คุณวินัย ชาติอนันต์เป็นผู้จัดการบริษัทสายส่งเคล็ดไทยมายาวนานกว่ายี่สิบปี เป็นคนที่ผมนับถือมากคนหนึ่ง ผมรู้จักคุณวินัยตั้งแต่ผมเป็นหนุ่มอายุสามสิบต้นๆ ตอนนั้นเป็นนักเขียนเด็ก ๆ มีผลงานเรื่องสั้นราวยี่สิบเรื่อง คิดจะทำสำนักพิมพ์เองก็ไปหาคุณวินัยคนนี้แหละ บอกว่าพี่ครับ ผมจะพิมพ์หนังสือของตัวเอง พี่คิดว่าจะขายได้ไหม
ถ้ามองตามจริงแล้ว คุณวินัยต้องพูดว่า ขายไม่ได้หรอก เพราะคุณเป็นนักเขียนหน้าใหม่ แต่เขาไม่พูด บอกว่าทำสิ ผมจะช่วยจ่ายล่วงหน้าให้บางส่วน ผมก็เริ่มทำด้วยการไปหาเพื่อนหาพี่ที่อยู่ในวงการมาก่อนให้มาช่วยกันคิดช่วยกันผลักดันสำนักพิมพ์บ้านหนังสือขึ้นมา
นอกจากพิมพ์งานของตัวเองแล้ว ผมยังได้พิมพ์งานของ รงค์ วงษ์สวรรค์ จำลอง ฝั่งชลจิตร ประมูล อุณหธูป ชัชรินทร์ ไชยวัฒฒ์ สุจินดา ขันตยาลงกต นากิบ มาห์ฟูซ และฯลฯ ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็ได้คุณวินัยนี่แหละ คอยช่วยเรื่องการจัดจำหน่ายให้ ช่วงไหนที่ประสบกับความล้มเหลวขาดทุน คุณวินัยก็มีจิตเมตตาผัดผ่อนหนี้สินให้เรื่อยมา จนกระทั่งเวลาผ่านไปสิบกว่าปีปลดหนี้ปลดสิน เป็นไทแก่ตัว ผมก็ยังทำงานร่วมกับคุณวินัยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ผมอายุมากขึ้น คุณวินัยก็ใกล้จะเกษียณเต็มที
คุณกล้วยภรรยาคุณวินัยผมก็นับถือเป็นเหมือนพี่สาว ไปไหนต่อไหนด้วยกันอยู่เสมอ ระยะหลังผมจัดกิจกรรมเดินป่าบ่อย ๆ ก็มีคุณกล้วยเป็นผู้ให้การสนับสนุนอย่างใกล้ชิด และไปร่วมกิจกรรมทุกครั้งไปเคยขาด
คุณวินัยมีเพื่อนเล่นกอล์ฟหลายคน เพื่อนคนหนึ่งอยู่ในรัฐโอเรกอนประเทศอเมริกาคะยั้นคะยอให้คุณวินัยหัดเล่นกอล์ฟ เขาว่าถ้าเล่นเก่งก็จะชวนไปออกรอบที่บ้านเขาสักหน คุณวินัยก็ได้แต่ยิ้มรับ ผัดวันประกันพรุ่งเรื่อยมา
คุณจรัญ หอมเทียนทองก็เป็นเพื่อนสนิทของคุณวินัย สนับสนุนให้คุณวินัยเล่นกอล์ฟมาหลายปี เพื่อว่าจะได้ออกรอบด้วยกัน แต่คุณวินัยก็อ้างว่าไม่ค่อยมีเวลา จนกระทั่งคุณกลมเล่นกอล์ฟ เธอก็อยากให้คุณวินัยมาเล่นบ้าง คุณกล้วยว่า คุณวินัยจะได้เลิกดื่ม หันมาออกกำลังกาย ไม่ต้องเครียดมาก ทำงานหนักมาตลอดชีพ ถึงวาระจะได้พักผ่อนบ้าง
