1.
นาย ชวน หลีกภัย กล่าวในที่ประชุมใหญ่ของพรรค ปชป เปรียบตัวเองเป็นดัง "แมลงสาบ" ฆ่าไม่ตาย และกรุงเทพธุรกิจได้นำมาเขียนบทความ
ทฤษฎีแมลงสาบ
Source - เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ (Th)
Tuesday, April 09, 2002 00:58
พรรคประชาธิปัตย์ เสนอทฤษฎีแมลงสาบ อันมีนัยสำคัญถึงการปรับตัว ของพรรคการเมืองเก่าแก่พรรคนี้
หากศึกษาพัฒนาการของพรรคประชาธิปัตย์ ตลอดระยะเวลา 56 ปี กว่าพรรคประชาธิปัตย์จะผ่านขั้นตอนการก่อตั้งพรรค ซึ่งบรรพบุรุษของพรรคประชาธิปัตย์อธิบายว่า เป็นการตั้งพรรคเพื่อสู้กับอำนาจเผด็จการ จนถึงขั้นตอนการเติบโตขยายตัว ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายได้แสดงถึงความเป็นพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์ เป็นพรรคการเมืองที่ปรารถนาความมั่นคง
ไม่ใช่พรรคการเมืองเฉพาะกิจเช่นเดียวกับพรรคการเมืองในปัจจุบัน องค์ประกอบสำคัญ คือ ความเป็นเอกภาพในความคิด ความเชื่อมั่นการต่อสู้ในวิถีทางประชาธิปไตย ยามใดที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคฝ่ายค้านที่ต้องต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการ บทบาทของประชาธิปัตย์จะโดดเด่นอย่างมาก แต่ตรงกันข้าม ยามใดที่ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลความเป็นรัฐบาลมักจะทำลายตัวเองเสมอ
พรรคประชาธิปัตย์ผ่านความตกต่ำสุดขีดในยุคที่ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี และถูกยึดอำนาจโดยคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน เมื่อเดือนตุลาคม 2519 ท่ามกลางข้อกล่าวหาบุคคลสำคัญของพรรคหลายคนว่าเป็นฝ่ายซ้าย สถานภาพการเป็นรัฐบาลครั้งสุดท้ายก็เช่นเดียวกัน
บทบาทความเป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้าน อาจมิใช่คำตอบสำเร็จรูปสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ที่ทำให้รักษาความเชื่อถือ ศรัทธาของประชาชนไว้ได้ แต่สถานะความเป็นรัฐบาลก็เป็นคำถามสำหรับการใช้อำนาจไม่แตกต่างจาก
รัฐบาลชุดนี้มากนัก ความเป็นประชาธิปัตย์อยู่ตรงไหน เป็นคำถามที่สร้างกระแสเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงภายในพรรคประชาธิปัตย์บ่อยครั้ง
เฉพาะนายชวน หลีกภัยเอง ก็มีโอกาสในการบริหารประเทศถึง 2 ครั้ง ด้วยระยะเวลายาวนานเกือบ 6
ปีเต็ม การประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคปีนี้อาจไม่มีกระแสการเรียกร้องเช่นนั้นเด่นชัด
อาจเพราะสถานการณ์ที่ตกเป็นฝ่ายรับของรัฐบาล คะแนนความเชื่อถือศรัทธาในตัว พ.ต.ท.ทักษิณ
ชินวัตร ที่ลดลง ภาพเช่นนั้นของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เสมือนเป็นต้นทุนของพรรคประชาธิปัตย์
ในการชี้ให้เห็นความผิดพลาด บกพร่องของรัฐบาล โดยที่ประชาธิปัตย์ยังมิได้ลงแรงอะไรเลย
นี่จะเรียกได้ว่า การดำรงอยู่ของแมลงสาบตัวนี้ยังเป็นคุณแก่การทำหน้าที่พรรค
การเมืองฝ่ายค้านที่มีประสิทธิภาพแล้วอย่างไร หรือไม่
2.
