สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
อาจารย์เจษต้องลองเล่นเองครับ แล้วจะได้คำตอบว่า ระยะช่วงแขนของคน สั้นกว่าระยะช่วงขา
ไม่ต้องมีไม้ไผ่ก็เป็นแบบนี้ทุกคน กุญแจสำคัญก็คือ เอ็นของเข่า ขาคนมันจะดึงรั้งเอาไว้ครับ
ถ้าจะเอาให้ติดพื้นต้องยอม งอ เข่าเท่านั้น แล้วการเล่นทีละ 2-4 คน นี่แหละ มันทำให้ไม่อยากล้ม เมื่อไหร่ที่ยอมงอเข่าเพียงเดียว โอกาสที่คนนั้นจะหกล้มมีสูงมาก ดังนั้น จึงไม่มีใครยอม จนกว่าจะเหนื่อย หรือ ยอมก้มให้สุดตัว
ทดลองทำเองได้ครับ ไม้ไผ่เป็นเพียงเสน่ห์ให้คน หลงไปสนใจแทน
จริงๆแล้วมันเป็นหลัก Human factors and ergonomics
ไม่ต้องมีไม้ไผ่ก็เป็นแบบนี้ทุกคน กุญแจสำคัญก็คือ เอ็นของเข่า ขาคนมันจะดึงรั้งเอาไว้ครับ
ถ้าจะเอาให้ติดพื้นต้องยอม งอ เข่าเท่านั้น แล้วการเล่นทีละ 2-4 คน นี่แหละ มันทำให้ไม่อยากล้ม เมื่อไหร่ที่ยอมงอเข่าเพียงเดียว โอกาสที่คนนั้นจะหกล้มมีสูงมาก ดังนั้น จึงไม่มีใครยอม จนกว่าจะเหนื่อย หรือ ยอมก้มให้สุดตัว
ทดลองทำเองได้ครับ ไม้ไผ่เป็นเพียงเสน่ห์ให้คน หลงไปสนใจแทน
จริงๆแล้วมันเป็นหลัก Human factors and ergonomics
ความคิดเห็นที่ 9
ดู คลิป แล้ว ได้ยิน คำด้านบวก หลายคำ นะครับ ;
การละเล่น , สามัคคี , สนุกสนาน , ครูของพ่อ และ ใน คลิปก็เห็น กลุ่ม แม่ ป้า ยาย ปรบมือ ยิ้มมีความสุขดี , เด็ก ๆ ก็ มีความสุขกันดี
อยากให้ ทีมที่ไป พิสูจน์ สวมบท แกล้งโง่ , แล้วตอน ไปพิสูจน์ เสร็จ ก็แกล้งเนียน สรุปไปว่า " น่าทึ่ง มากๆ " เพื่อให้เขาเหล่านั้น ภูมิใจ ในสิ่งที่พวกเขาละเล่น สนุกสนาน
มา นาน หลายๆ ปี , ให้เด็กๆ ในหมู่บ้าน ได้ยิน แล้วชื่นชม และภูมิใจ และเคารพ ในตัวผู้หลัก ผู้ใหญ่ ในหมู่บ้าน ของเขา ต่อไป
แล้วพอเวลา เรากลับมา มานั่งคุย กันเอง กับคนใน แวด วง วิศว หรือ วิทย์ สายไหนก็ตาม ก็ สรุปได้ ง่ายๆ ( ความจริงไม่ต้องไป ก็สรุปได้ แหล่ว)
เหมือน 2-3 คห ด้านบน , ก็เพราะไหล่มัน ชนกัน แล้วแขนคน สั้น กว่าขา .... แล้วไปจับตรงโคนไม้ , มันก็เ ท่า นั้นเองครับ
แต่หากอยากจะคุย กันแล้วให้ได้ feeling นักวิชาการ ก็ พูดไป ว่า มันเป็น combination ของ กฏเกณพื้นฐาน ทาง physics สาย structural engineer + ergonomics + Anthropometry และ อื่น ๆ ไรก็ว่ากันไป
