รบกวนสอบถามครับ พ่อผมมีเรื่องกับกระเป๋ารถเมล์และคนขับครับ กรณีแบบนี้ร้องเรียนหรือฟ้องร้องได้ไหมครับ
เมื่อตอนเย็นพ่อผมท่านมาปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาที่ท่านเจอมา พอผมได้ฟังก็ตกใจอยู่เหมือนกัน ผมไม่รู้จะทำไงจึงเอาเรื่องมาเล่าและโพสถามในนี้ ว่าควรจัดการยังไงดี
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 15 มกราที่ผ่านมา เวลาประมาณบ่าย 3โมงครึ่ง พ่อผมขึ้นรถเมล์ปอ.สาย7 หลังเลิกงานที่ป้ายรถเมล์ตรงสถานีรถไฟหัวลำโพงเพื่อเดินทางกลับบ้าน
บนรถเมล์คนไม่แน่นมากแต่ไม่มีที่นั่งพ่อผมจึงต้องยืน บริเวณที่ท่านยืนก็คือตอนกลางของรถเมล์ติดกับที่นั่งผู้โดยสายฝั่งซ้าย เหตุการณ์ก็ปกติดี จะมีที่ไม่ปกติก็คือ กระเป๋ารถเมล์หญิงบนรถเมล์พูดจาเสียงดังกับผู้โดยสารดูแล้วไม่ค่อยสุภาพตั้งแต่ต้นทางที่เริ่มโดยสารและพูดในลักษณะนี้ตลอดทาง
จนรถเมล์เดินทางมาถึงป้ายตรงโรงเรียนศึกษานารี เป็นป้ายที่มีคนขึ้นเยอะตามปกติเเพราะเป็นช่วงเวลาเลิกเรียนของเด็กนักเรียน บนรถเมล์ผู้โดยสารที่ยืนจะยืนในลักษณะชิดฝั่งซ้ายติดกับที่นั่งผู้โดยสารเป็นแถวเรียงกันไปทำให้มีพื้นที่บริเวณติดกับที่นั่งผู้โดยสารฝั่งขวาว่างอยู่
พอเด็กนักเรียนเริ่มขึ้นรถมา อยู่ๆพ่อของผมก็โดนดึงแขนเสื้อโดยกระเป๋ารถเมล์หญิงเพื่อให้ไปยืนข้างหลัง พ่อผมรู้สึกไม่พอใจที่อยู่ๆก็ถูกดึงแขนเสื้อ และอีกอย่างพ่อผมบอกว่าตัวเขาก็ไม่ได้ยืนเกะกะขวางทางบนรถเมล์เลย จึงถามกระเป๋ารถเมล์ไปว่า ทำไมต้องดึงแขนเสื้อ ทำไมไม่บอกกันดีๆ แล้วทำไมไม่ให้คนที่ขึ้นมาใหม่ไปยืน้างในแทนทั้งๆที่ทางเดินก็โล่ง
พอกระเป๋ารถเมล์หญิงได้ยินก็เกิดอาการไม่พอใจ และตอบกลับมาว่า มีปัญหาอะไร ปกติกูก็จัดของกูอย่างนี้ ถ้าไม่พอใจก็ลงไป พ่อผมบอกว่าลงก็ได้แต่ต้องคืนเงินค่าโดยสารคืน กระเป๋ารถเมล์ไม่พอใจก็ด่าพ่อผมด้วยคำหยาบคายต่างๆนาๆ เช่น ไอสั... ไอเห...
