ระหว่างคนที่ทานเนื้อหมู กับไม่ทานเนื้อหมูเลย(อิสลาม) ร่างกายมีนัยยะอะไรที่แตกต่างกันไหมครับ

ระหว่างคนที่ทานเนื้อหมู กับไม่ทานเนื้อหมูเลย(อิสลาม) ร่างกายมีนัยยะอะไรที่แตกต่างกันไหมครับ

ถามด้วยความเคารพครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
เอ่อันนี้ต้องดูวิจัยแฮะ แต่เคยอ่านอันนี้มา

ธรรมชาติและนิสัยของหมู
โดยธรรมชาติหมูมีนิสัยขี้เกียจ หมกมุ่นอยู่กับการสืบพันธุ์ ไม่ชอบแสงอาทิตย์ เป็นสัตว์ขี้กลัว
ชอบกินและนอน มีนิสัยตะกละในบรรดาสัตว์ทั้งหมด หมูเป็นแหล่งของตัวพยาธิที่เป็นพิษแหล่งใหญ่ที่สุด


แพทย์จีนแต่โบราณ
ในสมัยราชวงศ์ถัง มีหมอคนหนึ่ง ชื่อ ซุนซีเหมา เป็นหมอผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อ2000 ปีมาแล้ว และเป็นนักอนามัย ได้เขียนไว้ในหนังสือ “เฉเฉนลู” (บันทึกสุขภาพ)
“ เนื้อหมูอาจทำให้การป่วยไข้เก่าๆกลับมาอีก มันนำไปสู่การเป็นหมัน โรคไขข้อกระดูกอักเสบ และโรคหืด ”


ลองเอาเนื้อหมู เนื้อแพะ เนื้อวัว อายุเท่าๆกันมาวางแตกแดด
จะเห็นว่า เนื้อหมูเน่าเร็วที่สุด ตามด้วยเนื้อแพะและวัว เนื้อวัวนั้น จะแห้ง และไม่เน่า

จากการค้นคว้าทางการแพทย์
วัว แพะ หมู    วัวและแพะ เมื่อบริโภคเข้าไป จะใช้เวลาย่อยสลาย ประมาณ 3 ชม. หมู 4 ชม.
และเนื้อหมู ปรุงสุกช้าที่สุด และไม่รับประกันว่า สุกแล้วเชื้อโรคทั้งหลายจะอยู่หรือไม่

การทานเนื้อหมู จะทำให้เกิดการเจ็บป่วยและใช้เวลารักษาที่ยาวนาน
เมื่อมีคนไข้ แพทย์จะงดอาหารประเภทหมู เนื่องจากมีผลต่อการรักษา
ในสมัย สงครามยุโรป  พวกเติร์กและอาหรับที่บาดเจ็บนั้น หายป่วยเร็วกว่าทหารเยอรมันที่รักษาตัวแรมเดือน
แพทย์นั้น จึงสั่งห้ามเนื้อเนื้อหมู ระหว่างรักษาตัว แผล ฝี หนอง นั้นยากที่จะรักษา และทำให้อาการเลวลง

ปริมาณ ไขมัน
หมู  91 %
วัว 35  %
แพะ 56 %
หมูติดมัน 60 %
วัวติดมัน 20 %
แพะติดมัน 35 %
หมูไม่มีมัน  29%
วัวไม่มีมัน  6 %
แพะไม่มีมัน 14 %
แฮม 51 %

http://topicstock.ppantip.com/religious/topicstock/2006/11/Y4857888/Y4857888.html

อ่านมาอีกที แต่ผมไม่ได้ไม่กินหมูเพราะมันเป็นอันตรายอะไร แต่ผมไม่กินเพราะผมเป็นมุสลิมครับ เราถือว่าพระเจ้าคือผู้เป็นเจ้าของทุกอย่างเมื่อเนื้อหมูถูกห้ามโดยเจ้าของชีวิตทุกชีวิต มุสลิมเราก็จะไม่กินครับ เป็นการเตือนตัวเอง และระลึกอยู่ตลอดเวลาว่า เราเป็นใคร มีหน้าที่อะไร และสุดท้ายเราจะกลับไปเจอผู้สร้างเราและตอบคำถามได้อย่างไร
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 18
ผมก็งด ๆ เลี่ยง ๆ เนื้อหมูมาได้ราว ๆ สองปีแล้ว เป็นหวัดครั้งเดียว ก่อนหน้านั้นต้องมีเป็นหวัดปีละครั้งสองครั้งเป็นอย่างน้อย

