Hands On: VAIO W "Mini Notebook"
อีกแล้ว...แพงเเฮะ... นั่นเป็นความคิดแรกของผมหลังจากที่ได้เห็นราคาของเจ้าคอมพิวเตอร์พกพาหน้าตาน่ารัก ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของผม ถึงผมจะชื่นชมและคลั่งไคล้ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของอารยะธรรมโซนี่มานานแสนนานตั้งแต่สมัยเครื่องเล่นเทปวอร์คแมน แต่สินค้าทุกชนิดที่ขึ้นชื่อว่าผลิตจากโซนี่ย่อมจะมีราคา (และคุณภาพ) ที่สูงเกินกว่าแบรนด์อื่น ๆ อยู่ไม่น้อย ซึ่งเจ้า VAIO W ตัวจิ๋วที่วางอยู่ข้างหน้าผมก็ไม่พ้นข้อครหานี้เช่นเดียวกัน
หลายท่านอาจจะพอได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเจ้า VAIO W มาเเล้วไม่มากก็น้อย แต่สำหรับท่านที่เพิ่งเคยได้ยินชื่อนี้ครั้งแรก VAIO W คือคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็ก รุ่นที่ 2 ของโซนี่ต่อจาก VAIO P และทั้งสองรุ่นนั้นทางโซนี่เรียกมันว่า Mini Notebook ต่างจากแบรนด์อื่นๆ ที่เรียกคอมพิวเตอร์พกพาที่มีสมรรถนะใกล้เคียงกันว่า NetBook แต่มันจะแตกต่างกันแค่ชื่อหรือไม่นั้น หลังอ่านบทความนี้จบคุณคงได้คำตอบอย่างแน่นอน
Design and Dimension
แม้จะเป็นรุ่นน้องล่าสุดที่ถูกออกแบบภายใต้แนวคิดเพื่อความประหยัดพลังงานและทรัพยากร แต่รูปลักษณ์ภายนอกของมันก็ไม่ได้แตกต่างไปจากคอมพิวเตอร์พกพาตระกูล VAIO แม้แต่น้อย การออกแบบทั้งรูปทรงและสีสันรวมไปถึงวัสดุของ VAIO W นั้นแตกต่างกับคอมพิวเตอร์พกพาแบรนด์อื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด และสามารถเลือกสีตามความต้องการได้ถึงสามสีด้วยกัน
VAIO W จะมีขนาดรูปทรงมิติอยู่ที่ 7.07*10.54*1.28 นิ้ว (กว้าง ยาว และสูงตามลำดับ) และมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 1.17 กิโลกรัมในอุปกรณ์ติดตั้งแบบมาตรฐาน หลังจากเปิดหน้าจอออกจาการพับเก็บ สิ่งแรกที่ผมสังเกตเห็นเป็นอย่างแรกก็คือวัสดุการประกอบของ VAIO W ที่มีลักษณะทนทานหรูหราสมราคาและยากต่อการเกิดรอยขีดข่วนเอามากๆ
ภาพ : ความบางแนวตัด
ภาพ : เปรียบเทียบความกว้างกับแผ่น CD
ภาพ : เปรียบเทียบความหนากับ PSP
อย่างที่ 2 ก็คือคีย์บอร์ดแบบยกตัวที่ปรากฎอยู่ในคอมพิวเตอร์พกพาระดับนี้เป็นครั้งแรก คีย์บอร์ดขนาดย่อสวน 81 เปอร์เซนต์ (อ้างอิงจากเวบไซต์เป็นทางการของ VAIO W ) และมีจุดเด่นอยู่ที่การออกแบบแป้นกดอักษรแบบยกตัวและแยกออกจากกันเหมือนกันโน้ตบุครุ่นแพง ๆ ทั่วไป แม้มันอาจจะดูเล็กเกินไปสำหรับคนที่มีนิ้วมือใหญ่ ๆ (อย่างเช่นผม) แต่หลังจาการกระหน่ำกดแป้นพิมพ์ตัวอักษรผ่านไปได้ครึ่งค่อนวัน ผมพบว่าแป้นพิมพ์ของ VAIO W นั้นสามารถใช้งานได้ง่ายและถนัดมือ และมีอัตราการตอบสนองที่ดีพอ ๆ กับคีย์บอร์ดแบบฟูลไซต์บนพีซีเลยทีเดียว (ยกเว้นปุ่ม SHIFT ที่เล็กมากจนผมกดถูกกดผิดอยู่หลายครั้ง)
ภาพ : คีย์บอร์ดแบบยกตัวคร้้งแรกในเน็ตบุ้ค..
