ในที่สุดพออนุมานและเป็นที่เข้าใจได้ว่ายุทธศาสตร์การต่อสู้ของพรรคประชาธิปัตย์กับการช่วงชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
คงหนีไม่พ้นวาทกรรมที่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่อีกวันยันค่ำ
สังเกตได้จากการมีข่าวสารเกี่ยวกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ได้เจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณเพื่อให้ผลักดันตัวเองเป็นผู้สมัครลงแข่งขันชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นกระแสข่าวก่อนที่จะมีการสรุปส่ง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เป็นตัวแทนของพรรค หรือกระแสข่าวต่อมาที่มีการปล่อยข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณพูดว่าจะส่งใครก็ได้แม้กระทั่งเสาไฟฟ้า พรรคเพื่อไทยยังสามารถชนะการเลือกตั้งในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ได้!
ทั้ง 2 กระแสข่าวนี้สามารถเชื่อมโยงและ
มองได้ว่าเป็นการจงใจปล่อยข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์เพื่อดิสเครดิตผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ เพื่อชี้ให้ประชาชนทั่วไปเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณนั้นเป็นผู้อยู่เบื้องหลังทุกการกระทำของพรรคเพื่อไทย และยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังผู้สมัครชิงชัยตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคเพื่อไทยด้วยเช่นกัน
เช่นนี้จึงเข้าใจเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากต้องระบุว่า
ประชาธิปัตย์ต้องการปลุกผีทักษิณขึ้นมาอีกครั้ง และใช้ตรงนี้เป็นจุดโจมตีว่ามีทักษิณเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง โดยหวังว่าตรงนี้จะกลายเป็นไม้เด็ดทำให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร กลับมาเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอีกสมัย!
ทั้งนี้ สะท้อนว่า
ประชาธิปัตย์ไม่อาจคิดนโยบายใหม่ๆในการหาเสียงขึ้นมาได้ ยังคงใช้ยุทธศาสตร์และยุทธวิธีเดิมๆที่ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย และยังคงวนเวียนอยู่กับวาทกรรมเก่าๆที่เคยใช้ได้ผลเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาแล้ว แต่ในยุคที่ประชาชนเริ่มเห็นแสงสว่าง วาทกรรมเก่าๆเหล่านั้นอาจจะไร้ผลใดๆเลยก็ได้ และเมื่อถึงยุคหนึ่งที่ประชาชนคิดเป็น ผลสะท้อนจะตอบกลับไปยังพรรคประชาธิปัตย์เองเหมือนอย่างบูมเมอแรงที่ย้อนเข้าหาตัว
ถ้าพิจารณาตามสโลแกนการหาเสียงของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ในหลายๆสโลแกน เช่น สโลแกนที่บอกว่า “รัก กทม. ให้ร่วมกันสร้าง กทม. โดยการเลือกสุขุมพันธุ์เป็นผู้ว่าฯ กทม.” นั่นเป็นเพียงยุทธศาสตร์ในการหาเสียงแบบเปิดเผยเท่านั้น
หรือกระทั่งสโลแกนที่ว่า “ประชาชนต้องมาก่อน” หรือ “สร้าง กทม. ให้เป็นเมืองน่าอยู่ระดับโลก” คงจะเป็นเพียงสโลแกนที่เปิดเผยได้เช่นเดียวกัน
แต่ทั้งหมดนั้นไม่ใช่ไม้ตายของประชาธิปัตย์แต่อย่างใด?
