บุรุษหลายฉายา ..... เลียบวิภาวดี .... กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม ....
นักการเมืองไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล
ทุกคนต่างถูกจอมซนปากบุกซุกปากบอนตั้งฉายาให้ทั้งสิ้น
ฉายาที่ตั้งให้นั้น บ้างก็สะท้อนบุคลิกของตัวนักการเมือง
บ้างก็สะท้อนอุปนิสัยที่เป็นตัวตนของแท้
บ้างก็สะท้อนถึงวิถีชีวิตของการไล่ล่าอำนาจ
บ้างก็สะท้อนผลกรรมที่ผู้นั้นกระทำต่อประเทศชาติและสังคมไทยอย่างไม่ถดถอย
ฉายาที่ถูกตั้ง นักไล่ล่าอำนาจบางรายอาจได้ฉายาเพียงหนึ่ง
บางรายได้ฉายาสองหรือสาม
บางรายได้ฉายามากมายเกินกว่านับจนจำฉายาไม่ได้หมดหรือแยกแยะไม่ได้ครบ
ตัวอย่างเช่น นายห้างตราดูไบ
เป็นนักไล่ล่าอำนาจที่ได้รับฉายามากมายเป็นกระบุงโกย
ชนิดนำมาแจงสี่เบี้ยทั้งวันไม่มีคำว่า “เกลี้ยงแล้ว”
ฉายาที่จอมซนปากบุกซุกปากบอนตั้งให้นายห้างนั้น มีทั้งฉายาในด้านลบ
และฉายาในด้านบวก ซึ่งขึ้นอยู่กับปูมหลังผู้ให้ฉายาว่า “เกลียดชังนายห้างเพียงไร”
หรือ “รักนายห้างเพียงไหน” และ “สอพลอนายห้างหมดใจหรือเปล่า?”
ฉายาที่ออกมาใน “ด้านบวก” ได้แก่ ฉายาเจ้าพ่อถือถือ
(เป็นฉายายุคนายห้างค้ามือถือโกยกำไรจนตู้เซฟปริ) ฉายาเจ้าพ่อดาวเทียม
ฉายาอัจฉริยะทางการตลาด และฉายาซือแป๋ประชานิยม เป็นต้น
ส่วนฉายา “อัศวินคลื่นลูกที่สาม”
ดูเหมือนบก.คนหนึ่งจากสื่อและแวกประชาชื่นเป็นผู้มอบให้
ซึ่งเป็นฉายาที่ถูกใจนายห้างเป็นพิเศษ และถูกใจนายหญิงเป็นที่สุด
ฉายาที่ระบุไม่ได้ว่า เป็น “ด้านลบ” หรือ “ด้านบวก”
ได้แก่ฉายาเจ้ามูลเมือง ฉายาเทพเจ้าของคนเสื้อแดง ฉายาเสี่ยเหลี่ยม ฉายาเฮียแม้ว
ฉายานายห้างตราดูไบ ฉายานกขมิ้น และฉายาคู่แฝดฮุนเซ็น เป็นต้น
ฉายาใน “ด้านลบ”
โดยผู้เกลียดชังนายห้างหรือผู้ไม่ชอบพฤติกรรมการไล่ล่าอำนาจของนายห้างเป็นผู้ตั้งให้
ประกอบไปด้วย ฉายาซือแป๋ธนาธิปไตย ฉายานักเลือกตั้งหัวใจฮิตเลอร์
และฉายานักสร้างภาพแห่งอาจสามารถ เป็นต้น
ส่วนนักสร้างจินตนาการที่ฝักใฝ่ในวรรณคดีไทยมักจะให้ฉายานายห้างเป็น
“ทศกัณฑ์” หัวหน้ายักษ์ที่ฆ่าไม่ตาย เพราะถอดหัวใจฝากไว้กับฤาษี หรือเป็น
“ชูชกยุคจรวด” มนุษย์ที่กินไม่รู้จักอิ่ม มีบ้างที่มอบฉายา “พี่ศรีธนญชัย”
ให้ในบางครั้ง
แน่นอนครับ แฟนพันธุ์แท้พงศาวดารจีนเรื่อง “สามก๊ก” บางราย จะมอบฉายา