Spec and Display
VAIO W มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการณ์ วินโดวส์ XP Service Pack 3 ที่รันด้วยซีพียู Atom N280 ที่มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.66GHz และมีอัตราความเร็วในการส่งข้อมูลของชิปเซต (FSB) อยู่ที่ 677 HMz และนอกจากนั้นก็มีหน่วยความจำ (RAM) แบบ DDR 2 ขนาดความจุ 1 GB ที่เป็นค่ามาตรฐานสำหรับโน้ตบุคในปัจจุบันติดตั้งมาให้ พร้อมกับฮาร์ดดิสก์แบบ SATA ความจุ 160 GB ความเร็ว 5400 rpm
หน้าจอแสดงผลของเจ้า VAIO W เป็นสิ่งหนึ่งที่ผมสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่ามันเป็นหน้าจอของคอมพิวเตอร์พกพาแบบเนตบุคที่มีการแสดงผลดีที่สุดเท่าที่ผมได้เคยเห็นมาเลยทีเดียว (สมกับที่ทางโซนี่ฯ ดึงจุดนี้เป็นจุดขาย ) VAIO W มีหน้าจอแสดงผลขนาด 10.1 นิ้ว และด้วยการที่มันเป็นเนตบุ้ค (มินิโน้ตบุ้ค) ตัวแรกที่ใช้ชิปแสดงผล GMA 950 ทำให้ VAIO W สามารถแสดงผลได้ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 1366 x 768 (Px) (เนตบุคทั่วไปอยู่ที่ 1024*600 px) และถึงแม้ว่าความละเอียดที่เพิ่มมากขึ้นจะทำให้การแสดงผลของสิ่งต่าง ๆ บนหน้าจอมีขนาดเล็กลงแต่ด้วยคุณภาพและความคมชัดของหน้าจอที่ค่อนข้างสมราคา ก็ไม่ทำให้การจ้องมองหน้าจอแสดงผลของ VAIO W เป็นระยะเวลานาน ๆ เกิดปัญหาแต่อย่างใด แถมความละเอียดที่เพิ่มมายิ่งทำให้การใช้งานหลาย ๆ อย่างสะดวกสบายขึ้นอีกหลายเท่าตัว (ยกตัวอย่างเช่นการแสดงผลบนเวบไซต์ Facebook ที่ไม่ต้องเลื่อนขึ้นเลื่อนลง...)
Conectivty
ถึงแม้ว่าขนาดของมันจะเล็กนิดเดียวแต่ VAIO W ก็ถูกยัดความสามารถทางด้านการเชื่อมต่อทางด้านการสื่อสารมาอย่างเพียบพร้อมไม่เเพ้โน้ตบุครุ่นใหญ่ ๆ เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบไร้สายอย่าง Wi-Fi และ Bluetooth การเชื่อมต่อมาตรฐานด้วยพอร์ตเชื่อมต่อเครือข่าย แลน (Lan) และพ่วงด้วยกล้อง Webcam ความละเอียดสูงที่มาพร้อมฟีเจอร์ Motion Eye ที่เป็นเอกลักษณ์ของโซนี่ นอกจากนั้นก็ยังมีพอร์ตเชื่อมต่อ USB 2.0 จำนวน 2 สล็อต พอร์ตเชื่อมต่อการแสดงผล (VGA-Out) สล็อตเสียบหูฟัง และไมโครโฟนอย่างละ 1 ช่อง และสุดท้ายก็คือ สล็อตเสียบหน่วยความจำพกพาอย่าง SD และ Memory Stick Pro Duo อย่างละ 1 ช่องเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าเมื่อเปรียบเทียบกับขนาดของตัวมันเเล้วก็ถือได้ว่าสมกับราคาค่าตัวเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว
ภาพ : สวิซ Wi-Fi และช่องอ่านการ์ด
ภาพ : ช่องไมโครโฟนและหูฟัง
Software bundle
หลังจากที่ไล่สำรวจตรวจตราเหล่าซอฟแวร์แถมที่ติดตั้งมากับเจ้า VAIO W แล้ว ผมก็ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าซอฟแวร์เเถมเกือบจะทั้งหมดที่ติดตั้งมากับเจ้า VAIO W เป็นซอฟแวร์ที่เรียกได้ว่าดีเข้าขั้นเลยทีเดียว เริ่มจากระบบปฏิบัติการณ์วินโดวส์ XP SP 3 แบบลิขสิทธิ์ถูกต้องที่ติดตั้งมาแต่แรกแล้ว (มูลค่าประมาณ 3,500 บาท) ก็ยังมีโปรแกรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจอย่างเช่น InterVideo WinDVD, ArcSoft WebCam Companion 3 เวอร์ชั่นเต็มถูกลิขสิทธิ์ ( ทั้งสองโปรแกรมมีมูลค่ากว่า $39.95 x 2 หรือประมาณ 2,400 บาทไทย) และโปรแกรมชุดไมโครซอฟท์ออฟฟิศกับโปรแกรมแอนตี้ไวรัส Norton Internet Security แบบทดลอง 30 วัน พร้อม ๆ กับโปรแกรมของทางโซนี่ฯ เองที่ติดตั้งอยู่ในคอมพิวเตอร์พกพาตระกูล VAIO ก็อยู่ใน VAIO W ตัวเล็กนี้ด้วยเช่นเดียวกัน โดยโปรแกรมที่ถูกใจผมที่สุดก็คงหนีไม่พ้นโปรแกรม VAIO Media Plus ที่ใช้ในการแสดงไฟล์มัลติมีเดียแทบจะทุกชนิด (ไฟล์รูปภาพ ไฟล์เพลง และไฟล์วิดีโอ) ด้วยเมนูกราฟฟิกที่ละม้ายคล้ายคลึงกับเมนู XMB (Xross Media Bar) ที่อยู่บนเครื่องเล่นเกมตระกูล Playstation ทำให้การค้นหาและเรียกแสดงผลไฟล์สื่อที่เราต้องการนั้นง่ายดายสุด ๆ และอีกโปรแกรมหนึ่งที่ต้องพูดถึงก็คือโปรแกรม VAIO Recovery โปรแกรมย้อนคืนสภาพระบบของคอมพิวเตอร์คุณให้เหมือนกับเครื่องใหม่ที่เพิ่งซื้อมาจากร้านค้าด้วยการกดปุ่มใช้งานเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น
