ตอนรบกวนถามท่านที่มีประสบการณ์ขายร้านอาหารไทยหรือเกี่ยวข้อง คือตอนประกาศขาย มีคนติดต่อแต่ยังตกลงไม่ได้ ยังไม่แน่นอน และไม่มีคนอยากทำต่อ เลยปิดร้าน ช่วงปิดร้าน (สัก ๑ สัปดาห์) ปกติเจ้าของร้านจะแจ้งร้านที่มาให้บริการเติมแก้สหุงต้ม (แบบบ้านเรา ถังแก้สใหญ่ตั้งข้างนอกร้าน มาเติมแก้สให้ทุก ๆสัปดาห์น่ะค่ะ) หยุดบริการไหมคะ เพื่อความปลอดภัย ตอนปิดร้าน ไม่มีใครอยู่ กับ ไม่ต้องมาเติมเพราะไม่ใช้อีกแล้ว ปัญหาคือ คนขายกับ landlord ต้องการให้เราแจ้งติดต่อต่อสายกลับก่อน คนขายถึงจะจ่ายเงินที่ขายร้านให้ คือ มีขั้นมากมายในการต่อสายกลับ ต้องติดต่อ town ทางราชการ เพื่อที่จะให้ fire department มาตรวจสอบความปลอดภัย ก็ต้องเสียเงินอีก หลายร้อย อีกทั้งตอนต่อสายกลับ (คิดว่าสายอยู่ใต้ดิน) ก็พบว่ามีปัญหาท่อส่ง ก็ต้องขุดพื้น จ้างช่างประปามาซ่อมท่อ อีกหลายร้อยเหรียญ จึงอยากทราบว่าปกติ เจ้าของร้านอาหารคนเดิม ต้องจัดการ จัดหาให้ก้าสหุงต้มเตรียมพร้อมใช้ หรือคะให้คนซื้อร้าน เพื่อเปิดร้านอาหาร (สัญชาติอื่น ไม่ใช่อาหารไทย) ได้เลย อันนี้คือเราเช่าที่ landlord เค้าบอกว่าต้องทำ ซึ่งมันเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาก ทั้ง ๆ ที่เราขายราคาให้ถูกมาก ๆ แล้ว

นอกจากนี้ยังจะให้เราซ่อมห้องน้ำ ตู้ทำน้ำแข็ง ท่อพักของเสียรั่ว กับ ดัมสเตอร์ขนของทิ้ง (เราไม่ท้ิงอะไร เพราะคนซื้อไม่อยากให้เราเอาอะไร แม้กระทั่งต้นไม้ ตู้ปลาเอย) เราควรยอมไหมคะ คือเราขายถูกมาก จาก 20,000 คนซื้อต่อซะเหลือ 5,000 แล้วนะ หยั่งงี้เท่ากับปล้น อยากได้ของฟรี และดูเหมือน landlord ก็จะเลือกที่จะเอาใจ เข้าข้างคนซื้อที่จะเช่าอยู่ต่อไปด้วย ถึงปนบังคับเราให้ต่อท่อก๊าซหุงต้มเรื่องเดียว แต่ซ่อมอื่น ๆ คนซื้อขอมาเพิ่มอีก