http://www.dailynews.co.th/crime/178428
วันนี้ ( 15 ม.ค.) จากกรณีที่น.ส.จรูญรัตน์ หรือแป้ง ยากอง อายุ 31 ปี พนักงานบัญชี บริษัทสมาย ออโต้คาร์ ย่านพัฒนาการ และรับงานเป็นพริตตี้ทั่วไป เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสน.สุทธิสาร และสำนักงานคณะกรรมการและคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา ให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่อ้างชื่อว่าเป็น “หมอพลอย” ฉีดฟิลเลอร์ใส่ใบหน้าทำให้คางอักเสบบวมแดงหน้าเกือบเสียโฉม
โดยน.ส.จรูญรัตน์ ต้องการเสริมใบหน้าด้วยการฉีดสารดังกล่าว จึงโพสต์ข้อความถามเข้าไปในเว็บไซต์หนึ่ง กระทั่งมีผู้โพสต์ข้อความตอบพร้อมให้ข้อมูลและเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ เมื่อโทรศัพท์ไปก็ปรากฏว่าผู้ที่รับสายเป็นประชาสัมพันธ์อ้างว่า ผู้ฉีดสารเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชื่อ “หมอพลอย” จบจากมหาวิทยาลัยมหิดล ทำงานอยู่ที่รพ.ยันฮี เปิดคลินิกอยู่ที่ย่านราชเทวี ก่อนจะมีการนัดฉีดสารฟิลเลอร์ที่ห้อง 405 ชั้น 4 โรงแรมคาลิปโซ 2 ซอยรัชดาภิเษก 20 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง เมื่อวันที่ 5 ม.ค. เสียค่าบริการทั้งหมด 5,500 บาท โดยหลังจากที่ฉีดสารแล้ว น.ส.จรูญรัตน์ มีอาการอักเสบ ปวดใบหน้า เป็นไข้ ตัวสั่นเหมือนจะช็อก คางบวมแดง เกิดเนื้อแข็งที่แก้ม แพทย์รพ.สินแพทย์ ระบุว่า เนื้อเยื่ออักเสบจากใช้ยาปลอม แผลเน่าภายใน ส่วนยาที่ฉีดให้น่าจะเป็นซิลิโคนปั่นเหลว ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.ดส. พ.ต.อ.ล้ำพันธุ์ พรรธนประเทศ ผกก.4 บก.ปคบ. พ.ต.ท.แมน เม่นแย้ม รองผกก.ดส. พ.ต.ท.สาโรจน์ จอกโคกสูง สว.กก.ดส.บช.น. แถลงข่าวการมอบตัวของน.ส.สุพิชญนันทร์ หรือหมอพลอย อู่เพ็ชร อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/2 ถนนราษฎร์อุทิศ ต.วัดสิงห์ อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ผู้ต้องหาที่ฉีดสารฟิลเลอร์บนใบหน้าให้กับสาวพริตตี้จนหน้าอักเสบ พร้อมของกลางผลิตภัณฑ์ยาเสริมความงามต่างๆ อาทิ สารฟิลเลอร์บรรจุขวด วิตามินซี เข็มฉีดยา ถุงมือยาง โดยมี น.ส.จรูญรัตน์ เดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหา ขณะที่บริเวณคางของผู้เสียหายยังมีอาการบวมอยู่ โดยพล.ต.ท.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวทางสื่อมวลชน เกี่ยวกับการฉีดสารต่างๆ เพื่อเสริมความงาม จนทำให้ได้รับอันตราย ซึ่งผู้เสียหายและกระทรวงสาธารณสุขก็ประสานมาที่บช.น. เพื่อให้เร่งรัดสืบสวนจับกุม จนกระทั่งผู้ต้องหาเข้ามอบตัว
ด้านพ.ต.อ.นภันต์วุฒิ กล่าวว่า หลังจากที่ผู้เสียหายไปฉีดสารฟิลเลอร์แล้วได้รับผลกระทบ ก็เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ น.ส.สุพิชญนันทร์ หรือหมอพลอย เกี่ยวกับการประกอบโรคศิลป์ การตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และให้ดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง เนื่องจากมีการโฆษณาผ่านทางเว็บไซต์ ทางสน.สุทธิสาร จึงทำการสืบสวนสอบสวนและประสานไปมาที่กก.ดส. ให้ติดตามตัว จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 ม.ค. ได้ขออนุมัติหมายจับไว้ แล้วติดตามไปจับกุมที่บ้านพัก ใน จ.