ขอบคุณทุกคนครับ!ผมจะสู้ต่อไป nuishow กล่าวไว้ ใน Thailand Game Show 2013

ขอบคุณทุกคนครับ!ผมจะสู้ต่อไป
อ้างอิง :[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ผมขออนุญาต Quote เอามาวางที่นี่ด้วยนะครับ และขออนุญาติ ขีดเส้น ประเด็นที่น่าสนใจครับ

ขอบคุณทุกคนครับ! ผมจะสู้ต่อไป : คอลัมน์ หนุ่ยรู้-โลกรู้ โดย... หนุ่ย พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์@nuishow
          ผมดีใจที่ได้ปิดต้นฉบับตอนเวลา 16.30 น.ของวันเสาร์ที่ 12 ที่ผ่านมา เพราะหากผมปิดต้นฉบับตอนวันศุกร์ตามที่กอง บก.ร้องขอ ผมคงมีความรู้สึกแบบเก่ามาเล่าให้อ่าน
          หลังจากสัปดาห์ก่อนที่ผมเขียนคอลัมน์นี้ โดยจั่วหัวว่า "...ไทยแลนด์เกมโชว์ (ครั้งสุดท้าย?)" (กรุณาสังเกตเครื่องหมายคำถามด้วยนะครับ) หลายท่านได้แสดงความเป็นห่วง โพสต์เข้ามาถามไถ่ใน Twitter และ Facebook บางท่านถึงกับไปตั้งกระทู้วิเคราะห์ใน ppantip.com แบบร้ายๆ (ซึ่งบอกความจริงให้ว่าคุณวิเคราะห์ได้มั่วมากครับ)

