มีประสบการณ์อยากแชร์ ไม่รู้มีใครเคยพบเหตุการณ์แบบนี้บ้างไม๊ เรื่องมีอยู่ว่า
เราจองรถ Suzuki Swift ไว้เมื่อ 3 เม.ย.55 ที่ศูนย์ตรงถ.กาญจนาภิเษก (ขอไม่เอ่ยชื่อบริษัท เพราะไม่ฟันธงว่า เป็นที่บริษัทฯ หรือเป็นที่เซลล์) เราได้ถามเซลล์ว่า ถ้าจองวันนี้จะได้รถประมาณเมื่อไหร่ (ซึ่งจะคำนวณว่ารอไหวไม๊) และก็ถามเซลล์ไปว่า สีไหนจะมีโอกาสได้เร็วที่สุด ก็เอาสีนั้นเลย เซลล์แจ้งว่าสีแดง อ่ะ แดงก็แดง สรุปว่า เราสั่งรุ่นรองท้อป สีแดง เซลล์แจ้งว่าได้รับรถ เดือน ต.ค.55 ซึ่งเราย้ำแล้วว่า เรารีบใช้รถนะ ถ้ายืนยันว่ารับรถเดือน ต.ค. ก็ยังรอไหว ถ้าได้เร็วกว่านั้น หรือถ้าจะช้ากว่านั้น รบกวนแจ้งด้วย เซลล์ก็รับปากเป็นอย่างดี จึงได้สั่งจองและชำระเงินจำนวน 5,000 บาท (เป็นการโอนเงินเข้าบัญชี เพราะ ในวันที่คุยกัน ไม่ได้เตรียมเงินไป ก็เลยกลับออกไปแล้วโอนเงินเข้าบัญชีให้)
หลังจากที่ได้โอนเงินค่าจองไปแล้ว ก็ไม่เคยได้รับการติดต่อจากเซลล์อีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว ขอย้ำว่า “เซลล์ไม่เคยรับสายโทรศัพท์มือถือเลยแม้แต่ครั้งเดียว” ผ่านไป 1 สัปดาห์ ยังไม่ได้รับใบจอง และหลักฐานการรับเงินจอง ก็โทรไปหาเซลล์ เพื่อตามเอกสาร วันแรกไม่รับสาย (โทรเป็นสิบๆ ครั้ง แต่ไม่รับสายเลย) โทรเข้าสำนักงาน เบอร์สำนักงาน มี 2 เบอร์ ก็ไม่มีใครรับสาย ดังจนสายตัดไปเองอยู่หลายครั้งมาก จนบางครั้งก็มีเจ้าหน้าที่รับสายแล้วให้ฝากเรื่องไว้ ก็ไม่โทรกลับ วันที่สอง สาม สี่ ห้า เป็นแบบนี้อยู่ทั้งอาทิตย์ แล้วเนื่องด้วย เข้าช่วงสงกรานต์ งานที่ออฟฟิศเราก็ยุ่งมากจนไม่ได้โทรไปตามอีก
พอพ้นจากสงกรานต์ไปแล้ว เปิดงานมา ก็โทรไปตาม กว่าจะติดต่อเซลล์ได้ก็ปาเข้าไปเกือบสิ้นเดือน เม.ย.55 โดยเซลล์ให้เหตุผลว่า “พี่ยุ่งมากเลยค่ะคุณน้อง รับลูกค้าทั้งวันเลย พอตอนเย็นมาก็ลืมโทรหาคุณน้องค่ะ” (อ้าว !!!! แล้วเราไม่ใช่ลูกค้าหรอ ?????) เราก็เลยตามใบจองและหลักฐานการรับเงิน เค้าก็บอกว่า “เดี๋ยวพรุ่งนี้เข้าออฟฟิศแล้วพี่จะส่งแฟกซ์ให้เลยนะคะ” ผ่านไป 1 สัปดาห์ก็ยังไม่ได้รับแฟกซ์ โทรไปตามก็เหมือนเดิม (เหมือนตอนโทรตามครั้งแรก ดีนะ บัญชีที่โอนเป็นบัญชีบริษัท ไม่งั้นจะคิดว่าเซลล์หลอกเอาเงินไปแล้วซะอีก) จนเมื่อประมาณเดือน ก.ค.55 ได้มีโอกาสผ่านไปแถวนั้นพอดี ก็เลยแวะเข้าไปรับใบจองเอง ผลปรากฏว่า ใบจองข้อมูลผิด เพราะเราจองรุ่นที่ ราคา 409,xxx บาท แต่ในใบจองเป็นราคา 465,xxx บาท ก็เลยให้เซลล์แก้ไขใหม่ให้ถูกต้อง เฮ่อ !! จบเรื่องการจอง
มาต่อเรื่องรถ

ในใบจองระบุไว้ว่าจะได้รับรถเดือน ต.ค.55 (ซึ่งตอนจอง ได้แจ้งกับเซลล์ไว้แล้วว่าเราต้องการรีบใช้รถ) คือนัดว่า ตุลาเราก็คิดแล้วว่าโอเคพอรอไหว ก็เลยตัดสินใจรอ โดยที่ตลอดระยะเวลาในการรอ ก็ไม่เคยได้รับการติดต่อจากเซลล์เลย เช่นเดิม ทุกครั้งที่โทรไป เซลล์ไม่เคยรับสายเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าจะโทรเข้ามือถือ หรือเบอร์สำนักงาน ฝากเรื่องให้โทรกลับก็ไม่เคยโทรกลับ (นับตั้งแต่วันจองรถ จนถึงวันนี้ ได้โทรติดต่อไปที่ศูนย์นี้เป็นร้อยครั้ง ได้คุยสายกับเซลล์ไม่เกิน 5 ครั้ง