เข้าใจว่า
เมื่อถึงที่สุดแล้วประชาธิปัตย์คงคิดจะใช้เรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นไม้เด็ดในการโจมตีเพื่อดิสเครดิตคู่แข่งขันทางการเมือง เรื่องเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคอยสั่งการและบงการพรรคเพื่อไทย และหันมาขอความเห็นใจให้เลือกสุขุมพันธุ์เป็นผู้ว่าฯอีกสมัย
แต่วาทกรรมนี้ไม่น่าจะเวิร์กมากนัก และทำให้คนกรุงเทพฯมองว่าประชาธิปัตย์ยังก้าวข้ามไม่พ้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยการนำการเมืองระดับชาติมาปนกับการเมืองท้องถิ่น และยุทธศาสตร์การใช้วาทกรรมโจมตีว่าทักษิณอยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อไทยนั้นคงไม่อาจทำให้ประชาธิปัตย์เอาชนะการเลือกตั้งจนเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้อย่างง่ายดาย ทั้งนี้ เพราะว่า
แผลของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์นั้นมีมากมายเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรถไฟฟ้า BTS เรื่องทุจริตอุโมงค์ยักษ์ เรื่องความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เรื่องความชักช้าในการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตั้งแต่ปี 2554 ที่รัฐบาลจ่ายเงินให้กับ กทม. แต่ กทม. ก็ชักช้าจนเกิดการร้องเรียนขึ้นมา
สรุปแล้ววาทกรรมเรื่องทักษิณเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังนั้นคงไม่ทำให้ประชาธิปัตย์ลบรอยแผลเป็นของสุขุมพันธุ์ออกไปได้ และการวนเวียนอยู่กับวาทกรรมเดิมๆเช่นนี้ทำให้ประชาธิปัตย์คงจะต้องพ่ายแพ้กับการเลือกตั้งในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในท้ายที่สุด
นี่เป็นเรื่องที่สามารถมองกันล่วงหน้าได้ และจะกลายเป็นความปราชัยที่ประชาธิปัตย์ก้าวข้ามไม่พ้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เฉกเช่นเดียวกับการเมืองระดับชาติ ถ้าประชาธิปัตย์ยังคงวนเวียนอยู่กับทักษิณเหมือนเดิม อนาคตคงไม่พ้นแบบฉบับเดียวกับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอย่างแน่นอน!
http://www.dailyworldtoday.com/columblank.php?colum_id=80885
**********************************************************************
แมงสาบไม่ยอมเปลี่ยนแปลง
ปชป.ปลุกผี‘ทักษิณ’!หวัง‘สุขุมพันธุ์’เป็นผู้ว่าฯอีกสมัย
สังเกตได้จากการมีข่าวสารเกี่ยวกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ได้เจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณเพื่อให้ผลักดันตัวเองเป็นผู้สมัครลงแข่งขันชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นกระแสข่าวก่อนที่จะมีการสรุปส่ง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เป็นตัวแทนของพรรค หรือกระแสข่าวต่อมาที่มีการปล่อยข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณพูดว่าจะส่งใครก็ได้แม้กระทั่งเสาไฟฟ้า พรรคเพื่อไทยยังสามารถชนะการเลือกตั้งในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ได้!
ทั้ง 2 กระแสข่าวนี้สามารถเชื่อมโยงและมองได้ว่าเป็นการจงใจปล่อยข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์เพื่อดิสเครดิตผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ เพื่อชี้ให้ประชาชนทั่วไปเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณนั้นเป็นผู้อยู่เบื้องหลังทุกการกระทำของพรรคเพื่อไทย และยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังผู้สมัครชิงชัยตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคเพื่อไทยด้วยเช่นกัน
เช่นนี้จึงเข้าใจเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากต้องระบุว่าประชาธิปัตย์ต้องการปลุกผีทักษิณขึ้นมาอีกครั้ง และใช้ตรงนี้เป็นจุดโจมตีว่ามีทักษิณเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง โดยหวังว่าตรงนี้จะกลายเป็นไม้เด็ดทำให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร กลับมาเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอีกสมัย!
