ย้อนรอย...จดหมายเปิดผนึกของนายอภิสิทธิ์ฯ "ตอแ_ลทุกบรรทัด เดอะ ซีรี่ย์" ตอนที่ 5/8
ก่อนอื่นผมต้องขอขอบพระคุณท่านผู้ติดตามอ่าน "ตอแ_ลทุกบรรทัด เดอะ ซีรี่ย์"
ทุกท่านที่ได้ให้ความเห็น คำติชม และคำแนะนำด้วยความเมตตากรุณา
กับผมมาตลอดทั้ง 4 ตอน ซึ่งถือเป็นกำลังใจอันสำคัญยิ่งของกระผมในฐานะ
ผู้ที่เป็น "คอการเมือง" คนหนึ่งซึ่งพอจะมีทักษะในการเขียนบรรยายความ
ตลอดจนเรียบเรียงเรื่องราวให้ท่านผู้อ่านทั้งหลายได้ติดตามผลงานกันอยู่บ้าง
แต่ก็ยังถือว่ายังไม่ถึงขนาดที่เรียกได้ว่าเป็น "มืออาชีพ" แต่อย่างใด
ก็แค่พอไปวัดไปวากับเขาได้ ไม่ต้องอายใคร แค่นั้นก็นับเป็นความภูมิใจ
ประการหนึ่งของตัวกระผมแล้ว ที่ได้รับความเมตตาจากท่านผู้อ่านและ
เพื่อนๆ พี่น้องในพันธ์ทิพย์อันเป็นที่รักยิ่งตลอดมา
ในวันนี้กระผมใคร่ขอเสนอประเด็นที่นายอภิสิทธิ์ฯ ได้ "โกหกหน้าด้าน"
เกี่ยวกับคำว่า "ความรับผิดชอบต่อประชาชน" ที่อยู่ในจดหมายเปิดผนึก
ของมัน ซึ่งก็ยังคงความ "เฮงซวย" ไว้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบ
อย่างหาที่เปรียบมิได้ เรียกได้ว่า "เ_วบูรณาการ" (เ_วครบทุกด้าน)
อย่างแท้จริง เอาล่ะเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา วันนี้เป็นประเด็นที่ยาวมากๆ
รบกวนพี่น้องท่านผู้ติดตามอ่านทั้งหลาย ได้โปรด "สละเวลา" อันมีค่า
ของท่านในการให้คำติชม และคำชี้แนะ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมด้วยครับ
5.) นายอภิสิทธิ์ฯ เขียนเอาไว้ในจดหมายเปิดผนึกของมันโดยกล่าวอ้างว่า
แม้จะต้องถูกประหารเพราะ ก็ยินดีน้อมรับคำตัดสิน เพราะเป็นนักการเมือง
ที่มีความรับผิดชอบต่อประชาชน
ประโยคนี้แหละ ที่เป็น “ประโยคเด็ด” ที่แสดงให้เห็นความ “ตอแ_ล” และ
พฤติการณ์ “กลืนเสลดตัวเอง” ของนายอภิสิทธิ์ฯ ได้อย่างชัดเจนที่สุด เพราะ
นับตั้งแต่เหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช. เมื่อเดือนเมษายน 2553
นายอภิสิทธิ์ฯ ในฐานะนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นซึ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ในการควบคุมดูแลและบังคับบัญชา ศอฉ. แต่กลับปฏิเสธความรับผิดชอบต่อ
ความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐได้อย่าง
หน้าตาเฉย
ไม่มีแม้แต่คำกล่าวขอโทษ หรือเสียใจกับคำสั่งสลายการชุมนุมดังกล่าวเลย
แม้แต่น้อย และที่ “เ_วทราม” ที่สุด ก็คือหลังจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม
นายอภิสิทธิ์ฯ ตัดสินใจประกาศยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ในวันที่
3 กรกฎาคม 2554 จนกระทั่งประเทศไทยได้รัฐบาลชุดปัจจุบันที่มีนางสาว
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แห่งพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี และมีนโยบายการ
เยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช.
