JJNY : “อ.ปริญญา”มอง “ทักษิณ”อาจถูกร้องครอบงำพรรค│ศูนย์ทนายฯจี้ราชทัณฑ์│ไทยมีฝนเพิ่มขึ้น│โรงแรมยูเครนโดนมิสไซล์โจมตี

“อ.ปริญญา” มอง บทบาท “ทักษิณ” เหมือนนายกฯ ตัวจริง อาจถูกร้องครอบงำพรรค
https://www.thairath.co.th/news/politic/2810461

 
“อ.ปริญญา” มอง บทบาท “ทักษิณ” เหมือนนายกฯ ตัวจริง อาจถูกร้องครอบงำพรรค นำไปสู่การถูกร้องยุบพรรคได้ แนะ “ครม.แพทองธาร 1” ไม่ควรช้า ชี้ อาจเป็นเกมการเมืองของอดีตนายกฯ กับคนบ้านป่ารอยต่อ
 
วันที่ 25 สิงหาคม 2567 ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ในแง่จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) มีจำนวนมาก ดูเหมือนรัฐบาลมีเสถียรภาพเพียงพอ แต่ต้องไปดูที่ตอนตั้ง ครม. เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะทูลเกล้าฯ เสนอชื่อใคร อีกทั้งจะเห็นได้ว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยเดินเกมเร็ว ไม่มีการเจรจาตำแหน่งเก้าอี้รัฐมนตรีกับพรรคร่วมรัฐบาลก่อนโหวตนายกรัฐมนตรี ซึ่งปัญหาจะไม่มีอะไรหากไม่มีความขัดแย้งหรือแตกแยกในพรรคเดิม ซึ่งการไม่ได้ตกลงกันไว้ก่อนทำให้เกิดอำนาจในการสร้างทีมว่าจะเลือกใครอยู่ใน ครม.บ้าง จึงเป็นเรื่องการเมืองที่เป็นปัญหาของ น.ส.แพทองธาร ว่าจะตัดสินใจอย่างไรกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แต่เรื่องเสียง สส.ในสภาผู้แทนราษฎร ไม่มีปัญหา เพราะมีพรรคประชาธิปัตย์ที่มารอเติมเสียงอยู่
 
ส่วนที่หลายคนวิเคราะห์ว่าปัญหาการจัด ครม.ในครั้งนี้ เป็นเกมเอาคืนของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อ พล.อ.ประวิตร หรือไม่นั้น ผศ.ดร.ปริญญา ให้ความเห็นว่า นายกรัฐมนตรีคือ น.ส.แพทองธาร ควรมีอิสระในการตัดสินใจ แน่นอนว่าการปรึกษาคนในครอบครัวก็เป็นเรื่องปกติ แต่หากพูดกันตรงๆ มันคือเรื่องการเมืองที่นายทักษิณ จะตัดสินใจว่าจะปรองดองกับ พล.อ.ประวิตร หรือไม่ หากปรองดองก็จะทำให้การประกาศอิสรภาพของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดูแปลก ซึ่งเป็นเรื่องที่นายทักษิณ จะตัดสินใจว่าจะเอา ร.อ.ธรรมนัส แล้วไม่เอา พล.อ.ประวิตร ครม. หน้าตาก็จะออกมาเป็นอีกแบบหนึ่ง จึงถือเป็นเรื่องการเมืองระหว่างนายทักษิณ กับคนบ้านป่ารอยต่อ 
 ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
 
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า ในการแสดงวิสัยทัศน์ของ นายทักษิณ เป็นไปได้หรือไม่ที่จะตัดสัมพันธ์กับ พล.อ.ประวิตร โดย ผศ.ดร.ปริญญา ตอบว่า เรื่องนี้จะต้องไปถามท่าทีของ นายทักษิณ ว่ายังคงยืนตามเหมือนวันที่ไปพูดบนเวทีแสดงวิสัยทัศน์หรือไม่ หากตามท่าทีที่ผ่านมาก็เห็นได้ชัดว่า นายทักษิณ ไม่ได้เลือก พล.อ.ประวิตร แล้ว จึงมีการออกมาของ ร.อ.ธรรมนัส พร้อมกับ สส.อีกกว่า 20 คน และต้องไปรอดูว่า ครม. จะทูลเกล้าฯ เมื่อใด และการตั้ง ครม. ก็ไม่ควรช้า เพราะ ครม.รักษาการ ก็ไม่ควรทำหน้าที่ต่อไปเรื่อยๆ เนื่องจากตอนนี้เราได้นายกรัฐมนตรีแล้ว เป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยควรจะรีบทำให้จบโดยเร็ว  
 