หลังจากนั้นพ่อผมก็เถียงกับกระเป๋ารถเมล์คนนั้นอยู่แปปนึง ตอนเถียงกันกระเป๋ารถเมล์มีท่าทีจะทำร้ายร่างกาย โดยง้างกระเป๋าใส่ค่าโดยสารในมือทำท่าจะฟาดใส่พ่อผม (แต่ก็ไม่ได้ฟาด)
พอเสียงเริ่มดังขึ้น ขนขับรถเมล์ได้ยินจึงตะโกนถามว่ามีปัญหาอะไรกัน แต่กระเป๋ารถเมล์ก็ไม่ได้ตอบ จนคนขับรถเมล์ต้องจอดรถข้างทางบริเวณ4แยกบ้านแขก เพื่อเข้ามาดูเหตุการณ์
พอคนขับรถเมล์มาถึงกระเป๋ารถเมล์คนดังกล่าวก็บอกกับคนขับว่าพ่อผมมีปัญหา คนขับรถเมล์คนดังกล่าวก็ด่าพ่อผมด้วยถ่อยคำที่หยาบคายอีกเช่นเคยและถามว่ามีปัญหาอะไร จะทำไม ไม่พอใจก็ลงไป พ่อผมจึงบอกไปว่าไม่มีอะไรหรอกลงก็ได้แต่พนักงานทำตัวไม่สุภาพแบบนี้ได้ยังไงพ่อผมจะฟ้องร้องเขาทั้งสอง
คนขับรถเมล์ก็ยิ่งไม่พอใจพ่อผม ทำท่าง้างมือจะต่อยพ่อผม(แต่ก็ไม่ได้ต่อยแค่ง้าง) แล้วก็บอกว่า ฟ้องมาเลย ก..ไม่กลัวมึ...หรอก โคตร..พ่..โคตร..แ..มึ..ก..ก็ไม่กลัว จะใครหน้าไหนก..ก็ไม่กลัว และถ่มน้ำลายใส่หน้าพ่อผม
พ่อผมโมโหมากแต่ก็ไม่กล้าทำอะไร เพราะกลัวโดนข้อหาทำร้ายร่างกายและกระทบกับหน้าที่การงานจึงยอมลงจากรถเมล์ ขณะเดินลงคนขับรถเมล์ใช้มือตบเข้ามาที่ศรีษะพ่อผมอย่างแรง 1 ทีพร้อมตะโกนด่าไล่หลังมาอีก
หลังจากลงรถมาพ่อผมจึงจดเลขจ้างรถไว้ (เลขข้างรถ 7-023) และได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.บุปผาราม ครับ
หลังจากนั้นได้โทรไปสอบถามกับทางบริษัทของรถโดยสารประจำทางปอ.สาย7 คือบริษัท ต.มานิตย์ การเดินรถ จำกัด เพื่อสอบถามชื่อคนขับและกระเป๋ารถเมล์คันดังกล่าว
พ่อผมได้มาแต่ชื่อคนขับรถเมล์ ส่วนกระเป๋ารถเมล์หญิงคนนั้นไม่ทราบชื่อ (ผมไม่ทราบว่าสามารถเอ่ยชื่อคู่กรณีในนี้ได้ไหมเลยไม่ขอเอ่ยชื่อไว้ดีกว่าครับ)
จากเหตุการณ์ที่เล่ามาจึงอยากทราบว่าสามารถร้องเรียนไปยังหน่วยงานไหนได้บ้าง จะมีมาตราการยังไงกับพนักงานเช่นนี้
และถ้าจะฟ้องร้องเราสามารถเอาผิดอะไรกับพนักงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บ้าง ถึงพ่อผมจะไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากมาย แต่ท่านก็โดนด่า โดนดูถูก โดนทำร้ายร่างกาย เสียเงิน เสียเวลา และได้รับความอับอายเป็นอันมาก
น่าจะมีบทลงโทษที่เหมาะสมกับ 2 คนนี้บ้าง ท่านไม่เข้าใจว่าบริษัทที่รับพนักงานถึงปล่อยให้พนักงานแบบนี้มาทำงานได้ยังไง
