม่ได้ ขอกนอกเรื่องอีกครั้ง คือเราแต่งหน้ารับปริญญาให้พี่เราเอง ตอนแรกเราก็กลัวนะคะ ว่าจะไม่ดีแต่มันก็ทำได้ดีนะ มีแต่คนบอกว่า ดี พ่อเราก็เห่อ ไปเล่าให้พวกอาหญิงฟัง แล้วก็เอามาเล่าให้เราฟังว่า เค้าคุยกันว่ายังไง อาหญิงที่เป็นแม่เค้าอ่ะก็บอกว่ามันจะได้เรื่องเร้อ เค้ารู้จักญาติผัวเค้าที่เปิดร้านเสริมสวยแถวบ้านทำไมไม่บอก อาชายคนเล็กเราก็บอกว่า เราแต่งได้อยู่แล้ว เพราะเราเรียนศิลปะมา พอพ่อเราเล่ามาถึงตอนนี้ เราก็พูดแก้เขินว่า มันเกี่ยวอะไรด้วย พ่อเรารีบพูดต่อเลยว่า อาหญิง(ที่เป้นแม่คนที่เราเกลียดอ่ะ)ก็บอกเหมือนเราเลย ว่ามันเกี่ยวอะไรกัน เราก็แบบ เอ้านี่เค้าดูถูกเราขนาดนี้เลยเหรอ เซง
นอกเรื่องอีกและ
คุณเคยเกลียดคนๆหนึ่งมากๆไหม แต่คุณก็คอยตามดูเค้าตลอด
พอเริ่มโตเราก็รู้เรื่อง เราเคยคุยกับเค้าดีๆด้วยนะ แต่เค้าไม่ทำเหมือนไม่อยากคุยกับเราอ่ะ ตั้งแต่นั้นมันก็เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นการเกลียด และเราก็ต่างอยู่กันมานานมาก จนเมื่อไม่กี่ปีเราก็เจอเค้าในโลกโซเชียล
เรื่องต่อไปนี้เป็นสิ่งที่หลายๆคนอาจจะรับไม่ได้นะ แต่เราก็อยากให้เปิดใจอ่ะ คือที่เราทำเราไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร และเราคิดว่า เราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนจากการกระทำนี้ของเราอ่ะ
สารภาพละนะ เราตั้งเฟซบุ๊คปลอมอ่ะ!!! คือสารภาพจริงๆนะ เราแค่ต้องการตามดูคนๆนั้นอ่ะ (เพราะเค้าอัพรูปตลอดไง) คืออยากรู้นู่นนั่นนี่ของเค้า เพราะเราไม่สามารถรู้เรื่องเค้าจากทางอื่นได้เพราะ ( นอกเรื่องแป๊รบนึงนะฮัพ คือ ถ้าเราไปถามเรื่องเค้าหรือเรื่องบ้านเค้าจากคนอื่นๆ ที่บ้านเค้าจะรู้ได้ทันทีเลยอ่ะ คือ แบบว่าจะมีคนไปรายงานตลอดอะไรเงี้ย แล้วก็เราคิดเอาเองว่า บ้านเค้าคงกลัวเรื่องเสียๆหายของบ้านเค้ามันรั่วออกมาข้างนอกด้วยมั้ง )
นั่นก็เป็นเหตุผลที่เราตั้งเฟซบุ๊คปลอมเพื่อตามดูคนๆนั้น (แล้วก็แอบนินทาเล็กๆ กะตัวเอง) พอมาเรื่อยๆ เราก็เริ่มอยากลองคุยกับเค้า มันก็แบบว่าไม่ได้เป็นไปได้ด้วยดีหรอกนะ แรกๆเค้าก็คุยกับเราดีอ่ะ แบบตอบบ้างไรบ้าง หลังเค้าก็ไม่ตอบอ่ะ เค้าคงรำคาญประมาณว่าคนไม่จักทักคุยอยู่ได้อะไรเงี้ย