อยากให้ director ( ผู้บ้งคับ ทิศทาง) ทีมพิสูจน์ มีเป้าหมาย ในใจ ให้ ผลการพิสูจน์ ส่งผลดีต่อ เยาวชน ในชุมชนนั้น เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดี อ่ะครับ
, เมืองไทยเรา โชคดี มาก ๆ นาครับ ที่มีสิ่งมีค่า ส่งเสริมด้าน Emotional intel (EI) เช่นการละเล่นพวกนี้
ในความคิดผม , หาก IQ และ tech มันไปไกลเกิน แล้ว ไม่ สมดุลย์ กับ EI, เด๋ว เป็นแบบ เด็ก ณ.บางจุดของโลก ที่ tech ลำ้ มั่กๆ ,
เด็กนั่งเล่น internet ความเร็วสูง ตอนเช้า ,ตอนเย็นคว้าปืนไปยิง เพื่อน ที่โรง เรียน 20 ศพ ...ซ้าาา
( แน่นอนว่า ..บ้านเราคงไม่เป็น แบบนั้น ชั่ว ข้ามคืน หรอกครับ หากจะไป แฉ ว่ามันเป็นสิ่ง โกหก , แต่ เส้นทาง ของความคิด ผู้คนในชุ มชน ในวัน ข้างหน้า , ปีข้างหน้า , decades ข้างหน้า ...ปลายทาง มันอยู่ไหนผมก็ไม่ ทราบนาครับ หากไปทำลาย และสร้าง แรงลบ Emo พวก เขา , ชุมชนก็คงไม่ กลายเปลี่ยนเป็น Top 5 Top 10 ของประเทศ ที่มีความลำ้หน้า ด้าน Structural Engineer และ Ergonomics , ก็คงไม่ใช่เช่นกัน นาครับ )
ยังไง ผม ขอฝาก idea และ concept ถึง director ทีมงานพิสูจน์ ด้วยเน้อ คร๊าาาาบ
ปอ.ลิง. แล้วตอนที่ ทีมงานพิสูจน์ , อายุ สัก 60-70 ขวบ แล้วมองย้อน กลับมา ถึง สิ่ง ที่ทำ , จะภูมิใจ มั่กๆ คร๊าาาบ
การละเล่น , สามัคคี , สนุกสนาน , ครูของพ่อ และ ใน คลิปก็เห็น กลุ่ม แม่ ป้า ยาย ปรบมือ ยิ้มมีความสุขดี , เด็ก ๆ ก็ มีความสุขกันดี
อยากให้ ทีมที่ไป พิสูจน์ สวมบท แกล้งโง่ , แล้วตอน ไปพิสูจน์ เสร็จ ก็แกล้งเนียน สรุปไปว่า " น่าทึ่ง มากๆ " เพื่อให้เขาเหล่านั้น ภูมิใจ ในสิ่งที่พวกเขาละเล่น สนุกสนาน
มา นาน หลายๆ ปี , ให้เด็กๆ ในหมู่บ้าน ได้ยิน แล้วชื่นชม และภูมิใจ และเคารพ ในตัวผู้หลัก ผู้ใหญ่ ในหมู่บ้าน ของเขา ต่อไป
แล้วพอเวลา เรากลับมา มานั่งคุย กันเอง กับคนใน แวด วง วิศว หรือ วิทย์ สายไหนก็ตาม ก็ สรุปได้ ง่ายๆ ( ความจริงไม่ต้องไป ก็สรุปได้ แหล่ว)
เหมือน 2-3 คห ด้านบน , ก็เพราะไหล่มัน ชนกัน แล้วแขนคน สั้น กว่าขา .... แล้วไปจับตรงโคนไม้ , มันก็เ ท่า นั้นเองครับ
แต่หากอยากจะคุย กันแล้วให้ได้ feeling นักวิชาการ ก็ พูดไป ว่า มันเป็น combination ของ กฏเกณพื้นฐาน ทาง physics สาย structural engineer + ergonomics + Anthropometry และ อื่น ๆ ไรก็ว่ากันไป