เบื้องต้นถึงจะแจ้งความไว้แต่ก็ดูเหมือนไม่ได้รับความสนใจเท่าไหร่เลยครับ
ตัวผมก็ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องกฏหมายเท่าไหร่ จึงอยากให้ทุกท่านในนี้ที่ได้อ่านเรื่องราวทั้งหมด รบกวนช่วยแนะนำทีครับ ว่าจะจัดการพนักงาน 2 คนนี้ยังไงดี
ขอบคุณครับ
รบกวนสอบถามครับ พ่อผมมีเรื่องกับกระเป๋ารถเมล์และคนขับครับ กรณีแบบนี้ร้องเรียนหรือฟ้องร้องได้ไหมครับ
เมื่อตอนเย็นพ่อผมท่านมาปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาที่ท่านเจอมา พอผมได้ฟังก็ตกใจอยู่เหมือนกัน ผมไม่รู้จะทำไงจึงเอาเรื่องมาเล่าและโพสถามในนี้ ว่าควรจัดการยังไงดี
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 15 มกราที่ผ่านมา เวลาประมาณบ่าย 3โมงครึ่ง พ่อผมขึ้นรถเมล์ปอ.สาย7 หลังเลิกงานที่ป้ายรถเมล์ตรงสถานีรถไฟหัวลำโพงเพื่อเดินทางกลับบ้าน
บนรถเมล์คนไม่แน่นมากแต่ไม่มีที่นั่งพ่อผมจึงต้องยืน บริเวณที่ท่านยืนก็คือตอนกลางของรถเมล์ติดกับที่นั่งผู้โดยสายฝั่งซ้าย เหตุการณ์ก็ปกติดี จะมีที่ไม่ปกติก็คือ กระเป๋ารถเมล์หญิงบนรถเมล์พูดจาเสียงดังกับผู้โดยสารดูแล้วไม่ค่อยสุภาพตั้งแต่ต้นทางที่เริ่มโดยสารและพูดในลักษณะนี้ตลอดทาง
จนรถเมล์เดินทางมาถึงป้ายตรงโรงเรียนศึกษานารี เป็นป้ายที่มีคนขึ้นเยอะตามปกติเเพราะเป็นช่วงเวลาเลิกเรียนของเด็กนักเรียน บนรถเมล์ผู้โดยสารที่ยืนจะยืนในลักษณะชิดฝั่งซ้ายติดกับที่นั่งผู้โดยสารเป็นแถวเรียงกันไปทำให้มีพื้นที่บริเวณติดกับที่นั่งผู้โดยสารฝั่งขวาว่างอยู่
พอเด็กนักเรียนเริ่มขึ้นรถมา อยู่ๆพ่อของผมก็โดนดึงแขนเสื้อโดยกระเป๋ารถเมล์หญิงเพื่อให้ไปยืนข้างหลัง พ่อผมรู้สึกไม่พอใจที่อยู่ๆก็ถูกดึงแขนเสื้อ และอีกอย่างพ่อผมบอกว่าตัวเขาก็ไม่ได้ยืนเกะกะขวางทางบนรถเมล์เลย จึงถามกระเป๋ารถเมล์ไปว่า ทำไมต้องดึงแขนเสื้อ ทำไมไม่บอกกันดีๆ แล้วทำไมไม่ให้คนที่ขึ้นมาใหม่ไปยืน้างในแทนทั้งๆที่ทางเดินก็โล่ง
พอกระเป๋ารถเมล์หญิงได้ยินก็เกิดอาการไม่พอใจ และตอบกลับมาว่า มีปัญหาอะไร ปกติกูก็จัดของกูอย่างนี้ ถ้าไม่พอใจก็ลงไป พ่อผมบอกว่าลงก็ได้แต่ต้องคืนเงินค่าโดยสารคืน กระเป๋ารถเมล์ไม่พอใจก็ด่าพ่อผมด้วยคำหยาบคายต่างๆนาๆ เช่น ไอสั... ไอเห...
