คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 23
ผมพอเข้าใจละ
1. ถ้าน้าปล่อยคุณ จะเสียหลายเด้ง เสียคนที่ทำงานเก่งทำงานคล่อง
โดยเฉพาะไว้ใจได้ในเรื่องเงิน
2. เพิ่มอาวุธไปให้คู่แข่ง ในอนาคต เพราะคุณบอกว่าทำธุรกิจเดียวกัน
เห็นบอกว่าอยากให้คุณอยู่อีกสัก ปลายปี พอลูกสาวเค้ากลับมาและทำงานได้ อีกสัก 2 ปีจะเปิดบริษัท และให้หุ้นคุณ 30 เปอร์
จริงๆเค้าก็หวังผลประโยชน์กับคุณ เพียงแต่ ใช้ความมั่นคงของคุณกับแฟนและงานใหม่ของพวกคุณ
มาเป็นข้ออ้างในการดึงคุณไว้
และยื่นข้อเสนอให้
คุณคงต้องไปคิดว่า แน่ใจหรือไม่ว่าภายในสองเดือน คุณจะเทรนคนใหม่ให้ทำงานได้เป็นที่น่าพอใจทั้งของคุณเองและน้าคุณ
ถ้าเค้าใช้คำว่ายังไม่พอใจ มาเรื่อยๆ คุณเองก็คงเหวอ เพราะจะกลายเป็นว่าเป็นความผิดคุณที่คนมาแทนทำไม่ได้ดี
มีผลกับการตัดสินใจในขั้นตอนอื่นๆอีก
ถ้าคุณเลือกข้อแรกคือพร้อมจะออกไปเสี่ยงข้างนอก คงยากที่จะหวังให้น้าคุณเข้าใจ และเมื่อคุณไปอาจเป็นไปได้ว่าไปแบบรู้สึกไม่ดี
คงต้องบอกว่า ไม่มีใครได้อะไรทุกอย่าง ถ้าคุณตั้งใจไปจริงๆ ผมคิดว่าสองเดือนที่คุณบอกว่าจะสอนงานให้คนใหม่
เป็นสิ่งที่ตอบแทนน้าคุณแล้ว
จะไปก็ไปให้จริง เลือกที่จะไปแล้วก็อย่าลังเลครับ ถ้าคิดว่าอยากเสี่ยงและไม่กลัวที่จะตกลงมาเพราะคิดว่าตั้งหลักได้ใหม่
ก็ทำไปตามที่บอกกับน้าเค้าไว้ ครบกำหนดเมื่อไรก็ไป แต่แน่นอนอาจจะแลกกับการที่จะไปแบบไม่สวยถ้าน้าคุณเป็นคนไม่แฟร์
1. ถ้าน้าปล่อยคุณ จะเสียหลายเด้ง เสียคนที่ทำงานเก่งทำงานคล่อง
โดยเฉพาะไว้ใจได้ในเรื่องเงิน
2. เพิ่มอาวุธไปให้คู่แข่ง ในอนาคต เพราะคุณบอกว่าทำธุรกิจเดียวกัน
เห็นบอกว่าอยากให้คุณอยู่อีกสัก ปลายปี พอลูกสาวเค้ากลับมาและทำงานได้ อีกสัก 2 ปีจะเปิดบริษัท และให้หุ้นคุณ 30 เปอร์
จริงๆเค้าก็หวังผลประโยชน์กับคุณ เพียงแต่ ใช้ความมั่นคงของคุณกับแฟนและงานใหม่ของพวกคุณ
มาเป็นข้ออ้างในการดึงคุณไว้
และยื่นข้อเสนอให้
คุณคงต้องไปคิดว่า แน่ใจหรือไม่ว่าภายในสองเดือน คุณจะเทรนคนใหม่ให้ทำงานได้เป็นที่น่าพอใจทั้งของคุณเองและน้าคุณ
ถ้าเค้าใช้คำว่ายังไม่พอใจ มาเรื่อยๆ คุณเองก็คงเหวอ เพราะจะกลายเป็นว่าเป็นความผิดคุณที่คนมาแทนทำไม่ได้ดี
มีผลกับการตัดสินใจในขั้นตอนอื่นๆอีก