Performance Test
ด้วยขนาดเล็กกระจิ๋วหลิวของมันและด้วยการโปรโมตของทั้งทางโซนี่เองที่ว่าด้วยจุดยืนของการพัฒนาเจ้า VAIO W คงจะไม่มีใครที่ซื้อมัน ไปแล้วนำมันไปใช้งานด้านประมวลผลและกราฟฟิกหนัก ๆ หรือนำมันไปเล่นเกมแบบฮาร์ดคอร์เป็นแน่แท้ ดังนั้นการทดสอบในครั้งนี้ของผมจะเน้นไปที่การใช้งานทั่วไปอย่างเช่นการนำมันออกไปใช้งานจริง ๆ ข้างนอกที่พักอาศัย หรือทดสอบกับโปรแกรมที่ผู้ใช้นิยมใช้ในชีวิตประจำวันกับคอมพิวเตอร์พกพาลักษณะนี้เท่านั้นครับ
iTune rip CD >> MP 3
ซีพียูของอิลเทล Atom N280 ที่เป็นหน่วยประมวลผลเพียงหนึ่งเดียวของ VAIO W สามารถแสดงผลประสิทธิภาพในการทดสอบนี้ได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว VAIO W ใช้เวลาในการแปลงไฟล์จาก Audio CD ไปสู่ไฟล์เสียงแบบ MP 3 (ปรับระดับของคุณภาพในระดับสูงที่สุด) จำนวนทั้งสิ้น 22 ไฟล์ (753.1 MB) ใช้เวลาไปทั้งสิ้นแค่ 16 นาทีเท่านั้น
ภาพ : Frank Sintra : Nothing But The Best
อัตราการถ่ายโอนข้อมูล
ในการทดสอบอัตราการถ่ายโอนข้อมูลด้วยโปรแกรม HD Tune เวอร์ชั่น 3.5 ระหว่าง VAIO W และ เเฟลชไดร์ฟขนาด 2GB ของผมผ่านทางการเชื่อมต่อแบบ USB 2.0 ผลสรุปที่ได้ก็คืออัตราการส่งผ่านข้อมูลระหว่างทั้ง 2 อุปกรณ์ มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 17.1 MB/วินาที นับว่าเป็นค่าเฉลี่ยมาตรฐานของพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB 2.0 ทั่วไป และในการวัดผลอัตราการถ่ายโอนข้อมูลฮาร์ดดิสก์ความจุ 160 GB ยี่ห้อ Toshiba
ของ VAIO W เอง ผลที่ได้ก็คือ มีอัตราการส่งผ่านข้อมูลโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 46.7 MB/วินาที (ทดสอบเฉพาะค่าการอ่านเท่านั้น) และมีค่า Burst Rate (อัตราการส่งผ่านข้อมูลในตัวฮาร์ดดิสก์เอง) อยู่ที่ 81.7 MB/ วินาที
การใช้งาน Wi-Fi
จากทดสอบในครั้งนี้ผมได้นำเจ้า VAIO W มาใช้เล่นอินเตอร์เนตผ่านการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Wi-Fi โดยต้นสัญญาณห่างจากจุดที่ทดสอบประมาณ 15-17 เมตร หลังการทดสอบพบว่าแม้จะอยู่ห่างจากจุดต้นสัญญาณด้วยระยะทางพอสมควรภาครับสัญญาณของ VAIO W ยังสามารถจับสัญญาณได้ค่อนข้างดีและมีอัตราการส่งผ่านข้อมูลที่คงที่ (ตามรูปเลยครับ)
เสียง
ลำโพงที่ติดตั้งอยู่ด้านใต้เครื่องของ VAIO W นั้นจัดว่าให้เสียงที่ค่อนข้างดีและมีระดับความดังที่มากกว่าคอมพิวเตอร์พกพาระดับเดียวกันค่อนข้างมาก ข้อเสียอย่างหนึ่งที่ผมพบเจอระหว่างการทดสอบในครั้งนี้ก็คือเมื่อปรับอัตราการเร่งเสียงให้สูงมากกว่า 75 เปอร์เซนต์ขึ้นไปเสียงที่ได้จะแตกพร่าและความใสของเสียงจะถูกลดทอนลงไปค่อนข้างมาก
ภาพ : ลำโพงที่ติดตั้งอยู่ใต้ตัวเครื่อง
คุณภาพของเสียงที่ได้ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ผมตั้งใจจะทดสอบเช่นเดียวกัน ผลของการทดสอบเสียงของ VAIO W และเครื่องเล่นเกมพกพา Sony PSP (1000x) ด้วยหูฟังตัวเดียวกัน (Razor Moray) และไฟล์เสียงต้นฉบับเดียวกัน (Mp 3) พบว่าคุณภาพของเสียงที่ได้นั้นแทบจะไม่มีความแตกต่างกันระหว่างอุปกรณ์ทั้งสองตัวนี้ (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากมีหูฟังที่หลากหลายเพิ่มขึ้นมา ผลการทดสอบอาจจะสามารถชี้ชัดได้ก็เป็นได้)
ภาพ : Razor Moray
ระบบกราฟฟิก และกล้องเว็บแคม
คงไม่มีใครซื้อคอมพิวเตอร์พกพาตัวจิ๋วอย่างนี้ไปเพื่อเล่นเกมที่มีกราฟฟิกหนัก ๆ ใช่ไหมครับ? ดังนั้นการทดสอบในครั้งนี้ผมจึงนำเกม Action/Rpg ในตำนานอย่าง Diablo 2 มาติดตั้งเพื่อทดลองเล่นกับเจ้า VAIO W และไม่พบความผิดปกติใด ๆ ในการทดสอบทั้งการติดตั้งและการแสดงผล (ตลอดจนการเล่น...)
