ปู ใช้รถราชการ-รปภ ช่วยจูดี้หาเสียง ผิดไหม?


เปิดข้อแนะนำ ก.ก.ต.ถึง ครม.ยุค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ วางกฎเหล็ก 5 ข้อ ห้าม นายกฯรมต.ใช้รถหลวง เวลาราชการหาเสียง แต่กลับปล่อยปละละเลยให้ ยิ่งลักษณ์ ใช้รถประจำตำแหน่ง รปภ.ครบทีม ช่วย จูดี้ หาเสียงผู้ว่า กทม.

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำหนังสือตอบกลับข้อหารือของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีในระหว่างที่มีการยุบสภาและหาเสีงเลือกตั้ง โดยมีข้อเสนอแนะรวม 5 ข้อ ประกอบด้วย

1   กรณีการใช้ทรัพยากรของรัฐ เพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่นายกรัฐมนตรี เช่น การใช้รถกันกะสุน และการใช้บุคลากรของรัฐซึ่งเป็นหน่วยรักษาความปลอดภัย ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีต้องเดินทางไปกระทำภารกิจยังสถานที่ต่าง ๆ นอกเวลาราชการหรือวันหยุดราชการ เช่น เดินทางไปปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในจังหวัดต่าง ๆ เป็นต้น จะกระทำได้หรือไม่เห็นว่า หากเป็นการกระทำภารกิจในอำนาจหน้าที่ทางราชการตามปกติให้ใช้ได้เท่าที่จำเป็นและให้ใช้ดุลพินิจเป็นกรณี ๆ ไป แต่กรรีการใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อเดินทางไปปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้นพึงหลีกเลี่ยง เนื่องจากอาจเป็นเหตุให้ถูกร้องเรียนได้

2   กรณีนายกรัฐมนตรีได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรหรือองค์ปาฐกในการสัมมนาหรือประชุมทางวิชาการของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนหรือสมาคมต่าง ๆ ซึ่งอาจจะมีการรับประทานอาหารว่างหรือเป็นการพูดคุยในระหว่างรับประทานอาหารค่ำ โดยผู้จัดสัมมนาเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายจะกระทำได้หรือไม่ เห็นว่า หากการดำเนินไม่เป็นการหาเสียงเลือกตั้ง ก็สามารถกระทำได้แต่กรณีที่มีการจัดให้พูดคุยในระหว่างรับประทานอาหารค่ำ พึงหลีกเลี่ยง เนื่องจากอาจเป็นเหตุให้ถูกร้องคัดค้านได้

3   กรณีการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติหารการประชุมทางวิชการที่หน่วยงานของรัฐเป็นผู้ดำเนินการ เช่น การประชุมพิจารณาแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 หากผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีความสนใจจะเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวโดยมิได้รับเชิญจะส่งผลต่อการสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพียงใดหรือไม่ เห็นว่า หากผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เข้าร่วมประชุมมิได้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งก็ไม่ส่งผลต่อสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อนึ่ง การเข้าร่วมประชุมดังกล่าวผู่้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะต้องระมัดระวังมิให้มีการกระทำใด ๆ เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใดตามมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2550

4   กรณีีรัฐมนตรีได้รับเชิญไปเปิดงานตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น สถานศึกษา โรงพยาบาล สถานที่ทำการของรัฐตามโครงการต่าง ๆ จะกระทำได้มากน้อยเพียงใดหรือไม่ เห็นว่า หากป็นการกระทำภารกิจในอำนาจหน้าที่ทางราชการตามปกติเท่าที่จำเป็นโดยไม่มีการหาเสียง และไม่มีการกระทำใด ๆ ที่เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกสภาวุฒิสภา พ.ศ.2550 ย่อมสามารถทำได้

5   กรรีนายกรัฐมนตรีเดินทางไปตรวจราชการและติดตามงานในต่างจังหวัดตามอำนาจหน้าที่ซึ่งอาจมีการพบปะกับกลุ่มมวลชนต่าง ๆ จะกระทำได้หรือไม่นั้น เห็นว่า ควรถือแนวปฏิบัติเหมือนประเด็นข้อหารือที่ 4

จากข้อเสนอแนะของ กกต.ดังกล่าวทำให้ในยุคที่นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องเปลี่ยนพาหนะทุกครั้งหลังเวลาราชการเพื่อไปช่วยผู้สมัครรับเลือกตั้งหาเสียง และยังมีการลดจำนวนหน่วยรักษาความปลอดภัยลดลงจากการดูแลในเวลาราชการปกติด้วย เพื่อปฏิบัติให้สอดคล้องกับข้อเสนอแนะของ กกต.

อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่า การปฏิบัติของนางสาวยิ่งลักษณ์ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กลับไม่ได้ยึดถือตามแนวทางดังกล่าว โดยล่าสุดในการลงพื้นที่รามอินทราเพื่อช่วย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่ากทม.พรรคเพื่อไทยหาเสียงเมื่อวันที่ 16 ม.ค.56 ที่ผ่านมาในช่วง 7 โมงเช้า กลับมีการใช้รถประจำตำแหน่งและชุดรักษาความปลอดภัยปกติเหมือนกับที่ใช้ในเวลาราชการ ซึ่งไม่สอดคล้องกับแนวทางที่ กกต.ได้วางไว้

Cr. สายตรงภาคสนาม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่