***มาอัพเดตให้ฟังค่ะ
วันนี้ตำรวจมาที่ร้านเพื่อมาคุยกับผู้จัดการ แต่ไม่ใช่คนที่มาบ้านเมื่อคืน เชิญผู้จัดการออกไปคุยนอกร้าน พอเค้าเข้ามาเราก็ถามว่าเป็นไงบ้าง ผู้จัดการเล่าให้ฟังว่า ตำรวจคนเมื่อคืนเขียนreportว่าเราเอาไอแพดกลับมาบ้านได้2-3วันแล้ว เราก็เห้ย อะไรวะ เราบอกเค้าว่าเพิ่งเอากลับมาแล้วก็เสียบชาร์ตพอเปิดได้ปุ๊บก็โทรหาเจ้าของเลยแต่เค้าปิดเครื่อง ผู้จัดการก็ช่วยยืนยันไปกับตำรวจว่าไม่จริง เพราะเมื่อวันเสาร์เค้ายังเห็นอยู่เลย แล้วเรากลับบ้านเร็วก่อนปิดร้านก็ไม่เห็นเราหิ้วไอแพดออกไป เป็นไปไม่ได้ที่เราจะเอากลับมาบ้านหลายวันแล้ว เค้าบอกว่าเค้าต้องกลับไปเขียนreport อีกรอบแล้วจะส่งมาให้ที่ร้าน ตอนนี้ก็ถึงหูเจ้าจองร้านแล้วด้วย เจ้าของร้านไม่ได้ว่าอะไรเรา บอกแต่ว่าถ้าเกิดเรื่องอย่างนี้อีกให้ทิ้งไว้ที่เรา เราเลยตอบกลับว่า เหอๆรู้แล้วล่ะตอนนี้ เข็ดไม่พยายามจะช่วยตามหาเจ้าของอีกแล้ว เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอชัดๆ ถึงตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าขั้นตอนต่อไปเป็นยังไง เค้าหายข้องใจเรื่องเรารึยัง เพราะสิ่งที่ผู้จัดการบอกตำรวจไปนั้นตรงกับที่เราบอกทุกอย่าง แต่ตำรวจก็ยืนยันว่าต้องกลับไปเขียนรายงาน ตอนนี้ก็รอๆๆๆว่าผลจะออกมาเป็นยังไง
สิ่งที่ทำให้เรายิ่งโมโหมากตอนนี้คือทำไมไอ้ตำรวจคนเมื่อคืนถึงต้องโกหกในรายงานด้วย สิ่งที่เค้าทำอย่างนี้เราสามารถเอาผิดเค้าได้รึเปล่าที่มากลับคำให้การของเรา
ส่วนหลายๆคนที่ถามว่าทำไมถึงรอเป็นเดือนกว่าจะเปิดเครื่อง เพราะทุกคนในร้านยกเว้นผู้จัดการคนเดียวลืมไปหมดแล้วว่าไอแพดยังอยู่ เราไปเจอเข้าเพราะทำความสะอาด ผู้จัดการเองก็ไม่รู้ว่าเค้าสมควรจะโทรแจ้งตำรวจถ้าเจอของอย่างนั้น รู้ก็เพราะเราบอกนั่นแหละไม่งั้นก็คงโทรหาไปนานแล้ว
บางคนก็ว่าอยู่ประเทศเค้าทำไมไม่รู้กฏหมาย กฏหมายมีเป็นเล่ม เราไม่ได้เรียนมาด้านนี้โดยตรง แล้วกฏหมายแต่ละรัฐก็ไม่เหมือนกัน เรื่องธรรมดาๆเราก็พอรู้อยู่ที่ว่าขับรถแล้วเจอไฟหวอให้จอดหลบ เจอตำรวจเปิดไฟใส่ให้จอดนิ่งๆห้ามเอามือล้วงนู้นนี่เพราะเราเคยเจอโบกขับรถเกินลิมิต2ครั้ง ไม่ได้มือโปรเหมือนพวกโจรขโมยบางคนที่รู้ทางหนีทีไล่ รู้ช่องโหว่ของกฏหมาย คนอเมริกันเองมีกี่คนกันที่ไม่ใช่ทนายแล้วรู้กฏหมายได้ทุกเรื่อง อาชีพทนายที่นี่ถึงรวยกันเละเทะและรุ่งเรื่องมาก ทนายเฉพาะทางก็เยอะ ขนาดเราจะหย่าตกลงกันได้ทุกอย่างยังเซ็นกันเองไม่ได้ ทั้งสองฝ่ายต้องจ้างทนายเพราะเราทำกันเองไม่รู้เรื่อง ถ้าคนมากินข้าวที่ร้านแล้วสั่งเบียร์หรือไวน์เราเสิร์ฟให้เค้าเยอะไปโดยไม่เห็นว่าเค้าเมาแล้ว ถ้าเค้าขับรถออกไปแล้วชนคนตายหรือทำใครเจ็บ คนที่เสิร์ฟเบียร์และไวน์ให้เค้าก็โดนฟ้องด้วยเพราะกฏหมายถือว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้อง อันนี้เราก็เพิ่งมารู้ตอนเรียนเอาใบเสิร์ฟเหล้าเหมือนกัน