แต่ความรู้สึกเราอ่ะ ไม่รู้เป็นไงนะเราอยากคุยกะเค้า อยากลองถามนู่นนั่นนี่เรื่องที่เราอยากรู้จากเค้าแต่เราไม่สามารถถามเค้าได้โดยตรงอ่ะ (เพราะปรกติเราไม่คุยกับเค้าไงอยู่คนละโลกเลย ถ้าไปคุยมันก็แปลกๆป่ะ คือ อยากคุยกับเค้าเรื่องสวยๆงามๆ เหมือนเค้าจะเก่งเรื่องนี้ แล้วอีกอย่าง แม่เค้าไม่ชอบแม่เราไง คือง่ายๆนะ แม่เราเป็รสะใภ้ แม่เค้าเป็นน้องสาวพ่อเรา แล้วคือพวกอาหญิงเราเนี่ย เหมือนเค้าแบ่งฝักแบ่งฝ่ายยังไงไม่รู้นะ คือ ถ้าเป็นลูกจากพวกทางฝั่งผู้หญิงด้วยกันเนียเค้าจะอวยมากอ่ะ ไม่ต้องทำไรเป็นคุณนาย เวลามาบ้านปู่เนี่ยนั่งสวยอยู่ในห้องกระจกคุยกันเปิดแอร์ แต่ถ้าเป็นลูกจากฝั่งผู้ชาย ลองเผยอไปนั่งกับเค้าดูสิ คือเค้าไม่ว่าอะไรหรอก แต่เค้าจะมองแปลกๆเหมือนอยากไปรู้เรื่องของเค้า แล้วแม่เราก็ไม่ให้ไปยุ่งกับพวกเค้าด้วยแหละ เพราะเดี๋ยวมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมันก็ไม่พ้นตัวเราเอง แต่ถ้าพวกเราไปบ้านปู่ ก็ต้องไปเก็บกวาดล้างจานกัน แต่ลูกๆเค้าไม่ต้องทำ)
โทษทีนะคะ แอบระบายยาว เนี่ยแหละมันก็เป็นเหตุผลที่เราต้องแอบดูเค้า จะว่าชอบไหม เราไม่รู้ แต่เราแยกออก ตัวเค้าอ่ะคงไม่ได้อะไรมากหรอกแต่พวกผู้ใหญ่นี่สิ เราไม่ชอบเพราะพวกผู้ใหญ่ชอบเอาความคิดตัวเองใส่ลูกๆไม่ให้รุ่นหลานๆสนิทกันคุยกัน ให้สนิทเฉพาะหลานจากฝั่งผู้หญิงเท่านั้น แล้วแถมยังจะมาพูดอีกนะว่าสงสัยต้องจัดงานรวมญาติกัน แทบจะไม่รู้จักกันแล้วเนี่ย เอ้า ทำแบบนี้ใครมันอยากจะรวมกะคุณวะ พวกเราเป็นขี้ข้า แต่พวกคุณเป็นคุณนายกันอ่ะ (แต่เราบอกว่าเราทำดี อย่าไปทำนิสัยแบบนั้น คนอื่นเค้าจะว่า เราว่าเราทำดีแล้วก็ทำต่อไป)
แต่เราก็มาคิดว่าถ้าไม่ได้มีเรื่องสมันแม่ๆเกิดขึ้นเราคงคุยกันได้เนอะ เพราะเราคิดว่าเรากะเค้ามีอะไรคล้ายกันบ้างอ่ะ มันคงสนุกดีที่ได้เม้ามอยส์นินทา เรื่องสวยงาม ศัลยกรรม นู่น นี่ นั่น
อืม มาคิดๆดูแล้วที่เราเกลียดเค้ามันคงเป็นเพราะความอิจฉา อิจฉาที่เค้าไปที่ไหนก็มีแต่คนอวย (เราไม่ได้ทำแย่ แต่ไม่ได้ดีมาก ก็ยังถูกแขวะแล้วแขวะอีก เราพยายามเข้าคณะดีๆที่เราไม่คิดว่าจะทำได้ แต่เค้าได้คณะธรรมดาๆ มหาลัยดี แต่วิทยาเขต ต่างจังหวัด กลับมีแต่คนอวยว่าเก่งอย่างนู้นเก่งอย่างนี้ ทั้งๆที่ตอนเรียนมอปลาย เค้าพูดกันว่าเค้าเรียนเก่งมาก เก่งแบบเรียนหมอ แต่เข้าได้แค่คณะประมาณบริหาร)