ขณะที่คำถามว่าบทบาทของ นายทักษิณ ที่ออกมาจนอาจจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเข้าข่ายครอบงำพรรค จะส่งผลอย่างไรต่อการเมืองไทยในอนาคต ผศ.ดร.ปริญญา ระบุว่า จริงๆ ไม่ใช่อาจจะถูกวิจารณ์ แต่มีผู้วิจารณ์แล้ว ซึ่งนายทักษิณ ก็ออกมาตอบแล้วว่าไม่ได้ครอบงำ แต่เป็นครอบครอง ก็คงเป็นมุกตลกไป ตนไม่ทราบว่า นายทักษิณ ได้คิดถึงเรื่องนี้หรือไม่ เพราะบทบาทของ นายทักษิณ เหมือนกับนายกรัฐมนตรีตัวจริง และ น.ส.แพทองธาร ไม่ทำให้เห็นว่าเป็นอิสระ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเรื่องนี้อยู่ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เกี่ยวกับเรื่องครอบงำพรรคการเมือง ที่อาจนำไปสู่การถูกร้องยุบพรรคได้ และไม่ทราบว่าพรรคเพื่อไทยได้เตรียมการเรื่องนี้ไว้อย่างไร 
 
นอกจากนี้ จะต้องไปดูตอนรัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่าสิ่งที่ น.ส.แพทองธาร แถลง เหมือนหรือต่างกับที่ นายทักษิณ พูดบนเวทีแสดงวิสัยทัศน์หรือไม่เพียงใด หาก น.ส.แพทองธาร ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็อาจจะอ้างได้ว่า นายทักษิณ พูดเพื่อช่วยนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อ น.ส.แพทองธาร เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็ไม่รู้ว่าจะแยกเรื่องนี้ออกจากกันได้อย่างไร จึงเป็นโจทย์ที่คนที่ยังมีเรื่องติดใจ นายทักษิณ ไปร้องก็เป็นไปได้ 
 
ในตอนท้ายผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ครม.แพทองธาร ควรมีพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ผศ.ดร.ปริญญา เผยว่า เรื่องนี้จะต้องไปถามพรรคเพื่อไทย เสียงของรัฐบาลในตอนนี้มีเพียงพอแล้ว แต่อาจจะเป็นการเมืองในการตัดกำลังของฝ่ายค้านให้น้อยลง หากฝ่ายค้านมีเสียงน้อย รัฐบาลก็จะยิ่งเข้มแข็ง และอาจจะมองไปสู่การเลือกตั้งคราวหน้า ยิ่งคู่แข่งมีปัญหามากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นผลดีกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ก็ต้องติดตามดูกันต่อไป.
 


บุ้ง เนติพร เสียชีวิตครบ 100 วัน ศูนย์ทนายฯจี้ราชทัณฑ์ เร่งเผยรายงานข้อเท็จจริงการตาย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4755637

บุ้ง เนติพร เสียชีวิตครบ 100 วัน ศูนย์ทนายฯแถลงการณ์จี้ราชทัณฑ์ เร่งเผยรายงานข้อเท็จจริงการตาย แถลงต่อสาธารณะเพื่อความโปร่งใส หวัง รบ.จริงใจแก้ปัญหาคดีทางการเมือง

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ออกแถลงการณ์ 100 วันการเสียชีวิตของ “บุ้ง” เนติพร ไร้ความจริง ไร้ความยุติธรรม พร้อม 3 ข้อเรียกร้องถึง 1.พนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ 2.กรมราชทัณฑ์ และ 3.รัฐบาล ความดังนี้

การเสียชีวิตของ “บุ้ง” เนติพร จำเลยคดีมาตรา 112 กรณีการทำโพลขบวนเสด็จ เกิดขึ้นภายหลังจากศาลอาญากรุงเทพใต้ถอนประกันเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 ซึ่งต่อมา บุ้ง เนติพร ได้อดอาหารเพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวและเรียกร้องการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และได้ถูกนำตัวไปรักษาอยู่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ จนกระทั่ง บุ้ง เนติพร เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ปัจจุบันเป็นเวลา 100 วัน ของการเสียชีวิตข้อเท็จจริงยังคลุมเครือว่าสาเหตุการตายเนื่องจากสาเหตุใด แพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ให้ความช่วยเหลือได้ถูกต้องตามมาตรฐานแล้วหรือไม่
 