ผมอาสาช่วยพูดอีกแรง ใช้วิชาสาลิกาลิ้นทองจูงแขนคุณวินัยไปสมัครเรียนที่สนามสุระวงศ์ชัยโรงเรียนเก่าของผม พาไปซื้ออุปกรณ์เสื้อผ้าที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลงามวงศ์วาน กระตุ้นให้คุณวินัยไปเรียนเป็นประจำ บอกให้หาหนังสือของหมอวิธาน ฐานะวุฒมาอ่าน จะได้รู้ว่า ปรัชญาของการเล่นกอล์ฟนั้นคืออะไร เล่นแล้วมีความสุขได้อย่างไร สนุกกับมันได้แค่ไหน
เมื่อไปสมัครเรียนกับคุณปุ้ยเรียบร้อย คุณปุ้ยจัดให้โปรเอียดเป็นผู้สอน คุณวินัยก็เป็นคนที่มีวินัยสมชื่อ ไปเรียนไม่เคยขาด ซ้อมบ่อย และเริ่มอ่านหนังสือที่ผมแนะนำ เริ่มรู้รสชาติของความสุขจากกีฬากอล์ฟ ตอนซ้อมผมก็หมั่นไปเยี่ยม ไปนั่งอยู่ใกล้ ๆ คอยให้กำลังใจ กลัวว่าพี่เขาจะท้อเสียก่อน แต่ผิดคาด คุณวินัยมีพัฒนาการที่เห็นได้ชัด จากตีลูกผิด ๆ ถูก ๆ ก็เริ่มมั่นใจตีได้ไกลขึ้น ผมก็คอยปรบมือให้รู้ว่าชื่นชมพี่อยู่นะครับ
เมื่อวานวันอาทิตย์ ผมขับรถไปรับรองเท้าคืนที่สนามธนาซิตี้บางนา ระหว่างทางก็คิดขึ้นมาได้ว่า ถึงเวลาที่ผมควรจะพาคุณวินัยไปพบของจริงได้แล้ว จึงบอกให้เขาไปลองเดินเล่นในสนามสักครั้ง เรานัดกันที่สนามชลประทานตอนเที่ยง คุณวินัยก็ไปตรงตามเวลา และติดคุณกล้วยภรรยาไปด้วย
คุณกล้วยเป็นภรรยาตัวอย่าง สนับสนุนสามีอย่างออกหน้าออกตา ตัวเองก็อยากลงเล่นกอล์ฟเหมือนกัน ตอนนี้ซื้อรองเท้า ซื้อหมวก ซื้อเสื้อ ซื้อโลชั่นกันแดดไว้เรียบร้อย รอให้สามีเล่นเป็นเมื่อไร จะได้สอนเธอให้เล่นบ้าง และเธอก็จะได้ออกรอบพร้อมกับสามี ไปไหนไปกัน มีทุกข์มีสุขร่วมกัน
ผมพาคุณวินัยลงสนาม พร้อมกับกำกับแคดดี้ว่าให้ดูแลคุณวินัยให้ดี มีอะไรก็แนะนำนายเขา ก็อย่าได้เกรงใจ นายเขาเพิ่งจะออกรอบครั้งแรก ลูกไหนที่ตีตกน้ำตกทรายกตีใหม่ ลูกไหนยากไปก็หยิบลูกโยนเข้าในแฟร์เวย์
จากนั้นเราก็เดินในสนามด้วยกัน ผมคอยเป็นพี่เลี้ยง แนะนำพี่เขาไปตามสถานการณ์ ทำเหมือนกับที่พี่เต้ยบูรพาเคยแนะนำผมด้วยท่าที่สุภาพมีความปรารถนาดีต่อกันเกินร้อย