เมื่อเดือนเมษายน 2553 อันเกิดจากคำสั่งสลายการชุมนุมของนายอภิสิทธิ์ฯ
แต่นายอภิสิทธิ์ฯ กลับแสดง “สันดานดิบ” ด้วยการออกมาคัดค้านนโยบาย
ดังกล่าวชนิด “หัวชนฝา” กล่าวหาใส่ร้ายรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ฯ เอาภาษี
ประชาชนไป “จ่ายค่าตอบแทน” การเสียชีวิตให้กับกลุ่ม นปช. ซึ่งเป็นกลุ่ม
มวลชนฐานเสียงสำคัญที่ทำให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุด
นี่หรือ? คือ “ความรับผิดชอบต่อประชาชน” ของนายอภิสิทธิ์ฯ ที่ระบุไว้ใน
จดหมายเปิดผนึกของตนอย่างหน้าด้านหน้าทนที่สุด?
อีกกรณีหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นถึงพฤติการณ์ “กลืนเสลดตัวเอง”
ของนายอภิสิทธิ์ฯ ได้ชัดเจนยิ่งกว่า ต้องย้อนอดีตไปเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2551
สมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายอภิสิทธิ์ฯ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี
การสลายกลุ่มผู้ชุมนุมที่ปิดล้อมสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ว่า
“เหตุการณ์ทั้งหมด นายกฯ (นายสมชายฯ) ไม่สามารถปฏิเสธความรับ
ผิดชอบว่าเป็นผู้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่ก็จงใจให้เหตุการณ์เกิดขึ้น
แต่ที่เลวร้ายกว่าการโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ คือ การใส่ร้ายประชาชน ซึ่งผม
ไม่นึกไม่ฝันว่า เราจะมีรัฐที่ได้ทำร้ายประชาชนจนเสียชีวิต และบาดเจ็บสาหัส
แล้ว ยังมีรัฐที่ยัดเยียดความผิดให้ประชาชนอีก ถือเป็นพฤติกรรมที่รับไม่ได้”
นาย อภิสิทธิ์ฯ ให้สัมภาษณ์อย่างเต็มปากเต็มคำ
แต่เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช.
เมื่อเดือนเมษายน 2553 ซึ่งในขณะนั้นนายอภิสิทธิ์ฯ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ของประเทศไทย กลับปฏิเสธความรับผิดชอบความสูญเสียที่เกิดขึ้นภายใต้คำสั่ง
สลายการชุมนุมของตนเองทั้งหมด พร้อมกับโยนความผิดให้กับเจ้าหน้าที่
ด้วยการออกมาระบุว่าได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติการ
ต่างๆ แล้ว
และที่ “เ_วทรามต่ำช้า” ที่สุดนั่นก็คือพยายามใช้วาทกรรม “ชายชุดดำ”
เพื่อใส่ร้ายประชาชนทั้งๆ ที่ในจำนวนผู้เสียชีวิตอันเกิดจาก
การกระทำของเจ้าหน้าที่ก็ไม่มีปรากฏว่ามีศพใดคือ “ชายชุดดำ”
หรือกองกำลังติดอาวุธ ดังที่กล่าวอ้างเลยแม้แต่ศพเดียว
จนกระทั่งในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถจับ “ชายชุดดำ” ได้สักคน
เห็นแล้วหรือยัง ว่า “สันดานเดรัจฉาน” ในแบบฉบับของพรรคประชาธิปัตย์มัน
ทำให้นายอภิสิทธิ์ฯ ลืมได้แม้กระทั่งคำพูดของตัวเองที่เคยกล่าวหาผู้อื่น แต่ตัวเอง
กลับทำเสียเอง ซ้ำร้ายยัง “สามานย์” มากกว่าที่เคยว่ากล่าวผู้อื่นไว้หลายเท่า
และเมื่อไม่ช้าไม่นานมานี้ นายอภิสิทธิ์ฯ ก็ได้แสดงพฤติการณ์ “แก้ผ้าล่อนจ้อน”
ที่เผยให้เห็นถึง “สันดานดิบ” เยี่ยงฆาตกรกระหายเลือดของมันอย่างหมดเปลือก
ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวได้แพร่กระจายไปสู่สายตาผู้คนทั่วทั้งโลก ผ่านองค์กร
สื่อสารมวลชนระดับ World Class อย่างสำนักข่าว BBC World NEWS ด้วยการ
ปฏิเสธความรับผิดชอบต่อการสูญเสียชีวิตของกลุ่มผู้ชุมนุมอันเกิดจากคำสั่งสลาย
การชุมนุมของตนได้อย่างหน้าตาเฉย