ชัยนาท แต่ผู้ต้องหาไม่อยู่บ้าน จากการตรวจค้นรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีขาว ทะเบียน ฎข 233 กรุงเทพมหานคร พบพร้อมของกลางผลิตภัณฑ์ยาเสริมความงามต่างๆ อยู่ในรถ ต่อมาช่วงกลางดึกก็ได้รับการประสานจาก น.ส.สุพิชญนันทร์ ว่าจะขอเข้ามอบตัว โดยข้อหาเกี่ยวกับการประกอบโรคศิลป์ การตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต น.ส.สุพิชญนันทร์ ยอมรับสารภาพและรู้ว่าผิดกฎหมาย แต่ข้อหาฉ้อโกง และกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายฯยังให้การปฏิเสธ ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะนำตัวน.ส.สุพิชญนันทร์ ส่งสน.สุทธิสาร ดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่น.ส.สุพิชญนันทร์ กล่าวว่า ตนเคยเป็นผู้ช่วยแพทย์อยู่ในคลินิกในจ.ชลบุรี ประมาณปีกว่าจึงมีพอมีความรู้ด้านนี้อยู่บ้างเริ่มต้นมาจากเพื่อนๆอยากให้ฉีดสารให้ เคยฉีดมาแล้วประมาณ 10 รายก็ไม่มีปัญหาอะไร ข่าวที่ลงไปไม่ใช่ความจริงจากปากตน อยากแก้ข่าวด้วยว่า ตนไม่เคยแอบอ้างว่าจบมาจากมหาวิทยาลัยมหิดล หรือทำงานอยู่ที่รพ.ยันฮี ตนเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แต่บังเอิญได้ไปรู้จักกับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเสริมความงาม จึงเรียนรู้และนำมาทำให้กับเพื่อนสนิทและบุคคลใกล้ชิด ส่วนตัวเองเคยทำเพียงแค่ฉีดวิตตามินให้หน้าขาว ทั้งนี้ข้อความดังกล่าวอยู่ในหน้าเฟสบุ๊คที่ไม่ใช่ของตน และไม่เคยเปิดเว็บไซต์โฆษณาเกี่ยวกับการเสริมความงาม น่าจะมีคนเอาไปแอบอ้าง แต่ตนยินดีชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น
“หมอพลอย” ฉีดฟิลเลอร์ให้พริตตี้สาวจนคางเบี้ยวมอบตัวแล้ว
http://www.dailynews.co.th/crime/178428
วันนี้ ( 15 ม.ค.) จากกรณีที่น.ส.จรูญรัตน์ หรือแป้ง ยากอง อายุ 31 ปี พนักงานบัญชี บริษัทสมาย ออโต้คาร์ ย่านพัฒนาการ และรับงานเป็นพริตตี้ทั่วไป เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสน.สุทธิสาร และสำนักงานคณะกรรมการและคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา ให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่อ้างชื่อว่าเป็น “หมอพลอย” ฉีดฟิลเลอร์ใส่ใบหน้าทำให้คางอักเสบบวมแดงหน้าเกือบเสียโฉม
โดยน.ส.จรูญรัตน์ ต้องการเสริมใบหน้าด้วยการฉีดสารดังกล่าว จึงโพสต์ข้อความถามเข้าไปในเว็บไซต์หนึ่ง กระทั่งมีผู้โพสต์ข้อความตอบพร้อมให้ข้อมูลและเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ เมื่อโทรศัพท์ไปก็ปรากฏว่าผู้ที่รับสายเป็นประชาสัมพันธ์อ้างว่า ผู้ฉีดสารเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชื่อ “หมอพลอย” จบจากมหาวิทยาลัยมหิดล ทำงานอยู่ที่รพ.ยันฮี เปิดคลินิกอยู่ที่ย่านราชเทวี ก่อนจะมีการนัดฉีดสารฟิลเลอร์ที่ห้อง 405 ชั้น 4 โรงแรมคาลิปโซ 2 ซอยรัชดาภิเษก 20 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง เมื่อวันที่ 5 ม.ค. เสียค่าบริการทั้งหมด 5,500 บาท โดยหลังจากที่ฉีดสารแล้ว น.ส.จรูญรัตน์ มีอาการอักเสบ ปวดใบหน้า เป็นไข้ ตัวสั่นเหมือนจะช็อก คางบวมแดง เกิดเนื้อแข็งที่แก้ม แพทย์รพ.สินแพทย์ ระบุว่า เนื้อเยื่ออักเสบจากใช้ยาปลอม แผลเน่าภายใน ส่วนยาที่ฉีดให้น่าจะเป็นซิลิโคนปั่นเหลว ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.ดส. พ.ต.