ภาพ : เล่นเกมสเปคน้อยๆ ได้อย่างไหลลื่น..
เว็บแคม พร้อมด้วยฟีเจอร์ Motion Track ที่ติดตั้งมากับ VAIO W นั้นทำงานร่วมกับโปรแกรม ArcSoft WebCam Companion 3 ที่แถมมาได้อย่างดีเยี่ยม ทุกฟีเจอร์นั้นสามารถใช้ร่วมกันได้ (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฟีเจอร์ Avatar ที่มีการจับภาพและติดตามใบหน้าของผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ) และคุณภาพจากการจับภาพนิ่งก็อยู่ในขั้นพอรับได้ (ตามรูปภาพ)
ภาพ : รูปที่ได้จากเว็บแคม (ย่อขนาดอย่างเดียวครับ)
แบตเตอรี่พกพามาตรฐาน
ข้อมูลจากคู่มือและเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ VAIO W ระบุว่าแบตเตอร์รี่ที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสามารถใช้งานได้ถึง 2 ชั่วโมง 45 นาที และจากการทดสอบด้วยการชาร์ตแบตเตอร์ให้เต็มและเปิดการเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi และความสว่างของหน้าจอแบบเต็มที่ พบว่าแบตเตอร์รี่มาตรฐานนั้นสามารถใช้งานได้ใกล้เคียงกับข้อมูลที่ได้รับ (ประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจขึ้นอยู่กับสภาะแวดล้อมโดยรวมอีกด้วย
ความร้อน CPU และความร้อนสะสม
ระหว่างการทดสอบข้างต้นผ่านไปเป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ผมพบว่าอัตราความร้อนสะสมของ VAIO W มีน้อยกว่าคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็กทั่วๆ ไป และกว่า 2 ชั่วโมงในอุณหภูมิห้องปกติ CPU ของ VAIO W มีความร้อนที่ 74 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าเป็นปกติสำหรับคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็กที่ไม่ได้ติดอุปกรณ์ระบายความร้อนใดๆ เพิ่มเติม
สรุปทิ้งท้าย...
หลายท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมบทความครั้งนี้จึงไม่มีการพูดถึงข้อด้อยของผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้แม้แต่เพียงประโยคเดียว แต่ถ้าหากคุณสังเกตให้ดีละก็จุดด้อยขนาดใหญ่ของ VAIO W ก็ได้ถูกเขียนไว้เป็นประโยคแรก ๆ ในบทความเรื่องนี้ไว้แล้วเรียบร้อย ถึงแม้ว่า VAIO W จะเต็มไปด้วยข้อดีอย่างวัสดุการประกอบ การออกแบบที่เยี่ยมยอด (โดยเฉพาะอย่างยิ่งคีย์บอร์ดแบบยกตัวที่ถูกใจผมมาก ๆ) อุปกรณ์ครบชุด ซอฟแวร์แถมยอดเยี่ยม รวมไปถึงศูนย์บริการที่เต็มใจบริการลูกค้า แต่ทุกอย่างนั้นก็ต้องแลกมาด้วยราคาโดยรวมของระบบที่สูงกว่าแบรนด์อื่น ๆ เมื่อเทียบเคียงกับสเปคโดยรวมของฮาร์ดแวร์ทั้งระบบ แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ VAIO W หรือ คอมพิวเตอร์พกพาตระกูล VAIO สามารถมอบให้คุณได้มากกว่าแค่การเป็นอุปกรณ์ก็อาจจะคุ้มค่าและน่าสนใจพอๆ กับจำนวนเม็ดเงินที่คุณจ่ายออกไปเช่นเดียวกันครับ..
Meet Your Little Friends...
