ที่ว่าเก่งนักเก่งหนา มาเหนือเมฆ แต่เหนือเมฆยังมีเครื่องบินที่ขับโดย รปภ.
กรรมกำลังตามสนอง ใครมีประโยชน์ก็ยังใช้อยู่ หมดประโยชน์ก็เขี่ยทิ้ง
นับถือคนวางหมากในการกำจัดพรรคเพื่อไทยและทักษิณ ตั้งแต่การให้พรรคเพื่อไทยตระบัดสัตย์ และสามารถนำทักษิณเดินทางกลับประเทศไทย เข้าสู่กระบวนการทางศาล และยอมรับเองว่ากระทำความผิดจริง
ทำเหมือนสยบยอมให้ทักษิณทุกอย่างไม่ต้องติดคุกแม้แต่เพียงวันเดียว เพื่อให้หึกเหิมว่าจะทำอย่างไรก็ได้ และก็เป็นไปตามนั้น
ทักษิณและพรรคเพื่อไทยค่อยๆก้าวเข้าไปติดบ่วงแหที่ยิ่งดิ้นยิ่งแน่น โดยไม่รู้ตัวเพราะคิดว่าอำนาจบริหารประเทศอยู่ในมือและมีประชาชนคนเสื้อแดงหนุน(แต่ลืมไปว่าสิ่งที่กระทำต่อเนื่องกันมา ทำร้ายทำลายจิตใจคนเสื้อแดงไปเป็นจำนวนมาก)
เพื่อไทยคิดว่ามีพรรคก้าวไกล ปัจจุบันเป็นพรรคประชาชน ( ชื่อนี้ไม่เป็นที่น่าจดจำเพราะเป็นคำทั่วไปที่ไม่โดดเด่น ไม่รู้คิดมาได้อย่างไร )เป็นพรรคที่คอยกดดันให้อีกฝ่ายต้องยอมเพราะกลัวหันไปจับมือกัน
คงคิดไม่ถึงว่าที่เขากลัวจริงๆคือพรรคเพื่อไทยที่ไม่สามารถทำลายได้ง่ายๆ แม้จะถูกยุบถูกยึดอำนาจ ขุนถูกเตะออกนอกกระดานแต่ยังควบคุมพรรคให้มีสส.มาเป็นอันดับ 1 ได้ทุกครั้งที่เลือกตั้ง
มาครั้งนี้แหละที่พลาดมาเป็นอันดับสอง โอกาสในการวางหมากกลเพื่อทำลายอย่างแยบยลจึงเกิดขึ้นเป็นไปตามที่ผ่านมาเป็นขั้นเป็นตอน
ครั้งนี้เชื่อว่าเพื่อไทยถูกยุบแน่พร้อมเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค ข้อหาถูกครอบงำโดยบุคคลอื่นที่ไม่ใข่สมาชิกพรรค
ไม่เพียงเท่านี้ บุคคลผู้ไม่ใช่สมาชิกพรรคเข้ามาควบคุมครอบงำ มีโทษจำคุก 5-10 ปี
ถ้าคิดว่าไม่กล้ายุบเพราะพรรคอื่นจะต้องถูกยุบด้วยข้อหาเดียวกันทำให้การเมืองวุ่นวาย ขอบอกว่าพรรคอื่นไม่ได้ถูกครอบงำ ที่ไปร่วมประชุมเพราะพรรคเพื่อไทยเชิญไป ไม่มีใครมาครอบงำชี้นำ
ถามว่ามีหลักฐานไหม แค่พฤติกรรมตั้งแต่ออกจาก ร.พ.จนถึงวันที่ไปประชุมกันที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เรื่องการตั้งพิชิตเป็น รมต. ก็ทำให้เชื่อได้ว่าพรรคเพื่อไทยถูกครอบงำโดยทักษิณ
เชื่อได้ว่านี่คือ อวสานของทักษิณและพรรคเพื่อไทย
ปล.เมื่อเพื่อไทยถูกยุบ ทักษิณติดคุก คาดว่า สส.คงกระจัดกระจายไม่รวมกันตั้งพรรคใหม่เหมือนทุกครั้ง
ช่วงนี้ต่อมมโน เริ่มกลับมาทำงาน อย่าว่ากันเลยนะ
