สืบเนื่องต่อจากรีวิว aigoPad M60 แท็บเล็ตขนาดจิ๋วที่มาพร้อมกับราคาสบายกระเป๋ากันไปเมื่อครั้งก่อน มาวันนี้กระโดดข้ามมาพ.ศ.ใหม่ เราก็มีแท็บเล็ตอีกหนึ่งเครื่องที่มาจากค่ายเดียวกัน มารีวิวฝากกันอีกชุด กับ aigoPad M80D ซึ่งเป็นแท็บเล็ตตัวท็อปที่มาพร้อมกับซีพียูระดับดูอัลคอร์ 1.5 กิกะเฮิตร์ซ เรียกได้ว่าแค่เกริ่นนำเท่านี้ อานุภาพความทรงพลังก็ไม่แพ้แท็บเล็ตมีชื่อทั้งหลาย แต่ทว่ามันจะมีความน่าสนใจและน่าใช้แค่ไหน ด้านล่างต่อจากนี้ เราจะพาผู้อ่านไปทำความรู้จักพร้อมๆ กัน


ภายนอก



aigoPad M80D เป็นแท็บเล็ตขนาด 8 นิ้ว ที่ถูกบรรจุอยู่ภายใต้กล่องใหญ่สีขาวขนาดใหญ่ ครั้งแรกเมื่อเปิดกล่อง แอบมีความรู้สึกว่าเปิดค่อนข้างยาก ซึ่งถ้าใครที่ซื้อมา เราขอแนะนำว่า วิธีการเปิดที่ถูกต้อง คือ ควรจะวางกล่องไว้บนที่มั่นแล้วจับฝากล่องด้านบนเฉยๆ จากนั้น ปล่อยให้กล่องด้านล่างเลื่อนออกมาจากการฝากล่องเอง กลับกันถ้ายิ่งงัดเพื่อดึงฝากล่องขึ้น จะยิ่งเปิดยาก

หลังจากเปิดกล่องออกมาได้แล้ว เราจะพบกับตัวแท็บเล็ตที่นอนวางอยู่กึ่งกลางกล่อง ภายใต้ซองสีขาวขุ่นที่ห่อหุ้มอยู่อีกชั้น และเมื่อหยิบตัวแท็บเล็ตขึ้นมา ด้านล่างก็จะพบกับกล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กที่ถูกฝังซ่อนอยู่ในช่องที่เจาะไว้

โดยกล่องดังกล่าวจะเป็นกล่องที่บรรจุอุปกรณ์เสริมสำหรับการใช้งาน ซึ่งจะประกอบไปด้วย สาย Micro USB , สาย USB OTG และอะแดปเตอร์สำหรับชาร์จไฟบ้าน นอกจากตัวเครื่องกับ กล่องอุปกรณ์เสริมแล้ว ภายในกล่องยังมาพร้อมกับคู่มืออย่างย่อ และใบรับประกัน



aigoPad M80D มีขนาดตัวเครื่องที่216 x138x10 มิลลิเมตร ตัวเครื่องมีลักษณะเป็นการประกอบแบบชิ้นเดียวถอตแบตเตอรี่ไม่ได้ ซึ่งก็ดูแข็งแรง แน่นหนาใช้ได้ แต่การประกอบขอบรอบๆ ตัวเครื่องยังดูไม่ค่อยสนิทนัก ตัวเครื่องถูกเลือกใช้สีดำเพียงอย่างเดียวทั้งด้านหน้า สันขอบ และด้านหลัง ขณะที่บริเวณพื้นที่ขอบหน้าจอด้านขวาจะมีขนาดใหญ่กว่าพื้นที่ขอบด้านซ้ายเล็กน้อย เนื่องจากเป็นฝั่งที่รวบรวมพอร์ทเชื่อมต่อต่างๆ ไว้ทั้งหมด



สำหรับพื้นผิวสัมผัสด้านหลังของ aigoPad M80D ให้ความรู้สึกคล้ายยางเวลาสัมผัส ซึ่งก็เป็นพื้นผิวสัมผัสแบบเดียวกับที่้หลายๆ แบรนด์เลือกใช้ แต่ข้อเสียก็คือมันทำให้เป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย และยิ่งถ้ามือของผู้ใช้มีการสัมผัสกับอาหารที่มีน้ำมันด้วยแล้ว

