เป็นเรื่องของคนรู้จัก อ่านแล้วรู้สึกดีมากเลยอยากแชร์ค่ะ
"อยู่โรงพยาบาลเฝ้าลูกมาสองวัน ทำให้รู้ซึ้งถึงความลำบากของคนเป็นพ่อแม่
รวมทั้งซุปเปอร์ปู่ย่า ตายาย ที่ดูแลเฝ้าไข้ลูกหลานไม่ห่าง
ลูกต้องนอนห้องธรรมดาแบบรวม เพราะหมอไม่ยอมให้นอนห้องพิเศษ
กลัวอาการชักเนื่องจากไข้ขึ้นสูง การนอนห้องธรรมดาช่างต่างกับห้อง
พิเศษมากนัก มันทำให้เราเห็นความแตกต่างของมนุษย์ ได้อย่างชัดเจน
แต่สิ่งที่เหมือนกันคือความรักที่มีต่อลูกหลาน มันมีมากล้นเหมือนกันทุก
ชนชั้น เราเจอยอดคุณตาผู้ยอมอดนอนทั้งกลางวันกลางคืน นั่งเฝ้าหลาน
ที่เป็นปอดบวมตลอดทั้งคืน ทั้งๆที่คนอื่นเค้าหลับกันหมด เจอยอดคุณแม่
ผู้ยากไร้ มีเสื้อผ้า เงินนิดหน่อย ขวดนมแค่สองขวด ผ้าอ้อมเก่าๆนอน
เฝ้าลูก ไม่มีคนมาเยี่ยมหรือเปลี่ยนเวร ไร้วี่แววของสามี เจอยอดคุณยาย
ที่ไม่มีเงินซื้อนมสำหรับทารกท้องเสีย ตะโกนขอบริจาคนมลั่นทั่วห้อง
เพราะหลานไม่มีนมกิน ฯลฯ สรุป เรากลับบ้านมาในสภาพตัวเบา
ถือว่าทุกสิ่งที่เราให้ไปคงมีประโยชน์กับพวกเขาเหล่านั้น ถึงแม้ของบางอย่าง
จะไม่มีความหมายแล้วสำหรับเรา แต่มันสามารถต่อชีวิตที่ยากไร้เหล่านี้ได้
ไม่มากก็น้อย...."
"ตอนแรกเราคิดว่า ต้องลำบาก เพราะหมอไม่ให้นอนห้องพิเศษ แต่เราได้
อะไรจากการนอนห้องธรรมดาแบบรวมมาเยอะ ไดิมิตรภาพที่ดี ได้เห็นได้รู้
ถึงมุมชีวิตอีกมุมนึงที่เราไม่เคยได้สัมผัส มีคนลำบากอย่างแสนสาหัสกว่าเรา
อีกเยอะ เลยคิดว่า ต่อไปนี้จะทำบุญกับโรงพยาบาลดีกว่า โดยเฉพาะ
แผนกอายุรกรรมเด็ก น่าสงสารมาก ที่ต้องมาเห็นภาพ พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย
ผู้ยากไร้เหล่านี้ นมแก้ท้องเสียกระป๋องละ สามร้อย กว่าๆ เค้ายังไม่มีเงินซื้อเลย
เราเลยเอานมของลูกเราไปให้เขา น่าสงสารมาก ยายก็แก่แล้ว มีหลานเด็กๆ
ประมาน ปอสี่ มาเฝ้าด้วยอีกคน"
แก้ไขคำผิดค่ะ
ลูกป่วยส่งท้ายปีแต่ก็ได้ข้อคิดดีๆจากการไปนอนโรงพยาบาล
"อยู่โรงพยาบาลเฝ้าลูกมาสองวัน ทำให้รู้ซึ้งถึงความลำบากของคนเป็นพ่อแม่
รวมทั้งซุปเปอร์ปู่ย่า ตายาย ที่ดูแลเฝ้าไข้ลูกหลานไม่ห่าง
ลูกต้องนอนห้องธรรมดาแบบรวม เพราะหมอไม่ยอมให้นอนห้องพิเศษ
กลัวอาการชักเนื่องจากไข้ขึ้นสูง การนอนห้องธรรมดาช่างต่างกับห้อง
พิเศษมากนัก มันทำให้เราเห็นความแตกต่างของมนุษย์ ได้อย่างชัดเจน
แต่สิ่งที่เหมือนกันคือความรักที่มีต่อลูกหลาน มันมีมากล้นเหมือนกันทุก
ชนชั้น เราเจอยอดคุณตาผู้ยอมอดนอนทั้งกลางวันกลางคืน นั่งเฝ้าหลาน
ที่เป็นปอดบวมตลอดทั้งคืน ทั้งๆที่คนอื่นเค้าหลับกันหมด เจอยอดคุณแม่
ผู้ยากไร้ มีเสื้อผ้า เงินนิดหน่อย ขวดนมแค่สองขวด ผ้าอ้อมเก่าๆนอน
เฝ้าลูก ไม่มีคนมาเยี่ยมหรือเปลี่ยนเวร ไร้วี่แววของสามี เจอยอดคุณยาย
ที่ไม่มีเงินซื้อนมสำหรับทารกท้องเสีย ตะโกนขอบริจาคนมลั่นทั่วห้อง
เพราะหลานไม่มีนมกิน ฯลฯ สรุป เรากลับบ้านมาในสภาพตัวเบา
ถือว่าทุกสิ่งที่เราให้ไปคงมีประโยชน์กับพวกเขาเหล่านั้น ถึงแม้ของบางอย่าง
จะไม่มีความหมายแล้วสำหรับเรา แต่มันสามารถต่อชีวิตที่ยากไร้เหล่านี้ได้
ไม่มากก็น้อย...."
"ตอนแรกเราคิดว่า ต้องลำบาก เพราะหมอไม่ให้นอนห้องพิเศษ แต่เราได้
อะไรจากการนอนห้องธรรมดาแบบรวมมาเยอะ ไดิมิตรภาพที่ดี ได้เห็นได้รู้
ถึงมุมชีวิตอีกมุมนึงที่เราไม่เคยได้สัมผัส มีคนลำบากอย่างแสนสาหัสกว่าเรา
อีกเยอะ เลยคิดว่า ต่อไปนี้จะทำบุญกับโรงพยาบาลดีกว่า โดยเฉพาะ
แผนกอายุรกรรมเด็ก น่าสงสารมาก ที่ต้องมาเห็นภาพ พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย
ผู้ยากไร้เหล่านี้ นมแก้ท้องเสียกระป๋องละ สามร้อย กว่าๆ เค้ายังไม่มีเงินซื้อเลย
เราเลยเอานมของลูกเราไปให้เขา น่าสงสารมาก ยายก็แก่แล้ว มีหลานเด็กๆ
ประมาน ปอสี่ มาเฝ้าด้วยอีกคน"
แก้ไขคำผิดค่ะ