ช่วงเวลาที่เราอยู่ในสนามด้วยกัน ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆ ลมพัดเบา ๆ อากาศเย็นสบาย คุณวินัยก็เล่นกอล์ฟอย่างมีความสุข ถือเหล็ก7 ตีไปเรื่อย ๆ จากหลุมหนึ่งจนหลุมที่18 ผมเกรงว่าเขาจะเหนื่อยมากไป ก็เพียรถามว่าเหนื่อยไหม ไหวไหม พักหรือหยุดได้เลยนะ แต่เขาบอกว่าไม่เหนื่อย สนุกดี เขาว่า นานมากแล้วที่เขาไม่ได้ออกกำลังกาย
เราขึ้นจากสนามตอนหกโมงเย็น เข้าสโมสรไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เดินมาทางร้านอาหาร คุณกล้วยยิ้มรับสามีถามว่า คุณขจรฤทธิ์ คุณวินัยเป็นอย่างไรบ้าง
ผมตอบว่า ดีกว่าที่คิดครับ
ให้กำลังใจเกินไปหรือเปล่า คุณกล้วยไม่แน่ใจ
ผมบอกว่า งั้นพี่ต้องถามคุณวินัยเองก็แล้วกันว่าเขาสนุกไหม ถ้าเขาสนุกถือว่าเขาเล่นใช้ได้
ระหว่างมื้อเราวางแผนกันถึงเรื่องการเล่นกอล์ฟไปจนถึงแก่เฒ่า คุณวินัยว่า ถ้าเล่นเก่งเมื่อไรจะซื้อตั๋วให้ขจรฤทธิ์บินไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่โอเรกอน เล่นกอล์ฟกันสักสามสี่วัน
ผมยกมื้อไหว้ บอกว่า ขอบคุณครับพี่ ไปเมื่อไรบอกล่วงหน้าสองวันนะ
ผมพยายามคิดว่า อนาคตข้างหน้า การไปอเมริกานั้นคงง่ายเหมือนกับขึ้นเครื่องไปเชียงใหม่ ไปถึงที่นั่นไม่ขอทำอย่างอื่น เล่นกอล์ฟให้สนุกแล้วก็บินกลับเมืองไทยมาเล่นกอล์ฟต่อ
ชีวิตนี้มีอย่างอื่นให้ทำแล้วสนุกเหมือนกับการออกรอบลงสนามกับเพื่อนอีกไหมหนอ
สมาชิกใหม่ชื่อคุณวินัย
ถ้ามองตามจริงแล้ว คุณวินัยต้องพูดว่า ขายไม่ได้หรอก เพราะคุณเป็นนักเขียนหน้าใหม่ แต่เขาไม่พูด บอกว่าทำสิ ผมจะช่วยจ่ายล่วงหน้าให้บางส่วน ผมก็เริ่มทำด้วยการไปหาเพื่อนหาพี่ที่อยู่ในวงการมาก่อนให้มาช่วยกันคิดช่วยกันผลักดันสำนักพิมพ์บ้านหนังสือขึ้นมา
นอกจากพิมพ์งานของตัวเองแล้ว ผมยังได้พิมพ์งานของ รงค์ วงษ์สวรรค์ จำลอง ฝั่งชลจิตร ประมูล อุณหธูป ชัชรินทร์ ไชยวัฒฒ์ สุจินดา ขันตยาลงกต นากิบ มาห์ฟูซ และฯลฯ ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็ได้คุณวินัยนี่แหละ คอยช่วยเรื่องการจัดจำหน่ายให้ ช่วงไหนที่ประสบกับความล้มเหลวขาดทุน คุณวินัยก็มีจิตเมตตาผัดผ่อนหนี้สินให้เรื่อยมา จนกระทั่งเวลาผ่านไปสิบกว่าปีปลดหนี้ปลดสิน เป็นไทแก่ตัว ผมก็ยังทำงานร่วมกับคุณวินัยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ผมอายุมากขึ้น คุณวินัยก็ใกล้จะเกษียณเต็มที