ส่วนเรื่องนิสัยของหมู หรือการที่บอกว่าหมูกินของสกปรกนั้น ผมไม่เห็นว่าจะมีส่วนสำคัญใด ๆ

ถ้าบอกว่าหมูกินของสกปรก ... แล้วผักที่รดด้วยขี้ล่ะ ไม่สกปรกกว่าหรือ?

ถ้าบอกว่าหมูหมกมุ่นกับการสืบพันธุ์ ... แล้วบรรดาสุลต่านที่มีฮาเร็ม มีเมียเป็นกระบุงล่ะ?

ถ้าบอกว่าหมูขี้เกียจ ... แล้วหมูป่าที่ออกหากินด้วยตัวเองล่ะ? หมูเลี้ยงมันอยู่ในคอก จะให้ไปวิ่งเล่นที่ไหน?
พวกสิงโต เสือ พอกินอิ่ม มันก็ขอนอนสบายให้คนเลี้ยงเกาพุงให้ด้วยซ้ำ

ถ้าบอกว่าหมูไร้ยางอาย ... มีบางเว็บนะครับที่เป็นเว็บโป๊ของตะวันออกกลาง แบบทางบ้านส่งมานั่นแหละ

มันไม่เห็นจะเกี่ยวกันตรงไหนเลย ...

แต่ถ้าจะคุยกันเรื่องพยาธิ เรื่องสารเร่งเนื้อแดง สาร ฯลฯ เรื่องนี้ผมเห็นด้วยว่าเนื้อหมูอันตรายจริง

ส่วนคนเราจะสะอาดหรือโสมม มันไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งที่กินเข้าไป แต่มันเกี่ยวกับสิ่งที่ออกมาจากจิตใจต่างหาก

.
แก้ไขตัวสะกด
ความคิดเห็นที่ 36
เราว่าที่มุสลิมเขาไม่กินสัตว์ที่ตายเอง ไม่กินเลือดสัตว์ (ถึงแม้เลือดสัตว์จะมีธาตุเหล็กสูงและอร่อยมากก็เถอะ) ล้างเนื้อสัตว์ด้วยน้ำไหลผ่านให้สะอาด เหล่านี้สมเหตุสมผลดีในแง่การควบคุมโรค

แต่เหตุผลด้านอื่นเรายังมีข้อกังขา

ที่ว่าหมูเป็นพาหะพยาธินั้นจริง แต่ก็ไม่ได้มีแต่หมูที่เป็นพาหะพยาธิ วัว แพะ แกะ ก็มีพยาธิตัวร้ายๆ เยอะไม่แพ้หมู ทั้งตัวตืด ใบไม้ตับ แส้ม้า ตัวกลม ฯลฯ สามารถติดต่อสู่คนและก่อโรคได้เช่นเดียวกัน การกล่าวหาในข้อนี้ออกจะไม่แฟร์และไม่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง

จากความเห็นที่ 9 เรางงเรื่องปริมาณไขมันค่ะ  ทำไมเนื้อหมูถึงมีไขมันตั้ง 91% แล้วเนื้อแดงหายไปไหนหมดอ่ะ แถมหมูติดมันยังมีไขมันน้อยกว่าอีก งงเข้าไปใหญ่ พูดถึงปริมาณไขมันแล้วอยากกินเนื้อย่าง โดยเฉพาะเนื้อติดมันและเนื้อลายมัน ยิ่งมันยิ่งอร่อยอมยิ้ม05

เนื้อหมูเน่าเร็วที่สุดรึเปล่าไม่รู้ เวลาไปตลาดเราจะเห็นทั้งเนื้อวัวและเนื้อหมูวางขายบนแผงโดยไม่ต้องแช่เย็น ผิดกับไก่ที่ต้องแช่น้ำแข็งตลอดเวลา และอายุการเก็บรักษาสั้นที่สุด ถ้าไม่เทียบกับพวกสัตว์น้ำเค็มนะ

