ผมเป็นแฟน LOTR ที่คลั่งไคล้เรื่องนี้คนหนึ่ง แต่ไม่เคยได้อ่าน The Hobbit เลย เพราะกะว่าจะดูในหนังทีเดียว
เมื่อทราบว่า The Hobbit จะเข้าฉาย ก็ทำการบ้านทบทวน LOTR extended edition (รอบที่ ??) ก่อนไปดู The Hobbit หนึ่งสัปดาห์
หลังจากได้ดูเรื่อง The Hobbit นับแต่ต้นเรื่องรู้สึกประทับใจมาก นับแต่ฉากแรก ถึงความเชื่อมโยงที่ PJ (Peter Jackson) พยายามเชื่อมโยง หลายๆจุดเข้ากับ LOTR
ความรู้สึกเหมือนได้รำลึก ถึงความประทับใจเก่าๆ เจอเพื่อนเก่า บรรยากาศเก่าๆ(รวมทั้งความประทับใจในทิวทัศน์ของ Newzealand) ยิ่งดูแบบ HFR ยิ่งประทับใจในความลื่นไหลของ 3D แบบไม่เคยเห็นมาก่อน
จนจบเรื่อง แต่ในใจยังไม่จบ อยากดูรอบสองแต่ไม่มีเวลา อยากดูภาคต่อไปเร็วๆ
จึงต้องไปหาหนังสือเรื่องนี้มาอ่าน ดูตอนต่อไป
แต่หลังจากอ่านหนังสือ The Hobbit แล้ว สิ่งที่รู้สึกคือ ในหนังเรื่อง The Hobbit นี้ PJ ได้ใส่รายละเอียดเพิ่มเติมไปมากกว่าใน LOTR เสียอีก
แต่การใส่รายละเอียดลงไปกลับทำให้หนังมีความตื่นเต้นน่าดูมีมิติ มีความสมเหตุสมผลมากขึ้นกว่าในหนังสือมาก และ ตัวละครมีความสำคัญมากขึ้น
ตามสไตล์ PJ ที่สร้างให้ตัวละครเกือบทุกตัวมีสเน่ห์มีความสำคัญเหมือนใน LOTR
-ในหนังสือ เหล่าคนแคระที่มีอยู่มากมายดูไม่ค่อยมีความสำคัญเท่าไรนัก ไม่ได้แสดงถึงความเก่งกาจในการรบใดๆ และ ค่อนข้างจะวุนวายเรื่องมาก ไม่มีความรับผิดชอบ เสียมากกว่า
อย่างฉากที่กินเลื้ยงกันในบ้านบิลโบ เช้าวันรุ่งขึ้นในหนังสือทิ้งจานชามบ้านเลอะเทอะไว้ให้บิลโบ้ต้องเก็บกวาด(แต่ไม่มีโอกาส) แต่ในหนัง คนแคระเก็บข้าวของเป็นระเบียบเรียบร้อย ตอนบิลโบตื่นขึ้นมา
-ธอรินดูจะเป็น คนถือตัว เรื่องมากขี้บ่น ต่างจาก คาแรคเตอร์ในหนังที่ดูสุขุม มีเบื้องหลัง มีความเป็นผู้นำ รบเก่ง และ มีความอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน น่าจะเป็น คาแรคเตอร์ชูโรง เหมือน อารากอร์น ใน LOTR
-อาซ็อก ไม่มีบทบาทในหนังสือ และ เป็นตัวเสริมบทให้ ธอริน มีมิติมากขึ้น เชื่อว่าภาคต่อๆไป จะต้องมีบทบาทที่เพิ่มเข้ามาอีกให้หนังดูเข้มข้นมากขึ้น
-บทของ Necromancer ซึ่งมีแค่กล่าวถึงไม่กี่บรรทัด ถูกเพิ่มบทขึ้น และ เชื่อและหวังว่าจะมีบทในสงครามขับไล่ Necromancer เพิ่มเข้ามาในภาคต่อไปเช่นกัน ซึ่งคงจะทำให้เนื้อเรื่องช่วงหลังดูอลังการขึ้นไปอีก
-มีการเพิ่มฉากการรบ การไล่ล่า ให้หนังดูสนุกตื้นเต้นเข้าไปอีก
เพราะถ้าเอาเนื้อเรื่องในหนังสือมาทำโดยไม่มีเพิ่มเนื้อหาใดๆเข้าไปเลย แล้วทำให้จบในภาคเดียวแบบที่บางคนว่าเนื่อเรื่องมันทำให้จบในภาคเดียวได้
ผมว่ามันจะเป็นหนังที่ไม่สนุกเอาเสียเลย เหมือนนิทานเด็กๆเสียมากกว่า
และ ผมว่า PJ สามารถเอาเรื่องนี้มาเพิ่มเติมขยายความได้ลงตัวมาก และ เห็นด้วยว่าควรจะเป็นสามภาค ถ้า PJ สามารถเพิ่มเติมเนื้อเรื่องที่มันดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีกแบบนี้
ช่วงท้ายๆมันจะกลายเป็นมหากาพย์อีกบทหนึ่งเลยทีเดียว