เซลล์แมนอวสานไปแล้ว ต่อไปอวสานทักษิณ
กรรมกำลังตามสนอง ใครมีประโยชน์ก็ยังใช้อยู่ หมดประโยชน์ก็เขี่ยทิ้ง
นับถือคนวางหมากในการกำจัดพรรคเพื่อไทยและทักษิณ ตั้งแต่การให้พรรคเพื่อไทยตระบัดสัตย์ และสามารถนำทักษิณเดินทางกลับประเทศไทย เข้าสู่กระบวนการทางศาล และยอมรับเองว่ากระทำความผิดจริง
ทำเหมือนสยบยอมให้ทักษิณทุกอย่างไม่ต้องติดคุกแม้แต่เพียงวันเดียว เพื่อให้หึกเหิมว่าจะทำอย่างไรก็ได้ และก็เป็นไปตามนั้น
ทักษิณและพรรคเพื่อไทยค่อยๆก้าวเข้าไปติดบ่วงแหที่ยิ่งดิ้นยิ่งแน่น โดยไม่รู้ตัวเพราะคิดว่าอำนาจบริหารประเทศอยู่ในมือและมีประชาชนคนเสื้อแดงหนุน(แต่ลืมไปว่าสิ่งที่กระทำต่อเนื่องกันมา ทำร้ายทำลายจิตใจคนเสื้อแดงไปเป็นจำนวนมาก)
เพื่อไทยคิดว่ามีพรรคก้าวไกล ปัจจุบันเป็นพรรคประชาชน ( ชื่อนี้ไม่เป็นที่น่าจดจำเพราะเป็นคำทั่วไปที่ไม่โดดเด่น ไม่รู้คิดมาได้อย่างไร )เป็นพรรคที่คอยกดดันให้อีกฝ่ายต้องยอมเพราะกลัวหันไปจับมือกัน
คงคิดไม่ถึงว่าที่เขากลัวจริงๆคือพรรคเพื่อไทยที่ไม่สามารถทำลายได้ง่ายๆ แม้จะถูกยุบถูกยึดอำนาจ ขุนถูกเตะออกนอกกระดานแต่ยังควบคุมพรรคให้มีสส.มาเป็นอันดับ 1 ได้ทุกครั้งที่เลือกตั้ง
มาครั้งนี้แหละที่พลาดมาเป็นอันดับสอง โอกาสในการวางหมากกลเพื่อทำลายอย่างแยบยลจึงเกิดขึ้นเป็นไปตามที่ผ่านมาเป็นขั้นเป็นตอน
ครั้งนี้เชื่อว่าเพื่อไทยถูกยุบแน่พร้อมเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค ข้อหาถูกครอบงำโดยบุคคลอื่นที่ไม่ใข่สมาชิกพรรค
ไม่เพียงเท่านี้ บุคคลผู้ไม่ใช่สมาชิกพรรคเข้ามาควบคุมครอบงำ มีโทษจำคุก 5-10 ปี
ถ้าคิดว่าไม่กล้ายุบเพราะพรรคอื่นจะต้องถูกยุบด้วยข้อหาเดียวกันทำให้การเมืองวุ่นวาย ขอบอกว่าพรรคอื่นไม่ได้ถูกครอบงำ ที่ไปร่วมประชุมเพราะพรรคเพื่อไทยเชิญไป ไม่มีใครมาครอบงำชี้นำ
ถามว่ามีหลักฐานไหม แค่พฤติกรรมตั้งแต่ออกจาก ร.พ.จนถึงวันที่ไปประชุมกันที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เรื่องการตั้งพิชิตเป็น รมต. ก็ทำให้เชื่อได้ว่าพรรคเพื่อไทยถูกครอบงำโดยทักษิณ
เชื่อได้ว่านี่คือ อวสานของทักษิณและพรรคเพื่อไทย
ปล.เมื่อเพื่อไทยถูกยุบ ทักษิณติดคุก คาดว่า สส.คงกระจัดกระจายไม่รวมกันตั้งพรรคใหม่เหมือนทุกครั้ง
ช่วงนี้ต่อมมโน เริ่มกลับมาทำงาน อย่าว่ากันเลยนะ