นาย กรณ์ ทัพพะรังสี ให้สำภาษณ์สื่อตอกย้ำถึงความเป็น "แมลงสาบ" ฆ่าไม่ตาย
กรณ์ จาติกวณิชเผยเตรียมขยายผลการปราศรัย 23 มิ.ย. ที่แยกราชประสงค์โดยจะทำเป็นคลิปปล่อยลงยูทิวป์ ยันกระแสแรงชัดเจนไปที่ไหนคนรู้หมดว่าประชาธิปัตย์พูดเรื่องอะไร ยันถึงวันที่พรรคไม่มีอภิสิทธิ์ก็ยังมีคนมาสานต่อ "ฆ่าไม่ตาย เขาเรียกว่าแมลงสาบ"
เว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ รายงานว่า เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลการเลือกตั้งกทม.พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีเรียกผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ ของพรรคหารือเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมาหลังโพล กทม.ของพรรคตามหลังพรรคเพื่อไทยอย่างมากว่า ได้พูดถึงยุทธศาสตร์ของพรรคในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายว่ามีอะไรบ้าง และประเด็นที่ประชาชนตั้งคำถามคืออะไร เพื่อให้ผู้สมัครชี้แจงกับประชาชนในแนวเดียวกัน โดยมีการพูดถึงคะแนนในเขตต่างๆ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง และได้เล่าให้ผู้สมัครฟังถึงคะแนนเสียงในแต่ละภูมิภาคว่าเป็นอย่างไร ส่วนที่มีการนำโพลของพรรคที่ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้ส.ส.กรุงเทพฯแค่ เขตเดียว มาขู่ผู้สมัครนั้นก็ไม่มีอะไร ทุกคนดูแล้วก็หัวเราะ เราให้ดูว่ามันเหลวแหลกแค่ไหน ยืนยันว่าทีม กทม.และผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ ทุกคนทำงานหนักลงพื้นที่อย่างเข้มข้นโดยเฉพาะช่วงเวลาที่เหลือนี้ โดยไม่สนใจโพลต่างๆ แต่จะเน้นโพลวันที่ 3 ก.ค.เท่านั้น
นายกรณ์ กล่าวถึงการปราศรัยที่ราชประสงค์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า จะมีการนำมาขยายผลคำปราศรัยและชุดความคิดของนายอภิสิทธิ์ ซึ่งทีม กทม.ได้ดำเนินการแล้วเมื่อเช้าวันเดียวกันนี้โดยผู้สมัครแต่ละเขตได้ แยกย้ายกันลงไปขยายผลทางความคิด โดยมีการย่อการปราศรัยให้สั้นลง เพื่อโพสลงในยูทูปให้คนใช้อินเตอร์เน็ตได้รับชม โดยเมื่อคืนวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีคนชมสดผ่านไลฟ์สตรีมถึง 3 หมื่นคนไม่รวมทีวีดาวเทียม สำหรับกระแสก็ชัดเจน ตนไปที่ไหนประชาชนรู้หมดว่าที่ราชประสงค์ปราศรัยเรื่องอะไร แม้ในกลุ่มแรงงาน ดังนั้นเวลาที่เหลืออีกไม่กี่วันก็ต้องเดินหน้าขยายผลเพื่อนำสู่เวทีปราศรัยใหญ่ ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า คาดว่าจะมีผู้ฟังหลายแสนคน และพรรคจะใช้เวทีนี้เป็นศูนย์กลางถ่ายทอดไปยังเวทีย่อยในภูมิภาคต่างๆ โดยนายอภิสิทธิ์จะลุกขึ้นปราศรัยอีกครั้ง ส่วนที่ต้องชนกับเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคเพื่อไทยที่ราชมังคลากีฬาสถาน ตนคิดว่าเป็นพรรคเพื่อไทยที่ต้องชนกับพรรคประชาธิปัตย์มากกว่า
ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ ประกาศกลางเวทีราชประสงค์หากแพ้การเลือกตั้งจะส่งไม้ต่อให้คนอื่นในพรรคมาทำ งานแทนนั้น นายกรณ์กล่าวว่า "นายอภิสิทธิ์ พูดว่า ถ้าแพ้จะมีคนขึ้นมาทำต่อ พูดถึงอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ว่าพรรคเราไม่มีวันตายในการต่อสู้ตามระบอบประชาธิปไตย สิ่งที่นายอภิสิทธิ์สื่อสารที่ราชประสงค์ คือการเป็นนายกฯตามกฎหมายของตัวเองเป็นได้อีก 4 ปี อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลานั้นนายอภิสิทธิ์คงไม่ไปไหน อยู่ช่วยงานพรรคเหมือนเดิม เหมือนกับอดีตหัวหน้าพรรค 2 คนของพรรค คือนายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ที่ยังช่วยอยู่ทุกวันนี้ สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถึงวันที่ไม่มีนายอภิสิทธิ์ ก็ยังมีคนอื่นมาสานต่อ ฆ่าไม่ตาย เขาเรียกว่าแมลงสาบ” นายกรณ์กล่าว
กลัวไม่เชื่อว่านี่เป็นข่าวจริงเอามาจากที่ ที่คุณก็รู้ว่าที่ไหนเลยเอ้า!!~
http://www.serithai.net/forum/viewtopic.php?f=2&t=37556
สลิ่ม (น.)