การเสียชีวิตดังกล่าวเป็นการตายระหว่างการควบคุมตัวของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 148 และมาตรา 150 กำหนดให้มีการชันสูตรพลิกศพ และทำสำนวนการชันสูตรพลิกศพภายในเวลา 30 วัน และขยายได้ไม่เกินสองครั้ง ครั้งละไม่เกินสามสิบวัน และโดยพนักงานอัยการมีหน้าที่ยื่นคำร้องให้ศาลทำการไต่สวนการตายว่า ผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใด เหตุและพฤติการณ์ที่ตาย และใครเป็นผู้กระทำ
 
อย่างไรก็ตาม เป็นระยะเวลาหนึ่งร้อยวันแล้ว แต่ยังมิได้เริ่มกระบวนการในการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้มีการไต่สวนการตาย ทั้งสำนวนยังถูกจัดทำโดยสถานีตำรวจภูธรคลองหลวงทั้งที่ความปรากฏว่า บุ้ง เนติพร เสียชีวิตตั้งแต่ก่อนถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติแล้ว พื้นที่ความรับผิดชอบควรเป็นสถานที่เสียชีวิตคือทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
 
ทั้งนี้ คู่ขนานไปกับกระบวนการทางกฎหมาย ภายหลังการเสียชีวิตของเนติพร กรมราชทัณฑ์ สังกัดกระทรวงยุติธรรมได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของเนติพร แต่ตลอดระยะ 100 วันที่ผ่านมา ทางญาติและทนายความยังไม่ได้รับแจ้งถึงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ากระบวนการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้วหรือไม่ และมีข้อสรุปว่าอย่างไรทั้งที่กรมราชทัณฑ์นั้นเป็นผู้ที่มีข้อมูลอยู่ในมือ
 
ในด้านคดีทางการเมืองภายหลังการเสียชีวิตของ บุ้ง เนติพร ยังมีผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมืองเข้าเรือนจำโดยไม่ได้รับสิทธิในการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการสู้คดีอย่างต่อเนื่อง จนมีผู้ต้องขังคดีการเมืองกว่า 42 ราย โดยใน 42 รายเป็นผู้ต้องขังคดีมาตรา 112 จำนวน 28 ราย และใน 42 ราย เป็นผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณาคดีถึง 20 ราย กระบวนการนิรโทษกรรมยังไม่เริ่มต้น และยังไม่มีข้อสรุปว่าจะมีการนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 หรือไม่
ในวาระครบรอบ 100 วัน ของการเสียชีวิตของบุ้ง เนติพร ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ขอแสดงความเสียใจและยืนหยัดเป็นกำลังใจให้ครอบครัวบุ้ง เนติพร และขอเรียกร้องให้
 
1.พนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ เร่งรัดกระบวนการจัดทำสำนวนชันสูตร พลิกศพ และยื่นคำร้องไต่สวนการตายต่อศาลอาญา ซึ่งเป็นศาลที่มีเขตอำนาจเหนือสถานที่ตายของเนติพรที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
 
2.กรมราชทัณฑ์ เร่งเปิดเผยรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตของบุ้ง เนติพร ต่อญาติ ทนายความ และสาธารณะเพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้ และเพื่อป้องกันมิให้มีผู้ต้องขังคนใดต้องเสียชีวิตในความควบคุมของกรมราชทัณฑ์อีก
 
3.รัฐบาล แสดงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาคดีทางการเมือง โดยการสนับสนุนให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องขังคดีซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา เร่งรัดการนิรโทษกรรมโดยรวมทุกฝ่ายของความขัดแย้ง และรวมถึงคดีมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา
 
ด้วยความเคารพต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

https://www.facebook.com/lawyercenter2014/posts/pfbid033HSwv6NzNHiLFVyQN2iaig9PkDtNFPpp53Jr8qzmRbFZzSWxTKbw9zS5jazCaJWol
 

 
สภาพอากาศวันนี้ กรมอุตุฯ เตือนประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง กทม. โดน 60%
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/2810529

กรมอุตุนิยมวิทยา เผยประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนบน และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
สภาพอากาศวันนี้ 26 ส.ค. 2567
 
พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือตอนบนและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย เริ่มมีกำลังแรงขึ้นเป็นกำลังปานกลาง
 
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนตั้งแต่จังหวัดพังงาขึ้นมา และอ่าวไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
 
สภาพอากาศกรุงเทพฯ และปริมณฑล
 
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
 
สภาพอากาศภาคเหนือ
 
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส  
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
...
 
คำเตือน : ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
 
สภาพอากาศภาคกลาง
 
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครปฐม และสมุทรสาคร
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่