ในประวัติศาสตร์จริง ชิมาสึ โทโยฮิสะ เป็นหลานชาย ของ ชิมาสึ โยชิฮิโระ ครับ

ชิมาสึ โยชิฮิโระ ได้รับสืบทอดตำแหน่งไดเมียวแห่งแคว้นซัทสึมะ และเป็นผู้นำตระกูลชิมาซึรุ่นที่ 17 หลังจากที่พี่ชายชิมาสึ โยชิฮิสะ พ่ายแพ้ให้กับโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ในปี 1586 โดยมีหลานชาย ชิมาสึ โทโยฮิสะ คนนี้แหละมาช่วยดูแลกองกำลัง และทำหน้าที่ทัพหลังให้ตลอด (ทัพหลังจะต้องเป็นทัพที่มีกำลังพลที่มีความเข็มแข็งและห้าวหาญมากที่สุดเพราะต้องคอยปกป้องทัพหลักในขณะถอยทัพ และพร้อมสละชีพได้เสมอ

ในยุคฮิเดโยชิ ปี 1592-1598 ชิมาสึ โยชิฮิโระสร้างผลงานและสร้างชื่อในสงครามเกาหลี จนมีบันทึกของทางญี่ปุ่นตรงกับบันทึกของเกาหลี และหลักฐานของจีนในราชวงศ์หมิงว่า โยชิฮิโระเป็นที่หวาดเกรงของทหารโซชอนและหมิงเป็นอย่างมาก จนได้ฉายาว่า ยักษ์แห่งชิมาซึ และทัพที่เข้มแข็งนี้ ก็มี ชิมาสึ โทโยฮิสะ นี่แหละเป็นคนที่คอยกุมกำลังดูแลให้ โดยมี ชิมาสึ โยชิฮิโระ เป็นแม่ทัพ

ในเดือน 11 ปี 1598 ฮิเดโยชิล้มป่วยเสียชีวิต ทางญี่ปุ่นจึงต้องถอยทัพกลับจากการรักษาปราสาทจุนเทนวะ (ซุนจงวา) ในเกาหลี ชิมาสึ โยชิฮิโระทำหน้าที่เปิดเส้นทางทางทะเล ก็มีชิมาสึ โทโยฮิสะ  คอยช่วยดูแลทัพอย่างเข้มแข็ง ทำให้ทัพหลักของญี่ปุ่นของโคนิชิ ยูกินางะ กลับสู่ญี่ปุ่นได้อย่างปลอดภัย

หลังจากนั้นก็เข้าสู่ยุคสงครามชิงอำนาจ เดิม แคว้นชิมาซึ เองเข้ากับ อิเอยาสึ แต่พลาดตอนที่ อิเอยาสึ ประกาศให้แคว้น ไอสึ เป็นกบฏ โยชิฮิโระ รับคำสั่ง อิเอยาสึให้ไปช่วย โทริอิ โมโตทาดะ แห่งฟุชิมิ แต่ โมโตทาดะ ไม่เปิดประตูรับเข้าปราสาท สุดท้ายเลยต้องไปเข้ากับฝ่ายตะวันตกโดยสถานการณ์จำยอม

ในการรบที่ทุ่งเซกิกาฮาร่า มีบันทึกว่า  มิทสึนาริได้ให้ข้ารับใช้เป็นฑูตไปขอให้โยชิฮิโระเคลื่อนทัพ แต่ข้ารับใช้ผู้นั้นไม่ยอมลงจากหลังม้าตามธรรมเนียมปฏิบัติ ซึ่งถือว่าไม่ให้เกียรติ โยชิฮิโระ  และโทโยฮิสะ จึงตัดสินใจไม่เคลื่อนทัพ หลังจากนั้นทัพของ ฮิเดอากิ กลับหักหลังหันไปเข้ากับฝ่ายอิเอยาสึทำให้สถานการณ์พลิกผัน ทัพตะวันตกพ่ายแพ้ทันที

โยชิฮิโระ เห็นเช่นนั้น จึงตัดสินใจจะคว้านท้องตนเองในสงคราม แต่ "โทโยฮิสะ" ที่ จขกท.เขียนถึงคนนี้แหละที่เป็นคนห้ามและเกลี้ยกล่อมให้ โยชิฮิโระ ถอยทัพ โดยการทะลวงผ่านผ่านทัพใหญ่ของศัตรู ไปทางอิเสะ โดยทัพหน้าคือ โทโยฮิสะ คนนี้  อีกเช่นเคย

หลังจากที่ทะลวงฝ่าไปได้แล้ว มีทัพของมาซายูกิแห่งฟุคุชิม่านำทัพติดตาม โดยมีทัพของ อิอิ นาโอมาสะ / ฮอนดะ ทาคัตสึ / มัทสึไดระ ทาดาโยชิ ถึงสามทัพไล่ติดตาม

ในที่สุด  "โทโยฮิสะ" คนนี้ ได้ขอให้ โยชิฮิโระ นำทัพหลักถอยล่วงหน้าไปก่อน โดยนำกลยุทธ ซึเตกามาริ ซึ่งเป็นยุทธวิธีเฉพาะตัวของทัพชิมาซึในการร่นถอย วิธีนี้ จะตั้งกำลังส่วนน้อยไว้เป็นจุดๆเพื่อชะลอทัพของศัตรู รวมทั้งจัดพลแม่นปืนซุ่มยิงแม่ทัพไปด้วยพร้อมๆกัน และกองกำลังส่วนน้อยนี้จะสู้จนตัวตายเพื่อยื้อเวลาและระยะห่างของทัพหลักที่ถอยหนีให้ห่างอกไปเรื่อยจนตามไม่ทัน และเมื่อชุดแรกถูกทำลาย ก็จะมีชุดที่สอง ชุดที่สาม ออกมาคอยสกัดทัพที่ไล่ตามโดยต่อสู้จนตัวตาย หรือเห็นว่าทัพหลักสามารถถอยได้อย่างปลอดภัยแล้ว และในที่สุดกลยุทธซึเตกามารินี้ สามารถดักยิง นาโอมาสะ และ ทาดาโยชิ แม่ทัพศัตรู 2 ใน 3 ทัพที่ไล่ตามให้บาดเจ็บ และทำให้ทัพใหญ่ถอยทัพได้อย่างปลอดภัยได้สำเร็จ

เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของ "โทโยฮิสะ"  ที่ตั้งใจสละชีวิต เพื่อรักษากำลังหลักของชิมาซึเอาไว้ได้และทำให้ แคว้นซัทสึมะ อยู่รอดตลอด 200 ปีในสมัยโทกุกาว่า ผ่านยุคเอโดะ ไปสู่ยุคเมจิ โดยจับมือกับแคว้นโจชู ล้มล้างอำนาจของโทกุกาว่า ได้สำเร็จครับ

ปัจจุบัน แคว้นซัทสึมะก็คือ คาโกชิม่า อยู่ทางใต้สุด (ไม่นับโอกินาวา) เมืองต้นกำเนิดหมูดำแสนอร่อยที่หลายคนติดใจ และใครๆก็อดใจไม่ชิมไม่ได้.  เคยลองไปชิมหมูดำถึงที่แล้วครับ อร่อยมากๆ




555 นอกเรื่องซะแล้ว แต่หมูดำอร่อยจริงๆนะครับ อิอิ