เนื้อหมูอาจก่อโรคจริง โดยเฉพาะมีสารเร่งเนื้อแดง แต่เดี๋ยวนี้ได้รับการควบคุมแล้ว และเนื้อหมูที่วางขายก็ไม่แดงจัดอย่างในอดีต แต่เนื้อสัตว์อื่นก็ไม่ได้ปลอดภัย เนื้อวัวที่ย่อยยากเป็นสิ่งที่คนกินอาหารแนวสุขภาพทั่วโลกปฏิเสธ เนื้อไก่ที่อุดมด้วยฮอร์โมนก่อมะเร็งโดยเฉพาะในระบบสืบพันธุ์ และสัตว์น้ำก็แช่ฟอร์มาลีน

จริงๆ แล้วฝรั่งน่ะไม่ชอบหมูโดยวัฒนธรรมเลยแหละ ฝรั่งกินเนื้อและไก่มากกว่าคนเอเชียหลายเท่า แมคโดนัลด์ เคเอฟซี เบอร์เกอร์คิง พวกนี้มาจากอเมริกาทั้งนั้น มีแบรนด์อาหารจากทางตะวันออกใดบ้างที่มีผลิตภัณฑ์ "หลัก" เป็นเนื้อหมู เรานึกไม่ออก อย่างพวกเบอร์เกอร์น่ะหลักๆ ไส้จะเป็นเนื้อ แต่พอมาทางบ้านเราก็ต้องเพิ่มเมนูจากหมู เพราะคนไทยไม่นิยมกินเนื้อสัตว์ใหญ่มาตั้งแต่สมัยโบราณ จะต้องมีงานเลี้ยงใหญ่โตถึงจะล้มหมูล้มวัวสักตัว แถมระยะหลังนี่ยังมีความเชื่อเรื่องเจ้าแม่กวนอิมเพิ่มเข้ามาอีก

แล้วอย่างนี้จะบอกว่าพฤติกรรมไม่ดีเชิงชู้สาวเกิดจากหมูเราว่าน้ำหนักน้อยไปสักหน่อย และอย่าหาว่าเราลามปามเลยนะ ไม่ได้อยากทำให้โกรธหรือเกิดความขัดแย้งเลยจริงๆ...มุสลิมซึ่งไม่กินเนื้อหมูกลับสามารถมีภรรยาได้ถึง 4 คน เอาล่ะว่าอาจเป็นเพราะพระบัญญัติและต้องการเพิ่มประชากรให้มีสัดส่วนมุสลิมมากๆ แต่นั่นรวมถึงการไม่ให้เกียรติภรรยาและการบังคับเด็กผู้หญิงที่ยังไม่เป็นสาวเต็มตัวมาเป็นภรรยาของชายแก่คราวพ่อคราวปู่ในบางสังคมหรือเปล่า (พิมพ์เสร็จตีมือตัวเอง)

เราว่าถ้ามุสลิมจะไม่กินหมูเพราะพระบัญญัติจากพระเจ้าก็เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ยอมรับได้และไม่ก้าวล่วง ก็เหมือนบางคนไม่ชอบปลาร้า บางคนไม่กินเครื่องใน บางคนไม่ชอบกินผัก บางคนกินเผ็ดไม่ได้ ก็เป็นข้อจำกัดเฉพาะบุคคลไป ยิ่งมีบทบัญญัติของศาสนายิ่งต้องเคร่งครัด แต่การจะมายกข้อมูลชวนเชื่ออะไรที่มันไม่ตรงความจริง (แล้วคนก็เชื่อซะด้วย) มัน.......ช่างเถอะ อธิบายด้วยคำซอฟท์ๆยาก

และการจะมากล่าวหาว่าผู้อื่นที่กินหมูสกปรก ชั่วช้าเลวทราม มันก็ออกจะไม่น่ารักนะ ลองนึกว่าถ้าเราไปกินส้มตำกับเพื่อนๆ แต่มีเพื่อนคนนึงพูดว่า "พวกแกกินต้มแซบเครื่องในนั่นลงได้ยังไง มันไม่ใช่อาหารคนนะ ชั้นยอมอดตายดีกว่าจะต้องกินมัน ส้มตำปลาร้าก็เหม็นเหมือนส้วมแตกเลย จะอ้วก ปลาเผาก็น่าเกลียดอ่ะ ชั้นเห็นหัวปลาพุงปลาแล้วขยะแขยงกินไม่ลง กินคอหมูย่างกับตำไทยไข่เค็มดีกว่า รสชาติผู้ดีกว่าเยอะ".........เพื่อนๆ จะรู้สึกยังไง คิดต่อกันเองนะคะ