อยากให้ director ( ผู้บ้งคับ ทิศทาง) ทีมพิสูจน์ มีเป้าหมาย ในใจ ให้ ผลการพิสูจน์ ส่งผลดีต่อ เยาวชน ในชุมชนนั้น เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดี อ่ะครับ
, เมืองไทยเรา โชคดี มาก ๆ นาครับ ที่มีสิ่งมีค่า ส่งเสริมด้าน Emotional intel (EI) เช่นการละเล่นพวกนี้
ในความคิดผม , หาก IQ และ tech มันไปไกลเกิน แล้ว ไม่ สมดุลย์ กับ EI, เด๋ว เป็นแบบ เด็ก ณ.บางจุดของโลก ที่ tech ลำ้ มั่กๆ ,
เด็กนั่งเล่น internet ความเร็วสูง ตอนเช้า ,ตอนเย็นคว้าปืนไปยิง เพื่อน ที่โรง เรียน 20 ศพ ...ซ้าาา
( แน่นอนว่า ..บ้านเราคงไม่เป็น แบบนั้น ชั่ว ข้ามคืน หรอกครับ หากจะไป แฉ ว่ามันเป็นสิ่ง โกหก , แต่ เส้นทาง ของความคิด ผู้คนในชุ มชน ในวัน ข้างหน้า , ปีข้างหน้า , decades ข้างหน้า ...ปลายทาง มันอยู่ไหนผมก็ไม่ ทราบนาครับ หากไปทำลาย และสร้าง แรงลบ Emo พวก เขา , ชุมชนก็คงไม่ กลายเปลี่ยนเป็น Top 5 Top 10 ของประเทศ ที่มีความลำ้หน้า ด้าน Structural Engineer และ Ergonomics , ก็คงไม่ใช่เช่นกัน นาครับ )
ยังไง ผม ขอฝาก idea และ concept ถึง director ทีมงานพิสูจน์ ด้วยเน้อ คร๊าาาาบ
ปอ.ลิง. แล้วตอนที่ ทีมงานพิสูจน์ , อายุ สัก 60-70 ขวบ แล้วมองย้อน กลับมา ถึง สิ่ง ที่ทำ , จะภูมิใจ มั่กๆ คร๊าาาบ
ความคิดเห็นที่ 28
วันนี้วันเด็ก ลองให้เด็กเล่นกัน ไม่มีไม้ไผ่เลยใช้ท่อ pvc แทน ก็ล้มลุกคลุกคลานกันไปอย่างสนุกสนาน ทั้งไหล่ทั้งหัวชนกันวุ่นวาย ลองใช้สี่คน ยิ่งกดไม่ลงเลย สรุปว่ายิ่งคนมาก โอกาสที่จะกดลงยิ่งยาก สัณชาติญาณของคนจะไม่ยอมล้มง่ายๆ เพราะมันเจ็บ คนที่จับอยู่ล่างๆจะโก่งตัวขึ้นเวลาคนข้างบนกดลงโดยอัตโนมัติ เพาะถ้าไม่ต้านจะหัวทิ่ม ใครจะยอม เพียงแต่ขณะนั้นจะไม่รู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังยกขึ้นเท่านั้น แล้วอีกอย่าง คนที่อยู่ไกลไม้ที่สุดเวลาไม้กดต่ำลง หลังจะตึง ก็จะก้าวเข้าหาไม้เสมอเพื่อลดอาการตึงของหลัง มือก็เลยต้องเกร็งและดึงขึ้นเพื่อที่จะก้าวเท้าไปข้างหน้า
สนุกดีครับ เด็กเขาก็งงๆกันว่าทำไมกดไม่ลง ก็เลยให้เขาไปหาคำตอบกัน เย็นนี้ใครตอบได้ให้รางวัลร้อยนึง เลยไปจับกล่มลองกันใหญ่ ตอนนี้ก็ยังไม่เลิกกัน มอมแมมกันหมด
สนุกดีครับ เด็กเขาก็งงๆกันว่าทำไมกดไม่ลง ก็เลยให้เขาไปหาคำตอบกัน เย็นนี้ใครตอบได้ให้รางวัลร้อยนึง เลยไปจับกล่มลองกันใหญ่ ตอนนี้ก็ยังไม่เลิกกัน มอมแมมกันหมด