ความหมาย: บุคคลที่หลงคิดว่าตนมีสติปัญญา คุณสมบัติ ความเชื่อ หรือค่านิยมเหนือกว่าผู้อื่น ทว่าแท้จริงกลับไม่มีความคิดเป็นของตนเอง ไม่มีจุดยืนที่ชัดเจน ไม่สามารถใช้ตรรกะหรือแสดงเหตุผลตามหลักวิทยาศาสตร์ได้ จึงมักอ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือมีความเชื่อที่ผิดอยู่เสมอ ทั้งยังปากว่าตาขยิบ มีอคติและความดัดจริตสูง เกลียดนักการเมือง และไม่ชอบประชาธิปไตยแบบมีผู้แทน
ที่มา: มาจากบุคคลที่อ้างว่าเกลียดเสื้อแดง แต่ไม่ยอมรับว่าตนเป็นเหลืองพันธมิตร บุคคลเหล่านี้เมื่อรวมตัวกันมักสวมเสื้อหลากสีสัน แลดูเหมือนของหวานประเภทหนึ่ง
"แมลงสาบ" กับ
"สลิ่ม" เป็นวาทศิลป์ทางการเมืองมีที่มาที่ไปชัดเจน ทีนี้ก็รู้แล้วสินะว่าทำไมอีกฝั่ง (ที่เชียร์ พท) ถึงเรียกพรรคนี้ว่า
"แมลงสาบ" และเรียกพวกที่ไม่่ยอมรับว่าตัวเองฝักใฝ่การเมืองว่า
"สลิ่ม"
แล้วที่มาที่ไปของคำว่า "ปลวก" หละมาจากไหนมายังไงหรือคิดแค่ว่าอยากหาคำมาประชดประชั้นสู้แบบเด็ก ๆ แต่คิดได้แค่นี้ความหมายอะไรยังไงก็ไม่รู้ พอทนไม่ไหวก็ด่ามันโต้งๆว่า "ควายแดง" กระจอกสิ้นดี
คำว่า "แมลงสาบ" และ "สลิ่ม" มีที่มาที่ไปชัดเจนแล้วคำว่า "ปลวก" หละมาจากไหน ?
ทฤษฎีแมลงสาบ
Source - เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ (Th)
Tuesday, April 09, 2002 00:58
พรรคประชาธิปัตย์ เสนอทฤษฎีแมลงสาบ อันมีนัยสำคัญถึงการปรับตัว ของพรรคการเมืองเก่าแก่พรรคนี้
หากศึกษาพัฒนาการของพรรคประชาธิปัตย์ ตลอดระยะเวลา 56 ปี กว่าพรรคประชาธิปัตย์จะผ่านขั้นตอนการก่อตั้งพรรค ซึ่งบรรพบุรุษของพรรคประชาธิปัตย์อธิบายว่า เป็นการตั้งพรรคเพื่อสู้กับอำนาจเผด็จการ จนถึงขั้นตอนการเติบโตขยายตัว ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายได้แสดงถึงความเป็นพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์ เป็นพรรคการเมืองที่ปรารถนาความมั่นคง
ไม่ใช่พรรคการเมืองเฉพาะกิจเช่นเดียวกับพรรคการเมืองในปัจจุบัน องค์ประกอบสำคัญ คือ ความเป็นเอกภาพในความคิด ความเชื่อมั่นการต่อสู้ในวิถีทางประชาธิปไตย ยามใดที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคฝ่ายค้านที่ต้องต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการ บทบาทของประชาธิปัตย์จะโดดเด่นอย่างมาก แต่ตรงกันข้าม ยามใดที่ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลความเป็นรัฐบาลมักจะทำลายตัวเองเสมอ
พรรคประชาธิปัตย์ผ่านความตกต่ำสุดขีดในยุคที่ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี และถูกยึดอำนาจโดยคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน เมื่อเดือนตุลาคม 2519 ท่ามกลางข้อกล่าวหาบุคคลสำคัญของพรรคหลายคนว่าเป็นฝ่ายซ้าย สถานภาพการเป็นรัฐบาลครั้งสุดท้ายก็เช่นเดียวกัน
บทบาทความเป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้าน อาจมิใช่คำตอบสำเร็จรูปสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ที่ทำให้รักษาความเชื่อถือ ศรัทธาของประชาชนไว้ได้ แต่สถานะความเป็นรัฐบาลก็เป็นคำถามสำหรับการใช้อำนาจไม่แตกต่างจาก