ใจจริงเราไม่อยากให้ทะเลาะกันเรื่องใครกิน/ไม่กินอะไร นับถือศาสนาอะไร มีความคิดทางการเมืองแบบไหน มันจะก่อความไม่สงบกันไม่สิ้นสุด ไม่ว่าจะยังไงเราก็ต้องอยู่ร่วมกัน

ตอนเด็กๆ เรามีเพื่อนบ้านใกล้ๆ กันนับถืออิสลาม ชอบมาบ้านเราบ่อยๆ เราก็ต้องล่ามหมา เค้าว่าถ้าโดนน้ำลายหมาต้องใช้โคลนล้าง (แบคทีเรียก่อโรคจากดินไม่น่ากลัวเรอะ) มีวันนึงเรากับน้องต้มมาม่ารสหมูสับกิน ซองยังตั้งอยู่ข้างชามเลย แล้วเพื่อนคนนี้ก็เค้ามา มาม่าเราหอมเค้าก็ขอกิน เราก็ไม่แน่ใจว่าจะให้กินได้มั้ยแต่เพื่อนเราก็ตักกินเลย มันชอบมากขอให้เราต้มให้ใหม่อีกชาม เราบอกว่าพอแค่นี้เถอะรสนี้เธอกินมากไม่ได้ แต่เพื่อนก็บอกว่าขอเถอะ เกิดมาไม่เคยกินเลยจริงๆ และถ้าไม่กินที่นี่ก็อาจไม่ได้กินอีกเลย (เพื่อนเห็นซองแล้ว)
วันนั้นจำใจต้มมาม่ารสหมูสับให้เพื่อนกิน รู้สึกผิดเหมือนกัน แต่มุสลิมท่านอื่นๆ อย่าโกรธเลยนะ ตอนนั้นเรายังเด็กกัน

แต่เล่าเรื่องกินหมู ก็มีอีกแหละ คราวนี้เป็นเพื่อนของลูกพี่ลูกน้องมาเที่ยวบ้านญาติเรา เค้าเป็นคนใต้เหมือนกันแต่มาจากจังหวัดไกลหน่อยจำไม่ได้แล้วว่าที่ไหน วันนึงบ้านเรากับบ้านญาติพากันไปกินอาหารร้านริมทะเล ก็สั่งแต่อาหารทะเลไม่มีหมูสักเมนูเพราะรู้ว่าเพื่อนของญาติเป็นมุสลิม แต่ปรากฏว่าเค้าแคะกินมันหมูที่รองกุ้งอบวุ้นเส้นอ่ะ เราอ้าปากจะห้ามโดนเบรกหัวทิ่มเลย ลูกพี่ลูกน้องเรากระซิบว่าอย่าไปทักมัน ถ้าทักแล้วจะกินไม่ได้ เราจะตอบว่าก็กินไม่ได้ไม่ใช่เหรอ แต่ไม่ทันพูดก็โดนตอบกลับมาอย่างเร็วว่าไม่รู้ไม่เป็นไร ถ้ารู้ว่าเป็นหมูแล้วยังกินจะเป็นบาป เราก็อือออไปงงๆ

ลูกพี่ลูกน้องเรามาเล่าให้ฟังทีหลังว่าเพื่อนมันอ่ะตอนอยู่ที่วิทยาลัยก็นุ่งโสร่งใส่หมวกด้วย แต่ช่วงที่มาเที่ยวบ้านมันไม่มีคนรู้จักก็กินแต่หมู  พวกตื่นเช้าใส่กางเกงยีนส์เสื้อยืดเดินไปซื้อหมูปิ้งกินทุกวัน เพราะชอบกินหมูแต่อยู่ในสังคมเดียวกันจะกินไม่ได้ ตอนซื้อก็ชี้ๆ เอา ไม่พูดคำว่าหมูเลย

หวังว่าอัลลอฮฺจะทรงเมตตาเพื่อนของญาติเรานะ จะได้ไม่ต้องตกนรกเพียงเพราะกินของอร่อย อมยิ้ม01
ความคิดเห็นที่ 16
คงไม่ขอเปรียบเทียบนะคะ แต่ขอก็อปจากคำถามยอดฮิตแล้วกันค่ะ
คำถาม : ทำไมอิสลามจึงห้ามการกินหมู ?