ขอบคุณทุกคนค่ะที่เข้ามาเป็นกำลังใจ ให้ข้อชี้แนะและให้ข้อคิดกลับกันว่าถ้าเราเป็นเจ้าของเครื่องเราจะคิดยังไงถ้าอยู่ๆมันหายไปแล้วไปโผล่บ้านคนๆนึงอีกเดือนนึงให้หลัง เราไม่ได้ไปขโมยมาจากกระเป๋าเค้า หรือไปทุบรถเค้าเพื่อขโมยมา เค้ามาลืมไว้ที่ร้านอาหารที่เราทำงาน แต่เรากลับโดนเรียกว่า "ขโมย" ซะงั้น จริงๆมันไม่ใช่หน้าที่เราด้วยซ้ำเหมือนที่หลายๆคนบอกว่าไปเจือกทำไม แต่ด้วยความอยากเป็นพลเมืองดีเลยทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์และไม่คิดว่าผลมันจะตามมาเป็นเช่นนี้
ส่วนหลายๆคนก็ยังข้องใจว่าเราเอากลับมาบ้านทำไม เราคิดไม่ซื่อจริงๆนิถึงเอากลับมาบ้าน ถึงตรงนี้ไม่อยากตอบอะไรแล้ว ใครจะคิดยังไงก็ชั่งแต่เรารู้อยู่แก่ใจ ถ้าไม่คิดจะคืนเจ้าของแล้วจะเก็บไว้เอง เราคงไม่โง่พอที่จะโทรไปตามเบอร์ที่มันขึ้นมาให้โทรไปหาหรอก เครื่องก็ล็อคต้องใช้พาสเวิดเข้า เราไม่รู้ไม่เห็นว่าในนั้นมีข้อมูลอะไรบ้าง รู้แต่เบอร์โทรศัพท์เบอร์นั้นที่โทรไป เฮ้อ ที่เอามาเขียนเล่าไม่ใช่เพราะขอความสงสาร แต่อยากมาเตือนให้คนที่ไม่รู้เรื่องเหมือนเราให้รู้ไว้ว่าอย่าหวังดีเพราะอาจโดนอย่างเราได้ ก่อนมาเมกาเคยได้ยินคนบอกว่าถ้าเจอคนแก่ล้มอย่าเข้าไปช่วยเพราะอาจโดนหาว่าเป็นคนผลักเค้าล้มเองก็ได้ ตอนนี้รู้แล้วว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้นก็ตอนเจอกับตัวเอง ด้วยความที่เราเป็นคนไทย นิสัยไทย เกิดและโตเมืองไทย น้ำใจคำนี้เป็นคำที่ภาษาอังกฤษไม่มี ตอนเรากลับไทยโดนรถชนสลบไป ก็ได้พลเมืองดีที่ไหนไม่รู้อุ้มขึ้นท้ายรถกระบะเค้าขับส่งโรงพยาบาล ไม่ทันได้ขอบคุณก็หายไปแล้ว ถ้าที่อเมริกาเจออุบัติเหตุ อย่าได้รึอาจเข้าไปช่วยเชียว เดี๋ยวจะโดนฟ้องเข้าไม่รู้ตัว
*****************************************
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า เจ้าของกระทู้ทำงานร้านอาหารไทยในอเมริกานี่แหละค่ะ เมื่อเดือนที่แล้วเข้ามาเปิดร้านเจอไอแพดวางอยู่บนเก้าอี้ของโต๊ะนึง แบตหมดเกลี้ยงเปิดไม่ติดแล้ว เลยเอามาวางไว้บนหลังตู้เย็นแล้วบอกเพื่อนๆพนักงานรวมกับผู้จัดการตอนทุกคนเข้ามาทำงานว่าเจอไอแพดลูกค้าลืมไว้ ถ้าใครมาถามหาวางไว้อยู่ตรงนี้นะ แล้วก็ไม่ได้สนใจอีกเลยหลังจากวันนั้นเพราะคิดว่าเจ้าของเค้าคงมาเอาคืนแล้ว ถ้าเป็นเราทำไอแพดหายก็คงตามคืนตั้งแต่วันสองวันนั้นแล้วล่ะ ปกติลูกค้าลืมบัตรเครดิตไว้บ่อยมาก เรานั่นแหละก็เป็นคนหวังดีโทรเข้าหาศูนย์ให้บอกให้เค้าช่วยติดต่อลูกค้าให้มาเอาบัตรไป บอกว่าลืมไว้ที่ร้านช่วยอายัดบัตรให้ด้วย ทุกครั้งก็มีคนมาเอาบัตรคืนไม่เคยมีปัญหาอะไร
จนมาวันนี้เก็บของไปมาเจ้าไอแพดตัวปัญหานั่นก็ยังวางที่เดิม เอ้า นี่เป็นเดือนแล้วเจ้าของยังไม่มาเอาอีกรึ ด้วยการที่อ่านเวปพันทิพเยอะไปหน่อย เจอคนทำของหายแล้วมีคนเอามาคืนให้ประจำได้คำยกย่องสรรเสริญกันไป ไอ้เราก็อยากทำดีเป็นฮีโร่กับเค้าบ้างเลยเอาไอ้แพดกลับมาบ้านเพื่อที่จะยืมที่ชาร์ตของเพื่อนลองเสียบดู เราเป็นสาวก Android ทั้งมือถือและแทปแลต ของแอปเปิ้ลไม่เอาเลยไม่ชอบ ก่อนเอากลับมาบ้านลองไปเสียบชาร์ตกับของเพื่อนที่ชาร์ตในรถ10นาทีแล้วไฟก็ไม่เข้าเลยบอกไม่เป็นไร เราลองมาเสียบที่บ้านดูดีกว่า น่าจะเร็วกว่าเยอะ เคยลองชาร์ตมือถือในรถเป็นปีกว่าจะขึ้นมา1ขีด
ชาร์ตไปได้2นาทีเปิดได้ เห็นวอลเปเปอร์เป็นพ่อแม่ลูกหน้าตาเอเชีย แล้วก็ข้อความขึ้นว่า ไอแพดอันนี้ได้หายไป ให้โทรเบอร์ xxx-xxx-xxxx โหเราเองก็เป็นแม่คนเนอะ สงสัยในนั้นคงมีข้อมูลหรือรูปครอบครัวอยู่เยอะ เค้าคงดีใจมากๆถ้าได้คืน ร้านเราปิด3ทุ่ม กว่าจะถึงบ้านก็เกือบ4ทุ่มและมองนาฬิกาเอ๊ะ มันดึกไปรึเปล่า หรือเค้าจะนอนแล้วรึยัง จะโทรไปกวนรึเปล่า รู้ๆอยู่ว่าคนอเมริกันไม่ชอบให้โทรหาหลัง3ทุ่ม แต่ก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมากที่สุดที่โทรหาตามเบอร์นั้น แต่มันเข้าฝากข้อความเพราะเจ้าของปิดเครื่อง เราไม่ชอบฝากข้อความสำเนียงก็ดีเหลือเกิน เลยกะว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าลองโทรอีกที แล้วก็นั่งดูหนังไปเรื่อยเปื่อย
เกือบเที่ยงคืนกริ่งประตูบ้านดัง เราก็เอ๊ะ ใครวะดึกดื่นป่านนี้ เราก็กลัวเนอะ ไปส่องดูช่องแอบดูเห็นผู้ชายคนนึงยืนหลบๆมุม แล้วก็มาเคาะๆๆๆๆบวกกับกดกริ่งประตูอีก ถามว่าใครบอกว่าตำรวจ เปิดออกไปเห็นตำรวจสองคน คนนึง Sheriff แถวบ้าน อีกคนตำรวจแถวที่ทำงานเพราะเราทำงานคนละเขตกับบ้าน มาถามเราเรื่องไอแพด เราบอกใช่เราเอากลับมาบ้าน อธิบายให้เค้าฟังตั้งแต่ต้นเรื่องว่ามันเป็นมายังไงเราถึงเอากลับมาบ้าน แต่โดนถามคำถามเหมือนกับว่าเราเป็นขโมย บอกว่าเหตุผลเราฟังไม่ขึ้น ถามประมาณว่า