ความรู้สึกหลังดู The Hobbit หนังโรง แล้วไปหาหนังสือ The Hobbit มาอ่าน (สปอยล์แน่นอน)
เมื่อทราบว่า The Hobbit จะเข้าฉาย ก็ทำการบ้านทบทวน LOTR extended edition (รอบที่ ??) ก่อนไปดู The Hobbit หนึ่งสัปดาห์
หลังจากได้ดูเรื่อง The Hobbit นับแต่ต้นเรื่องรู้สึกประทับใจมาก นับแต่ฉากแรก ถึงความเชื่อมโยงที่ PJ (Peter Jackson) พยายามเชื่อมโยง หลายๆจุดเข้ากับ LOTR
ความรู้สึกเหมือนได้รำลึก ถึงความประทับใจเก่าๆ เจอเพื่อนเก่า บรรยากาศเก่าๆ(รวมทั้งความประทับใจในทิวทัศน์ของ Newzealand) ยิ่งดูแบบ HFR ยิ่งประทับใจในความลื่นไหลของ 3D แบบไม่เคยเห็นมาก่อน
จนจบเรื่อง แต่ในใจยังไม่จบ อยากดูรอบสองแต่ไม่มีเวลา อยากดูภาคต่อไปเร็วๆ
จึงต้องไปหาหนังสือเรื่องนี้มาอ่าน ดูตอนต่อไป
แต่หลังจากอ่านหนังสือ The Hobbit แล้ว สิ่งที่รู้สึกคือ ในหนังเรื่อง The Hobbit นี้ PJ ได้ใส่รายละเอียดเพิ่มเติมไปมากกว่าใน LOTR เสียอีก
แต่การใส่รายละเอียดลงไปกลับทำให้หนังมีความตื่นเต้นน่าดูมีมิติ มีความสมเหตุสมผลมากขึ้นกว่าในหนังสือมาก และ ตัวละครมีความสำคัญมากขึ้น
ตามสไตล์ PJ ที่สร้างให้ตัวละครเกือบทุกตัวมีสเน่ห์มีความสำคัญเหมือนใน LOTR
-ในหนังสือ เหล่าคนแคระที่มีอยู่มากมายดูไม่ค่อยมีความสำคัญเท่าไรนัก ไม่ได้แสดงถึงความเก่งกาจในการรบใดๆ และ ค่อนข้างจะวุนวายเรื่องมาก ไม่มีความรับผิดชอบ เสียมากกว่า
อย่างฉากที่กินเลื้ยงกันในบ้านบิลโบ เช้าวันรุ่งขึ้นในหนังสือทิ้งจานชามบ้านเลอะเทอะไว้ให้บิลโบ้ต้องเก็บกวาด(แต่ไม่มีโอกาส) แต่ในหนัง คนแคระเก็บข้าวของเป็นระเบียบเรียบร้อย ตอนบิลโบตื่นขึ้นมา
-ธอรินดูจะเป็น คนถือตัว เรื่องมากขี้บ่น ต่างจาก คาแรคเตอร์ในหนังที่ดูสุขุม มีเบื้องหลัง มีความเป็นผู้นำ รบเก่ง และ มีความอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน น่าจะเป็น คาแรคเตอร์ชูโรง เหมือน อารากอร์น ใน LOTR
-อาซ็อก ไม่มีบทบาทในหนังสือ และ เป็นตัวเสริมบทให้ ธอริน มีมิติมากขึ้น เชื่อว่าภาคต่อๆไป จะต้องมีบทบาทที่เพิ่มเข้ามาอีกให้หนังดูเข้มข้นมากขึ้น
-บทของ Necromancer ซึ่งมีแค่กล่าวถึงไม่กี่บรรทัด ถูกเพิ่มบทขึ้น และ เชื่อและหวังว่าจะมีบทในสงครามขับไล่ Necromancer เพิ่มเข้ามาในภาคต่อไปเช่นกัน ซึ่งคงจะทำให้เนื้อเรื่องช่วงหลังดูอลังการขึ้นไปอีก
-มีการเพิ่มฉากการรบ การไล่ล่า ให้หนังดูสนุกตื้นเต้นเข้าไปอีก
เพราะถ้าเอาเนื้อเรื่องในหนังสือมาทำโดยไม่มีเพิ่มเนื้อหาใดๆเข้าไปเลย แล้วทำให้จบในภาคเดียวแบบที่บางคนว่าเนื่อเรื่องมันทำให้จบในภาคเดียวได้
ผมว่ามันจะเป็นหนังที่ไม่สนุกเอาเสียเลย เหมือนนิทานเด็กๆเสียมากกว่า
และ ผมว่า PJ สามารถเอาเรื่องนี้มาเพิ่มเติมขยายความได้ลงตัวมาก และ เห็นด้วยว่าควรจะเป็นสามภาค ถ้า PJ สามารถเพิ่มเติมเนื้อเรื่องที่มันดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีกแบบนี้
ช่วงท้ายๆมันจะกลายเป็นมหากาพย์อีกบทหนึ่งเลยทีเดียว