กลับมาล้วงหัวใจ (สาวๆ และเด็กๆ) คนซื้ออีกครั้งสำหรับ Acer Aspire One Happy2 เน็ตบุ๊คเจอเนเรชั่นที่สองที่ต่อยอดมาจากความสำเร็จของ Acer Aspire One Happy เน็ตบุ๊ครุ่นพี่ที่เคยโกยรายได้กลับเมืองจีนมาก่อนแล้วเมื่อกลางปีผ่านมา โดยการกลับมาในครั้งนี้ เอเซอร์ได้โมดิฟายล์ฟีเจอร์ของเน็ตบุ๊คทายาทให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความแรงซีพียู ความจุฮาร์ดดิสก์ พอร์ทเชื่อมต่อ HDMI รวมถึงสีสันสุดหวานแทบบาดใจ ขณะที่ยังคงเดิมฟีเจอร์เอกลักษณ์หลักๆ ไว้ไม่เปลี่ยนแปลง และเมื่อเอเซอร์ได้ส่งเน็ตบุ๊คสีขนมมาให้สัมผัส เราก็ขออาสาพาสมาชิกคุณผู้อ่านไปชมและชิมพร้อมๆ กันเลย

เริ่มต้นกันที่ตัวเครื่อง เน็ตบุ๊ค Acer Aspire One Happy2 รุ่นนี้ บอดี้ยังคงผลิตจากวัสดุพลาสติก แต่ให้ความรู้สึกที่แข็งแรงทนทาน การประกอบส่วนต่างๆ แน่นหนาดี สำหรับการจับถือก็สะดวกตามสไตล์เน็ตบุ๊ค เมื่อเลื่อนมาดูที่ฝาพับของตัวเครื่อง จะโดดเด่นด้วยสีสัดสดใส เสริมลูกเล่นให้ไม่ดูราบเรียบจนเกินไป ด้วยรูปกราฟฟิคลายหยดน้ำ ตัดกับสีขาวพื้นสบายตาบนแป้นพิมพ์ รวมถึงพื้นที่ด้านหลังของตัวเครื่อง นอกจากนี้ยังเพิ่มสีสันบนแป้นพิมพ์ไม่ให้จืดเกินไปกับทัชแพดสีเดียวกันกับฝาพับ

ถัดจากนั้นเรามาดูในส่วนของหน้าจอกันบ้าง Acer Aspire One Happy2 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว แสดงผลที่ความละเอียด 1024x600 พิกเซล ใช้การ์ดจอออนบอร์ด Intel Graphics Media Accelerator 3150 ส่วนด้านข้างซ้ายของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยพอร์ทต่างๆ ที่ไล่จากซ้ายไปขวา ได้แก่ ที่ชาร์ตแบต, พอร์ท LAN, พอร์ต HDMI และพอร์ท USB

ย้ายมาที่ด้านข้างฝั่งขวากันบ้าง ในส่วนนี้ จะพบกับช่องอ่านการ์ด Multi-in-1 ถัดไปจะเป็นช่องเสียบหูฟัง, ไมโครโฟน และพอร์ท USB อีก 2 ช่อง

สำหรับขนาดของตัวเครื่องเมื่อพับ พร้อมใส่กระเป๋าจะมีความหนาประมาณ 1 นิ้ว (วัดจากด้านข้าง) มีน้ำหนักราว1.3 กิโลกรัม

ขาดไม่ได้กับกล้องเว็บแคม สำหรับการแชทกับบรรดาเพื่อนฝูง โดยเอเซอร์ได้ใส่กล้องความละเอียดมาให้ 1.3 ล้านพิกเซล พร้อมกับปรับตั้งค่าถ่ายรูปได้ที่ความละเอียด 320x240 และ 640x480 พิกเซล ส่วนคุณภาพของกล้องมีความชัดเจนดี