1 เอากลับมาบ้านทำไม ทำไมไม่ชาร์ตที่ร้าน? ก็บอกไปแล้วว่าไม่มีที่ชาร์ตเพราะไม่ได้ใช้ของแอปเปิ้ลเลยต้องยืมที่ชาร์ตเพื่อนที่บ้าน พรุ่งนี้ไปทำงานก็จะเอาไปด้วยแล้วโทรบอกเจ้าของอีกทีให้มาเอาที่ร้าน
2 ทำไมไม่ฝากข้อความ? อันนี้โชคดีมากที่โทรไปหาเจ้าของแล้วมันล็อคเบอร์โทรออกไว้ในเครื่อง เราก็เอาให้ตำรวจดูนะว่าเราพยายามโทรแล้ว ที่ไม่ฝากข้อความเพราะไม่ชอบคุยกับคอมพิวเตอร์ แล้วมันฝากได้สั้นๆ อยากคุยกับตัวเจ้าของเป็นๆมากกว่า
3 พยายามเปิดเครื่องทำไม? ก็พยายามหาข้อมูลเจ้าของเครื่องเผื่อจะมีเบาะแสช่วยหาเจ้าของเจอได้บ้าง บอกเค้าแล้วว่าแบตมันหมดตั้งแต่วันแรกที่เจอเปิดดูอะไรไม่ได้เลย
4 ทำไมต้องรอเป็นเดือนถึงพยายามเปิดเครื่อง? เก็บได้จนลืมไปและว่ามันยังอยู่และยังไม่มีใครมาเอาคืน ไอ้เราก็หวังดีเลยคิดว่าลองหาเจ้าของเองดีกว่า
5 ถ้าเราเป็นเจ้าของเครื่องทำหายแล้วตาม GPS เจอว่าไปอยู่บ้านคนนี้จะรู้สึกยังไง? โอเค เราเข้าใจนะคงคิดว่าขโมย แต่ก็ต้องฟังเหตุผลกันบ้าง ทำของสำคัญขนาดนี้หายไม่คิดจะตามหาบ้างเหรอ ถ้าเป็นเราประสาทกินแล้ว ก็ต้องนั่งนึกแล้วว่าพกไปที่ไหนบ้าง แล้ววางที่ไหน กินข้าวที่ไหน เห็นครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เครื่องทุกเครื่องมี GPS เราก็รู้ ถ้าจะขโมยจะเอากลับมาบ้านทำไม ถามหน่อย ไม่ได้โง่นะ ถึงขั้นนี้เราโมโหมากแล้ว เราไม่เคยต้องเจอหรือเกี่ยวข้องกับตำรวจมาก่อนนอกจากโดนเขียนใบสั่งขับรถเกินลิมิต
6 ถ้าเจอกระเป๋าตังคนจะเก็บเอามาบ้านด้วยรึเปล่า? ปรี๊ดแตกแล้วตอนนี้ ตอบไปว่าถ้าเจอนะจะเปิดดูไอดีแล้วขับเอาไปคืนให้ถึงบ้านเจ้าของเลยล่ะ กวนตีนและเนี่ยคำถามแบบนี้
ถึงตอนนี้เรากลายเป็นผู้ต้องหาไปซะแล้ว เค้าบอกว่าสิ่งที่เราทำไม่ make sense เราบอกว่าเราก็แค่พยายามอยากตามหาเจ้าของ ไม่คิดว่าเมกากับเมืองไทยมันจะต่างกันลิบลับเช่นนี้ เค้าต้องทำการตรวจสอบว่าสิ่งที่เราพูดเป็นเรื่องจริงรึเปล่า ณ ตอนนี้เซ็งมาก ทำดีไม่ได้ดีกลับโดนซวยอีก ไอ้เจ้าของก็กวนนะ เราโทรไปปิดเครื่อง แต่เจือกโทรหาตำรวจซะงั้น
สิ่งที่อยากจะเตือนทุกคนตำรวจบอกมาว่า ถ้าเจอของอะไรก็ตามให้โทรหาตำรวจ อย่าเอากลับมาบ้านแล้วพยายามหาเจ้าของเอง เราบอกข้อนี้เราไม่เคยรู้มาก่อนและก็คิดไม่ถึงด้วย ต่อไปนี้จะทำตามจะได้ไม่ซวยไม่ตำรวจมาเคาะประตูหน้าบ้านตอนเที่ยงคืนอีก เราไม่รู้กฏหมาย ก็แค่หวังดีอยากให้เจ้าของได้คืนก็แค่นั้นเราเลยทำในสิ่งที่เราทำลงไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ แล้วนี่ต่อไปจะเป็นยังไงอีกก็ไม่รู้ เฮ้อ