เมื่อต้นเดือน ก.ย.55 ได้รับแฟกซ์จากเซลล์ว่า ให้เตรียมเอกสารการยื่นไฟแนนซ์ไว้ จะมีเจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อไปนัดรับเอกสาร ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่วัน ก็มีเจ้าหน้าที่ธนาคารมาติดต่อและรับเอกสารไปทำเรื่องไฟแนนซ์ และแจ้งว่า ประมาณ 3 วัน ถ้าไฟแนนซ์ผ่านจะแจ้งไปทางเซลล์เอง แล้วทุกอย่างก็เงียบไป (เหมือนเดิม)

แต่ก็รู้สึกดีใจว่า อีกไม่นานคงได้รับรถแล้วหล่ะ (มั๊ง) เพราะถ้าไม่ได้รถ เค้าคงไม่มาให้ทำเรื่องยื่นไฟแนนซ์หรอก (มั๊ง อีกรอบ)
จนเมื่อปลายเดือน ก.ย.55 น้องชายมาบอกว่า มีเพื่อนรู้จักกับเซลล์ของ Suzuki ที่ศูนย์อื่น เค้าบอกมาว่า มีรถเข้ามาที่ศูนย์แล้ว แต่ลูกค้าไม่พร้อมรับรถ เราจะเอาไม๊ ถ้าเอา ก็ให้โยกไปเอาของศูนย์นั้นเลย ซึ่งเราก็ได้พยายามติดต่อเซลล์ว่า ถึงคิวของเราหรือยัง จะได้รับรถเมื่อไหร่ ซึ่งก็เหมือนเดิมทุกอย่าง (ข้ามไปนะคะ ขี้เกียจบรรยายแล้วว่า ติดต่อได้ยากแค่ไหน) ซึ่งกว่าจะติดต่อได้ ก็เกือบจะกลางเดือนตุลา เซลล์ก็บอกเราว่า “ไฟแนนซ์คุณน้องผ่านเรียบร้อยแล้วนะคะ คิวรถตอนนี้ก็ถึงคิวคุณน้องแล้วค่ะ พี่แค่รอรถมาจากโรงงานเท่านั้นเอง คาดว่า ไม่น่าจะเกินสิ้นเดือนนี้แหล่ะค่ะ ได้รับรถแน่นอน” (วันที่คุยกันก็คือเดือนตุลาคม คำว่าเดือนนี้ ก็ควรจะต้องเป็นเดือนตุลาคม ถูกไม๊คะ) ซึ่งเราก็เห็นว่า ตอนนี้ก็กลางเดือนกว่าๆ แล้ว ถ้าไม่เกินสิ้นเดือน ก็อีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ ก็เลยตัดสินใจรอกับเซลล์ทางนี้คนเดิม จึงปฏิเสธทางน้องชายไป
จนผ่านเดือนตุลาไปแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้รับรถ หรือได้รับการติดต่อจากเซลล์เลย ก็ได้พยายามติดต่อเซลล์เข้าไปอีก เหมือนเดิมค่ะ คือติดต่อไม่ได้ จนประมาณ สัปดาห์ที่ 2 ของเดือน พ.ย. ติดต่อเซลล์ได้ แล้วได้คำตอบว่า "ตุลาคงยังไม่ได้รถหรอกค่ะ เพราะทางโรงงานผิดนัดไม่ได้ส่งรถมาให้ตามกำหนดที่แจ้งไว้แต่แรก ทำให้คิวคลาดเคลื่อนค่ะ แต่ตอนนี้ถึงคิวของคุณน้องแล้วนะคะ ตอนนี้พี่รอแค่รถมาจากโรงงานเท่านั้นเอง คิวต่อไปนี่จะรถเข้ามา ประมาณต้นเดือน พ.ย.นี้แหล่ะค่ะ ก็คาดว่า เดือน พ.ย. นี้น้องได้รถแน่นอนค่ะ" เราก็เลยบอกเซลล์ไปว่า “พี่คะ หนูทราบค่ะว่าเดือนตุลาเนี่ยไม่ได้รถแน่ๆ เพราะนี่มันเดือน พฤศจิกา แล้วค่ะ แล้วที่พี่บอกว่า รถจะเข้ามาต้นเดือน พฤศจิกา รถเข้ามาหรือยังคะ เพราะนี่พรุ่งนี้ก็กลางเดือนแล้วนะคะ ก่อนจะตอบพี่ดูปฏิทินบ้างหรือเปล่าคะ” เซลล์ก็ได้แต่อึกอัก ขอโทษขอโพยสารพัดที่จะงัดมาพูด (บอกตรงๆ ว่าเซ็งมากเลยกับการได้คุยกับเซลล์คนนี้ ทั้งที่นับครั้งในการคุยได้)
เราก็เลยบอกเซลล์ไปว่า เราบอกแต่แรกแล้วว่า เรามีความจำเป็นต้องใช้รถ ซึ่งเรารอได้แค่เดือน ต.ค. เท่านั้น คราวก่อนที่ถามว่าจะได้รับรถหรือยัง ถ้ายังไม่ได้ พี่ก็น่าจะบอกกันตรงๆ จะได้ยกเลิก เราจะไปรับรถกับที่อีกศูนย์นึง ซึ่งเราเองก็ยอมที่จะยกเงินจองให้ยึดไป (เราก็เข้าใจนะว่า มันคงจะมีผลกับคอมมิชชั่นของเค้า แต่เราก็มีความจำเป็นต้องใช้รถจริงๆนี่นา)