โดยนายอภิสิทธิ์ฯ ได้ไปให้สัมภาษณ์กับ นางมิชาล ฮูเซน พิธีกรสาวชื่อดังแห่ง
สำนักข่าว BBC ซึ่งในตอนหนึ่งของการสนทนา นายอภิสิทธิ์ฯ ได้หยิบยกกรณีการ
สูญเสียชีวิตของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ไปประท้วงแสดงความไม่เห็นด้วยกับการประชุม
กลุ่มประเทศ G-20 มาเทียบเคียงกับกรณีการสั่งฆ่ากลุ่มผู้ชุมนุม นปช. ของตน
โดยนายอภิสิทธิ์ฯ ได้ให้สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า
“ขอให้ผมพูดนะครับ ผมได้เข้าร่วมการประชุมหลายครั้งทั่วโลก กรณีการประชุม
กลุ่มประเทศ G-20 ก็มีบางคนเสียชีวิตเพราะเจ้าหน้าที่พยายามปฏิบัติหน้าที่ของ
ตน และก็ต้องมีการสอบสวน การมีผู้เสียชีวิตควรถูกตัดสินหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ
กฎหมาย แต่ไม่มีที่ไหนที่นายกรัฐมนตรีจะต้องมารับผิดชอบกับปฏิบัติการใดๆ
ก็ตาม”
นี่น่ะหรือ?..คือ “ความรับผิดชอบต่อประชาชน” ของนายอภิสิทธิ์ฯ ที่เขียนไว้
ในจดหมายเปิดผนึกของตน นายอภิสิทธิ์ฯ พยายามหยิบยกกรณีการเสียชีวิต
ของผู้ชุมนุมประท้วงการประชุมกลุ่ม G20 ที่ประเทศอังกฤษ เมื่อปี 2552 ทั้งๆ ที่ใน
เหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้เสียชีวิตเพียง 1 คนเท่านั้น โดยมีสาเหตุเกิดจากการที่เจ้า
หน้าที่ “ใช้กระบองฟาด” แล้วผลักผู้ประท้วงคนดังกล่าวจนล้มลงกับพื้น เป็นเหตุให้
ถึงแก่ชีวิตในที่สุด ซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับการเสียชีวิตจากการ “ใช้กระสุนจริง”
ภายใต้คำสั่งของนายอภิสิทธิ์ฯ
มนุษย์หน้าไหนก็ตามที่เซลล์สมองยังสามารถทำงานได้อย่างปรกติ และไม่มีความ
บกพร่องในระบบความคิดเชิงตรรกะ เมื่อได้ยินสิ่งที่นายอภิสิทธิ์ฯ กล่าวไว้อย่าง
ชัดถ้อยชัดคำในการให้สัมภาษณ์ดังกล่าว ก็จะสามารถรับรู้ได้ทันทีว่านาย
อภิสิทธิ์ฯ มีนิสัยใจคอโหดเหี้ยมอำมหิต ไร้สำนึกของความเป็นมนุษย์
ประหนึ่ง “เดรัจฉ_นในร่างมนุษย์” มันจึงแสดงพฤติการณ์เยี่ยงฆาตกรกระหาย
เลือด ด้วยการสั่งฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างเลือดเย็นโดยไม่มีความลังเลใจ และ
ไม่มีความรู้สึกสำนึกต่อบาปกรรม ที่มันได้กระทำลงไปแม้แต่น้อย
ซ้ำร้ายมันยังปฏิเสธความรับผิดชอบได้อย่างหน้าตาเฉย ถ้าทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่
นายอภิสิทธิ์ฯ เรียกว่า “ความรับผิดชอบต่อประชาชน” ตามที่มันได้ "สำราก" ใน
จดหมายเปิดผนึก ก็คงเป็นความรับผิดชอบในแบบฉบับ “สันดานประชาธิปัตย์”
อันเป็นสิ่งที่ “สั_ว์นรก..เดรัจฉ_น..สันดานดิบ” พึงมี
ขอบพระคุณทุกท่านที่สละเวลาอันมีค่า
กระผมขอน้อมรับคำติชมด้วยความทราบซึ้งอย่างหาที่เปรียบมิได้
ห่างไกล
...
ตอแ_ลทุกบรรทัด เดอะ ซีรี่ย์ ตอนที่ 1
http://www.ppantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P13107977/P13107977.html
ตอแ_ลทุกบรรทัด เดอะ ซีรี่ย์ ตอนที่ 2
http://www.ppantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P13109148/P13109148.html
ตอแ_ลทุกบรรทัด เดอะ ซีรี่ย์ ตอนที่ 3
http://www.ppantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P13110270/P13110270.html
ตอแ_ลทุกบรรทัด เดอะ ซีรี่ย์ ตอนที่ 4
http://www.ppantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P13112855/P13112855.html
...