หลังจากนั้นพ่อผมก็เถียงกับกระเป๋ารถเมล์คนนั้นอยู่แปปนึง ตอนเถียงกันกระเป๋ารถเมล์มีท่าทีจะทำร้ายร่างกาย โดยง้างกระเป๋าใส่ค่าโดยสารในมือทำท่าจะฟาดใส่พ่อผม (แต่ก็ไม่ได้ฟาด)
พอเสียงเริ่มดังขึ้น ขนขับรถเมล์ได้ยินจึงตะโกนถามว่ามีปัญหาอะไรกัน แต่กระเป๋ารถเมล์ก็ไม่ได้ตอบ จนคนขับรถเมล์ต้องจอดรถข้างทางบริเวณ4แยกบ้านแขก เพื่อเข้ามาดูเหตุการณ์
พอคนขับรถเมล์มาถึงกระเป๋ารถเมล์คนดังกล่าวก็บอกกับคนขับว่าพ่อผมมีปัญหา คนขับรถเมล์คนดังกล่าวก็ด่าพ่อผมด้วยถ่อยคำที่หยาบคายอีกเช่นเคยและถามว่ามีปัญหาอะไร จะทำไม ไม่พอใจก็ลงไป พ่อผมจึงบอกไปว่าไม่มีอะไรหรอกลงก็ได้แต่พนักงานทำตัวไม่สุภาพแบบนี้ได้ยังไงพ่อผมจะฟ้องร้องเขาทั้งสอง
คนขับรถเมล์ก็ยิ่งไม่พอใจพ่อผม ทำท่าง้างมือจะต่อยพ่อผม(แต่ก็ไม่ได้ต่อยแค่ง้าง) แล้วก็บอกว่า ฟ้องมาเลย ก..ไม่กลัวมึ...หรอก โคตร..พ่..โคตร..แ..มึ..ก..ก็ไม่กลัว จะใครหน้าไหนก..ก็ไม่กลัว และถ่มน้ำลายใส่หน้าพ่อผม
พ่อผมโมโหมากแต่ก็ไม่กล้าทำอะไร เพราะกลัวโดนข้อหาทำร้ายร่างกายและกระทบกับหน้าที่การงานจึงยอมลงจากรถเมล์ ขณะเดินลงคนขับรถเมล์ใช้มือตบเข้ามาที่ศรีษะพ่อผมอย่างแรง 1 ทีพร้อมตะโกนด่าไล่หลังมาอีก
หลังจากลงรถมาพ่อผมจึงจดเลขจ้างรถไว้ (เลขข้างรถ 7-023) และได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.บุปผาราม ครับ
หลังจากนั้นได้โทรไปสอบถามกับทางบริษัทของรถโดยสารประจำทางปอ.สาย7 คือบริษัท ต.มานิตย์ การเดินรถ จำกัด เพื่อสอบถามชื่อคนขับและกระเป๋ารถเมล์คันดังกล่าว
พ่อผมได้มาแต่ชื่อคนขับรถเมล์ ส่วนกระเป๋ารถเมล์หญิงคนนั้นไม่ทราบชื่อ (ผมไม่ทราบว่าสามารถเอ่ยชื่อคู่กรณีในนี้ได้ไหมเลยไม่ขอเอ่ยชื่อไว้ดีกว่าครับ)
จากเหตุการณ์ที่เล่ามาจึงอยากทราบว่าสามารถร้องเรียนไปยังหน่วยงานไหนได้บ้าง จะมีมาตราการยังไงกับพนักงานเช่นนี้
และถ้าจะฟ้องร้องเราสามารถเอาผิดอะไรกับพนักงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บ้าง ถึงพ่อผมจะไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากมาย แต่ท่านก็โดนด่า โดนดูถูก โดนทำร้ายร่างกาย เสียเงิน เสียเวลา และได้รับความอับอายเป็นอันมาก
น่าจะมีบทลงโทษที่เหมาะสมกับ 2 คนนี้บ้าง ท่านไม่เข้าใจว่าบริษัทที่รับพนักงานถึงปล่อยให้พนักงานแบบนี้มาทำงานได้ยังไง
เบื้องต้นถึงจะแจ้งความไว้แต่ก็ดูเหมือนไม่ได้รับความสนใจเท่าไหร่เลยครับ
ตัวผมก็ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องกฏหมายเท่าไหร่ จึงอยากให้ทุกท่านในนี้ที่ได้อ่านเรื่องราวทั้งหมด รบกวนช่วยแนะนำทีครับ ว่าจะจัดการพนักงาน 2 คนนี้ยังไงดี
ขอบคุณครับ