รัฐบาลชุดนี้มากนัก ความเป็นประชาธิปัตย์อยู่ตรงไหน เป็นคำถามที่สร้างกระแสเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงภายในพรรคประชาธิปัตย์บ่อยครั้ง
เฉพาะนายชวน หลีกภัยเอง ก็มีโอกาสในการบริหารประเทศถึง 2 ครั้ง ด้วยระยะเวลายาวนานเกือบ 6
ปีเต็ม การประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคปีนี้อาจไม่มีกระแสการเรียกร้องเช่นนั้นเด่นชัด
อาจเพราะสถานการณ์ที่ตกเป็นฝ่ายรับของรัฐบาล คะแนนความเชื่อถือศรัทธาในตัว พ.ต.ท.ทักษิณ
ชินวัตร ที่ลดลง ภาพเช่นนั้นของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เสมือนเป็นต้นทุนของพรรคประชาธิปัตย์
ในการชี้ให้เห็นความผิดพลาด บกพร่องของรัฐบาล โดยที่ประชาธิปัตย์ยังมิได้ลงแรงอะไรเลย
นี่จะเรียกได้ว่า การดำรงอยู่ของแมลงสาบตัวนี้ยังเป็นคุณแก่การทำหน้าที่พรรค
การเมืองฝ่ายค้านที่มีประสิทธิภาพแล้วอย่างไร หรือไม่
2. นาย กรณ์ ทัพพะรังสี ให้สำภาษณ์สื่อตอกย้ำถึงความเป็น "แมลงสาบ" ฆ่าไม่ตาย
กรณ์ จาติกวณิชเผยเตรียมขยายผลการปราศรัย 23 มิ.ย. ที่แยกราชประสงค์โดยจะทำเป็นคลิปปล่อยลงยูทิวป์ ยันกระแสแรงชัดเจนไปที่ไหนคนรู้หมดว่าประชาธิปัตย์พูดเรื่องอะไร ยันถึงวันที่พรรคไม่มีอภิสิทธิ์ก็ยังมีคนมาสานต่อ "ฆ่าไม่ตาย เขาเรียกว่าแมลงสาบ"
เว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ รายงานว่า เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลการเลือกตั้งกทม.พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีเรียกผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ ของพรรคหารือเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมาหลังโพล กทม.ของพรรคตามหลังพรรคเพื่อไทยอย่างมากว่า ได้พูดถึงยุทธศาสตร์ของพรรคในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายว่ามีอะไรบ้าง และประเด็นที่ประชาชนตั้งคำถามคืออะไร เพื่อให้ผู้สมัครชี้แจงกับประชาชนในแนวเดียวกัน โดยมีการพูดถึงคะแนนในเขตต่างๆ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง และได้เล่าให้ผู้สมัครฟังถึงคะแนนเสียงในแต่ละภูมิภาคว่าเป็นอย่างไร ส่วนที่มีการนำโพลของพรรคที่ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้ส.ส.กรุงเทพฯแค่ เขตเดียว มาขู่ผู้สมัครนั้นก็ไม่มีอะไร ทุกคนดูแล้วก็หัวเราะ เราให้ดูว่ามันเหลวแหลกแค่ไหน ยืนยันว่าทีม กทม.และผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ ทุกคนทำงานหนักลงพื้นที่อย่างเข้มข้นโดยเฉพาะช่วงเวลาที่เหลือนี้ โดยไม่สนใจโพลต่างๆ แต่จะเน้นโพลวันที่ 3 ก.ค.เท่านั้น