ทั้งนี้ สะท้อนว่าประชาธิปัตย์ไม่อาจคิดนโยบายใหม่ๆในการหาเสียงขึ้นมาได้ ยังคงใช้ยุทธศาสตร์และยุทธวิธีเดิมๆที่ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย และยังคงวนเวียนอยู่กับวาทกรรมเก่าๆที่เคยใช้ได้ผลเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาแล้ว แต่ในยุคที่ประชาชนเริ่มเห็นแสงสว่าง วาทกรรมเก่าๆเหล่านั้นอาจจะไร้ผลใดๆเลยก็ได้ และเมื่อถึงยุคหนึ่งที่ประชาชนคิดเป็น ผลสะท้อนจะตอบกลับไปยังพรรคประชาธิปัตย์เองเหมือนอย่างบูมเมอแรงที่ย้อนเข้าหาตัว
ถ้าพิจารณาตามสโลแกนการหาเสียงของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ในหลายๆสโลแกน เช่น สโลแกนที่บอกว่า “รัก กทม. ให้ร่วมกันสร้าง กทม. โดยการเลือกสุขุมพันธุ์เป็นผู้ว่าฯ กทม.” นั่นเป็นเพียงยุทธศาสตร์ในการหาเสียงแบบเปิดเผยเท่านั้น
หรือกระทั่งสโลแกนที่ว่า “ประชาชนต้องมาก่อน” หรือ “สร้าง กทม. ให้เป็นเมืองน่าอยู่ระดับโลก” คงจะเป็นเพียงสโลแกนที่เปิดเผยได้เช่นเดียวกัน
แต่ทั้งหมดนั้นไม่ใช่ไม้ตายของประชาธิปัตย์แต่อย่างใด?
เข้าใจว่าเมื่อถึงที่สุดแล้วประชาธิปัตย์คงคิดจะใช้เรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นไม้เด็ดในการโจมตีเพื่อดิสเครดิตคู่แข่งขันทางการเมือง เรื่องเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคอยสั่งการและบงการพรรคเพื่อไทย และหันมาขอความเห็นใจให้เลือกสุขุมพันธุ์เป็นผู้ว่าฯอีกสมัย
แต่วาทกรรมนี้ไม่น่าจะเวิร์กมากนัก และทำให้คนกรุงเทพฯมองว่าประชาธิปัตย์ยังก้าวข้ามไม่พ้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยการนำการเมืองระดับชาติมาปนกับการเมืองท้องถิ่น และยุทธศาสตร์การใช้วาทกรรมโจมตีว่าทักษิณอยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อไทยนั้นคงไม่อาจทำให้ประชาธิปัตย์เอาชนะการเลือกตั้งจนเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้อย่างง่ายดาย ทั้งนี้ เพราะว่าแผลของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์นั้นมีมากมายเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรถไฟฟ้า BTS เรื่องทุจริตอุโมงค์ยักษ์ เรื่องความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เรื่องความชักช้าในการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตั้งแต่ปี 2554 ที่รัฐบาลจ่ายเงินให้กับ กทม. แต่ กทม. ก็ชักช้าจนเกิดการร้องเรียนขึ้นมา
สรุปแล้ววาทกรรมเรื่องทักษิณเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังนั้นคงไม่ทำให้ประชาธิปัตย์ลบรอยแผลเป็นของสุขุมพันธุ์ออกไปได้ และการวนเวียนอยู่กับวาทกรรมเดิมๆเช่นนี้ทำให้ประชาธิปัตย์คงจะต้องพ่ายแพ้กับการเลือกตั้งในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในท้ายที่สุด
นี่เป็นเรื่องที่สามารถมองกันล่วงหน้าได้ และจะกลายเป็นความปราชัยที่ประชาธิปัตย์ก้าวข้ามไม่พ้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เฉกเช่นเดียวกับการเมืองระดับชาติ ถ้าประชาธิปัตย์ยังคงวนเวียนอยู่กับทักษิณเหมือนเดิม อนาคตคงไม่พ้นแบบฉบับเดียวกับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอย่างแน่นอน!
http://www.dailyworldtoday.com/columblank.php?colum_id=80885
**********************************************************************
แมงสาบไม่ยอมเปลี่ยนแปลง