จากการพูดคุยกัน ในครั้งนี้ ซึ่งเซลล์ก็รับปากอย่างหนักแน่นว่า “ภายในเดือน พ.ย. จะได้รับรถแน่นอน .... “
จนเมื่อกลางเดือน พ.ย. เพื่อนเรา เค้าจอง รถ Suzuki - Swift กับที่ศูนย์นี้เหมือนกัน แต่จองหลังเราประมาณ 2-3 สัปดาห์ เค้าเข้าไปคุยที่ศูนย์นั้น เซลล์ที่ศูนย์แจ้งว่า คิวของเค้าคงจะได้รถประมาณเดือน ก.พ. ปีหน้า ซึ่งเพื่อนก็เลยลองถามถึงคิวของเรา ซึ่งได้คำตอบกลับมาว่า “คิวของเรายังไม่ถึง คงได้หลังปีใหม่ น่าจะกลางเดือน ม.ค. ........” (อ้าวเฮ้ย !!!!! แล้วไหงเซลล์เราบอกว่าถึงคิวเราได้รถแล้ว แค่รอรถมาจากโรงงานอีกไม่กี่วันข้างหน้า แล้วมันยังไงกันแน่เนี่ย )
*** คือการที่ได้รถล่าช้า เราไม่เคยโทรไปต่อว่าเซลล์เลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะด้วยเหตุผลของเค้าเราเข้าใจได้อยู่ แต่บางทีลูกค้าก็อยากได้คำตอบว่า ตอนนี้ มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง ไม่ใช่เงียบหายไปเลย ติดต่อก็ไม่ได้ (แอบรู้สึกเหมือนถูกหลอก) แต่สิ่งที่ทำให้เราไม่พอใจเป็นอย่างที่สุดคือ ในเมื่อรับปากลูกค้าไปแล้ว ซึ่งถ้ามันมีเหตุที่จะไม่ได้ตามที่นัด ทำไมเซลล์ไม่ติดต่อลูกค้า แล้วทำไมเซลล์ไม่พูดความจริง (ถ้าเซลล์บอกความจริงแต่แรก เราก็คงได้รถมาใช้เรียบร้อยไปแล้วตั้งแต่เดือน ต.ค.) ทุกครั้งที่ได้คุยกัน ก็แต่บอกว่า ใกล้จะได้แล้วค่ะ ใกล้จะได้แล้วค่ะ เหมือนหลอกล่อให้ลูกค้ารอไปเรื่อยๆ ซึ่งเราแจ้งแต่แรก ว่าเรารีบที่จะใช้รถ เรารอได้แค่ในประมาณนึงเท่านั้น แต่นี่มันเลยประมาณนั้นมาพอสมควร ซึ่งถ้ามันจะยังไม่ได้จริงๆ เซลล์ก็น่าจะบอกลูกค้าตรงๆ ให้ลูกค้าได้มีสิทธิในการตัดสินใจ ว่าจะยังรอได้อยู่หรือไม่ เพราะไม่ว่ายังไง ก็เลยกำหนดตามในใบจองระบุไว้แล้ว ***
หลังจากวันนั้น เราก็เลยตัดสินใจว่าจะไม่รอรถยี่ห้อนี้แล้ว ก็เลยได้ไปติดต่อศูนย์มิตซูบิชิ ตรงเพชรเกษมตัดกับกาญจนาภิเษก สอบถามรถ Mitsubishi – Mirage ก็ได้คำตอบว่า มีรถอยู่ที่ศูนย์ 4 คัน ซึ่งเป็นรถที่มี order มาแต่ลูกค้ายังไม่พร้อมรับรถ คือถ้าเราพร้อม เราก็ใช้สิทธิ์ได้เลย ก็เลยตัดสินใจ โอนเงินจองไปให้ วันที่ 22 พ.ย. พร้อมส่งเอกสารยื่นเรื่องไฟแนนซ์ พอวันที่ 28 เซลล์มิตซูบิชิ โทรมาแจ้งว่าไฟแนนซ์ผ่านแล้ว เราพร้อมจะรับรถเลยไม๊ เราก็เลยนัดรับรถ วันที่ 30 พ.ย. เป็นอันจบ ได้รถใช้แล้ว มาคิดย้อนกลับไป เสียเวลาให้กับศูนย์ Suzukiตั้ง 8 เดือน เหนื่อยมาก รถก็ไม่ได้ เสียเวลา เสียเงินจากที่ได้รถช้ากว่ากำหนด อีกตะหาก
หลังจากนั้น เราก็ได้พยายามติดต่อกลับไปที่ศูนย์ Suzuki อีกครั้งเพื่อยกเลิกการจอง และขอเงินมัดจำคืน เนื่องจากทางศูนย์ผิดนัด ไม่สามารถจัดรถให้ลูกค้าได้ภายในกำหนด และเกินกำหนดเป็นเวลานาน .... ผลปรากฏว่า เหมือนเดิมอีกแล้ว คือ ติดต่อไม่ได้ ไม่ว่าจะมือถือเซลล์ โทรเข้าศูนย์ ก็ไม่มีผู้รับสาย .....
