น่ากลัวออก ทำไมคนสมัยก่อนเ้ค้าไม่กลัว
ลอกมา. . .
การเล่นอย่างหนึ่ง ที่ฉันยังจำติดตาได้จนบัดนี้ ก็คือการเข้าแม่ศรี ที่ว่าจำได้ก็เพราะมีเหตุการณ์แปลกประหลาดพิสูจน์ไม่ได้
วันหนึ่งฉันเห็นคนกลุ่มหนึ่งแต่งตัวแบบชนบท เขาชวนมาเล่นแม่ศรีที่กลางลานวัดจางวางพ่วง เขาเอาครกตำข้าวมาคว่ำลง แล้วให้เด็กสาวคนหนึ่งนั่งลงบนครกแล้วเอาผ้าผูกตาไว้
พวกที่ล้อมวงก็ร้องเพลงเชิญแม่ศรี เขาเชื่อกันว่า แม่ศรีนั้นรำละครเก่งมาก และเมื่อเชิญมาแล้ว จะมาเข้าผู้ที่สมมุติเป็นแม่ศรี การร้องเชิญนั้น
บางทีก็ร้องเที่ยวเดียวสองเที่ยว ผู้ที่เป็นแม่ศรีก็จะลุกขึ้นรำไปตามทำนองที่ผู้ร้องร้อง เป็นการเล่นที่คิดว่าแม่ศรีมาเข้าทรง ฉันนั่งดูที่ระเบียงบ้านก็เห็นถนัด
เด็กคนนั้นแต่งตัวสวย นั่งพนมมือ ผู้ที่ล้อมวงร้องเพลงเชิญแม่ศรีอยู่หลายเที่ยว
แม่ศรีเอย แม่ศรีสาวสะ ยกมือไหว้พระ ว่าจะมีคนชม
ขนคิ้วเจ้าก็ต่อ ต้นคอเจ้าก็กลม
ชักผ้าปิดนม ชมแม่ศรีเอย
เมื่อแม่ศรีลุกขึ้นรำ รำได้อ่อนช้อยมาก ลูกคู่ก็กระทุ้งใหญ่ แม่ศรีก็รำไป ฉันชักตื่นเต้นเพราะรู้ว่าเขารำไม่เป็น แต่พอแม่ศรีเข้า รำได้สวยมาก
พอรำ ๆ ไป แม่ศรีด็วิ่งแหวกฝูงคนเข้าไปทางศาลาที่จะไปออกสวนมะลิ ผู้คนแตกตื่นวิ่งตามไป เรียกให้กลับก็ไม่กลับ
เลยวิ่งไปตามตัวไว้ ฉันก็ออกไปดูกับเขาบ้าง และได้เห็นกับตาว่าผู้ชายสี่คนดึงไว้ถึงอยู่ทั้ง ๆ ที่เด็กคนนั้นตัวนิดเดียว เขาพากันดึงกลับมาที่วัด
เด็กคนนั้นฮึดฮัดมากไม่ยอมมา คนอื่นบอกว่าผีพลอย จึงรีบไปนิมนตร์พระที่วัด ดึงเด็กคนนั้นออกมาที่ลาน พระท่านทำอย่างไรฉันไม่เห็น
มีคนหนึ่งนำไม้แบบไม้เรียวมาแล้วหวดลงไปที่เด็กคนนั้น เสียงร้องเป็นเสียงผู้ชาย ฉันอัศจรรย์ใจอย่างยิ่ง หวดได้สามสี่ทีเด็กนั้นก็อ่อนปวกเปียก
ทำท่างงงวยทั้ง ๆ ที่ถูกฉุดกลับมาเสื้อผ้าขาดเกือบหมด ฉันทราบจากพระท่านภายหลังว่า เมื่อเชิญแม่ศรีออกไปแล้ว ผีอื่นที่เป็นชายเข้าผสมรอย
จะจริงเท็จอย่างไรฉันก็พิสูจน์ไม่ได้ ดูเป็นศาสตร์ลึกลับ จึงมาเล่าสู่กันฟัง ตั้งแต่นั้นมา แถวบ้านฉันไม่เล่นเข้าแม่ศรีกันอีกเลย
ทีมา
http://www.เรือนไทย.com/index.php?topic=3600.15
ทำไมคนไทยสมัยก่อน ชอบเล่นกับผี เช่น การเข้าแม่ศรี ผีถ้วยแก้ว
ลอกมา. . .