<<< เจอไอแพดลูกค้าลืมไว้ พยายามจะหาเจ้าของ แต่กลับโดนตำรวจหาว่าเป็นขโมยซะงั้น >>>
วันนี้ตำรวจมาที่ร้านเพื่อมาคุยกับผู้จัดการ แต่ไม่ใช่คนที่มาบ้านเมื่อคืน เชิญผู้จัดการออกไปคุยนอกร้าน พอเค้าเข้ามาเราก็ถามว่าเป็นไงบ้าง ผู้จัดการเล่าให้ฟังว่า ตำรวจคนเมื่อคืนเขียนreportว่าเราเอาไอแพดกลับมาบ้านได้2-3วันแล้ว เราก็เห้ย อะไรวะ เราบอกเค้าว่าเพิ่งเอากลับมาแล้วก็เสียบชาร์ตพอเปิดได้ปุ๊บก็โทรหาเจ้าของเลยแต่เค้าปิดเครื่อง ผู้จัดการก็ช่วยยืนยันไปกับตำรวจว่าไม่จริง เพราะเมื่อวันเสาร์เค้ายังเห็นอยู่เลย แล้วเรากลับบ้านเร็วก่อนปิดร้านก็ไม่เห็นเราหิ้วไอแพดออกไป เป็นไปไม่ได้ที่เราจะเอากลับมาบ้านหลายวันแล้ว เค้าบอกว่าเค้าต้องกลับไปเขียนreport อีกรอบแล้วจะส่งมาให้ที่ร้าน ตอนนี้ก็ถึงหูเจ้าจองร้านแล้วด้วย เจ้าของร้านไม่ได้ว่าอะไรเรา บอกแต่ว่าถ้าเกิดเรื่องอย่างนี้อีกให้ทิ้งไว้ที่เรา เราเลยตอบกลับว่า เหอๆรู้แล้วล่ะตอนนี้ เข็ดไม่พยายามจะช่วยตามหาเจ้าของอีกแล้ว เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอชัดๆ ถึงตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าขั้นตอนต่อไปเป็นยังไง เค้าหายข้องใจเรื่องเรารึยัง เพราะสิ่งที่ผู้จัดการบอกตำรวจไปนั้นตรงกับที่เราบอกทุกอย่าง แต่ตำรวจก็ยืนยันว่าต้องกลับไปเขียนรายงาน ตอนนี้ก็รอๆๆๆว่าผลจะออกมาเป็นยังไง
สิ่งที่ทำให้เรายิ่งโมโหมากตอนนี้คือทำไมไอ้ตำรวจคนเมื่อคืนถึงต้องโกหกในรายงานด้วย สิ่งที่เค้าทำอย่างนี้เราสามารถเอาผิดเค้าได้รึเปล่าที่มากลับคำให้การของเรา
ส่วนหลายๆคนที่ถามว่าทำไมถึงรอเป็นเดือนกว่าจะเปิดเครื่อง เพราะทุกคนในร้านยกเว้นผู้จัดการคนเดียวลืมไปหมดแล้วว่าไอแพดยังอยู่ เราไปเจอเข้าเพราะทำความสะอาด ผู้จัดการเองก็ไม่รู้ว่าเค้าสมควรจะโทรแจ้งตำรวจถ้าเจอของอย่างนั้น รู้ก็เพราะเราบอกนั่นแหละไม่งั้นก็คงโทรหาไปนานแล้ว
บางคนก็ว่าอยู่ประเทศเค้าทำไมไม่รู้กฏหมาย กฏหมายมีเป็นเล่ม เราไม่ได้เรียนมาด้านนี้โดยตรง แล้วกฏหมายแต่ละรัฐก็ไม่เหมือนกัน เรื่องธรรมดาๆเราก็พอรู้อยู่ที่ว่าขับรถแล้วเจอไฟหวอให้จอดหลบ เจอตำรวจเปิดไฟใส่ให้จอดนิ่งๆห้ามเอามือล้วงนู้นนี่เพราะเราเคยเจอโบกขับรถเกินลิมิต2ครั้ง ไม่ได้มือโปรเหมือนพวกโจรขโมยบางคนที่รู้ทางหนีทีไล่ รู้ช่องโหว่ของกฏหมาย คนอเมริกันเองมีกี่คนกันที่ไม่ใช่ทนายแล้วรู้กฏหมายได้ทุกเรื่อง อาชีพทนายที่นี่ถึงรวยกันเละเทะและรุ่งเรื่องมาก ทนายเฉพาะทางก็เยอะ ขนาดเราจะหย่าตกลงกันได้ทุกอย่างยังเซ็นกันเองไม่ได้ ทั้งสองฝ่ายต้องจ้างทนายเพราะเราทำกันเองไม่รู้เรื่อง