ด้านหลังของ aigoPad M80D ที่บนขวาจะเป็นที่อยู่ตำแหน่งของกล้องหลังขนาดความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ถัดมาที่ด้านล่างสุดจะเป็นแถบแสดงสัญลักษณ์ที่รองรับการใช้งานบน aigoPad M80D เช่นเดียวกับแถบด้านซ้าย ที่มีการระบุตำแหน่งพอร์ทต่างๆ ปิดท้ายด้วยช่องลำโพงแบบสเตอริโอขนาบข้างซ้ายขวา

aigoPad M80D มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 5000 มิลลิแอมป์ มีน้ำหนักประมาณ500 กรัม ซึ่งก็ถือว่ามีน้ำหนักอยู่พอสมควร




ส่วนบริเวณขอบด้านซ้าย aigoPad M80D อย่างที่บอกไปแล้วว่า มีความหนามากกว่าอีกด้าน เนื่องจากเป็นฝั่งที่รวบรวมพอร์ทการใช้งานต่างๆ ไว้ทั้งหมด ซึ่งก็สะดวกสำหรับการใช้งานและเหมาะสำหรับการใช้แท็บเล็ตในแนวตั้ง เนื่องจากไม่ต้องคอยเปลี่ยนพอร์ทไปมา สำหรับการจัดเรียงตำแหน่งพอร์ทต่างๆ เรียงจากซ้าย ช่องหูฟัง, ช่องเสียบ Micro SD card ที่เพิ่มได้ถึง 32 กิกะไบต์, mini-HDMI (ซื้อแยก) , Micro USB และช่องเสียบอะแดปเตอร์








บริเวณขอบด้านบนของaigoPad M80D ใกล้กับตำแหน่งกล้องหลัง จะมีเพียงปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง และปุ่มปรับลดเพิ่มเสียง ซึ่งนอกจากการปรับเพิ่มเสียงผ่านปุ่มนี้ได้แล้ว ผู้ใช้ยังสามารถเพิ่มหรือลดเสียงผ่านการใช้ซอฟท์คีย์จากหน้าโฮมสกรีนได้อีกด้วย








สำหรับกล้องหน้าของ aigoPad M80D  มีความละเอียดที่ 3 แสนพิกเซล ถูกจัดวางในตำแหน่งแนวนอน ส่วนกล้องหลังมีความละเอียดที่ 2 ล้านพิกเซล สามารถบันทึกวีดีโอได้ที่ระดับความละเอียด 640x480 พิกเซล


ภายใน



aigoPad M80D มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 มีขนาดหน้าจอ 8 นิ้ว แสดงผลความละเอียดที่ 1280x768 พิกเซล รองรับมัลติทัช 5 จุด ประมวลผลด้วยซีพียูระดับดูอัลคอร์ Cortex A9 1.5 กิกะเฮิตร์ซ แรม 1 กิกะไบต์ หน่วยความจำภายใน 8 กิกะไบต์ สามารถใส่เพิ่มเติมได้ด้วย Micro SD card และFlash drive

ในเรื่องของสีสัน aigoPad M80D ทำได้ไม่ผิดหวัง ให้สีภาพที่คมชัด ส่วนในเรื่องของการแสดงผลความละเอียดสูง ตัวนี้ก็ทำได้ดีไม่มีปัญหาและน่าประทับใจ ขณะที่ในเรื่องของอาการหน่วงต่างๆ ระหว่างการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมที่ต้องมีการเคลื่อนที่เร็วๆ การดูเว็บไซต์ที่มีรูปภาพเยอะๆ ก็ไม่มีสะดุด ซึ่งส่วนหนึ่งยกให้เป็นความดีความชอบของซีพียูดูอัลคอร์



และอย่างที่เคยนำเสนอไปแล้วว่า ถึงแม้แอนดรอยด์จะรองรับการใช้งานภาษาไทย มีเมนูภาษาไทยมาให้ แต่อย่างไรก็ดี ผู้ใช้ยังจำเป็นที่จะต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่นพิมพ์ไทยจาก Play Store เอง แต่ทั้งนี้ เพื่อความสะดวก ทาง aigoPad จึงได้ทำการติดตั้งแอพพลิเคชั่นคีย์บอร์ดที่ชื่อว่า Go Keyboard มาให้ ซึ่งผู้ใช้สามารถที่จะติดตั้งคีย์บอร์ดไทยได้ในทันที โดยไม่ต้องผ่านการดาวน์โหลดจาก Play Store อีก