อ้างอิงกระทู้ที่ผมตั้งแหง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

          แต่หลายท่านที่พอทราบเรื่องราวก็กรุณาทำความจริงให้ปรากฏให้บ้าง ขอบคุณนะครับ ยิ้ม

แล้วอันไหนคือความจริงครับ

          สาเหตุว่าทำไมผมถึงคิดจะเลิกจัดงานไทยแลนด์เกมโชว์ มหกรรมเด็กเล่นเกมของทุกคนในครอบครัว ที่ฝ่าฟันมาถึง 7 ปีแล้ว และภาพของงานก็ออกมาในระดับที่ดูดีมากๆ คนเยอะมากมหาศาล งานโชว์เป็นที่ชื่นชอบทั้งจากภาครัฐที่บุคคลระดับรัฐมนตรี-ผู้อำนวยการต่าง เอ่ยปากชมมาโดยตลอด
          หนึ่งเลยคือ "ตรากตรำ" ..ความเหนื่อยมันไม่ใช่เรื่องที่ผมกลัวเลยครับ ชีวิตการทำงานผมไม่เคยโรยด้วยกลีบกุหลาบ ต้องทำงานยาก-งานเหนื่อยตลอดจึงจะได้ตังค์ ฉะนั้นผมไม่กลัวเลยกับความเหนื่อย...แต่ความ "ตรากตรำ" ที่ได้รับจากการทำงานไทยแลนด์เกมโชว์ในปีนี้คือสิ่งที่ผมต้องคิดทบทวนว่า กำลังพาชีวิตและบริษัทลงเหวรึเปล่า?
          ผมเข้าสู่ธุรกิจรับจ้างจัดงานตั้งแต่ปี 2000 โดยได้รับความเอ็นดูเรียกใช้สอยจากผู้ใหญ่ที่เห็นในฝีมือ รายได้ที่เข้ามาสร้างฐานให้บริษัทที่เคยมีพื้นที่เพียง 29 ตร.ม. มีสำนักงานที่ใหญ่ขึ้น-ทีมงานมากขึ้น-มีแผนกงานครบครัน เมื่อมีความสามารถในการลงทุนก็เริ่มปรับเปลี่ยนธุรกิจจากรับจ้างผลิตกลาย เป็น Promoter คือไปกว้านซื้อ(เช่า)พื้นที่จัดนิทรรศการขนาดใหญ่แล้วซอยพื้นที่ขายให้ผู้สน ใจออกบูธ เรียกง่ายๆ คือเป็นเจ้าของงานเอง
          ผมสร้างงานใหญ่นี้เป็นครั้งแรกในปี 2007 ขาดทุนไป 3 ล้านแบบไร้คนร่วมหาร คนที่เคยเป็นเพื่อนก็ตบไหล่ให้คิดซะว่ามันคือการลงทุน (..ใช่ครับการลงทุนมีความเสี่ยงนี่เนาะ ยิ้ม บริษัทเล็กๆ ขาดทุน 3 ล้านทำผมเกือบล่มสลาย ผมกลับมารับจ้างผลิตอีกหลายปีเพราะต้องการรายได้มาจุนเจือแผลที่เปิดกว้าง แต่ระหว่างช่วงเวลานั่นก็ยังกัดฟันจัดงานไทยแลนด์เกมโชว์ให้ต่อเนื่องทุกปี ไม่ให้ขาดช่วง เพื่อให้ "ชื่องาน" ติดอยู่ในหัวใจของผู้คน และอีกเหตุผลที่เป็น Passion ส่วนตัวคือ "เพื่อยกระดับวงการเกม" ไม่ให้ใครมาดูถูก และส่งมันให้ถึงดวงดาว ให้ประเทศไทยมีอุตสาหกรรมความคิดสร้างสรรค์เป็นสินค้าเด่น
          การจัดงานปีที่ 2 ผมพออุดแผลขาดทุนได้ แต่ไม่มีกำไร...ปีที่ 3 เริ่มได้กำไร และเริ่มหารกำไรไปสู่พาร์ทเนอร์ ปีที่ 4 ยังได้กำไรอยู่ ปีที่ 5 ปรากฏ เฮ้ย ขาดทุน! แต่พาร์ทเนอร์ยังมีกำไร เพราะค่าตกแต่งงาน, ประชาสัมพันธ์ผมออกเอง ปีที่ 6 เห็นร่วมกันว่าต้องย้ายที่ก็ย้ายมาจัดไบเทค พื้นที่ใหญ่โตมโหฬาร จึงเริ่ม Business Model ใหม่ด้วยฟีลลิ่งที่ดีต่อกันมากๆ กับพาร์ทเนอร์เดิม เพราะครั้งนี้รายได้จากสปอนเซอร์เขาจะได้ด้วย (นอกจากค่าพื้นที่ซึ่งได้อยู่แล้ว) แต่โมเดลนี้ตกลงกันว่า ค่าใช้จ่ายหารครึ่งนะ ขณะระหว่างเตรียมงาน "น้ำท่วมประเทศไทย" สปอนเซอร์หด ก็ต้องช่วยกันลดค่าใช้จ่าย ลดไปลดมาหงุดหงิดกัน พาร์ทเนอร์บอกถอนตัวซะดื้อๆ บรรยากาศในวงการเกมเริ่มระส่ำ ข่าวลือแบบผิดๆ ออกมาเพียบ แต่ผมทิ้งมันไม่ได้ ยังคงอดทนทำต่อไป ก็ต้องเดินสายสร้างความเชื่อมั่นกับค่ายเกมว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิม และมันก็ผ่านไปได้ดีจริงๆ ปีที่ 7 ได้พาร์ทเนอร์ใหม่คือเนชั่น ทำทุกอย่างแบบนับหนึ่งด้วยกัน เตรียมงาน 6 เดือน ช่วยเหลือกันแบบเต็มที่ แต่พาร์ทเนอร์เก่าก็ประกาศจัดงานชน วันเดียวกันในสถานที่เดิมที่เคยฮอต วงการระส่ำอีกรอบ เพราะไม่อยากเลือกข้าง รายใหญ่ขอให้ผมไปสงบศึกมาก่อน แล้วจะตัดสินใจ ผมมั่นใจแต่แรกว่าเขาขึ้นงานไม่ได้แน่ เพราะการทำงานแบบนี้มันไม่ง่าย ผมกลืนเลือดมาก่อน ผมรู้ว่ามันต้องใช้เงื่อนไขอะไรบ้าง สุดท้ายพาร์ทเนอร์ที่กลายเป็นศัตรูก็ไม่ได้จัดงานขึ้นมาจริงๆ แต่กว่าความจริงจะกระจ่าง หลายค่ายก็บอก "สายเกินไป-เตรียมงานไม่ทัน"
          ความตรากตรำที่ว่ามันก็ตรงนี้แหละครับ เราคนไทยมีน้ำใจต่อกัน แต่เราเป็นชนชาติที่มีข้อเสียคือ "เราไม่กล้าบอกปฏิเสธแต่ชอบปฏิเสธด้วยเวลา" ..กล่าวคือให้รอไปเรื่อยๆ จนระเบิดเวลาว่ามันไม่ได้ อีกข้อควรพิจารณาคือ "ความสามัคคี" ช่วงเวลาอึมครึมอาจเปิดโอกาสให้หลายคนคิดว่า น่าจะแยกไปจัดงานเอง แต่ "ไทยแลนด์เกมโชว์" มันเป็นชื่อเสียงของประเทศ มันจึงควรมาอยู่ด้วยกัน Stick Together นะครับ