แสดงความคิดเห็น
[ขอแรงชาวหว้ากอ ด่วน] ไม้คานลอยฟ้า มันเป็นไปได้ยังไง (ฟ่ะ) ^^
มีเรื่องรบกวนของความเห็น และอาจจะถึงของแรงจากสมาชิกหน่อยครับ ผมพึ่งจะได้รับการติดต่อจากรายการ "บางอ้อ" ให้ไปร่วมพิสูจน์ "ไม้คานลอยฟ้า" ที่จังหวัดน่าน ในวันจันทร์นี้ เลยเริ่มกลัวจะหน้าตายเหมือนกัน ถ้าไม่สามารถหาความจริงได้ว่ามัน "ลอยฟ้า" ได้ยังไง
ลองดูตามข่าวนี้
------------------------------------------------------------------------------
“มันแปลกดีนะ”ชวนตะลึง “ไม้คานลอยฟ้า”
รายการ “มันแปลกดีนะ” วันเสาร์ที่ 10 ก.พ.นี้ เดินทางมาเปิดแปลกกันในงานแสดงศิลปวัฒนธรรม ที่ อำเภอนาน้อย จ.น่าน ซึ่งจัดขึ้นเพื่ออนุรักษ์ประเพณีโบราณเก่าแก่ และหาดูได้ยากโดยเฉพาะพิธีกรรมและประเพณี “การเสกคาถาไม้คานลอยฟ้า” ซึ่งเป็นการแสดงโชว์ในประเพณีสำคัญของท้องถิ่น ซึ่งเป็นเรื่องแปลกที่สุดและเป็นไฮไลท์ของงาน ซึ่งประเพณีนี้มิได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี นานปีจึงจะทำขึ้นสักครั้ง บางคนเกิดมาทั้งชีวิตยังไม่เคยเห็น ซึ่งผู้ทำพิธีก็คือ พ่อคำหล้า ผู้เฒ่าผู้แก่วัย 88 ปี และเป็นคนเดียวเท่านั้นในปัจจุบันที่ประกอบพิธีกรรมนี้ได้
โดยการเสกคาถาไม้คานลอยฟ้านี้ จะต้องมี ไม้ไผ่ขนาดยาว 1 เมตร ตัดปากกระบอกให้เป็นรู ถ่านหุงข้าวก้อนเล็ก ๆ ซึ่งหาที่ไหนก็ได้ และดอกไม้ธูปเทียนกับเครื่องเซ่นไหว้ ซึ่งเรียกว่า “ขันตั้ง” หลังจากเตรียมของประกอบพิธีครบแล้ว พ่อคำหล้าจะทำพิธีเสกคาถาใส่ไม้ไผ่ และ ก้อนถ่าน แล้วเขียนเป็นรูปวงกลม คล้าย ๆ ยันต์ จากนั้นจะนำถ่านที่เสกใส่ลงในปลายด้านล่าง และ ด้านบนของกระบอกไม้ไผ่เป็นอันเสร็จพิธี ซึ่งพ่อคำหล้าบอกว่าจากไม้ไผ่ธรรมดา แต่หลังผ่านการปลุกเสกจะกลับกลายมีชีวิต ดิ้นไปดิ้นมา จะกดยังไงก็ไม่ลง ซึ่งทางรายการได้ทำการพิสูจน์ โดยขออาสาสมัครจากผู้ชมในงาน ซึ่งเป็นผู้ชายรูปร่างกำยำ 3 คน รวมน้ำหนักกันแล้วเกือบ 200 กิโลกรัมมาช่วยกันกด ก็ปรากฏว่ากดไม้ไผ่ลำดังกล่าวเท่าไหร่ก็ไม่ยอมลง ยิ่งออกแรงกด ก็เหมือนมีแรงดันให้ไม้ไผ่ลอยขึ้น ทำเอาหนุ่มๆอาสาสมัครออกแรงกดจนหน้าแทบคมำ ประมาณ 5 นาที ไม้ไผ่จึงสิ้นฤทธิ์ ท่ามกลางความทึ่งของคนดูหลายร้อยคนรอบบริเวณงาน