คุณกล้วยภรรยาคุณวินัยผมก็นับถือเป็นเหมือนพี่สาว ไปไหนต่อไหนด้วยกันอยู่เสมอ ระยะหลังผมจัดกิจกรรมเดินป่าบ่อย ๆ ก็มีคุณกล้วยเป็นผู้ให้การสนับสนุนอย่างใกล้ชิด และไปร่วมกิจกรรมทุกครั้งไปเคยขาด
คุณวินัยมีเพื่อนเล่นกอล์ฟหลายคน เพื่อนคนหนึ่งอยู่ในรัฐโอเรกอนประเทศอเมริกาคะยั้นคะยอให้คุณวินัยหัดเล่นกอล์ฟ เขาว่าถ้าเล่นเก่งก็จะชวนไปออกรอบที่บ้านเขาสักหน คุณวินัยก็ได้แต่ยิ้มรับ ผัดวันประกันพรุ่งเรื่อยมา
คุณจรัญ หอมเทียนทองก็เป็นเพื่อนสนิทของคุณวินัย สนับสนุนให้คุณวินัยเล่นกอล์ฟมาหลายปี เพื่อว่าจะได้ออกรอบด้วยกัน แต่คุณวินัยก็อ้างว่าไม่ค่อยมีเวลา จนกระทั่งคุณกลมเล่นกอล์ฟ เธอก็อยากให้คุณวินัยมาเล่นบ้าง คุณกล้วยว่า คุณวินัยจะได้เลิกดื่ม หันมาออกกำลังกาย ไม่ต้องเครียดมาก ทำงานหนักมาตลอดชีพ ถึงวาระจะได้พักผ่อนบ้าง
ผมอาสาช่วยพูดอีกแรง ใช้วิชาสาลิกาลิ้นทองจูงแขนคุณวินัยไปสมัครเรียนที่สนามสุระวงศ์ชัยโรงเรียนเก่าของผม พาไปซื้ออุปกรณ์เสื้อผ้าที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลงามวงศ์วาน กระตุ้นให้คุณวินัยไปเรียนเป็นประจำ บอกให้หาหนังสือของหมอวิธาน ฐานะวุฒมาอ่าน จะได้รู้ว่า ปรัชญาของการเล่นกอล์ฟนั้นคืออะไร เล่นแล้วมีความสุขได้อย่างไร สนุกกับมันได้แค่ไหน
เมื่อไปสมัครเรียนกับคุณปุ้ยเรียบร้อย คุณปุ้ยจัดให้โปรเอียดเป็นผู้สอน คุณวินัยก็เป็นคนที่มีวินัยสมชื่อ ไปเรียนไม่เคยขาด ซ้อมบ่อย และเริ่มอ่านหนังสือที่ผมแนะนำ เริ่มรู้รสชาติของความสุขจากกีฬากอล์ฟ ตอนซ้อมผมก็หมั่นไปเยี่ยม ไปนั่งอยู่ใกล้ ๆ คอยให้กำลังใจ กลัวว่าพี่เขาจะท้อเสียก่อน แต่ผิดคาด คุณวินัยมีพัฒนาการที่เห็นได้ชัด จากตีลูกผิด ๆ ถูก ๆ ก็เริ่มมั่นใจตีได้ไกลขึ้น ผมก็คอยปรบมือให้รู้ว่าชื่นชมพี่อยู่นะครับ
เมื่อวานวันอาทิตย์ ผมขับรถไปรับรองเท้าคืนที่สนามธนาซิตี้บางนา ระหว่างทางก็คิดขึ้นมาได้ว่า ถึงเวลาที่ผมควรจะพาคุณวินัยไปพบของจริงได้แล้ว จึงบอกให้เขาไปลองเดินเล่นในสนามสักครั้ง เรานัดกันที่สนามชลประทานตอนเที่ยง คุณวินัยก็ไปตรงตามเวลา และติดคุณกล้วยภรรยาไปด้วย