ถ้าคนมากินข้าวที่ร้านแล้วสั่งเบียร์หรือไวน์เราเสิร์ฟให้เค้าเยอะไปโดยไม่เห็นว่าเค้าเมาแล้ว ถ้าเค้าขับรถออกไปแล้วชนคนตายหรือทำใครเจ็บ คนที่เสิร์ฟเบียร์และไวน์ให้เค้าก็โดนฟ้องด้วยเพราะกฏหมายถือว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้อง อันนี้เราก็เพิ่งมารู้ตอนเรียนเอาใบเสิร์ฟเหล้าเหมือนกัน
ขอบคุณทุกคนค่ะที่เข้ามาเป็นกำลังใจ ให้ข้อชี้แนะและให้ข้อคิดกลับกันว่าถ้าเราเป็นเจ้าของเครื่องเราจะคิดยังไงถ้าอยู่ๆมันหายไปแล้วไปโผล่บ้านคนๆนึงอีกเดือนนึงให้หลัง เราไม่ได้ไปขโมยมาจากกระเป๋าเค้า หรือไปทุบรถเค้าเพื่อขโมยมา เค้ามาลืมไว้ที่ร้านอาหารที่เราทำงาน แต่เรากลับโดนเรียกว่า "ขโมย" ซะงั้น จริงๆมันไม่ใช่หน้าที่เราด้วยซ้ำเหมือนที่หลายๆคนบอกว่าไปเจือกทำไม แต่ด้วยความอยากเป็นพลเมืองดีเลยทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์และไม่คิดว่าผลมันจะตามมาเป็นเช่นนี้
ส่วนหลายๆคนก็ยังข้องใจว่าเราเอากลับมาบ้านทำไม เราคิดไม่ซื่อจริงๆนิถึงเอากลับมาบ้าน ถึงตรงนี้ไม่อยากตอบอะไรแล้ว ใครจะคิดยังไงก็ชั่งแต่เรารู้อยู่แก่ใจ ถ้าไม่คิดจะคืนเจ้าของแล้วจะเก็บไว้เอง เราคงไม่โง่พอที่จะโทรไปตามเบอร์ที่มันขึ้นมาให้โทรไปหาหรอก เครื่องก็ล็อคต้องใช้พาสเวิดเข้า เราไม่รู้ไม่เห็นว่าในนั้นมีข้อมูลอะไรบ้าง รู้แต่เบอร์โทรศัพท์เบอร์นั้นที่โทรไป เฮ้อ ที่เอามาเขียนเล่าไม่ใช่เพราะขอความสงสาร แต่อยากมาเตือนให้คนที่ไม่รู้เรื่องเหมือนเราให้รู้ไว้ว่าอย่าหวังดีเพราะอาจโดนอย่างเราได้ ก่อนมาเมกาเคยได้ยินคนบอกว่าถ้าเจอคนแก่ล้มอย่าเข้าไปช่วยเพราะอาจโดนหาว่าเป็นคนผลักเค้าล้มเองก็ได้ ตอนนี้รู้แล้วว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้นก็ตอนเจอกับตัวเอง ด้วยความที่เราเป็นคนไทย นิสัยไทย เกิดและโตเมืองไทย น้ำใจคำนี้เป็นคำที่ภาษาอังกฤษไม่มี ตอนเรากลับไทยโดนรถชนสลบไป ก็ได้พลเมืองดีที่ไหนไม่รู้อุ้มขึ้นท้ายรถกระบะเค้าขับส่งโรงพยาบาล ไม่ทันได้ขอบคุณก็หายไปแล้ว ถ้าที่อเมริกาเจออุบัติเหตุ อย่าได้รึอาจเข้าไปช่วยเชียว เดี๋ยวจะโดนฟ้องเข้าไม่รู้ตัว
*****************************************
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า เจ้าของกระทู้ทำงานร้านอาหารไทยในอเมริกานี่แหละค่ะ เมื่อเดือนที่แล้วเข้ามาเปิดร้านเจอไอแพดวางอยู่บนเก้าอี้ของโต๊ะนึง แบตหมดเกลี้ยงเปิดไม่ติดแล้ว เลยเอามาวางไว้บนหลังตู้เย็นแล้วบอกเพื่อนๆพนักงานรวมกับผู้จัดการตอนทุกคนเข้ามาทำงานว่าเจอไอแพดลูกค้าลืมไว้ ถ้าใครมาถามหาวางไว้อยู่ตรงนี้นะ แล้วก็ไม่ได้สนใจอีกเลยหลังจากวันนั้นเพราะคิดว่าเจ้าของเค้าคงมาเอาคืนแล้ว ถ้าเป็นเราทำไอแพดหายก็คงตามคืนตั้งแต่วันสองวันนั้นแล้วล่ะ ปกติลูกค้าลืมบัตรเครดิตไว้บ่อยมาก เรานั่นแหละก็เป็นคนหวังดีโทรเข้าหาศูนย์ให้บอกให้เค้าช่วยติดต่อลูกค้าให้มาเอาบัตรไป บอกว่าลืมไว้ที่ร้านช่วยอายัดบัตรให้ด้วย ทุกครั้งก็มีคนมาเอาบัตรคืนไม่เคยมีปัญหาอะไร
จนมาวันนี้เก็บของไปมาเจ้าไอแพดตัวปัญหานั่นก็ยังวางที่เดิม เอ้า นี่เป็นเดือนแล้วเจ้าของยังไม่มาเอาอีกรึ ด้วยการที่อ่านเวปพันทิพเยอะไปหน่อย เจอคนทำของหายแล้วมีคนเอามาคืนให้ประจำได้คำยกย่องสรรเสริญกันไป ไอ้เราก็อยากทำดีเป็นฮีโร่กับเค้าบ้างเลยเอาไอ้แพดกลับมาบ้านเพื่อที่จะยืมที่ชาร์ตของเพื่อนลองเสียบดู เราเป็นสาวก Android ทั้งมือถือและแทปแลต ของแอปเปิ้ลไม่เอาเลยไม่ชอบ ก่อนเอากลับมาบ้านลองไปเสียบชาร์ตกับของเพื่อนที่ชาร์ตในรถ10นาทีแล้วไฟก็ไม่เข้าเลยบอกไม่เป็นไร เราลองมาเสียบที่บ้านดูดีกว่า น่าจะเร็วกว่าเยอะ เคยลองชาร์ตมือถือในรถเป็นปีกว่าจะขึ้นมา1ขีด
ชาร์ตไปได้2นาทีเปิดได้ เห็นวอลเปเปอร์เป็นพ่อแม่ลูกหน้าตาเอเชีย แล้วก็ข้อความขึ้นว่า ไอแพดอันนี้ได้หายไป ให้โทรเบอร์ xxx-xxx-xxxx โหเราเองก็เป็นแม่คนเนอะ สงสัยในนั้นคงมีข้อมูลหรือรูปครอบครัวอยู่เยอะ เค้าคงดีใจมากๆถ้าได้คืน ร้านเราปิด3ทุ่ม กว่าจะถึงบ้านก็เกือบ4ทุ่มและมองนาฬิกาเอ๊ะ มันดึกไปรึเปล่า หรือเค้าจะนอนแล้วรึยัง จะโทรไปกวนรึเปล่า รู้ๆอยู่ว่าคนอเมริกันไม่ชอบให้โทรหาหลัง3ทุ่ม แต่ก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมากที่สุดที่โทรหาตามเบอร์นั้น แต่มันเข้าฝากข้อความเพราะเจ้าของปิดเครื่อง เราไม่ชอบฝากข้อความสำเนียงก็ดีเหลือเกิน เลยกะว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าลองโทรอีกที แล้วก็นั่งดูหนังไปเรื่อยเปื่อย
เกือบเที่ยงคืนกริ่งประตูบ้านดัง เราก็เอ๊ะ ใครวะดึกดื่นป่านนี้ เราก็กลัวเนอะ ไปส่องดูช่องแอบดูเห็นผู้ชายคนนึงยืนหลบๆมุม แล้วก็มาเคาะๆๆๆๆบวกกับกดกริ่งประตูอีก ถามว่าใครบอกว่าตำรวจ เปิดออกไปเห็นตำรวจสองคน คนนึง Sheriff แถวบ้าน อีกคนตำรวจแถวที่ทำงานเพราะเราทำงานคนละเขตกับบ้าน มาถามเราเรื่องไอแพด เราบอกใช่เราเอากลับมาบ้าน อธิบายให้เค้าฟังตั้งแต่ต้นเรื่องว่ามันเป็นมายังไงเราถึงเอากลับมาบ้าน แต่โดนถามคำถามเหมือนกับว่าเราเป็นขโมย บอกว่าเหตุผลเราฟังไม่ขึ้น ถามประมาณว่า