อ.ล้ำพันธุ์ พรรธนประเทศ ผกก.4 บก.ปคบ. พ.ต.ท.แมน เม่นแย้ม รองผกก.ดส. พ.ต.ท.สาโรจน์ จอกโคกสูง สว.กก.ดส.บช.น. แถลงข่าวการมอบตัวของน.ส.สุพิชญนันทร์ หรือหมอพลอย อู่เพ็ชร อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/2 ถนนราษฎร์อุทิศ ต.วัดสิงห์ อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ผู้ต้องหาที่ฉีดสารฟิลเลอร์บนใบหน้าให้กับสาวพริตตี้จนหน้าอักเสบ พร้อมของกลางผลิตภัณฑ์ยาเสริมความงามต่างๆ อาทิ สารฟิลเลอร์บรรจุขวด วิตามินซี เข็มฉีดยา ถุงมือยาง โดยมี น.ส.จรูญรัตน์ เดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหา ขณะที่บริเวณคางของผู้เสียหายยังมีอาการบวมอยู่ โดยพล.ต.ท.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวทางสื่อมวลชน เกี่ยวกับการฉีดสารต่างๆ เพื่อเสริมความงาม จนทำให้ได้รับอันตราย ซึ่งผู้เสียหายและกระทรวงสาธารณสุขก็ประสานมาที่บช.น. เพื่อให้เร่งรัดสืบสวนจับกุม จนกระทั่งผู้ต้องหาเข้ามอบตัว
ด้านพ.ต.อ.นภันต์วุฒิ กล่าวว่า หลังจากที่ผู้เสียหายไปฉีดสารฟิลเลอร์แล้วได้รับผลกระทบ ก็เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ น.ส.สุพิชญนันทร์ หรือหมอพลอย เกี่ยวกับการประกอบโรคศิลป์ การตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และให้ดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง เนื่องจากมีการโฆษณาผ่านทางเว็บไซต์ ทางสน.สุทธิสาร จึงทำการสืบสวนสอบสวนและประสานไปมาที่กก.ดส. ให้ติดตามตัว จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 ม.ค. ได้ขออนุมัติหมายจับไว้ แล้วติดตามไปจับกุมที่บ้านพัก ใน จ.ชัยนาท แต่ผู้ต้องหาไม่อยู่บ้าน จากการตรวจค้นรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีขาว ทะเบียน ฎข 233 กรุงเทพมหานคร พบพร้อมของกลางผลิตภัณฑ์ยาเสริมความงามต่างๆ อยู่ในรถ ต่อมาช่วงกลางดึกก็ได้รับการประสานจาก น.ส.สุพิชญนันทร์ ว่าจะขอเข้ามอบตัว โดยข้อหาเกี่ยวกับการประกอบโรคศิลป์ การตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต น.ส.สุพิชญนันทร์ ยอมรับสารภาพและรู้ว่าผิดกฎหมาย แต่ข้อหาฉ้อโกง และกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายฯยังให้การปฏิเสธ ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะนำตัวน.ส.สุพิชญนันทร์ ส่งสน.สุทธิสาร ดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่น.ส.สุพิชญนันทร์ กล่าวว่า ตนเคยเป็นผู้ช่วยแพทย์อยู่ในคลินิกในจ.ชลบุรี ประมาณปีกว่าจึงมีพอมีความรู้ด้านนี้อยู่บ้างเริ่มต้นมาจากเพื่อนๆอยากให้ฉีดสารให้ เคยฉีดมาแล้วประมาณ 10 รายก็ไม่มีปัญหาอะไร ข่าวที่ลงไปไม่ใช่ความจริงจากปากตน อยากแก้ข่าวด้วยว่า ตนไม่เคยแอบอ้างว่าจบมาจากมหาวิทยาลัยมหิดล หรือทำงานอยู่ที่รพ.ยันฮี ตนเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แต่บังเอิญได้ไปรู้จักกับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเสริมความงาม จึงเรียนรู้และนำมาทำให้กับเพื่อนสนิทและบุคคลใกล้ชิด ส่วนตัวเองเคยทำเพียงแค่ฉีดวิตตามินให้หน้าขาว ทั้งนี้ข้อความดังกล่าวอยู่ในหน้าเฟสบุ๊คที่ไม่ใช่ของตน และไม่เคยเปิดเว็บไซต์โฆษณาเกี่ยวกับการเสริมความงาม น่าจะมีคนเอาไปแอบอ้าง แต่ตนยินดีชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น