และเพื่อเป็นการยืนยันถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ทางทีมงานรายการ “มันแปลกดีนะ”จึงขอให้ พ่อคำหล้า ทำพิธีอีกครั้ง โดยคราวนี้ทีมงานรายการขอเป็นผู้พิสูจน์ด้วยตัวเอง ซึ่งก็ปรากฏเหตุการณ์เหมือนเดิม คือกดเท่าไหร่ ไม้ไผ่ก็ไม่ยอมจรดพื้น ทีมงานกดแบบเต็มแรงจนหกล้มหกลุกแต่ก็ไม่สามารถกดไม้ไผ่ให้ติดพื้นได้ สร้างความทึ่งและแปลกใจให้กับผู้ที่ได้ลงไปพิสูจน์ด้วยตัวเองไม่น้อย
โดย นายสุรศักดิ์ โวหเกียรติ์ ทีมงานรายการผู้ทำการพิสูจน์ เผยว่า.. “ ตอนที่พยายามกดไม้ลงไป จะรู้สึกว่ามีแรงต้านเอาไว้ ยิ่งออกแรงมากเท่าไหร่ แรงต้านก็จะยิ่งมากขึ้น ซึ่งไม่เข้าใจเหมือนกันครับว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ไม่อยากจะบอกว่าไม่เชื่อ แต่ก็ต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องแปลกที่เหลือเชื่อจริงๆครับ”
------------------------------------------------
อ่านในข่าว อาจจะไม่เข้าใจ ลองดูคลิปวิดีโอนี้ก็ได้ครับ
จากรายการทีวี
อันนี้จากคลิปชาวบ้าน สังเกตว่าไม่ใช่ปู่ข้างบนทำพิธี ก็สามารถจะเล่นได้เหมือนกัน
ดูแล้วแปลกมั้ยว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ที่ไม้คานจะกดมันลงพื้นไม่ได้ ตอนนี้ผมมีคำอธิบายในใจอยู่ 2 อย่าง คือ
1. มีคนใดคนหนึ่งเป็นหน้าม้า คอยกดเอาไว้ .... แต่เพื่อนคนอื่นก็น่าจะรู้สึกได้นะ และก็กรณีที่ทีมงานเป็นคนเล่นเอง ทำไมถึงกดไม่ลง
2. หรือว่าเป็นการสมดุลย์แรงทางฟิสิกส์ เนื่องจากทุกคนต้องก้มตัวลงไปจับปลายด้านล่างของไม้คาน เลยเวลาออกแรงกดลงไปแล้วแรงมันไม่ลงไปตรงๆ แต่ไปในฝั่งตรงข้ามของคนกด ซึ่งไปดันกับอีกคนที่อยู่ฝากนั้น .... ฟังดูมีหลักการ แต่มันจะเป็นอย่างนั้นจริงเหรอ
เลยอยากรบกวนชาวหว้ากอ ช่วยกันคิดหน่อยครับ ว่ามันเป็นไปได้อย่างไร ถ้าใครมีเพื่อน มีน้องนุ่ง ก็ขอแรงลองลงมือเล่นดูคล้ายๆ ในคลิปซิว่ามันจะเป็นไปตามข้อ 2. ได้มั้ย
ขอบคุณล่วงหน้า ขอให้กระทู้ผมไม่ตกหน้าจอไปเร็วนักนะ / เสียดายกระทู้ดีๆ ตอนนี้โดยกระทู้แปลกๆ ข้ามห้องมาดันตกไปหมดเลย
--------------------------------------------------
ปล. แม้จะไม่ชอบพันทิปโฉมใหม่ในหลายๆ ส่วน โดยเฉพาะเรื่อง tag มั่ว แต่เรื่องการตั้งกระทู้เนี่ย ดีขึ้นเยอะเลย แก้ไขเปลี่ยนแปลงและจัดรูปใส่ง่ายขึ้นเยอะ