“โจโฉ” ให้อย่างไม่ชักช้า โดยโจโฉเป็นอ๋องวุ้ยที่มีอำนาจเหนือกว่า ฮ่องเต้
เจ้าของวาทะระดับวรรคทองที่ลือลั่น “ข้าพร้อมจะทรยศคนทั้งโลก
แต่ไม่ยอมให้ใครในโลกทรยศข้า”
บางรายกลับให้ฉายาเป็น “ตั๋งโต๊ะ” ไปโน้น โดยตั๋งโต๊ะเป็นทรราชบ้านนอก
เป็นเจ้าเมืองซีหลง ได้ยกทัพเข้านครหลวงลกเอี๋ยงเพื่อปราบ 10 ขันที
หลังปราบได้แล้ว กลับยึดอำนาจจากฮ่องเต้ แล้วถอดถอนฮ่องเต้ออกจากบัลลังก์
ตั้งฮ่องเต้องค์ใหม่ที่ตั๋งโต๊ะสั่งได้ขึ้นมาแทน
จะเห็นได้ว่า ฉายาที่ผู้คนมอบให้แก่นายห้างนั้น บ่งบอกว่า
“ใครเกลียดชัง” และ “ใครรัก” นายห้าง จึงมีทั้งด้านบวกและด้านลบ
ถือเป็นเหรียญหลายด้านหรือภาพหลายมิติ แล้วแต่ผู้ดูจะมองนายห้างจากมุมไหน
แต่ที่ไม่ต้องมองเลย ได้ยินแต่เสียงเท่านั้นก็รู้ชัด นายห้างคือ
“บุรุษหลายฉายา” ของจริง
กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม
http://www.naewna.com/politic/columnist/4863
จะมีกี่ฉายาก็ไม่สำคัญ ...เพราะเขาคนนั้น...เป็นคนที่ได้รับการยอมรับว่า
เป็นผู้ที่ทำให้คนไทยรู้จักคำว่า "ประชาธิปไตย" มากขึ้น
เพื่อนๆ ลองมาหาฉายาของ "มาร์ค"กันบ้างก็ได้ ...
ดิฉันขอเริ่มก่อน "เทพบุตรประชาธิปไตย ผู้มีเสน่ห์สาธารณะ" คุณห่านป่า เป็นผู้ให้
"แนวหน้า" ด่าแม้ว ..แดก... ปู ...มาดูกัน
นักการเมืองไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล
ทุกคนต่างถูกจอมซนปากบุกซุกปากบอนตั้งฉายาให้ทั้งสิ้น
ฉายาที่ตั้งให้นั้น บ้างก็สะท้อนบุคลิกของตัวนักการเมือง
บ้างก็สะท้อนอุปนิสัยที่เป็นตัวตนของแท้
บ้างก็สะท้อนถึงวิถีชีวิตของการไล่ล่าอำนาจ
บ้างก็สะท้อนผลกรรมที่ผู้นั้นกระทำต่อประเทศชาติและสังคมไทยอย่างไม่ถดถอย
ฉายาที่ถูกตั้ง นักไล่ล่าอำนาจบางรายอาจได้ฉายาเพียงหนึ่ง
บางรายได้ฉายาสองหรือสาม
บางรายได้ฉายามากมายเกินกว่านับจนจำฉายาไม่ได้หมดหรือแยกแยะไม่ได้ครบ
ตัวอย่างเช่น นายห้างตราดูไบ
เป็นนักไล่ล่าอำนาจที่ได้รับฉายามากมายเป็นกระบุงโกย
ชนิดนำมาแจงสี่เบี้ยทั้งวันไม่มีคำว่า “เกลี้ยงแล้ว”
ฉายาที่จอมซนปากบุกซุกปากบอนตั้งให้นายห้างนั้น มีทั้งฉายาในด้านลบ
และฉายาในด้านบวก ซึ่งขึ้นอยู่กับปูมหลังผู้ให้ฉายาว่า “เกลียดชังนายห้างเพียงไร”
หรือ “รักนายห้างเพียงไหน” และ “สอพลอนายห้างหมดใจหรือเปล่า?”