คุณกล้วยเป็นภรรยาตัวอย่าง สนับสนุนสามีอย่างออกหน้าออกตา ตัวเองก็อยากลงเล่นกอล์ฟเหมือนกัน ตอนนี้ซื้อรองเท้า ซื้อหมวก ซื้อเสื้อ ซื้อโลชั่นกันแดดไว้เรียบร้อย รอให้สามีเล่นเป็นเมื่อไร จะได้สอนเธอให้เล่นบ้าง และเธอก็จะได้ออกรอบพร้อมกับสามี ไปไหนไปกัน มีทุกข์มีสุขร่วมกัน
ผมพาคุณวินัยลงสนาม พร้อมกับกำกับแคดดี้ว่าให้ดูแลคุณวินัยให้ดี มีอะไรก็แนะนำนายเขา ก็อย่าได้เกรงใจ นายเขาเพิ่งจะออกรอบครั้งแรก ลูกไหนที่ตีตกน้ำตกทรายกตีใหม่ ลูกไหนยากไปก็หยิบลูกโยนเข้าในแฟร์เวย์
จากนั้นเราก็เดินในสนามด้วยกัน ผมคอยเป็นพี่เลี้ยง แนะนำพี่เขาไปตามสถานการณ์ ทำเหมือนกับที่พี่เต้ยบูรพาเคยแนะนำผมด้วยท่าที่สุภาพมีความปรารถนาดีต่อกันเกินร้อย
ช่วงเวลาที่เราอยู่ในสนามด้วยกัน ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆ ลมพัดเบา ๆ อากาศเย็นสบาย คุณวินัยก็เล่นกอล์ฟอย่างมีความสุข ถือเหล็ก7 ตีไปเรื่อย ๆ จากหลุมหนึ่งจนหลุมที่18 ผมเกรงว่าเขาจะเหนื่อยมากไป ก็เพียรถามว่าเหนื่อยไหม ไหวไหม พักหรือหยุดได้เลยนะ แต่เขาบอกว่าไม่เหนื่อย สนุกดี เขาว่า นานมากแล้วที่เขาไม่ได้ออกกำลังกาย
เราขึ้นจากสนามตอนหกโมงเย็น เข้าสโมสรไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เดินมาทางร้านอาหาร คุณกล้วยยิ้มรับสามีถามว่า คุณขจรฤทธิ์ คุณวินัยเป็นอย่างไรบ้าง
ผมตอบว่า ดีกว่าที่คิดครับ
ให้กำลังใจเกินไปหรือเปล่า คุณกล้วยไม่แน่ใจ
ผมบอกว่า งั้นพี่ต้องถามคุณวินัยเองก็แล้วกันว่าเขาสนุกไหม ถ้าเขาสนุกถือว่าเขาเล่นใช้ได้
ระหว่างมื้อเราวางแผนกันถึงเรื่องการเล่นกอล์ฟไปจนถึงแก่เฒ่า คุณวินัยว่า ถ้าเล่นเก่งเมื่อไรจะซื้อตั๋วให้ขจรฤทธิ์บินไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่โอเรกอน เล่นกอล์ฟกันสักสามสี่วัน
ผมยกมื้อไหว้ บอกว่า ขอบคุณครับพี่ ไปเมื่อไรบอกล่วงหน้าสองวันนะ
ผมพยายามคิดว่า อนาคตข้างหน้า การไปอเมริกานั้นคงง่ายเหมือนกับขึ้นเครื่องไปเชียงใหม่ ไปถึงที่นั่นไม่ขอทำอย่างอื่น เล่นกอล์ฟให้สนุกแล้วก็บินกลับเมืองไทยมาเล่นกอล์ฟต่อ
ชีวิตนี้มีอย่างอื่นให้ทำแล้วสนุกเหมือนกับการออกรอบลงสนามกับเพื่อนอีกไหมหนอ