Hands On: VAIO W \"Mini Notebook\"
Hands On: VAIO W "Mini Notebook"
อีกแล้ว...แพงเเฮะ... นั่นเป็นความคิดแรกของผมหลังจากที่ได้เห็นราคาของเจ้าคอมพิวเตอร์พกพาหน้าตาน่ารัก ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของผม ถึงผมจะชื่นชมและคลั่งไคล้ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของอารยะธรรมโซนี่มานานแสนนานตั้งแต่สมัยเครื่องเล่นเทปวอร์คแมน แต่สินค้าทุกชนิดที่ขึ้นชื่อว่าผลิตจากโซนี่ย่อมจะมีราคา (และคุณภาพ) ที่สูงเกินกว่าแบรนด์อื่น ๆ อยู่ไม่น้อย ซึ่งเจ้า VAIO W ตัวจิ๋วที่วางอยู่ข้างหน้าผมก็ไม่พ้นข้อครหานี้เช่นเดียวกัน
หลายท่านอาจจะพอได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเจ้า VAIO W มาเเล้วไม่มากก็น้อย แต่สำหรับท่านที่เพิ่งเคยได้ยินชื่อนี้ครั้งแรก VAIO W คือคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็ก รุ่นที่ 2 ของโซนี่ต่อจาก VAIO P และทั้งสองรุ่นนั้นทางโซนี่เรียกมันว่า Mini Notebook ต่างจากแบรนด์อื่นๆ ที่เรียกคอมพิวเตอร์พกพาที่มีสมรรถนะใกล้เคียงกันว่า NetBook แต่มันจะแตกต่างกันแค่ชื่อหรือไม่นั้น หลังอ่านบทความนี้จบคุณคงได้คำตอบอย่างแน่นอน
Design and Dimension
แม้จะเป็นรุ่นน้องล่าสุดที่ถูกออกแบบภายใต้แนวคิดเพื่อความประหยัดพลังงานและทรัพยากร แต่รูปลักษณ์ภายนอกของมันก็ไม่ได้แตกต่างไปจากคอมพิวเตอร์พกพาตระกูล VAIO แม้แต่น้อย การออกแบบทั้งรูปทรงและสีสันรวมไปถึงวัสดุของ VAIO W นั้นแตกต่างกับคอมพิวเตอร์พกพาแบรนด์อื่นๆ ในระดับเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด และสามารถเลือกสีตามความต้องการได้ถึงสามสีด้วยกัน
VAIO W จะมีขนาดรูปทรงมิติอยู่ที่ 7.07*10.54*1.28 นิ้ว (กว้าง ยาว และสูงตามลำดับ) และมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 1.17 กิโลกรัมในอุปกรณ์ติดตั้งแบบมาตรฐาน หลังจากเปิดหน้าจอออกจาการพับเก็บ สิ่งแรกที่ผมสังเกตเห็นเป็นอย่างแรกก็คือวัสดุการประกอบของ VAIO W ที่มีลักษณะทนทานหรูหราสมราคาและยากต่อการเกิดรอยขีดข่วนเอามากๆ
ภาพ : ความบางแนวตัด
ภาพ : เปรียบเทียบความกว้างกับแผ่น CD
ภาพ : เปรียบเทียบความหนากับ PSP
อย่างที่ 2 ก็คือคีย์บอร์ดแบบยกตัวที่ปรากฎอยู่ในคอมพิวเตอร์พกพาระดับนี้เป็นครั้งแรก คีย์บอร์ดขนาดย่อสวน 81 เปอร์เซนต์ (อ้างอิงจากเวบไซต์เป็นทางการของ VAIO W ) และมีจุดเด่นอยู่ที่การออกแบบแป้นกดอักษรแบบยกตัวและแยกออกจากกันเหมือนกันโน้ตบุครุ่นแพง ๆ ทั่วไป แม้มันอาจจะดูเล็กเกินไปสำหรับคนที่มีนิ้วมือใหญ่ ๆ (อย่างเช่นผม) แต่หลังจาการกระหน่ำกดแป้นพิมพ์ตัวอักษรผ่านไปได้ครึ่งค่อนวัน ผมพบว่าแป้นพิมพ์ของ VAIO W นั้นสามารถใช้งานได้ง่ายและถนัดมือ และมีอัตราการตอบสนองที่ดีพอ ๆ กับคีย์บอร์ดแบบฟูลไซต์บนพีซีเลยทีเดียว (ยกเว้นปุ่ม SHIFT ที่เล็กมากจนผมกดถูกกดผิดอยู่หลายครั้ง)
ภาพ : คีย์บอร์ดแบบยกตัวคร้้งแรกในเน็ตบุ้ค..