การเล่นอย่างหนึ่ง ที่ฉันยังจำติดตาได้จนบัดนี้ ก็คือการเข้าแม่ศรี ที่ว่าจำได้ก็เพราะมีเหตุการณ์แปลกประหลาดพิสูจน์ไม่ได้
วันหนึ่งฉันเห็นคนกลุ่มหนึ่งแต่งตัวแบบชนบท เขาชวนมาเล่นแม่ศรีที่กลางลานวัดจางวางพ่วง เขาเอาครกตำข้าวมาคว่ำลง แล้วให้เด็กสาวคนหนึ่งนั่งลงบนครกแล้วเอาผ้าผูกตาไว้
พวกที่ล้อมวงก็ร้องเพลงเชิญแม่ศรี เขาเชื่อกันว่า แม่ศรีนั้นรำละครเก่งมาก และเมื่อเชิญมาแล้ว จะมาเข้าผู้ที่สมมุติเป็นแม่ศรี การร้องเชิญนั้น
บางทีก็ร้องเที่ยวเดียวสองเที่ยว ผู้ที่เป็นแม่ศรีก็จะลุกขึ้นรำไปตามทำนองที่ผู้ร้องร้อง เป็นการเล่นที่คิดว่าแม่ศรีมาเข้าทรง ฉันนั่งดูที่ระเบียงบ้านก็เห็นถนัด
เด็กคนนั้นแต่งตัวสวย นั่งพนมมือ ผู้ที่ล้อมวงร้องเพลงเชิญแม่ศรีอยู่หลายเที่ยว
แม่ศรีเอย แม่ศรีสาวสะ ยกมือไหว้พระ ว่าจะมีคนชม
ขนคิ้วเจ้าก็ต่อ ต้นคอเจ้าก็กลม
ชักผ้าปิดนม ชมแม่ศรีเอย
เมื่อแม่ศรีลุกขึ้นรำ รำได้อ่อนช้อยมาก ลูกคู่ก็กระทุ้งใหญ่ แม่ศรีก็รำไป ฉันชักตื่นเต้นเพราะรู้ว่าเขารำไม่เป็น แต่พอแม่ศรีเข้า รำได้สวยมาก
พอรำ ๆ ไป แม่ศรีด็วิ่งแหวกฝูงคนเข้าไปทางศาลาที่จะไปออกสวนมะลิ ผู้คนแตกตื่นวิ่งตามไป เรียกให้กลับก็ไม่กลับ
เลยวิ่งไปตามตัวไว้ ฉันก็ออกไปดูกับเขาบ้าง และได้เห็นกับตาว่าผู้ชายสี่คนดึงไว้ถึงอยู่ทั้ง ๆ ที่เด็กคนนั้นตัวนิดเดียว เขาพากันดึงกลับมาที่วัด
เด็กคนนั้นฮึดฮัดมากไม่ยอมมา คนอื่นบอกว่าผีพลอย จึงรีบไปนิมนตร์พระที่วัด ดึงเด็กคนนั้นออกมาที่ลาน พระท่านทำอย่างไรฉันไม่เห็น
มีคนหนึ่งนำไม้แบบไม้เรียวมาแล้วหวดลงไปที่เด็กคนนั้น เสียงร้องเป็นเสียงผู้ชาย ฉันอัศจรรย์ใจอย่างยิ่ง หวดได้สามสี่ทีเด็กนั้นก็อ่อนปวกเปียก
ทำท่างงงวยทั้ง ๆ ที่ถูกฉุดกลับมาเสื้อผ้าขาดเกือบหมด ฉันทราบจากพระท่านภายหลังว่า เมื่อเชิญแม่ศรีออกไปแล้ว ผีอื่นที่เป็นชายเข้าผสมรอย
จะจริงเท็จอย่างไรฉันก็พิสูจน์ไม่ได้ ดูเป็นศาสตร์ลึกลับ จึงมาเล่าสู่กันฟัง ตั้งแต่นั้นมา แถวบ้านฉันไม่เล่นเข้าแม่ศรีกันอีกเลย
ทีมา http://www.เรือนไทย.com/index.php?topic=3600.15