มาคิดๆดูแล้วที่เราเกลียดเค้ามันคงเป็นเพราะความอิจฉา อิจฉาที่เค้าดูสวย ดูงาม ดูขาวโอโม่ ในสายตาคนอื่น แต่เรากลับต้องมาช่วยพ่อแม่ออกไร่ เพราะบ้านเราไม่ได้มีเงิน ทำอะไรก็ถูกคนอื่นกีดขวาง ได้แต่ถูกดูถูกว่าทำอะไรก็ล้มเหลว (แต่เราไม่ท้อที่คนอื่นดูถูก แต่เราท้อที่พ่อเราเหวี่ยงคนในครอบครัว และไม่เคยเชื่อใจคนในครอบครัวเลย เชื่อแต่บ้านเค้า เราก็วัยรุ่น ก็มีอยากได้ของนู่นนี่นั่นตามประสาวัยรุ่น แต่เรารู้ว่าพ่อแม่เราลำบากไม่มีปัญญาหาให้ได้หรอก เชื่อไหม เรายอมอด ยอมเก็บเงินค่าข้าว ยอมแม้กระทั่งกินแต่มาม่ากะน้องเป็นอาทิตย์ เป็นเดือน น้องเรา มีเงินเก็บมาก ยังให้แม่ยืมบ่อยๆเลย พอแม่ไปทวงพ่อว่าเป็นหนี้ลูก ห้าพัน พ่อบอกว่าอะไรเป็นหนี้ลูกอีกแล้ว คือจริงๆ พ่อเราถ้าเค้าให้ก็ให้ได้นะ ทยอยให้ ทีละ ห้าร้อย พันนึง น้องเราไม่เคยว่าเลย แต่ง่าย พ่อเราเอาเงินมาให้แม่ถือ พ่อเอาไปซื้อนู่นนี่ ให้เรากะน้องค่ารายอาทิด พอใช้ไปได้สักพักเงินก็หมด พ่อเราก็บ่นเงินหมดอีกและ พ่อเราบ่นบ่อยมาก จนแม่เราต้องมายืมน้องเรา วนเวียนอยู่อย่างนี้
ล่าสุดน้องเราขอดัดฟันเพราะฟันมันเหยินมาก ก็ไปหาข้อมูลพบหมอ หมอถามน้องเราว่าทำไมเพิ่งมาดัด ฟันหนูยื่นมาก อ่าเสร็จก็ไปบอกพ่อว่าขอดัดฟัน แต่ต้องจ่ายเดือนละสองพัน แปดเดือน พ่อก็โอเค แต่พอมาเคลียร์ฟัน จะไปอุดฟัน ผ่าฟันคุด พ่อไม่ให้เงินสักบาท แม่เราต้องเอาตุ้มหูเพชรที่แม่เก็บมานานมากไปขายป้า ป้าก็เอาเงินให้ แล้วถามว่าพอไหม ถ้าไม่พอก็มาเอาอีกได้ ) แต่ถ้าเป็นบ้านเค้า ต้องการเงินทุนไปซื้อของเพิ่มขยายกิจการ พวกอาหญิงก็พร้อมที่จะให้ แถมเก็บเป็นความลับอย่างดี คือง่ายๆเค้าคงกลัวคนอื่นรู้ว่าเค้าเองก็ต้องยืมเงินคนอื่นเพื่อสร้างกิจการตัวเอง แต่ถ้าเป็นบ้านเรา จริงๆแล้วเค้าก็ให้นะคะ แต่เรื่องมันจะกระจายไปทั้งตำบลว่าบ้านเราต้องคอยให้ช่วยไม่สามารถยืนเองได้ เอ้า เราก็คิดนะว่ามันจะมีสักกี่คนวะที่ยืนได้ด้วยขาตัวเองตั้งแต่แรกเริ่ม โดยที่ไม่มีใครพยุง แล้วปู่เราก็ไม่อยากช่วยบ้านเราเพราะบ้านเราไม่ได้ให้ปู่กินค่าดอก เพราะเราไม่มีปัญญา แล้วเค้าก็กลัวไม่ได้คืน เพราะปู่เค้าบอกว่า เมิงจะเอาปัญญาที่ไหนมาคืน (ตามภาษาชาวบ้านนะคะ)