          ผมเคยบอกเนชั่นว่า เราต้องล้มเลิกงานปีนี้ เพราะบูธค่ายเกมมาไม่มากพอ แต่สุดท้ายด้วยสติปัญญาและความกล้า เราก็ขึ้นงาน ขึ้นงานใหญ่ด้วยค่ายเกมเพียง 3 ค่าย และงบสนับสนุนจากภาครัฐที่ห่างจากราคาเปิดไปมาก ทุกคนมา...ทุกคนชม แต่คนไม่ได้มาก็ไปบ่นในเว็บต่อไปในเรื่องไม่เป็นจริง (เข้าขั้นดากดานนะครับมนุษย์พวกนี้) งานมีบริบทที่หลากหลายขึ้น หลายคนบอกแฮปปี้มากที่มีเครื่องเล่นและการ์ตูน ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือและยินดีกับความสำเร็จ
          ผมยังไม่สำเร็จหรอกครับ แต่ผมตัดสินใจแล้วว่าจะสู้ต่อ! ผมจะสร้างความสมานฉันท์ให้กลับมาและพัฒนาความสุขแห่งความคิดสร้างสรรค์นี้ ต่อไปให้ดีขึ้น
          ขอบคุณทุกๆ คนที่ไปร่วมสร้างปรากฏการณ์นี้ ที่ถึงแม้คุณไม่ใช่เกมเมอร์ แต่คุณก็มา มาเพื่อให้กำลังใจผม และขอบคุณที่พวกคุณบอกผมต่อหน้าให้ได้ทราบถึงเหตุผลแห่งความรักใคร่เอ็นดู นี้
          ขอบคุณคุณย่าอายุราว 70 ที่เดินเข้ามาแตะไหล่ให้กำลังใจผมในห้องอาหารของไบเทค เธอเปิดปากพูดคำแรกกับผมว่า "หายท้อรึยังคะ?...อย่าท้อนะ"
          ขอบคุณสปิริตไทยแลนด์เกมโชว์ของเหล่าคอสเพลเยอร์, เกมเมอร์และนักกีฬาอีสปอร์ตที่เดินหน้าท้าความฝันและทำให้ไทยแลนด์เกมโชว์มี สีสันตลอดมา
          ขอบคุณผู้บริหารค่ายเกม ini3, TOT, Playinter และ MOL/ZEST ที่เชื่อมั่นกันมาโดยตลอด ผมรู้ดีว่า การแตกหักของผมกับเขามันทำให้วงการมีปัญหา แต่ผมจะใช้สติปัญญาที่มีทั้งหมดของผมแก้ไขปัญหาและทำให้วงการพัฒนาเติบโต ขึ้นไปให้ได้ แต่เราต้อง Stick Together นะครับ! คนดีๆ รวมตัวกัน มันต้องได้ดีครับ ขอเพียงเราต้องเชื่อมั่นในความดี ยิ้ม
.......................................
(หมายเหตุ ขอบคุณทุกคนครับ! ผมจะสู้ต่อไป : คอลัมน์ หนุ่ยรู้-โลกรู้ โดย... หนุ่ย พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์@nuishow)





ผมก็ติดตามแบไต๋มาตลอด TGS คราวนี้ก็ได้ไปมาเมื่อวันศุกร์ เอาหางบัตรไปจับรางวัลได้ตัวหนังมาใบนึงด้วย

ด้วยรักและเป็นห่วงนะครับ

จากบทความของคุณ nuishow เนี่ยจะก่อดราม่าก็ได้เลยนะครับ แต่ขอปล่อยผ่านไปก็แล้วกัน  ยังมีความรู้สึกดี ๆ อยู่  ให้กำลังใจ เห็นว่าสู้ต่อ เราก็สนับสนุนต่อไป เห็นด้วยว่าเราควรมีงานใหญ่ ๆ ที่ stick together จะรอดูในฐานะผู้บริโภคต่อไปครับ

แก้ไขครั้งที่ 1 : ใส่ที่พิมพ์ตก และขีดเส้นที่ตกเล็กน้อย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่