นายกรณ์ กล่าวถึงการปราศรัยที่ราชประสงค์ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า จะมีการนำมาขยายผลคำปราศรัยและชุดความคิดของนายอภิสิทธิ์ ซึ่งทีม กทม.ได้ดำเนินการแล้วเมื่อเช้าวันเดียวกันนี้โดยผู้สมัครแต่ละเขตได้ แยกย้ายกันลงไปขยายผลทางความคิด โดยมีการย่อการปราศรัยให้สั้นลง เพื่อโพสลงในยูทูปให้คนใช้อินเตอร์เน็ตได้รับชม โดยเมื่อคืนวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีคนชมสดผ่านไลฟ์สตรีมถึง 3 หมื่นคนไม่รวมทีวีดาวเทียม สำหรับกระแสก็ชัดเจน ตนไปที่ไหนประชาชนรู้หมดว่าที่ราชประสงค์ปราศรัยเรื่องอะไร แม้ในกลุ่มแรงงาน ดังนั้นเวลาที่เหลืออีกไม่กี่วันก็ต้องเดินหน้าขยายผลเพื่อนำสู่เวทีปราศรัยใหญ่ ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า คาดว่าจะมีผู้ฟังหลายแสนคน และพรรคจะใช้เวทีนี้เป็นศูนย์กลางถ่ายทอดไปยังเวทีย่อยในภูมิภาคต่างๆ โดยนายอภิสิทธิ์จะลุกขึ้นปราศรัยอีกครั้ง ส่วนที่ต้องชนกับเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคเพื่อไทยที่ราชมังคลากีฬาสถาน ตนคิดว่าเป็นพรรคเพื่อไทยที่ต้องชนกับพรรคประชาธิปัตย์มากกว่า
ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ ประกาศกลางเวทีราชประสงค์หากแพ้การเลือกตั้งจะส่งไม้ต่อให้คนอื่นในพรรคมาทำ งานแทนนั้น นายกรณ์กล่าวว่า "นายอภิสิทธิ์ พูดว่า ถ้าแพ้จะมีคนขึ้นมาทำต่อ พูดถึงอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ว่าพรรคเราไม่มีวันตายในการต่อสู้ตามระบอบประชาธิปไตย สิ่งที่นายอภิสิทธิ์สื่อสารที่ราชประสงค์ คือการเป็นนายกฯตามกฎหมายของตัวเองเป็นได้อีก 4 ปี อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลานั้นนายอภิสิทธิ์คงไม่ไปไหน อยู่ช่วยงานพรรคเหมือนเดิม เหมือนกับอดีตหัวหน้าพรรค 2 คนของพรรค คือนายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ที่ยังช่วยอยู่ทุกวันนี้ สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถึงวันที่ไม่มีนายอภิสิทธิ์ ก็ยังมีคนอื่นมาสานต่อ ฆ่าไม่ตาย เขาเรียกว่าแมลงสาบ” นายกรณ์กล่าว
กลัวไม่เชื่อว่านี่เป็นข่าวจริงเอามาจากที่ ที่คุณก็รู้ว่าที่ไหนเลยเอ้า!!~
http://www.serithai.net/forum/viewtopic.php?f=2&t=37556
สลิ่ม (น.)
ความหมาย: บุคคลที่หลงคิดว่าตนมีสติปัญญา คุณสมบัติ ความเชื่อ หรือค่านิยมเหนือกว่าผู้อื่น ทว่าแท้จริงกลับไม่มีความคิดเป็นของตนเอง ไม่มีจุดยืนที่ชัดเจน ไม่สามารถใช้ตรรกะหรือแสดงเหตุผลตามหลักวิทยาศาสตร์ได้ จึงมักอ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือมีความเชื่อที่ผิดอยู่เสมอ ทั้งยังปากว่าตาขยิบ มีอคติและความดัดจริตสูง เกลียดนักการเมือง และไม่ชอบประชาธิปไตยแบบมีผู้แทน
ที่มา: มาจากบุคคลที่อ้างว่าเกลียดเสื้อแดง แต่ไม่ยอมรับว่าตนเป็นเหลืองพันธมิตร บุคคลเหล่านี้เมื่อรวมตัวกันมักสวมเสื้อหลากสีสัน แลดูเหมือนของหวานประเภทหนึ่ง
"แมลงสาบ" กับ "สลิ่ม" เป็นวาทศิลป์ทางการเมืองมีที่มาที่ไปชัดเจน ทีนี้ก็รู้แล้วสินะว่าทำไมอีกฝั่ง (ที่เชียร์ พท) ถึงเรียกพรรคนี้ว่า "แมลงสาบ" และเรียกพวกที่ไม่่ยอมรับว่าตัวเองฝักใฝ่การเมืองว่า "สลิ่ม"
แล้วที่มาที่ไปของคำว่า "ปลวก" หละมาจากไหนมายังไงหรือคิดแค่ว่าอยากหาคำมาประชดประชั้นสู้แบบเด็ก ๆ แต่คิดได้แค่นี้ความหมายอะไรยังไงก็ไม่รู้ พอทนไม่ไหวก็ด่ามันโต้งๆว่า "ควายแดง" กระจอกสิ้นดี