โทรอยู่นานค่ะ จนมีคนรับสายที่ศูนย์ เราก็เลยขอสายผู้จัดการศูนย์ เจ้าหน้าที่ที่รับสาย ก็พยายามจะถามว่า ติดต่อเรื่องอะไร ติดต่อกับเซลล์ท่านไหนไว้ เราก็บอกว่า เราไม่คุยกับเซลล์แล้ว เราจะขอคุยกับผู้จัดการศูนย์ คนที่มีอำนาจตัดสินใจ ลูกค้าจะยกเลิกใบจองรถ และขอเงินจองคืน
ซักพักนึงก็มีเจ้าหน้าที่มารับสายซึ่งแจ้งเราว่าเป็นผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้ากรณีเกิดปัญหาขัดข้อง เราก็เลยเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เค้าฟัง ซึ่งเค้าก็ขอโทษแทนเซลล์คนนั้นที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เราก็เลยบอกกลับไปว่า ที่เล่านี่ไม่ได้ต้องการจะโทษใคร แค่ต้องการยกเลิกการจอง และขอเงินจองพร้อมเอกสารทั้งหมดคืน
ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า จะต้องเข้ามาทำเรื่องถอนจอง ด้วยตัวเอง ก็เลยแจ้งว่าจะเข้าไป วันศุกร์ที่ 30 พ.ย. เพราะ ว่า ทาง Mitsubishi เค้านัดรับรถ วันที่ 30 พ.ย. ซึ่งรับรถที่ศูนย์ Mitsubishi แล้วก็วนมาทำเรื่องที่ศูนย์ Suzuki ได้ ไม่ไกลกันมาก ปรากฏว่า ทางผู้จัดการศูนย์ Suzuki บอกว่า ถ้าจะเข้ามา ก็ต้องเข้ามาภายในวันที่ 29 พ.ย. หรือไม่ก็ต้องหลังวันที่ 10 ธ.ค. ไปเลย เพราะเค้าต้องไปประจำที่งาน motor expo กลับมาอีกที ก็หลังจากงานจบแล้ว เราก็เลยตัดสินใจไปทำเรื่องถอนจอง ในวันที่ 29 พ.ย. ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่อง แจ้งว่า ใช้เวลาในการทำเรื่องคืนประมาณ 1 เดือน เพราะต้องส่งเรื่องพร้อมเหตุผลในการถอนจอง เข้าไปที่ศูนย์ Suzuki สำนักงานใหญ่ อ้างสารพัดเหตุผล
พอประมาณวันที่ 20 ธ.ค. เราได้โทรไปสอบถามที่ศูนย์ Suzuki ว่าเงินค่าจองรถที่ยกเลิก ได้คืนหรือยัง ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า ส่งเรื่องไปแล้ว เดี๋ยวตามเรื่องให้แล้วจะโทรกลับ ..... แล้วก็เงียบไป ตามระเบียบ (ให้มันได้อย่างนี้สิ เหมือนน่าจะชินกับการเงียบของศูนย์นี้แล้วนะ)
หลังจากนั้น เมื่อตอนก่อนปีใหม่ ไม่กี่วัน ก็ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ Suzuki ว่า เพิ่งจะได้รับเรื่องการทำเงินคืน คาดว่า น่าจะได้เงินประมาณ กลางเดือน ม.ค. ฟังแล้วก็อึ้งไปพักนึง “คุณพระ !!!! ตอบมาว่าเพิ่งได้รับเรื่อง ทั้งที่เราไปทำเรื่องยกเลิก ตั้งแต่ 29 พ.ย. แล้ว 1 เดือนที่ผ่านมา เอกสารมันไปเดินเล่นที่ไหนมาหรือนี่”
ตอนนี้ก็รอลุ้นต่อไปว่า กลางเดือน จะได้รับเงินคืนหรือไม่ ....... 55555 ถ้าได้รับเงินคืนเรียบร้อยแล้ว จะมาแชร์ให้ทราบต่อไปนะคะ
สำหรับเรื่องราวนี้ ไม่ได้ต้องการจะตำหนิหรือโทษใคร แค่อยากแชร์ประสบการณ์ ถ้าทางศูนย์นั้น หรือไม่ว่าจะศูนย์ไหน ได้อ่านก็อยากฝากให้มีการปรับปรุง อบรมจรรยาบรรณของผู้ขาย ผู้ขายที่ขาดจรรยาบรรณในการขาย คุณคิดแต่ว่าจะเอายอดขาย แต่คุณไม่ได้นึกถึงลูกค้า ว่าเค้าจะเดือดร้อนกับคำหลอกลวงไปวันๆ ของคุณหรือไม่ หรือคุณอาจจะคิดว่า ไม่แคร์หรอก ยอดจองชั้นเยอะแยะ ใครไม่รอก็ไม่ต้องรอ เอาไปให้ลูกค้าคิวอื่นต่อไปก็ได้ คือถ้าคิดแบบนั้นมันก็ได้อยู่นะ แต่การที่คุณไม่ซื่อสัตย์ต่ออาชีพของคุณ ก็แปลว่าคุณได้ทำลายความซื่อสัตย์ต่อตัวเอง คุณก็จะอยู่กับความไม่ซื่อสัตย์ของคุณต่อไป