คำตอบ : ความจริงแล้วเป็นที่ทราบกันดีว่าการบริโภคเนื้อหมูได้ถูกห้ามในอิสลาม สิ่งที่จะกล่าวต่อจากนี้  จะอธิบายทัศนะต่างๆของข้อห้ามนี้

1. เนื้อหมูถูกห้ามในอัลกุรอาน

กุรอานนั้นได้ห้ามการบริโภคเนื้อหมู ไม่น้อยกว่า 4 แห่งที่แตกต่างกัน มันถูกห้ามในซูเราะฮฺ 2:173  5:3  6:145 และ16:115

“ได้ถูกห้ามแก่พวกเจ้าแล้ว(สำหรับอาหาร) คือ เนื้อสัตว์ที่ตายเอง เลือด เนื้อสุกร และสัตว์ที่กล่าวนามอื่นจากอัลเลาะฮฺ(ขณะเชือด)” (อัลกุรอาน 5:3)

โองการกุรอานที่กล่าวมานี้เป็นการเพียงพอแล้วที่จะทำให้มุสลิมคนหนึ่งเชื่อมั่นว่าทำไมเนื้อหมูจึงถูกห้าม

2. การบริโภคเนื้อหมูเป็นสาเหตุของโรคหลายชนิด

ผู้ที่มิใช่มุสลิมและผู้ที่ไม่เชื่อว่าการมีอยู่ของพระเจ้าจะเห็นด้วยเพียงแค่ ถ้าทำให้เชื่อโดยผ่านทางเหตุผล ตรรกะ และวิทยาศาสตร์ การกินเนื้อหมูนั้นเป็นสาเหตุให้เกิดโรคไม่น้อยกว่า 70 ชนิดที่แตกต่างกัน ซึ่งบุคคลหนึ่งจะสามารถมีหนอนพยาธิ(จากการกินเนื้อหมู)ที่แตกต่างกันได้หลาย ชนิด เช่น พยาธิตัวกลม พยาธิเข็มหมุด พยาธิปากขอ เป็นต้น หนึ่งในพยาธิที่อันตรายมากที่สุด ซึ่งศัพท์เฉพาะทาง เรียกว่า Taenia Solium  หรือ พยาธิตัวตืด มันจะแฝงตัวอยู่ในลำไส้เป็นเวลานาน เซลล์ไข่ของมันจะเข้าตามกระแสเลือด และสามารถไปถึงทุกส่วนของร่างกาย ถ้ามันเข้าไปในสมองก็เป็นสาเหตุให้เกิดความจำเสื่อม ถ้ามันเข้าสู่หัวใจก็จะทำให้เกิดโรคหัวใจ ถ้ามันเข้าสู่ตาก็จะทำให้ตาบอด ถ้ามันเข้าสู่ตับก็จะทำให้ตับถูกทำลาย มันสามารถทำลายอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย

หนอนพยาธิตัวอื่นที่เป็นอันตราย ก็คือ Trichura Tichurasis  ซึ่ง โดยทั่วไปมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเนื้อหมูที่ว่าถ้ามีการปรุงสุกเป็นอย่าง ดี ไข่ของมันก็จะตาย แต่ในงานวิจัยที่น่าเชื่อถือในอเมริกา พบว่า จากยี่สิบสี่คนที่ต้องทนทุกข์จากโรคพยาธิ Trichura Tichurasis  มี จำนวนยี่สิบสองคนที่ปรุงสุกเนื้อหมูเป็นอย่างดี นี่สามารถบ่งชี้ได้ว่าไข่พยาธิชนิดนี้ที่มีอยู่ในเนื้อหมูจะยังไม่ตายภายใต้ อุณหภูมิที่ใช้ในการปรุงอาหารปกติ

