ทำไมผู้หญิงรู้ว่าผู้ชายมีเมียแล้วแต่ยังยอมเป็นกิ๊ก ตอน ๓ (เนื่องจากอ่านกระทู้เก่าไม่ได้เลยยกมาโพสใหม่ค่ะ)

กระทู้สนทนา
ทุกวันนี้ฉันเก็บหนังสือพร้อมถ่ายเอกสารไ้ว้หลายชุดเลยค่ะ
เผื่อจำเป็นจะต้องใช้ขึ้นมา....
ฉันเก็บซ่อนหนังสือนั้นและหลักฐานอื่น ๆ ไว้ในที่ทำงานนะคะ
จะเอาออกมาอีกทีก็ต่อเมื่อจะฆ่าคนเท่านั้นล่ะค่ะ.....
.
.
สำหรับสามีเมื่อฉันกลับเข้าบ้าน
ประมาณสอง สามวันเขาก็มาบอกฉันว่า
น้องเขาโทรหาพ่อ....พ่อโทรมาบอกแม่ก่อนว่าจะให้พ่อทำอย่างไร
ฉันก็บอกว่า....ตามใจ....หากอยากให้สบายใจก็โทรกลับไปซิว่ามีอะไร
ซักพักสามีก็โทรมาบอกว่า......เธอถามว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร
พี่เลิกกันไหม....เมียพี่ว่าอย่างไร....สามีก็บอกว่าเราคุยกันเข้าใจแล้ว
เราควรเลิกการทำแบบนี้เพราะหากสามีน้องรู้เข้าเรื่องคงไม่จบง่าย ๆ แบบนี้แน่นอน
ตกเย็นวันถัดมาสามีก็มาบอกเราว่า
วันนี้พ่อเดินเข้าไปคุยกับน้องเขาที่โต๊ะทำงาน.....
บอกน้องเขาว่า....เรามีปัญหาหนักที่สุด....และพี่เลือกครอบครัวของพี่
ต่อไปเราไม่ควรพูดคุยแบบเดิมกันอีก....ซึ่งน้องเขาก็ตกลงแบบโกรธ ๆ
ว่า....งั้นหนูจะไม่โทรคุยกับพี่อีกไม่ว่าเรื่องอะไรเพื่อให้เมียพี่สบายใจ
ครอบครัวพี่จะได้ไม่มีปัญหา
เวลาเจอหน้ากันเขาจะสบัดหน้าหนี....หรือเดินหลีกไม่ให้สวนทางกัน
น้องเขาโกรธตั้งแต่วันที่พ่อบอกให้เขาโทรหาแม่แล้วล่ะ
แถมวันนี้ยังโกรธที่พ่อเข้าไปบอกเลิกอีก
เขาต่อว่าพ่อว่า....พี่เอาเรื่องของหนูไปบอกเมียพี่ทำไม
พี่จะหนูเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยได้อย่างไร.....มันเป็นเรื่องของพี่สองคน
ซึ่งสามีก็โดนเธอต่อว่าอย่างหนักซึ่งถ้อยคำก็คล้าย ๆ กับที่เธอต่อว่าเรานั่นแหล่ะค่ะ.....
อ้อ...เราบอกสามีค่ะว่า.....
"พอแม่ได้คุยกับน้องเค้าแล้ว.....แม่ไม่รู้สึกเสียดายเลยซักนิด....หากจะต้องเสียพ่อให้กับผู้หญิงแบบนี้".....
และการรักคนอื่นมากกว่าตัวเองมันให้โทษมากกว่าให้คุณ แม่จะไม่ยอมเจ็บปวด เสียใจเพราะพ่ออีกแล้ว ต่อไปนี้แม่จะรักตัวเองให้มาก สิ่งใดที่ทำให้แม่เสียใจ แม่จะไม่เสียดายเลยที่ทิ้งมันไป....และเมื่อพ่อไม่พยายามรักษาครอบครัวของเราไว้ แม่ก็ไม่เหมือนกัน.....ทุกอย่างที่เกิดขึ้นแม่ถือว่าเป็นความผิดของพ่อ เพราะพ่อรู้อยู่เต็มอกว่า พ่อมีเมีย มีลูก หากพ่อยังขืนกระทำต่อไป แม่จะไม่คุย ไม่ถาม และไม่ให้โอกาสในการอธิบาย ถือว่าพ่อเลือกแล้ว เราจะสิ้นสุดกันทันทีในวันที่แม่รู้เรื่อง.....การที่คนอื่นทำร้ายแม่ ๆ ไม่สนใจอะไรมากนักเพราะ ผญ ที่ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาจากครอบครัวที่ดี ก็คงเป็นได้เท่าที่เขาเรียนรู้มา นั่นเป็นเรื่องของเขา แต่สำหรับพ่อ พ่อเป็นสามี เป็นคนที่บอกว่ารักเรา การกระทำของพ่อถือเป็นการกระทำที่เหยีบย่ำน้ำใจแม่เป็นที่สุด แม่จะไม่มีทางให้อภัยพ่ออีกต่อไป....แม่จะเกลียดพ่อไปจนตาย....ผีไม่เผา.....เงาไม่เหยียบ....ไม่ต้องมาเผาผี...จี่กระดูกกันอีกเลย

สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาเดียวกัน ทางแก้ไขมันมีให้เลือกหลายทางนะคะ
แต่สำหรับเรา ๆ ได้เลือกทางอะลุ่่มอะหล่วย
แต่เมื่อไม่ได้ผล เราก็ต้องเลือกที่จะใช้ความเด็ดขาดค่ะ
ยอมเจ็บครั้งเดียวให้มันสุด ๆ ไปจะได้ไม่ต้องเจ็บซ้ำซากอีก
และการหย่านั้นต้องเตรียมใจให้พร้อมนะคะ.....ต้องแน่ใจจริง ๆ ว่าหย่าเป็นหย่า
(อย่าขู่เพราะถ้าแค่ขู่เกิดเขาหย่าขึ้นมาจริง ๆ จะยุ่ง)
ต้องพร้อมสำหรับการหย่าจริง ๆ เพราะเราคำนวณ
ค่าใช้จ่าย เงินเดือน เงินกู้(สำหรับซื้อบ้านหลังเล็กอีกซักหลัง) ค่าใช้จ่ายของลูก เตรียมพร้อมสำหรับการหย่าเรียบร้อยแล้ว
หากเขาตกลงหย่้ากับเราจริง เราจะได้ไม่เคว้งคว้าง....
อย่าเสียดายเลยค่ะ....
เมื่อเขาทำกับเราได้ขนาดนี้ไม่มีคุณค่าต่อการเสียดาย เสียใจหรอกค่ะ
และหากสามีไม่เลือกเรา.....
การหย่าอาจทำให้เรามีความสุขมากกว่าการทนอยู่ก็ได้.....
เพราะตอนนี้ถึงเราจะบอกว่าให้อภัยสามีและกลับมาใช้ชีวิตคู่เหมือนเดิม
แต่จริง ๆ แล้วไม่มีทางเหมือนเดิมหรอกค่ะ
เรายังคงหวาดระแวง ไม่ไว้วางใจ โกรธ น้อยใจ เสียใจ ไปสารพัด
เคยถามสามีว่า แม่รักพ่อขนาดนี้ ทำดีกับพ่อขนาดนี้ ทำไมทำร้ายแม่ได้ลงคอ
ความรัก ความดีงามใด ๆ ของแม่ไม่มีความหมายสำหรับพ่อบ้างเลยหรือ

และไม่ว่าจะพยายามเท่าไร เราไม่สามารถลืมเรื่องเหล่านี้ได้เลย
ยังคงเจ็บปวด ขมขื่น เศร้า เสียใจ อยู่ทุกขณะจิต

สุดท้ายขอบพระคุณทุกท่านสำหรับการให้ข้อคิด
การแสดงความเห็นอกเห็นใจ
และการให้กำลังใจ
เพราะเมื่ออ่านแล้วรู้สึกได้ว่าตัวเองมี.....มิตร.....
ถึงแม้จะไม่รู้จักกันเป็นส่วนตัว.....
แต่สัมผัสได้ถึงความปรารถนาดีที่มีให้กันอย่างแท้จริง.....

ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่