Spec and Display
VAIO W มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการณ์ วินโดวส์ XP Service Pack 3 ที่รันด้วยซีพียู Atom N280 ที่มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.66GHz และมีอัตราความเร็วในการส่งข้อมูลของชิปเซต (FSB) อยู่ที่ 677 HMz และนอกจากนั้นก็มีหน่วยความจำ (RAM) แบบ DDR 2 ขนาดความจุ 1 GB ที่เป็นค่ามาตรฐานสำหรับโน้ตบุคในปัจจุบันติดตั้งมาให้ พร้อมกับฮาร์ดดิสก์แบบ SATA ความจุ 160 GB ความเร็ว 5400 rpm
หน้าจอแสดงผลของเจ้า VAIO W เป็นสิ่งหนึ่งที่ผมสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่ามันเป็นหน้าจอของคอมพิวเตอร์พกพาแบบเนตบุคที่มีการแสดงผลดีที่สุดเท่าที่ผมได้เคยเห็นมาเลยทีเดียว (สมกับที่ทางโซนี่ฯ ดึงจุดนี้เป็นจุดขาย ) VAIO W มีหน้าจอแสดงผลขนาด 10.1 นิ้ว และด้วยการที่มันเป็นเนตบุ้ค (มินิโน้ตบุ้ค) ตัวแรกที่ใช้ชิปแสดงผล GMA 950 ทำให้ VAIO W สามารถแสดงผลได้ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 1366 x 768 (Px) (เนตบุคทั่วไปอยู่ที่ 1024*600 px) และถึงแม้ว่าความละเอียดที่เพิ่มมากขึ้นจะทำให้การแสดงผลของสิ่งต่าง ๆ บนหน้าจอมีขนาดเล็กลงแต่ด้วยคุณภาพและความคมชัดของหน้าจอที่ค่อนข้างสมราคา ก็ไม่ทำให้การจ้องมองหน้าจอแสดงผลของ VAIO W เป็นระยะเวลานาน ๆ เกิดปัญหาแต่อย่างใด แถมความละเอียดที่เพิ่มมายิ่งทำให้การใช้งานหลาย ๆ อย่างสะดวกสบายขึ้นอีกหลายเท่าตัว (ยกตัวอย่างเช่นการแสดงผลบนเวบไซต์ Facebook ที่ไม่ต้องเลื่อนขึ้นเลื่อนลง...)
Conectivty
ถึงแม้ว่าขนาดของมันจะเล็กนิดเดียวแต่ VAIO W ก็ถูกยัดความสามารถทางด้านการเชื่อมต่อทางด้านการสื่อสารมาอย่างเพียบพร้อมไม่เเพ้โน้ตบุครุ่นใหญ่ ๆ เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบไร้สายอย่าง Wi-Fi และ Bluetooth การเชื่อมต่อมาตรฐานด้วยพอร์ตเชื่อมต่อเครือข่าย แลน (Lan) และพ่วงด้วยกล้อง Webcam ความละเอียดสูงที่มาพร้อมฟีเจอร์ Motion Eye ที่เป็นเอกลักษณ์ของโซนี่ นอกจากนั้นก็ยังมีพอร์ตเชื่อมต่อ USB 2.0 จำนวน 2 สล็อต พอร์ตเชื่อมต่อการแสดงผล (VGA-Out) สล็อตเสียบหูฟัง และไมโครโฟนอย่างละ 1 ช่อง และสุดท้ายก็คือ สล็อตเสียบหน่วยความจำพกพาอย่าง SD และ Memory Stick Pro Duo อย่างละ 1 ช่องเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าเมื่อเปรียบเทียบกับขนาดของตัวมันเเล้วก็ถือได้ว่าสมกับราคาค่าตัวเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว
ภาพ : สวิซ Wi-Fi และช่องอ่านการ์ด
ภาพ : ช่องไมโครโฟนและหูฟัง
Software bundle
หลังจากที่ไล่สำรวจตรวจตราเหล่าซอฟแวร์แถมที่ติดตั้งมากับเจ้า VAIO W แล้ว ผมก็ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าซอฟแวร์เเถมเกือบจะทั้งหมดที่ติดตั้งมากับเจ้า VAIO W เป็นซอฟแวร์ที่เรียกได้ว่าดีเข้าขั้นเลยทีเดียว เริ่มจากระบบปฏิบัติการณ์วินโดวส์ XP SP 3 แบบลิขสิทธิ์ถูกต้องที่ติดตั้งมาแต่แรกแล้ว (มูลค่าประมาณ 3,500 บาท) ก็ยังมีโปรแกรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจอย่างเช่น InterVideo WinDVD, ArcSoft WebCam Companion 3 เวอร์ชั่นเต็มถูกลิขสิทธิ์ ( ทั้งสองโปรแกรมมีมูลค่ากว่า $39.95 x 2 หรือประมาณ 2,400 บาทไทย) และโปรแกรมชุดไมโครซอฟท์ออฟฟิศกับโปรแกรมแอนตี้ไวรัส Norton Internet Security แบบทดลอง 30 วัน พร้อม ๆ กับโปรแกรมของทางโซนี่ฯ เองที่ติดตั้งอยู่ในคอมพิวเตอร์พกพาตระกูล VAIO ก็อยู่ใน VAIO W ตัวเล็กนี้ด้วยเช่นเดียวกัน โดยโปรแกรมที่ถูกใจผมที่สุดก็คงหนีไม่พ้นโปรแกรม VAIO Media Plus ที่ใช้ในการแสดงไฟล์มัลติมีเดียแทบจะทุกชนิด (ไฟล์รูปภาพ ไฟล์เพลง และไฟล์วิดีโอ) ด้วยเมนูกราฟฟิกที่ละม้ายคล้ายคลึงกับเมนู XMB (Xross Media Bar) ที่อยู่บนเครื่องเล่นเกมตระกูล Playstation ทำให้การค้นหาและเรียกแสดงผลไฟล์สื่อที่เราต้องการนั้นง่ายดายสุด ๆ และอีกโปรแกรมหนึ่งที่ต้องพูดถึงก็คือโปรแกรม VAIO Recovery โปรแกรมย้อนคืนสภาพระบบของคอมพิวเตอร์คุณให้เหมือนกับเครื่องใหม่ที่เพิ่งซื้อมาจากร้านค้าด้วยการกดปุ่มใช้งานเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น