3. เนื้อหมูก่อให้เกิดสร้างไขมัน

เนื้อ หมูก่อให้เกิดการสร้างกล้ามเนื้อน้อยมาก และมีไขมันมากเกินความจำเป็น ไขมันนี้จะสะสมอยู่ในเส้นเลือดและเป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ จึงไม่แปลกใจเลยว่ามีคนอเมริกัน 50 เปอร์เซ็นต้องทนทุกข์กับโรคความดันโลหิตสูง

4. หมูเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่สกปรกที่สุดในโลก

หมู เป็นสัตว์ที่สกปรกที่สุดในโลก มันใช้ชีวิตและเติบโตบนโคลน มูล และสิ่งสกปรกโสโครก เท่าที่ข้าพเจ้ารู้มันเป็นสัตว์ที่กินซากสกปรกที่ดีที่สุดที่พระเจ้าทรง สร้าง ในหมู่บ้านที่ไม่มีห้องน้ำสมัยใหม่และชาวบ้านนั้นจะขับถ่ายสิ่งปฏิกูลในที่โล่ง บ่อยครั้งมากที่สิ่งขับถ่ายนั้นถูกทำให้สะอาดโดยหมู

บาง คนอาจโต้แย้งว่าแล้วอย่างในเมืองที่พัฒนาแล้วอย่างออสเตรเลีย หมูถูกเลี้ยงอย่างสะอาดและถูกสุขลักษณะ แม้ว่าจะเลี้ยงหมูในคอกที่ถูกสุขลักษณะเพียงใด แม้คุณจะพยายามอย่างหนักที่จะเลี้ยงพวกมันให้สะอาด แต่โดยธรรมชาติแล้วมันก็ยังเป็นสัตว์ที่สกปรกอยู่ดี พวกมันจะกินและสนุกกับมูลของมันเหมือนกับที่สนุกกับสิ่งขับถ่ายใกล้เคียงของ พวกมัน

5. หมูเป็นสัตว์ที่มีความอายน้อยที่สุด

หมูเป็นสัตว์ที่มีความอายน้อยที่สุดในหน้าแผ่นดินบนโลกนี้ มันเป็นสัตว์ที่เชิญชวนตัวอื่นให้ร่วมเพศกับคู่ของมัน ในอเมริกาผู้คนส่วนมากรับประทานเนื้อหมู บ่อยครั้งมากหลังจากการเต้นรำและงานรื่นเริง พวกเขาจะแลกเปลี่ยนคู่ภรรยากัน หลายคนพูดว่า “นายนอนกับภรรยาของฉันและฉันจะนอนกับภรรยาของนาย” (เนื่องจากผู้รับประทานเนื้อสัตว์ชนิดใดจะได้รับอิทธิพลจากพฤติกรรมของมัน)

ถ้า คุณกินเนื้อหมูแล้วก็จะมีพฤติกรรมเหมือนหมู เราคนอินเดียมองอเมริกาว่าทันสมัยและกร้านโลกมาก อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเขาทำนั้น เราก็ทำตามหลังเขาไม่กี่ปี อย่างในบทความของแม็กกาซีน Island ที่บอกว่าพฤติกรรมการแลกเปลี่ยนคู่ภรรยานี้จะกลายเป็นสิ่งปกติในสังคมผู้ร่ำรวยในบอมเบย์(เนื่องจากพวกเขากินอยู่เหมือนคนตะวันตก)

  สำหรับผู้ที่สนใจในอิสลามโดยเฉพาะผู้ที่มิใช่มุสลิมที่ต้องการเรียนรู้หรือสอบถามอะไรที่เกี่ยวกับอิสลาม หรือมีปัญหาข้อข้องใจในหลักคำสอนข้อหนึ่งข้อใดในอิสลาม ก็สามารถสอบถามมาได้หรือเมลล์มาได้จากเบอร์และเมลล์ที่ได้ให้เอาไว้
ติต่ิสอบถาม อ.ชารีฟ  วงศ์เสงี่ยม
Home Page : http://www.อิสลาม.net
โทร 081- 9284958 , เมลล์ : danish8484@yahoo.com
การอ้างอิง
ทำไมอิสลามจึงห้ามกินหมู?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่