1 เอากลับมาบ้านทำไม ทำไมไม่ชาร์ตที่ร้าน? ก็บอกไปแล้วว่าไม่มีที่ชาร์ตเพราะไม่ได้ใช้ของแอปเปิ้ลเลยต้องยืมที่ชาร์ตเพื่อนที่บ้าน พรุ่งนี้ไปทำงานก็จะเอาไปด้วยแล้วโทรบอกเจ้าของอีกทีให้มาเอาที่ร้าน
2 ทำไมไม่ฝากข้อความ? อันนี้โชคดีมากที่โทรไปหาเจ้าของแล้วมันล็อคเบอร์โทรออกไว้ในเครื่อง เราก็เอาให้ตำรวจดูนะว่าเราพยายามโทรแล้ว ที่ไม่ฝากข้อความเพราะไม่ชอบคุยกับคอมพิวเตอร์ แล้วมันฝากได้สั้นๆ อยากคุยกับตัวเจ้าของเป็นๆมากกว่า
3 พยายามเปิดเครื่องทำไม? ก็พยายามหาข้อมูลเจ้าของเครื่องเผื่อจะมีเบาะแสช่วยหาเจ้าของเจอได้บ้าง บอกเค้าแล้วว่าแบตมันหมดตั้งแต่วันแรกที่เจอเปิดดูอะไรไม่ได้เลย
4 ทำไมต้องรอเป็นเดือนถึงพยายามเปิดเครื่อง? เก็บได้จนลืมไปและว่ามันยังอยู่และยังไม่มีใครมาเอาคืน ไอ้เราก็หวังดีเลยคิดว่าลองหาเจ้าของเองดีกว่า
5 ถ้าเราเป็นเจ้าของเครื่องทำหายแล้วตาม GPS เจอว่าไปอยู่บ้านคนนี้จะรู้สึกยังไง? โอเค เราเข้าใจนะคงคิดว่าขโมย แต่ก็ต้องฟังเหตุผลกันบ้าง ทำของสำคัญขนาดนี้หายไม่คิดจะตามหาบ้างเหรอ ถ้าเป็นเราประสาทกินแล้ว ก็ต้องนั่งนึกแล้วว่าพกไปที่ไหนบ้าง แล้ววางที่ไหน กินข้าวที่ไหน เห็นครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เครื่องทุกเครื่องมี GPS เราก็รู้ ถ้าจะขโมยจะเอากลับมาบ้านทำไม ถามหน่อย ไม่ได้โง่นะ ถึงขั้นนี้เราโมโหมากแล้ว เราไม่เคยต้องเจอหรือเกี่ยวข้องกับตำรวจมาก่อนนอกจากโดนเขียนใบสั่งขับรถเกินลิมิต
6 ถ้าเจอกระเป๋าตังคนจะเก็บเอามาบ้านด้วยรึเปล่า? ปรี๊ดแตกแล้วตอนนี้ ตอบไปว่าถ้าเจอนะจะเปิดดูไอดีแล้วขับเอาไปคืนให้ถึงบ้านเจ้าของเลยล่ะ กวนตีนและเนี่ยคำถามแบบนี้
ถึงตอนนี้เรากลายเป็นผู้ต้องหาไปซะแล้ว เค้าบอกว่าสิ่งที่เราทำไม่ make sense เราบอกว่าเราก็แค่พยายามอยากตามหาเจ้าของ ไม่คิดว่าเมกากับเมืองไทยมันจะต่างกันลิบลับเช่นนี้ เค้าต้องทำการตรวจสอบว่าสิ่งที่เราพูดเป็นเรื่องจริงรึเปล่า ณ ตอนนี้เซ็งมาก ทำดีไม่ได้ดีกลับโดนซวยอีก ไอ้เจ้าของก็กวนนะ เราโทรไปปิดเครื่อง แต่เจือกโทรหาตำรวจซะงั้น
สิ่งที่อยากจะเตือนทุกคนตำรวจบอกมาว่า ถ้าเจอของอะไรก็ตามให้โทรหาตำรวจ อย่าเอากลับมาบ้านแล้วพยายามหาเจ้าของเอง เราบอกข้อนี้เราไม่เคยรู้มาก่อนและก็คิดไม่ถึงด้วย ต่อไปนี้จะทำตามจะได้ไม่ซวยไม่ตำรวจมาเคาะประตูหน้าบ้านตอนเที่ยงคืนอีก เราไม่รู้กฏหมาย ก็แค่หวังดีอยากให้เจ้าของได้คืนก็แค่นั้นเราเลยทำในสิ่งที่เราทำลงไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ แล้วนี่ต่อไปจะเป็นยังไงอีกก็ไม่รู้ เฮ้อ