ย้อนรอย...จดหมายเปิดผนึกของนายอภิสิทธิ์ฯ "ตอแ_ลทุกบรรทัด เดอะ ซีรี่ย์" ตอนที่ 5/8
ก่อนอื่นผมต้องขอขอบพระคุณท่านผู้ติดตามอ่าน "ตอแ_ลทุกบรรทัด เดอะ ซีรี่ย์"
ทุกท่านที่ได้ให้ความเห็น คำติชม และคำแนะนำด้วยความเมตตากรุณา
กับผมมาตลอดทั้ง 4 ตอน ซึ่งถือเป็นกำลังใจอันสำคัญยิ่งของกระผมในฐานะ
ผู้ที่เป็น "คอการเมือง" คนหนึ่งซึ่งพอจะมีทักษะในการเขียนบรรยายความ
ตลอดจนเรียบเรียงเรื่องราวให้ท่านผู้อ่านทั้งหลายได้ติดตามผลงานกันอยู่บ้าง
แต่ก็ยังถือว่ายังไม่ถึงขนาดที่เรียกได้ว่าเป็น "มืออาชีพ" แต่อย่างใด
ก็แค่พอไปวัดไปวากับเขาได้ ไม่ต้องอายใคร แค่นั้นก็นับเป็นความภูมิใจ
ประการหนึ่งของตัวกระผมแล้ว ที่ได้รับความเมตตาจากท่านผู้อ่านและ
เพื่อนๆ พี่น้องในพันธ์ทิพย์อันเป็นที่รักยิ่งตลอดมา
ในวันนี้กระผมใคร่ขอเสนอประเด็นที่นายอภิสิทธิ์ฯ ได้ "โกหกหน้าด้าน"
เกี่ยวกับคำว่า "ความรับผิดชอบต่อประชาชน" ที่อยู่ในจดหมายเปิดผนึก
ของมัน ซึ่งก็ยังคงความ "เฮงซวย" ไว้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบ
อย่างหาที่เปรียบมิได้ เรียกได้ว่า "เ_วบูรณาการ" (เ_วครบทุกด้าน)
อย่างแท้จริง เอาล่ะเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา วันนี้เป็นประเด็นที่ยาวมากๆ
รบกวนพี่น้องท่านผู้ติดตามอ่านทั้งหลาย ได้โปรด "สละเวลา" อันมีค่า
ของท่านในการให้คำติชม และคำชี้แนะ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมด้วยครับ
5.) นายอภิสิทธิ์ฯ เขียนเอาไว้ในจดหมายเปิดผนึกของมันโดยกล่าวอ้างว่า
แม้จะต้องถูกประหารเพราะ ก็ยินดีน้อมรับคำตัดสิน เพราะเป็นนักการเมือง
ที่มีความรับผิดชอบต่อประชาชน
ประโยคนี้แหละ ที่เป็น “ประโยคเด็ด” ที่แสดงให้เห็นความ “ตอแ_ล” และ
พฤติการณ์ “กลืนเสลดตัวเอง” ของนายอภิสิทธิ์ฯ ได้อย่างชัดเจนที่สุด เพราะ
นับตั้งแต่เหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช. เมื่อเดือนเมษายน 2553
นายอภิสิทธิ์ฯ ในฐานะนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นซึ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ในการควบคุมดูแลและบังคับบัญชา ศอฉ. แต่กลับปฏิเสธความรับผิดชอบต่อ
ความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐได้อย่าง
หน้าตาเฉย
ไม่มีแม้แต่คำกล่าวขอโทษ หรือเสียใจกับคำสั่งสลายการชุมนุมดังกล่าวเลย
แม้แต่น้อย และที่ “เ_วทราม” ที่สุด ก็คือหลังจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม
นายอภิสิทธิ์ฯ ตัดสินใจประกาศยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ในวันที่
3 กรกฎาคม 2554 จนกระทั่งประเทศไทยได้รัฐบาลชุดปัจจุบันที่มีนางสาว
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แห่งพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี และมีนโยบายการ
เยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช.