ฉายาที่ออกมาใน “ด้านบวก” ได้แก่ ฉายาเจ้าพ่อถือถือ
(เป็นฉายายุคนายห้างค้ามือถือโกยกำไรจนตู้เซฟปริ) ฉายาเจ้าพ่อดาวเทียม
ฉายาอัจฉริยะทางการตลาด และฉายาซือแป๋ประชานิยม เป็นต้น
ส่วนฉายา “อัศวินคลื่นลูกที่สาม”
ดูเหมือนบก.คนหนึ่งจากสื่อและแวกประชาชื่นเป็นผู้มอบให้
ซึ่งเป็นฉายาที่ถูกใจนายห้างเป็นพิเศษ และถูกใจนายหญิงเป็นที่สุด
ฉายาที่ระบุไม่ได้ว่า เป็น “ด้านลบ” หรือ “ด้านบวก”
ได้แก่ฉายาเจ้ามูลเมือง ฉายาเทพเจ้าของคนเสื้อแดง ฉายาเสี่ยเหลี่ยม ฉายาเฮียแม้ว
ฉายานายห้างตราดูไบ ฉายานกขมิ้น และฉายาคู่แฝดฮุนเซ็น เป็นต้น
ฉายาใน “ด้านลบ”
โดยผู้เกลียดชังนายห้างหรือผู้ไม่ชอบพฤติกรรมการไล่ล่าอำนาจของนายห้างเป็นผู้ตั้งให้
ประกอบไปด้วย ฉายาซือแป๋ธนาธิปไตย ฉายานักเลือกตั้งหัวใจฮิตเลอร์
และฉายานักสร้างภาพแห่งอาจสามารถ เป็นต้น
ส่วนนักสร้างจินตนาการที่ฝักใฝ่ในวรรณคดีไทยมักจะให้ฉายานายห้างเป็น
“ทศกัณฑ์” หัวหน้ายักษ์ที่ฆ่าไม่ตาย เพราะถอดหัวใจฝากไว้กับฤาษี หรือเป็น
“ชูชกยุคจรวด” มนุษย์ที่กินไม่รู้จักอิ่ม มีบ้างที่มอบฉายา “พี่ศรีธนญชัย”
ให้ในบางครั้ง
แน่นอนครับ แฟนพันธุ์แท้พงศาวดารจีนเรื่อง “สามก๊ก” บางราย จะมอบฉายา
“โจโฉ” ให้อย่างไม่ชักช้า โดยโจโฉเป็นอ๋องวุ้ยที่มีอำนาจเหนือกว่า ฮ่องเต้
เจ้าของวาทะระดับวรรคทองที่ลือลั่น “ข้าพร้อมจะทรยศคนทั้งโลก
แต่ไม่ยอมให้ใครในโลกทรยศข้า”
บางรายกลับให้ฉายาเป็น “ตั๋งโต๊ะ” ไปโน้น โดยตั๋งโต๊ะเป็นทรราชบ้านนอก
เป็นเจ้าเมืองซีหลง ได้ยกทัพเข้านครหลวงลกเอี๋ยงเพื่อปราบ 10 ขันที
หลังปราบได้แล้ว กลับยึดอำนาจจากฮ่องเต้ แล้วถอดถอนฮ่องเต้ออกจากบัลลังก์
ตั้งฮ่องเต้องค์ใหม่ที่ตั๋งโต๊ะสั่งได้ขึ้นมาแทน
จะเห็นได้ว่า ฉายาที่ผู้คนมอบให้แก่นายห้างนั้น บ่งบอกว่า
“ใครเกลียดชัง” และ “ใครรัก” นายห้าง จึงมีทั้งด้านบวกและด้านลบ
ถือเป็นเหรียญหลายด้านหรือภาพหลายมิติ แล้วแต่ผู้ดูจะมองนายห้างจากมุมไหน
แต่ที่ไม่ต้องมองเลย ได้ยินแต่เสียงเท่านั้นก็รู้ชัด นายห้างคือ
“บุรุษหลายฉายา” ของจริง
กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม
http://www.naewna.com/politic/columnist/4863
จะมีกี่ฉายาก็ไม่สำคัญ ...เพราะเขาคนนั้น...เป็นคนที่ได้รับการยอมรับว่า
เป็นผู้ที่ทำให้คนไทยรู้จักคำว่า "ประชาธิปไตย" มากขึ้น
เพื่อนๆ ลองมาหาฉายาของ "มาร์ค"กันบ้างก็ได้ ...
ดิฉันขอเริ่มก่อน "เทพบุตรประชาธิปไตย ผู้มีเสน่ห์สาธารณะ" คุณห่านป่า เป็นผู้ให้