จบเรื่องราวประสบการณ์อันน่าปวดหัว ค่ะ
ประสบการณ์จองรถ Suzuki - Swift
เราจองรถ Suzuki Swift ไว้เมื่อ 3 เม.ย.55 ที่ศูนย์ตรงถ.กาญจนาภิเษก (ขอไม่เอ่ยชื่อบริษัท เพราะไม่ฟันธงว่า เป็นที่บริษัทฯ หรือเป็นที่เซลล์) เราได้ถามเซลล์ว่า ถ้าจองวันนี้จะได้รถประมาณเมื่อไหร่ (ซึ่งจะคำนวณว่ารอไหวไม๊) และก็ถามเซลล์ไปว่า สีไหนจะมีโอกาสได้เร็วที่สุด ก็เอาสีนั้นเลย เซลล์แจ้งว่าสีแดง อ่ะ แดงก็แดง สรุปว่า เราสั่งรุ่นรองท้อป สีแดง เซลล์แจ้งว่าได้รับรถ เดือน ต.ค.55 ซึ่งเราย้ำแล้วว่า เรารีบใช้รถนะ ถ้ายืนยันว่ารับรถเดือน ต.ค. ก็ยังรอไหว ถ้าได้เร็วกว่านั้น หรือถ้าจะช้ากว่านั้น รบกวนแจ้งด้วย เซลล์ก็รับปากเป็นอย่างดี จึงได้สั่งจองและชำระเงินจำนวน 5,000 บาท (เป็นการโอนเงินเข้าบัญชี เพราะ ในวันที่คุยกัน ไม่ได้เตรียมเงินไป ก็เลยกลับออกไปแล้วโอนเงินเข้าบัญชีให้)
หลังจากที่ได้โอนเงินค่าจองไปแล้ว ก็ไม่เคยได้รับการติดต่อจากเซลล์อีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว ขอย้ำว่า “เซลล์ไม่เคยรับสายโทรศัพท์มือถือเลยแม้แต่ครั้งเดียว” ผ่านไป 1 สัปดาห์ ยังไม่ได้รับใบจอง และหลักฐานการรับเงินจอง ก็โทรไปหาเซลล์ เพื่อตามเอกสาร วันแรกไม่รับสาย (โทรเป็นสิบๆ ครั้ง แต่ไม่รับสายเลย) โทรเข้าสำนักงาน เบอร์สำนักงาน มี 2 เบอร์ ก็ไม่มีใครรับสาย ดังจนสายตัดไปเองอยู่หลายครั้งมาก จนบางครั้งก็มีเจ้าหน้าที่รับสายแล้วให้ฝากเรื่องไว้ ก็ไม่โทรกลับ วันที่สอง สาม สี่ ห้า เป็นแบบนี้อยู่ทั้งอาทิตย์ แล้วเนื่องด้วย เข้าช่วงสงกรานต์ งานที่ออฟฟิศเราก็ยุ่งมากจนไม่ได้โทรไปตามอีก
พอพ้นจากสงกรานต์ไปแล้ว เปิดงานมา ก็โทรไปตาม กว่าจะติดต่อเซลล์ได้ก็ปาเข้าไปเกือบสิ้นเดือน เม.ย.55 โดยเซลล์ให้เหตุผลว่า “พี่ยุ่งมากเลยค่ะคุณน้อง รับลูกค้าทั้งวันเลย พอตอนเย็นมาก็ลืมโทรหาคุณน้องค่ะ” (อ้าว !!!! แล้วเราไม่ใช่ลูกค้าหรอ ?????) เราก็เลยตามใบจองและหลักฐานการรับเงิน เค้าก็บอกว่า “เดี๋ยวพรุ่งนี้เข้าออฟฟิศแล้วพี่จะส่งแฟกซ์ให้เลยนะคะ” ผ่านไป 1 สัปดาห์ก็ยังไม่ได้รับแฟกซ์ โทรไปตามก็เหมือนเดิม (เหมือนตอนโทรตามครั้งแรก ดีนะ บัญชีที่โอนเป็นบัญชีบริษัท ไม่งั้นจะคิดว่าเซลล์หลอกเอาเงินไปแล้วซะอีก) จนเมื่อประมาณเดือน ก.ค.55 ได้มีโอกาสผ่านไปแถวนั้นพอดี ก็เลยแวะเข้าไปรับใบจองเอง ผลปรากฏว่า ใบจองข้อมูลผิด เพราะเราจองรุ่นที่ ราคา 409,xxx บาท แต่ในใบจองเป็นราคา 465,xxx บาท ก็เลยให้เซลล์แก้ไขใหม่ให้ถูกต้อง เฮ่อ !! จบเรื่องการจอง
มาต่อเรื่องรถ