ถ้าคุณเลือกข้อแรกคือพร้อมจะออกไปเสี่ยงข้างนอก คงยากที่จะหวังให้น้าคุณเข้าใจ และเมื่อคุณไปอาจเป็นไปได้ว่าไปแบบรู้สึกไม่ดี
คงต้องบอกว่า ไม่มีใครได้อะไรทุกอย่าง ถ้าคุณตั้งใจไปจริงๆ ผมคิดว่าสองเดือนที่คุณบอกว่าจะสอนงานให้คนใหม่
เป็นสิ่งที่ตอบแทนน้าคุณแล้ว
จะไปก็ไปให้จริง เลือกที่จะไปแล้วก็อย่าลังเลครับ ถ้าคิดว่าอยากเสี่ยงและไม่กลัวที่จะตกลงมาเพราะคิดว่าตั้งหลักได้ใหม่
ก็ทำไปตามที่บอกกับน้าเค้าไว้ ครบกำหนดเมื่อไรก็ไป แต่แน่นอนอาจจะแลกกับการที่จะไปแบบไม่สวยถ้าน้าคุณเป็นคนไม่แฟร์
แสดงความคิดเห็น
***________ ขอความช่วยเหลือ และ แนะนำค่ะ ทำยังไงดี - ขอลาออกจากบริษัทแต่เจ้านายไม่ยอมให้ออก _______***
แต่ล่าสุด แฟนของเรา ซึ่งค่อนข้างมีฐานะ อยากจะเปิดธุรกิจตัวหนึ่ง แล้วให้เราไปคุมกิจการให้เค้า เราเองตัดสินใจแล้วว่า อายุก็ป่านนี้แ้ล้ว อยากจะมีกิจการเป็นของตัวเองซักที ไหนๆ แฟนก็ยื่นโอกาสมาให้ เราก็อยากจะทำ
แต่เราทำใจลำบากมากกับการที่จะลาออกจากที่ปัจจุบันที่ทำอยู่ อย่างที่บอกสาเหตุความรับผิดชอบเบื้องต้่น และที่สำคัญคือ เราเป็น "หลานของเจ้าของบริษัท" ซึ่งทำให้ถ้าจะออกก็กลัวจะมองหน้ากันไม่ติด ในฐานะญาติกัน แต่ ตลอดเวลา 7 ปีที่ทำงานมาด้วยกัน ชีวิตเราก็ยังไม่เคยมีอะรัยกิจการอะรัยเป็นของตัวเองเลย นอกจากเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นตามประสบการณ์ และบางครั้งก็มีเหตุการณ์ที่ทะเลาะกับเจ้านายบ้าง แต่ก็อยู่กับเค้าตลอดเพราะเราเป็นหลาน และก็เค้าก้อมีส่วนดี ที่ทำให้เราเกรงใจเค้าด้วย
เมื่อวานนี้เรายื่นจดหมายลาออก และพยายามบอกเหตุผลกับเจ้านาย โดยบอกว่า เราอยากมีกิจการเป็นของตัวเอง อยากจะมีอะไรเป็นของตนะเองบ้าง เพราะอายุก็เยอะแล้ว (30กว่าแล้ว) โดยที่แฟนซึ่งเป็นนักธุรกิจ(และเจ้านายก็เคยเจอแล้ว) เป็นคนลงทุนให้ **** โดยเราแจ้งว่าเราจะลาออกวันนี้ แต่จะออกจริงอีก 2 เดือนข้างหน้า และจะสะสางงานให้เรียบร้อย พร้อมทั้งฝึกงาน สอนงานให้กับพนักงานใหม่ที่เข้ามาด้วย และจะพยายามหาคนมารับผิดชอบงานและทำงานเป็นแบบเราให้ได้ แต่ไม่รู้จะหาได้หรือไม่ (คนทำงานด้านเราที่ทำเป็นหายากมาก) แต่เราระบุไว้ในจดหมายเลยว่า จะรับผิดชอบสะสางงาน และ ฝึกงานให้คนใหม่ ใน 2 เดือนก่อนออก (แต่ยื่นจดหมายเพื่อแจ้งล่วงหน้า 2 เดือน) ...