แต่อย่างไรก็ดี ขนาดของตัวอักษรภาษาไทยอาจจะดูยากไปสักนิด อาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวเล็กน้อย



เมื่อลองทดสอบด้วยแอพพลิเคชั่น Quadrant Standard Edition จะเห็นได้ว่าคะแนนของ aigoPad M80D อยู่ในลำดับที่สาม ซึ่งก็ถือว่าทำได้ดีมาก เมื่อเทียบกับอุปกรณ์ในระดับราคาที่แพงกว่าของคู่แข่งแบบครึ่งต่อครึ่ง และถึงแม้คะแนนที่ได้จะอยู่ในระดับเดียวกันกับแบรนด์มีชื่ออื่นๆ แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นได้ว่า อุปกรณ์ที่นำมาเปรียบเทียบแต่ละตัว เป็นตัวที่วางจำหน่ายมาประมาณปีกว่าๆ แล้วทั้งนั้น



เรื่องของการเล่นเน็ต  aigoPad M80D รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi  เพียงอย่างเดียว ซึ่งจากเท่าที่พบ บางครั้งก็การรับสัญญาณก็ทำได้ไม่ดี มีหลุดบ้างในขณะที่ตัวอื่นที่วางข้างๆ กันใช้งานได้คล่อง  แต่เมื่อต่ออินเทอร์เน็ตได้แล้ว ก็สามารถเข้าเว็บไซต์ต่างๆ ได้สบาย ไม่มีปัญหา แสดงผลได้ดีทั้งแนวตั้งและนอน การหมุนก็รวดเร็วดี ส่วนการทัชสกรีนเพื่อเลื่อนดูต่างๆ ไม่มีอาการหน่วง

กล้อง




สำหรับคุณภาพของรูปที่ได้จากการถ่ายกล้องหลังที่ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เมื่อนำไฟล์รูปออกมาพบว่าทำได้ไม่ดีนัก ความชัดของภาพอาจจะอยู่ในเกณฑ์พอรับได้บ้าง ถ้าถ่ายภาพในบริเวณที่มีแสงแดดหรือกลางแจ้งอย่างในรูปที่ 2 แต่ถ้าเลือกถ่ายในบริเวณที่มืดหรือในร่ม คุณภาพที่ได้จัดอยู่ในระดับที่ไม่น่าประทับใจ แถมดูมืดๆ ซีดๆ ตัวกล้องไม่มีโหมดออโต้โฟกัส  โดยรวมแล้ว aigoPad M80D  อาจจะไม่ถูกใจนักสำหรับผู้ที่ต้องการใช้แท็บเล็ตตัวนี้เพื่อการถ่ายภาพเพื่อความประทับใจ แต่จะเหมาะสำหรับการถ่ายเพื่อความสะดวกมากกว่า

สรุป

aigoPad M80D เป็นแท็บเล็ตที่เรียกได้ว่ามาพร้อมกับความครบในเรื่องของการใช้งาน และคุ้มค่าในเรื่องของราคาที่ถูกกว่าไฮแบรนด์แบบครึ่งต่อครึ่ง แถมมีประสิทธิภาพไม่ต่างจากสินค้าที่มาจากแบรนด์ดังๆ  ถึงแม้คะแนนจากผลการทดสอบจะชี้ว่า aigoPad M80D มีคะแนนเทียบเท่ากับบรรดาอุปกรณ์ที่วางจำหน่ายมาตั้งแต่ปีก่อนๆ แต่เราคิดว่าเพียงเท่านี้ก็เหมาะสมกับการใช้งานทั่วไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเนท ความบันเทิงอื่นๆ ซึ่งไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีหน่วยประมวลผลสูงๆ ถ้าไม่ได้ใช้ในเรื่องของการใช้งานหนักๆ  


ข้อดี

1.ซีพียูดูอัลคอร์ ทำให้การใช้งานต่างๆ ไม่มีอาการหน่วง
2.ราคาประหยัด พกพาสะดวก ไม่ใหญ่จนเกินไป

ข้อเสีย

1 คุณภาพรูปถ่ายอยู่ในเกณฑ์แย่
2.วัสดุฝาหลังเป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย




ขอบคุณ บริษัท ไอโกเทค จำกัด สำหรับผลิตภัณฑ์ทดสอบ