Performance Test
ด้วยขนาดเล็กกระจิ๋วหลิวของมันและด้วยการโปรโมตของทั้งทางโซนี่เองที่ว่าด้วยจุดยืนของการพัฒนาเจ้า VAIO W คงจะไม่มีใครที่ซื้อมัน ไปแล้วนำมันไปใช้งานด้านประมวลผลและกราฟฟิกหนัก ๆ หรือนำมันไปเล่นเกมแบบฮาร์ดคอร์เป็นแน่แท้ ดังนั้นการทดสอบในครั้งนี้ของผมจะเน้นไปที่การใช้งานทั่วไปอย่างเช่นการนำมันออกไปใช้งานจริง ๆ ข้างนอกที่พักอาศัย หรือทดสอบกับโปรแกรมที่ผู้ใช้นิยมใช้ในชีวิตประจำวันกับคอมพิวเตอร์พกพาลักษณะนี้เท่านั้นครับ
iTune rip CD >> MP 3
ซีพียูของอิลเทล Atom N280 ที่เป็นหน่วยประมวลผลเพียงหนึ่งเดียวของ VAIO W สามารถแสดงผลประสิทธิภาพในการทดสอบนี้ได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว VAIO W ใช้เวลาในการแปลงไฟล์จาก Audio CD ไปสู่ไฟล์เสียงแบบ MP 3 (ปรับระดับของคุณภาพในระดับสูงที่สุด) จำนวนทั้งสิ้น 22 ไฟล์ (753.1 MB) ใช้เวลาไปทั้งสิ้นแค่ 16 นาทีเท่านั้น
ภาพ : Frank Sintra : Nothing But The Best
อัตราการถ่ายโอนข้อมูล
ในการทดสอบอัตราการถ่ายโอนข้อมูลด้วยโปรแกรม HD Tune เวอร์ชั่น 3.5 ระหว่าง VAIO W และ เเฟลชไดร์ฟขนาด 2GB ของผมผ่านทางการเชื่อมต่อแบบ USB 2.0 ผลสรุปที่ได้ก็คืออัตราการส่งผ่านข้อมูลระหว่างทั้ง 2 อุปกรณ์ มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 17.1 MB/วินาที นับว่าเป็นค่าเฉลี่ยมาตรฐานของพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB 2.0 ทั่วไป และในการวัดผลอัตราการถ่ายโอนข้อมูลฮาร์ดดิสก์ความจุ 160 GB ยี่ห้อ Toshiba
ของ VAIO W เอง ผลที่ได้ก็คือ มีอัตราการส่งผ่านข้อมูลโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 46.7 MB/วินาที (ทดสอบเฉพาะค่าการอ่านเท่านั้น) และมีค่า Burst Rate (อัตราการส่งผ่านข้อมูลในตัวฮาร์ดดิสก์เอง) อยู่ที่ 81.7 MB/ วินาที
การใช้งาน Wi-Fi
จากทดสอบในครั้งนี้ผมได้นำเจ้า VAIO W มาใช้เล่นอินเตอร์เนตผ่านการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Wi-Fi โดยต้นสัญญาณห่างจากจุดที่ทดสอบประมาณ 15-17 เมตร หลังการทดสอบพบว่าแม้จะอยู่ห่างจากจุดต้นสัญญาณด้วยระยะทางพอสมควรภาครับสัญญาณของ VAIO W ยังสามารถจับสัญญาณได้ค่อนข้างดีและมีอัตราการส่งผ่านข้อมูลที่คงที่ (ตามรูปเลยครับ)
เสียง
ลำโพงที่ติดตั้งอยู่ด้านใต้เครื่องของ VAIO W นั้นจัดว่าให้เสียงที่ค่อนข้างดีและมีระดับความดังที่มากกว่าคอมพิวเตอร์พกพาระดับเดียวกันค่อนข้างมาก ข้อเสียอย่างหนึ่งที่ผมพบเจอระหว่างการทดสอบในครั้งนี้ก็คือเมื่อปรับอัตราการเร่งเสียงให้สูงมากกว่า 75 เปอร์เซนต์ขึ้นไปเสียงที่ได้จะแตกพร่าและความใสของเสียงจะถูกลดทอนลงไปค่อนข้างมาก
ภาพ : ลำโพงที่ติดตั้งอยู่ใต้ตัวเครื่อง
คุณภาพของเสียงที่ได้ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ผมตั้งใจจะทดสอบเช่นเดียวกัน ผลของการทดสอบเสียงของ VAIO W และเครื่องเล่นเกมพกพา Sony PSP (1000x) ด้วยหูฟังตัวเดียวกัน (Razor Moray) และไฟล์เสียงต้นฉบับเดียวกัน (Mp 3) พบว่าคุณภาพของเสียงที่ได้นั้นแทบจะไม่มีความแตกต่างกันระหว่างอุปกรณ์ทั้งสองตัวนี้ (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากมีหูฟังที่หลากหลายเพิ่มขึ้นมา ผลการทดสอบอาจจะสามารถชี้ชัดได้ก็เป็นได้)
ภาพ : Razor Moray
ระบบกราฟฟิก และกล้องเว็บแคม
คงไม่มีใครซื้อคอมพิวเตอร์พกพาตัวจิ๋วอย่างนี้ไปเพื่อเล่นเกมที่มีกราฟฟิกหนัก ๆ ใช่ไหมครับ? ดังนั้นการทดสอบในครั้งนี้ผมจึงนำเกม Action/Rpg ในตำนานอย่าง Diablo 2 มาติดตั้งเพื่อทดลองเล่นกับเจ้า VAIO W และไม่พบความผิดปกติใด ๆ ในการทดสอบทั้งการติดตั้งและการแสดงผล (ตลอดจนการเล่น...)