ในใบจองระบุไว้ว่าจะได้รับรถเดือน ต.ค.55 (ซึ่งตอนจอง ได้แจ้งกับเซลล์ไว้แล้วว่าเราต้องการรีบใช้รถ) คือนัดว่า ตุลาเราก็คิดแล้วว่าโอเคพอรอไหว ก็เลยตัดสินใจรอ โดยที่ตลอดระยะเวลาในการรอ ก็ไม่เคยได้รับการติดต่อจากเซลล์เลย เช่นเดิม ทุกครั้งที่โทรไป เซลล์ไม่เคยรับสายเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าจะโทรเข้ามือถือ หรือเบอร์สำนักงาน ฝากเรื่องให้โทรกลับก็ไม่เคยโทรกลับ (นับตั้งแต่วันจองรถ จนถึงวันนี้ ได้โทรติดต่อไปที่ศูนย์นี้เป็นร้อยครั้ง ได้คุยสายกับเซลล์ไม่เกิน 5 ครั้ง
เมื่อต้นเดือน ก.ย.55 ได้รับแฟกซ์จากเซลล์ว่า ให้เตรียมเอกสารการยื่นไฟแนนซ์ไว้ จะมีเจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อไปนัดรับเอกสาร ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่วัน ก็มีเจ้าหน้าที่ธนาคารมาติดต่อและรับเอกสารไปทำเรื่องไฟแนนซ์ และแจ้งว่า ประมาณ 3 วัน ถ้าไฟแนนซ์ผ่านจะแจ้งไปทางเซลล์เอง แล้วทุกอย่างก็เงียบไป (เหมือนเดิม)
จนเมื่อปลายเดือน ก.ย.55 น้องชายมาบอกว่า มีเพื่อนรู้จักกับเซลล์ของ Suzuki ที่ศูนย์อื่น เค้าบอกมาว่า มีรถเข้ามาที่ศูนย์แล้ว แต่ลูกค้าไม่พร้อมรับรถ เราจะเอาไม๊ ถ้าเอา ก็ให้โยกไปเอาของศูนย์นั้นเลย ซึ่งเราก็ได้พยายามติดต่อเซลล์ว่า ถึงคิวของเราหรือยัง จะได้รับรถเมื่อไหร่ ซึ่งก็เหมือนเดิมทุกอย่าง (ข้ามไปนะคะ ขี้เกียจบรรยายแล้วว่า ติดต่อได้ยากแค่ไหน) ซึ่งกว่าจะติดต่อได้ ก็เกือบจะกลางเดือนตุลา เซลล์ก็บอกเราว่า “ไฟแนนซ์คุณน้องผ่านเรียบร้อยแล้วนะคะ คิวรถตอนนี้ก็ถึงคิวคุณน้องแล้วค่ะ พี่แค่รอรถมาจากโรงงานเท่านั้นเอง คาดว่า ไม่น่าจะเกินสิ้นเดือนนี้แหล่ะค่ะ ได้รับรถแน่นอน” (วันที่คุยกันก็คือเดือนตุลาคม คำว่าเดือนนี้ ก็ควรจะต้องเป็นเดือนตุลาคม ถูกไม๊คะ) ซึ่งเราก็เห็นว่า ตอนนี้ก็กลางเดือนกว่าๆ แล้ว ถ้าไม่เกินสิ้นเดือน ก็อีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ ก็เลยตัดสินใจรอกับเซลล์ทางนี้คนเดิม จึงปฏิเสธทางน้องชายไป
จนผ่านเดือนตุลาไปแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้รับรถ หรือได้รับการติดต่อจากเซลล์เลย ก็ได้พยายามติดต่อเซลล์เข้าไปอีก เหมือนเดิมค่ะ คือติดต่อไม่ได้ จนประมาณ สัปดาห์ที่ 2 ของเดือน พ.ย. ติดต่อเซลล์ได้ แล้วได้คำตอบว่า "ตุลาคงยังไม่ได้รถหรอกค่ะ เพราะทางโรงงานผิดนัดไม่ได้ส่งรถมาให้ตามกำหนดที่แจ้งไว้แต่แรก ทำให้คิวคลาดเคลื่อนค่ะ แต่ตอนนี้ถึงคิวของคุณน้องแล้วนะคะ ตอนนี้พี่รอแค่รถมาจากโรงงานเท่านั้นเอง คิวต่อไปนี่จะรถเข้ามา ประมาณต้นเดือน พ.ย.นี้แหล่ะค่ะ ก็คาดว่า เดือน พ.ย. นี้น้องได้รถแน่นอนค่ะ" เราก็เลยบอกเซลล์ไปว่า “พี่คะ หนูทราบค่ะว่าเดือนตุลาเนี่ยไม่ได้รถแน่ๆ เพราะนี่มันเดือน พฤศจิกา แล้วค่ะ แล้วที่พี่บอกว่า รถจะเข้ามาต้นเดือน พฤศจิกา รถเข้ามาหรือยังคะ เพราะนี่พรุ่งนี้ก็กลางเดือนแล้วนะคะ ก่อนจะตอบพี่ดูปฏิทินบ้างหรือเปล่าคะ” เซลล์ก็ได้แต่อึกอัก ขอโทษขอโพยสารพัดที่จะงัดมาพูด (บอกตรงๆ ว่าเซ็งมากเลยกับการได้คุยกับเซลล์คนนี้ ทั้งที่นับครั้งในการคุยได้)
เราก็เลยบอกเซลล์ไปว่า เราบอกแต่แรกแล้วว่า เรามีความจำเป็นต้องใช้รถ ซึ่งเรารอได้แค่เดือน ต.ค. เท่านั้น คราวก่อนที่ถามว่าจะได้รับรถหรือยัง ถ้ายังไม่ได้ พี่ก็น่าจะบอกกันตรงๆ จะได้ยกเลิก เราจะไปรับรถกับที่อีกศูนย์นึง ซึ่งเราเองก็ยอมที่จะยกเงินจองให้ยึดไป (เราก็เข้าใจนะว่า มันคงจะมีผลกับคอมมิชชั่นของเค้า แต่เราก็มีความจำเป็นต้องใช้รถจริงๆนี่นา)