มาคิดๆดูแล้วที่เราเกลียดเค้ามันคงเป็นเพราะความอิจฉา ที่เค้ามีของดีๆใช้ แต่งตัวสวยงาม แต่งหน้าสวยงาม มีโน๊ตบุ๊คราคาหลายหมื่น มีไอโฟนใช้ มีแทปเล็ตราคาสแงหมื่นกว่าใช้ในตัวคนๆเดียว ทั้งๆที่เค้าเรียนอยู่ ป.ตรี (เราอยากได้นะ แต่ไม่มีปัญญา ก็หวังๆกันไปตามพวกที่เค้าชิงโชคเราก็แอบส่งบวกกับเก็บตังค์รอ อาจจะได้ )
บ่นมายาวมากกกกกกกกกกกกกกกก
ถามความคิดเห็นหน่อยค่ะว่าที่เราคอยส่องเฟซเค้า เราโรคจิตมั้ย (จริงๆนะเราแอบกังวล) แล้วความรู้สึกทั้งหลายที่เราระบายมาเนี่ยทุกคนคิดเราเข้าขั้นโรคจิตแล้วรึยังคะ คือ แบบเวลาเราอยู่เฉยๆ บางทีมันก็คิดอะค่ะ คิดเรื่องพวกนี้
แล้วมันผิดมากมั้ยที่ส่องเฟซเค้า
พี่เราเคยบอกว่าคนเรากิดมาวาสนาไม่เท่ากัน มันอยู่ที่ทำตัว การที่เราทำตัวเหมือนขี้ข้าคอยเก็บกวาด แต่ถ้าเราไม่คิดว่าเราเป็น คิดว่ามันเป็นแค่หน้าที่ ต่อให้คนทั้งโลกบอกว่าเราเป็นขี้ข้า เราก็ไม่ใช่ขี้ข้า เราทำในสิ่งที่ควรทำไม่เห็นต้องอาย คนที่ต้องอายคือพวกเค้า ต่อให้ทำตัวสูง สักแค่ไหนแต่จริงๆแล้วเค้าเองก็ไม่ได้สูงไปกว่าเรา แถมจิตใจอาจจะต่ำกว่าเราด้วยซ้ำ
พี่เรายังบอกอีกว่า เราควรดีใจนะที่แม่เราสอนมาอย่างนี้ มันเป็นสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้ อยากได้ต้องทำเอา ไม่ว่าไปที่ไหนก็จะมีแต่คนชื่นชม ส่วนคนที่นินทาเรามันก็แค่พวกไม่อยากให้คนอื่นได้ดีไปกว่าตัวเองเท่านั้นเอง
พูดจริงๆ บางครั้งเวลาที่พวกเค้าพูดเหมือนแขวะเรา เราก็จี๊ดอ่ะ ทนแทบไม่ได้ ขอกนอกเรื่องอีกครั้ง คือเราแต่งหน้ารับปริญญาให้พี่เราเอง ตอนแรกเราก็กลัวนะคะ ว่าจะไม่ดีแต่มันก็ทำได้ดีนะ มีแต่คนบอกว่า ดี พ่อเราก็เห่อ ไปเล่าให้พวกอาหญิงฟัง แล้วก็เอามาเล่าให้เราฟังว่า เค้าคุยกันว่ายังไง อาหญิงที่เป็นแม่เค้าอ่ะก็บอกว่ามันจะได้เรื่องเร้อ เค้ารู้จักญาติผัวเค้าที่เปิดร้านเสริมสวยแถวบ้านทำไมไม่บอก อาชายคนเล็กเราก็บอกว่า เราแต่งได้อยู่แล้ว เพราะเราเรียนศิลปะมา พอพ่อเราเล่ามาถึงตอนนี้ เราก็พูดแก้เขินว่า มันเกี่ยวอะไรด้วย พ่อเรารีบพูดต่อเลยว่า อาหญิง(ที่เป้นแม่คนที่เราเกลียดอ่ะ)ก็บอกเหมือนเราเลย ว่ามันเกี่ยวอะไรกัน เราก็แบบ เอ้านี่เค้าดูถูกเราขนาดนี้เลยเหรอ เซง
นอกเรื่องอีกและ