ภาพ : เล่นเกมสเปคน้อยๆ ได้อย่างไหลลื่น..
เว็บแคม พร้อมด้วยฟีเจอร์ Motion Track ที่ติดตั้งมากับ VAIO W นั้นทำงานร่วมกับโปรแกรม ArcSoft WebCam Companion 3 ที่แถมมาได้อย่างดีเยี่ยม ทุกฟีเจอร์นั้นสามารถใช้ร่วมกันได้ (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฟีเจอร์ Avatar ที่มีการจับภาพและติดตามใบหน้าของผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ) และคุณภาพจากการจับภาพนิ่งก็อยู่ในขั้นพอรับได้ (ตามรูปภาพ)
ภาพ : รูปที่ได้จากเว็บแคม (ย่อขนาดอย่างเดียวครับ)
แบตเตอรี่พกพามาตรฐาน
ข้อมูลจากคู่มือและเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ VAIO W ระบุว่าแบตเตอร์รี่ที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสามารถใช้งานได้ถึง 2 ชั่วโมง 45 นาที และจากการทดสอบด้วยการชาร์ตแบตเตอร์ให้เต็มและเปิดการเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi และความสว่างของหน้าจอแบบเต็มที่ พบว่าแบตเตอร์รี่มาตรฐานนั้นสามารถใช้งานได้ใกล้เคียงกับข้อมูลที่ได้รับ (ประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจขึ้นอยู่กับสภาะแวดล้อมโดยรวมอีกด้วย
ความร้อน CPU และความร้อนสะสม
ระหว่างการทดสอบข้างต้นผ่านไปเป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ผมพบว่าอัตราความร้อนสะสมของ VAIO W มีน้อยกว่าคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็กทั่วๆ ไป และกว่า 2 ชั่วโมงในอุณหภูมิห้องปกติ CPU ของ VAIO W มีความร้อนที่ 74 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าเป็นปกติสำหรับคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็กที่ไม่ได้ติดอุปกรณ์ระบายความร้อนใดๆ เพิ่มเติม
สรุปทิ้งท้าย...
หลายท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมบทความครั้งนี้จึงไม่มีการพูดถึงข้อด้อยของผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้แม้แต่เพียงประโยคเดียว แต่ถ้าหากคุณสังเกตให้ดีละก็จุดด้อยขนาดใหญ่ของ VAIO W ก็ได้ถูกเขียนไว้เป็นประโยคแรก ๆ ในบทความเรื่องนี้ไว้แล้วเรียบร้อย ถึงแม้ว่า VAIO W จะเต็มไปด้วยข้อดีอย่างวัสดุการประกอบ การออกแบบที่เยี่ยมยอด (โดยเฉพาะอย่างยิ่งคีย์บอร์ดแบบยกตัวที่ถูกใจผมมาก ๆ) อุปกรณ์ครบชุด ซอฟแวร์แถมยอดเยี่ยม รวมไปถึงศูนย์บริการที่เต็มใจบริการลูกค้า แต่ทุกอย่างนั้นก็ต้องแลกมาด้วยราคาโดยรวมของระบบที่สูงกว่าแบรนด์อื่น ๆ เมื่อเทียบเคียงกับสเปคโดยรวมของฮาร์ดแวร์ทั้งระบบ แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ VAIO W หรือ คอมพิวเตอร์พกพาตระกูล VAIO สามารถมอบให้คุณได้มากกว่าแค่การเป็นอุปกรณ์ก็อาจจะคุ้มค่าและน่าสนใจพอๆ กับจำนวนเม็ดเงินที่คุณจ่ายออกไปเช่นเดียวกันครับ..
Meet Your Little Friends...