เจ้านายเราไม่รับการลาออกของเรา โดยบอกว่า แฟนของเราหวังผลประโยชน์จากเรา เพราะเห็นว่าเราเป็นคนที่ทำงานเป็นและทำประโยชน์ให้กับเค้าได้ จึงอาจจะเป็นไปได้ว่า อาจจะให้เราทำงานทำเงินให้เค้า ถ้าเมื่อไหร่ที่เค้าเบื่อ หรือ อยากเลิกกับเรา เค้าก็อาจจะเขี่ยเราทิ้ง และวันนั้นเราก็จะไม่เหลืออะไรเลย เจ้านายบอกว่า ทนทำอีกปี เดิ๋วลูกสาวเค้ากลับมาจากเมืองนอก ปลายปีนี้ ทำงานจนทำได้อีก 2 ปี เค้าจะเปิดอีกบริษัท แล้วให้เราเป็นหุ้น 30% โดยไม่ต้องออกเงิน
สิ่งที่เจ้านายพูด เราก็คิด แต่เราก็อยากมีโอกาสที่จะได้โต ได้มีกิจการเป็นของตัวเอง .... แล้วเจ้านาย(น้าเรา) ก็ยิ่นจดหมายลาออกคืนให้เรา ไม่ยอมรับ ....
ถ้าเราสามารถพิสูจน์หรือวางใจได้แล้ว ว่าแฟนเราเค้าจริงใจกับเราจริง และ เค้าต้องการให้เราโต มีกิจการเป็นของตัวเองจริง ... แล้วเราอยากจะลาออกจริงๆ
เราควรจะทำอย่างไรดีคะ .... ดูท่าทาง ยังไง เจ้านายซึ่งเป็นน้าเรา ก็ไม่ยอมให้เราลาออกท่าเดียว (เพราะเราเป็นกำลังสำคัญและมีประโยชน์ต่อบริษัท)
รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ (>___<lll)
-----
(ข้อมูลเพิ่มเติมจากที่มีผู้ที่ต้องการแนะนำอยากทราบข้อมูลเพิ่มค่ะ)
1) เราทำตามกฏบริษัททุกอย่าง บริษัทให้แจ้งล่วงหน้า 1 เดือน แต่เราแจ้งล่วงหน้า 2 เดือนเลยค่ะ และ สัญญาด้วยว่าจะสะสางงาน และ สอนพนักงานใหม่ให้เรียบร้อย จนกว่าจะวางใจได้
2) แฟนเรา กับ เรา ยังไม่ได้แต่งงานกันค่ะ เพราะเราเป็นคนบอกเอง ว่าเราไม่อยากแต่งงาน และจะไม่แต่งด้วย เพราะเรารู้สึกว่าไม่ได้จำเป็นกับชีวิตคู่ แต่หลายครั้งที่แฟนเราชวนให้ใช้นามสกุลเดียวกัน แต่เราไม่อยากเปลี่ยนนามสกุลค่ะ .... แฟนให้เราเป็นเจ้าของบริษัทค่ะ เป็นชื่อของเราทั้งหมด และ เรามีอำนวจในการกระทำทุกอย่าง ทั้งธุรกรรม การจ่ายเงิน ฯลฯ ในบริษัทค่ะ
รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ ว่าเราควรทำไง