มาถึงหน้าตาของแป้นพิมพ์กันบ้าง การจัดเรียงคีย์บอร์ดอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่ติดกันจนเกินไปนัก พิมพ์สะดวกด้วยปุ่มตัวอักษรขนาดใหญ่ และเนื่องจากพื้นที่คีย์บอร์ดเป็นสีขาว จึงทำให้มองเห็นแต่ละตัวอักษรได้เด่นชัดขึ้น ขณะที่ทัชแพดสีหวานสามารถใช้งานสองนิ้วควบคู่การเลื่อนได้

ถัดมาที่ด้านซ้ายของทัชแพด กับโลโก้ Window 7 Starter โดยระบบปฏิบัติการที่ใส่มาให้นั้นเป็น Window 7 Starter 32-bit SP1 และโลโก้ Intel Atom

ส่วนทางด้านขวา จะเป็นสติ๊กเกอร์บอกรายละเอียดสเป็คของตัวเครื่อง โดยในรุ่นนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงจากซีพียูตัวเดิม N540 มาเป็น N570 แทน ส่วนในเรื่องของแรมก็ยังคงให้มาถึง 2 กิกะไบต์ และสำหรับใครที่ต้องการเก็บข้อมูลแบบเยอะๆ คงจะถูกใจไม่ใช่น้อย เพราะเอเซอร์ให้ความจุฮาร์ดดิสก์มากถึง 500 กิกะไบต์ โดยพื้นที่ส่วนหนึ่งประมาณ 5 กิกะไบต์จะแบ่งไว้สำหรับแพลตฟอร์มแอนดรอยด์

เมื่อพลิกกับมาที่ด้านหลัง จะพบกับพื้นหลังสีขาวสะอาดตา ด้านบนจะเป็นแบตเตอรี่ขนาด 6 เซลล์ที่สามารถใช้งานได้ถึง 8 ชั่วโมงต่อการชาร์ตหนึ่งครั้ง สำหรับการถอดเปลี่ยนและใส่แบตเตอรี่ ทำได้ไม่ง่ายยุ่งยาก

ทีนี้เรามาดูในส่วนของซอฟท์แวร์กันบ้าง อย่างที่บอกไปด้านบนว่า พื้นที่ฮาร์ดดิสก์ส่วนหนึ่งของเน็ตบุ๊คเครื่องนี้จะถูกแบ่งไว้สำหรับการลงแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ ซึ่งก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะว่า Acer Aspire One Happy2 เครื่องนี้ มาพร้อมกับความสามารถในการใช้งานระบบ Dual-boot นั่นก็หมายความว่า มันสามารถบูทได้ทั้งวินโดว์ 7 และแอนดรอยด์ โดยแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ที่อยู่ในเครื่องจะเป็นเวอร์ชั่น 2.3

ซึ่งเมื่อเราเปิดเครื่องจะใช้งาน ตัวเครื่องก็จะทำการบูทเข้าสู่การใช้งานในโหมดของแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ก่อนเป็นลำดับแรก ซึ่งในส่วนนี้เราก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นต่างๆ ในแอนดรอยด์มาร์เก็ตได้ และถ้าหากต้องการกลับไปใช้งานวินโดว์ 7 ก็เพียงคลิกที่ปุ่มลูกศรที่มุมบนด้านซ้าย ก็จะสามารถสลับไปใช้วินโดว์ 7 ได้แล้ว

เมื่อสลับการใช้งานมายังวินโดว์ 7 เราก็สามารถใช้งานทั้ง แชท ดูหนัง เล่นเกม ท่องเน็ตตามปกติได้

และเมื่อเราได้ทำการทดสอบผ่านโปรแกรม CPU-Z ก็จะเป็นดังนี้

และนอกจากตัวเครื่องที่เราได้รับมาทดสอบจะเป็นสีชมพูแสนหวานแล้ว เอเซอร์ ยังได้ส่งอีกสามสีบาดใจ อันได้แก่ Banana Cream, Blueberry Shake และ Papaya Milk ตามออกมาให้ผู้ที่สนใจได้เลือกซื้อกันอีกด้วย

ขอบคุณ : Acer สำหรับเครื่องทดสอบ