จากการพูดคุยกัน ในครั้งนี้ ซึ่งเซลล์ก็รับปากอย่างหนักแน่นว่า “ภายในเดือน พ.ย. จะได้รับรถแน่นอน .... “
จนเมื่อกลางเดือน พ.ย. เพื่อนเรา เค้าจอง รถ Suzuki - Swift กับที่ศูนย์นี้เหมือนกัน แต่จองหลังเราประมาณ 2-3 สัปดาห์ เค้าเข้าไปคุยที่ศูนย์นั้น เซลล์ที่ศูนย์แจ้งว่า คิวของเค้าคงจะได้รถประมาณเดือน ก.พ. ปีหน้า ซึ่งเพื่อนก็เลยลองถามถึงคิวของเรา ซึ่งได้คำตอบกลับมาว่า “คิวของเรายังไม่ถึง คงได้หลังปีใหม่ น่าจะกลางเดือน ม.ค. ........” (อ้าวเฮ้ย !!!!! แล้วไหงเซลล์เราบอกว่าถึงคิวเราได้รถแล้ว แค่รอรถมาจากโรงงานอีกไม่กี่วันข้างหน้า แล้วมันยังไงกันแน่เนี่ย )
*** คือการที่ได้รถล่าช้า เราไม่เคยโทรไปต่อว่าเซลล์เลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะด้วยเหตุผลของเค้าเราเข้าใจได้อยู่ แต่บางทีลูกค้าก็อยากได้คำตอบว่า ตอนนี้ มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง ไม่ใช่เงียบหายไปเลย ติดต่อก็ไม่ได้ (แอบรู้สึกเหมือนถูกหลอก) แต่สิ่งที่ทำให้เราไม่พอใจเป็นอย่างที่สุดคือ ในเมื่อรับปากลูกค้าไปแล้ว ซึ่งถ้ามันมีเหตุที่จะไม่ได้ตามที่นัด ทำไมเซลล์ไม่ติดต่อลูกค้า แล้วทำไมเซลล์ไม่พูดความจริง (ถ้าเซลล์บอกความจริงแต่แรก เราก็คงได้รถมาใช้เรียบร้อยไปแล้วตั้งแต่เดือน ต.ค.) ทุกครั้งที่ได้คุยกัน ก็แต่บอกว่า ใกล้จะได้แล้วค่ะ ใกล้จะได้แล้วค่ะ เหมือนหลอกล่อให้ลูกค้ารอไปเรื่อยๆ ซึ่งเราแจ้งแต่แรก ว่าเรารีบที่จะใช้รถ เรารอได้แค่ในประมาณนึงเท่านั้น แต่นี่มันเลยประมาณนั้นมาพอสมควร ซึ่งถ้ามันจะยังไม่ได้จริงๆ เซลล์ก็น่าจะบอกลูกค้าตรงๆ ให้ลูกค้าได้มีสิทธิในการตัดสินใจ ว่าจะยังรอได้อยู่หรือไม่ เพราะไม่ว่ายังไง ก็เลยกำหนดตามในใบจองระบุไว้แล้ว ***
หลังจากวันนั้น เราก็เลยตัดสินใจว่าจะไม่รอรถยี่ห้อนี้แล้ว ก็เลยได้ไปติดต่อศูนย์มิตซูบิชิ ตรงเพชรเกษมตัดกับกาญจนาภิเษก สอบถามรถ Mitsubishi – Mirage ก็ได้คำตอบว่า มีรถอยู่ที่ศูนย์ 4 คัน ซึ่งเป็นรถที่มี order มาแต่ลูกค้ายังไม่พร้อมรับรถ คือถ้าเราพร้อม เราก็ใช้สิทธิ์ได้เลย ก็เลยตัดสินใจ โอนเงินจองไปให้ วันที่ 22 พ.ย. พร้อมส่งเอกสารยื่นเรื่องไฟแนนซ์ พอวันที่ 28 เซลล์มิตซูบิชิ โทรมาแจ้งว่าไฟแนนซ์ผ่านแล้ว เราพร้อมจะรับรถเลยไม๊ เราก็เลยนัดรับรถ วันที่ 30 พ.ย. เป็นอันจบ ได้รถใช้แล้ว มาคิดย้อนกลับไป เสียเวลาให้กับศูนย์ Suzukiตั้ง 8 เดือน เหนื่อยมาก รถก็ไม่ได้ เสียเวลา เสียเงินจากที่ได้รถช้ากว่ากำหนด อีกตะหาก
หลังจากนั้น เราก็ได้พยายามติดต่อกลับไปที่ศูนย์ Suzuki อีกครั้งเพื่อยกเลิกการจอง และขอเงินมัดจำคืน เนื่องจากทางศูนย์ผิดนัด ไม่สามารถจัดรถให้ลูกค้าได้ภายในกำหนด และเกินกำหนดเป็นเวลานาน .... ผลปรากฏว่า เหมือนเดิมอีกแล้ว คือ ติดต่อไม่ได้ ไม่ว่าจะมือถือเซลล์ โทรเข้าศูนย์ ก็ไม่มีผู้รับสาย .....