เมื่อเดือนเมษายน 2553 อันเกิดจากคำสั่งสลายการชุมนุมของนายอภิสิทธิ์ฯ
แต่นายอภิสิทธิ์ฯ กลับแสดง “สันดานดิบ” ด้วยการออกมาคัดค้านนโยบาย
ดังกล่าวชนิด “หัวชนฝา” กล่าวหาใส่ร้ายรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ฯ เอาภาษี
ประชาชนไป “จ่ายค่าตอบแทน” การเสียชีวิตให้กับกลุ่ม นปช. ซึ่งเป็นกลุ่ม
มวลชนฐานเสียงสำคัญที่ทำให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุด
นี่หรือ? คือ “ความรับผิดชอบต่อประชาชน” ของนายอภิสิทธิ์ฯ ที่ระบุไว้ใน
จดหมายเปิดผนึกของตนอย่างหน้าด้านหน้าทนที่สุด?
อีกกรณีหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นถึงพฤติการณ์ “กลืนเสลดตัวเอง”
ของนายอภิสิทธิ์ฯ ได้ชัดเจนยิ่งกว่า ต้องย้อนอดีตไปเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2551
สมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายอภิสิทธิ์ฯ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี
การสลายกลุ่มผู้ชุมนุมที่ปิดล้อมสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ว่า
“เหตุการณ์ทั้งหมด นายกฯ (นายสมชายฯ) ไม่สามารถปฏิเสธความรับ
ผิดชอบว่าเป็นผู้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่ก็จงใจให้เหตุการณ์เกิดขึ้น
แต่ที่เลวร้ายกว่าการโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ คือ การใส่ร้ายประชาชน ซึ่งผม
ไม่นึกไม่ฝันว่า เราจะมีรัฐที่ได้ทำร้ายประชาชนจนเสียชีวิต และบาดเจ็บสาหัส
แล้ว ยังมีรัฐที่ยัดเยียดความผิดให้ประชาชนอีก ถือเป็นพฤติกรรมที่รับไม่ได้”
นาย อภิสิทธิ์ฯ ให้สัมภาษณ์อย่างเต็มปากเต็มคำ
แต่เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช.
เมื่อเดือนเมษายน 2553 ซึ่งในขณะนั้นนายอภิสิทธิ์ฯ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ของประเทศไทย กลับปฏิเสธความรับผิดชอบความสูญเสียที่เกิดขึ้นภายใต้คำสั่ง
สลายการชุมนุมของตนเองทั้งหมด พร้อมกับโยนความผิดให้กับเจ้าหน้าที่
ด้วยการออกมาระบุว่าได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติการ
ต่างๆ แล้ว
และที่ “เ_วทรามต่ำช้า” ที่สุดนั่นก็คือพยายามใช้วาทกรรม “ชายชุดดำ”
เพื่อใส่ร้ายประชาชนทั้งๆ ที่ในจำนวนผู้เสียชีวิตอันเกิดจาก
การกระทำของเจ้าหน้าที่ก็ไม่มีปรากฏว่ามีศพใดคือ “ชายชุดดำ”
หรือกองกำลังติดอาวุธ ดังที่กล่าวอ้างเลยแม้แต่ศพเดียว
จนกระทั่งในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถจับ “ชายชุดดำ” ได้สักคน
เห็นแล้วหรือยัง ว่า “สันดานเดรัจฉาน” ในแบบฉบับของพรรคประชาธิปัตย์มัน
ทำให้นายอภิสิทธิ์ฯ ลืมได้แม้กระทั่งคำพูดของตัวเองที่เคยกล่าวหาผู้อื่น แต่ตัวเอง
กลับทำเสียเอง ซ้ำร้ายยัง “สามานย์” มากกว่าที่เคยว่ากล่าวผู้อื่นไว้หลายเท่า
และเมื่อไม่ช้าไม่นานมานี้ นายอภิสิทธิ์ฯ ก็ได้แสดงพฤติการณ์ “แก้ผ้าล่อนจ้อน”
ที่เผยให้เห็นถึง “สันดานดิบ” เยี่ยงฆาตกรกระหายเลือดของมันอย่างหมดเปลือก
ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวได้แพร่กระจายไปสู่สายตาผู้คนทั่วทั้งโลก ผ่านองค์กร
สื่อสารมวลชนระดับ World Class อย่างสำนักข่าว BBC World NEWS ด้วยการ
ปฏิเสธความรับผิดชอบต่อการสูญเสียชีวิตของกลุ่มผู้ชุมนุมอันเกิดจากคำสั่งสลาย
การชุมนุมของตนได้อย่างหน้าตาเฉย