โทรอยู่นานค่ะ จนมีคนรับสายที่ศูนย์ เราก็เลยขอสายผู้จัดการศูนย์ เจ้าหน้าที่ที่รับสาย ก็พยายามจะถามว่า ติดต่อเรื่องอะไร ติดต่อกับเซลล์ท่านไหนไว้ เราก็บอกว่า เราไม่คุยกับเซลล์แล้ว เราจะขอคุยกับผู้จัดการศูนย์ คนที่มีอำนาจตัดสินใจ ลูกค้าจะยกเลิกใบจองรถ และขอเงินจองคืน
ซักพักนึงก็มีเจ้าหน้าที่มารับสายซึ่งแจ้งเราว่าเป็นผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้ากรณีเกิดปัญหาขัดข้อง เราก็เลยเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เค้าฟัง ซึ่งเค้าก็ขอโทษแทนเซลล์คนนั้นที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เราก็เลยบอกกลับไปว่า ที่เล่านี่ไม่ได้ต้องการจะโทษใคร แค่ต้องการยกเลิกการจอง และขอเงินจองพร้อมเอกสารทั้งหมดคืน
ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า จะต้องเข้ามาทำเรื่องถอนจอง ด้วยตัวเอง ก็เลยแจ้งว่าจะเข้าไป วันศุกร์ที่ 30 พ.ย. เพราะ ว่า ทาง Mitsubishi เค้านัดรับรถ วันที่ 30 พ.ย. ซึ่งรับรถที่ศูนย์ Mitsubishi แล้วก็วนมาทำเรื่องที่ศูนย์ Suzuki ได้ ไม่ไกลกันมาก ปรากฏว่า ทางผู้จัดการศูนย์ Suzuki บอกว่า ถ้าจะเข้ามา ก็ต้องเข้ามาภายในวันที่ 29 พ.ย. หรือไม่ก็ต้องหลังวันที่ 10 ธ.ค. ไปเลย เพราะเค้าต้องไปประจำที่งาน motor expo กลับมาอีกที ก็หลังจากงานจบแล้ว เราก็เลยตัดสินใจไปทำเรื่องถอนจอง ในวันที่ 29 พ.ย. ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่อง แจ้งว่า ใช้เวลาในการทำเรื่องคืนประมาณ 1 เดือน เพราะต้องส่งเรื่องพร้อมเหตุผลในการถอนจอง เข้าไปที่ศูนย์ Suzuki สำนักงานใหญ่ อ้างสารพัดเหตุผล
พอประมาณวันที่ 20 ธ.ค. เราได้โทรไปสอบถามที่ศูนย์ Suzuki ว่าเงินค่าจองรถที่ยกเลิก ได้คืนหรือยัง ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า ส่งเรื่องไปแล้ว เดี๋ยวตามเรื่องให้แล้วจะโทรกลับ ..... แล้วก็เงียบไป ตามระเบียบ (ให้มันได้อย่างนี้สิ เหมือนน่าจะชินกับการเงียบของศูนย์นี้แล้วนะ)
หลังจากนั้น เมื่อตอนก่อนปีใหม่ ไม่กี่วัน ก็ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ Suzuki ว่า เพิ่งจะได้รับเรื่องการทำเงินคืน คาดว่า น่าจะได้เงินประมาณ กลางเดือน ม.ค. ฟังแล้วก็อึ้งไปพักนึง “คุณพระ !!!! ตอบมาว่าเพิ่งได้รับเรื่อง ทั้งที่เราไปทำเรื่องยกเลิก ตั้งแต่ 29 พ.ย. แล้ว 1 เดือนที่ผ่านมา เอกสารมันไปเดินเล่นที่ไหนมาหรือนี่”
ตอนนี้ก็รอลุ้นต่อไปว่า กลางเดือน จะได้รับเงินคืนหรือไม่ ....... 55555 ถ้าได้รับเงินคืนเรียบร้อยแล้ว จะมาแชร์ให้ทราบต่อไปนะคะ
สำหรับเรื่องราวนี้ ไม่ได้ต้องการจะตำหนิหรือโทษใคร แค่อยากแชร์ประสบการณ์ ถ้าทางศูนย์นั้น หรือไม่ว่าจะศูนย์ไหน ได้อ่านก็อยากฝากให้มีการปรับปรุง อบรมจรรยาบรรณของผู้ขาย ผู้ขายที่ขาดจรรยาบรรณในการขาย คุณคิดแต่ว่าจะเอายอดขาย แต่คุณไม่ได้นึกถึงลูกค้า ว่าเค้าจะเดือดร้อนกับคำหลอกลวงไปวันๆ ของคุณหรือไม่ หรือคุณอาจจะคิดว่า ไม่แคร์หรอก ยอดจองชั้นเยอะแยะ ใครไม่รอก็ไม่ต้องรอ เอาไปให้ลูกค้าคิวอื่นต่อไปก็ได้ คือถ้าคิดแบบนั้นมันก็ได้อยู่นะ แต่การที่คุณไม่ซื่อสัตย์ต่ออาชีพของคุณ ก็แปลว่าคุณได้ทำลายความซื่อสัตย์ต่อตัวเอง คุณก็จะอยู่กับความไม่ซื่อสัตย์ของคุณต่อไป