โดยนายอภิสิทธิ์ฯ ได้ไปให้สัมภาษณ์กับ นางมิชาล ฮูเซน พิธีกรสาวชื่อดังแห่ง
สำนักข่าว BBC ซึ่งในตอนหนึ่งของการสนทนา นายอภิสิทธิ์ฯ ได้หยิบยกกรณีการ
สูญเสียชีวิตของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ไปประท้วงแสดงความไม่เห็นด้วยกับการประชุม
กลุ่มประเทศ G-20 มาเทียบเคียงกับกรณีการสั่งฆ่ากลุ่มผู้ชุมนุม นปช. ของตน
โดยนายอภิสิทธิ์ฯ ได้ให้สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า
“ขอให้ผมพูดนะครับ ผมได้เข้าร่วมการประชุมหลายครั้งทั่วโลก กรณีการประชุม
กลุ่มประเทศ G-20 ก็มีบางคนเสียชีวิตเพราะเจ้าหน้าที่พยายามปฏิบัติหน้าที่ของ
ตน และก็ต้องมีการสอบสวน การมีผู้เสียชีวิตควรถูกตัดสินหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ
กฎหมาย แต่ไม่มีที่ไหนที่นายกรัฐมนตรีจะต้องมารับผิดชอบกับปฏิบัติการใดๆ
ก็ตาม”
นี่น่ะหรือ?..คือ “ความรับผิดชอบต่อประชาชน” ของนายอภิสิทธิ์ฯ ที่เขียนไว้
ในจดหมายเปิดผนึกของตน นายอภิสิทธิ์ฯ พยายามหยิบยกกรณีการเสียชีวิต
ของผู้ชุมนุมประท้วงการประชุมกลุ่ม G20 ที่ประเทศอังกฤษ เมื่อปี 2552 ทั้งๆ ที่ใน
เหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้เสียชีวิตเพียง 1 คนเท่านั้น โดยมีสาเหตุเกิดจากการที่เจ้า
หน้าที่ “ใช้กระบองฟาด” แล้วผลักผู้ประท้วงคนดังกล่าวจนล้มลงกับพื้น เป็นเหตุให้
ถึงแก่ชีวิตในที่สุด ซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับการเสียชีวิตจากการ “ใช้กระสุนจริง”
ภายใต้คำสั่งของนายอภิสิทธิ์ฯ
มนุษย์หน้าไหนก็ตามที่เซลล์สมองยังสามารถทำงานได้อย่างปรกติ และไม่มีความ
บกพร่องในระบบความคิดเชิงตรรกะ เมื่อได้ยินสิ่งที่นายอภิสิทธิ์ฯ กล่าวไว้อย่าง
ชัดถ้อยชัดคำในการให้สัมภาษณ์ดังกล่าว ก็จะสามารถรับรู้ได้ทันทีว่านาย
อภิสิทธิ์ฯ มีนิสัยใจคอโหดเหี้ยมอำมหิต ไร้สำนึกของความเป็นมนุษย์
ประหนึ่ง “เดรัจฉ_นในร่างมนุษย์” มันจึงแสดงพฤติการณ์เยี่ยงฆาตกรกระหาย
เลือด ด้วยการสั่งฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างเลือดเย็นโดยไม่มีความลังเลใจ และ
ไม่มีความรู้สึกสำนึกต่อบาปกรรม ที่มันได้กระทำลงไปแม้แต่น้อย
ซ้ำร้ายมันยังปฏิเสธความรับผิดชอบได้อย่างหน้าตาเฉย ถ้าทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่
นายอภิสิทธิ์ฯ เรียกว่า “ความรับผิดชอบต่อประชาชน” ตามที่มันได้ "สำราก" ใน
จดหมายเปิดผนึก ก็คงเป็นความรับผิดชอบในแบบฉบับ “สันดานประชาธิปัตย์”
อันเป็นสิ่งที่ “สั_ว์นรก..เดรัจฉ_น..สันดานดิบ” พึงมี
ขอบพระคุณทุกท่านที่สละเวลาอันมีค่า
กระผมขอน้อมรับคำติชมด้วยความทราบซึ้งอย่างหาที่เปรียบมิได้
ห่างไกล
...
ตอแ_ลทุกบรรทัด เดอะ ซีรี่ย์ ตอนที่ 1
http://www.ppantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P13107977/P13107977.html
ตอแ_ลทุกบรรทัด เดอะ ซีรี่ย์ ตอนที่ 2
http://www.ppantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P13109148/P13109148.html
ตอแ_ลทุกบรรทัด เดอะ ซีรี่ย์ ตอนที่ 3
http://www.ppantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P13110270/P13110270.html
ตอแ_ลทุกบรรทัด เดอะ ซีรี่ย์ ตอนที่ 4
http://www.ppantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P13112855/P13112855.html
...