สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
อารากอร์น มีสายเลือดที่สูงส่งกว่ามนุษย์อื่นๆในยุคนั้น เพราะเป็นทายาทสายตรงของชาวนูเมนอร์กลุ่มที่เหลือรอดชีวิต
ชาวนูเมนอร์เดิมเคยอาศัยบนเกาะใหญ่ทางตะวันตกสุดของโลก และมีอายุยืนยาวกว่ามนุษย์ธรรมดาในมิดเดิ้ล-เอิร์ธประมาณ 3 เท่า
กษัตริย์นูเมนอร์ซึ่งสืบสายเลือดมาจาก เอลรอส ปฐมกษัตริย์ของอาณาจักรที่แต่เดิมเป็นกึ่งเอลฟ์กึ่งมนุษย์ (เป็นพี่ชายของเอลรอนด์) ก็สามารถเลือกจะสละชีวิตตอนไหนก็ได้
ต่อมาเกาะนั้นจมทะเลไป เหลือผู้ที่รอดชีวิตขึ้นเรือหนีมายังมิดเดิ้ล-เอิร์ธได้เพียงจำนวนหนึ่ง
และชาวนูเมนอร์พลัดถิ่นก็ตั้งตนเป็นกษัตริย์ ตั้งอาณาจักรอานอร์ทางเหนือของเอเรียดอร์ และอาณาจักรกอนดอร์ทางใต้
อารากอร์นเป็นทายาทของเอเลนดิลและอิซิลดูร์ซึ่งปกครองอานอร์ แต่ต่อมาอาณาจักรนี้ถูกแบ่งเป็นแคว้นย่อยสามแคว้น ทำสงครามกัน
จนในที่สุดก็ล่มสลาย พวกเชื้อพระวงศ์ที่เหลืออยู่ต้องใช้ชีวิตในป่า แต่เอลรอนด์รับอุปการะทายาทของเอเลนดิลอย่างลับๆในริเวนเดลล์
อารากอร์นแต่เดิมมีนามว่า เอสเทลล์ แปลว่า ความหวัง เป็นนามที่มารดาของเขาตั้งให้
และกว่าอารากอร์นจะรู้ฐานะที่แท้จริงของตน ก็เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว
เรามองว่า แม้อารากอร์นจะเป็นคนกล้าหาญ แต่ก็ถ่อมตนอย่างยิ่งยวด เพราะถึงจะมีบรรดาศักดิ์เป็นทายาทกษัตริย์ แต่ก็เป็นเพียงทายาทที่ไร้บัลลังก์
เพราะในสมัยที่อารากอร์นเป็นหนุ่ม อาณาจักรอานอร์ก็สูญสลายไปนานมากแล้ว อาณาจักรกอนดอร์ก็ไม่ยอมรับทายาทของอาณาจักรเหนือ
คนที่ไม่รู้ก็เรียกอดีตเชื้อพระวงศ์เหล่านี้ว่า คนจร ด้วยคิดว่าเป็นเพียงชาวป่ายากจน
จนเมื่ออารากอร์นไปรักกับอาร์เวน แล้วถูกเอลรอนด์ยื่นข้อเสนอมานั่นแหละ เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของเขาเลยทีเดียว
ข้อเสนอที่ว่านั้นคือ เอลรอนด์จะอนุญาตให้อาร์เวนครองคู่กับอารากอร์นได้ก็ต่อเมื่อ อารากอร์นได้เป็นกษัตริย์
เรื่องนี้ทำให้อารากอร์นหนักใจ เป็นข้อเสนอที่สาหัสสากรรจ์แทบจะไม่หย่อนไปกว่าเมื่อครั้งที่กษัตริย์ธิงโกลบอกให้เบเรนไปชิงซิลมาริลออกจากมงกุฎเหล็กของมอร์กอธเลย
เขาจึงออกจากริเวนเดลล์ไปพิสูจน์ตนเองในโลกภายนอกอยู่หลายสิบปี
เรามองว่า ถึงอารากอร์นจะถ่อมตน แต่เขาก็ยังคงความภาคภูมิใจในสายเลือดอันยิ่งใหญ่ของตนด้วย (แม้จะเจือด้วยความสำนึกผิดที่อิซิลดูร์ซึ่งเป็นบรรพบุรุษไม่ยอมทำลายแหวน เมื่อมีโอกาส)
ภายหลัง เมื่ออารากอร์นได้เป็นกษัตริย์ เมื่อแก่ชราลงเขาก็เลือกที่จะสละชีวิตและร่างกาย โดยไม่ยอมให้ตนเองต้องแก่เฒ่าลงอยู่ในสภาพที่น่าเวทนา
แล้วก็อารากอร์นนี่เอง ที่สามารถสละชีวิตเมื่อต้องการได้ตามแบบชาวนูเมนอร์ดั้งเดิม ทั้งที่บรรพบุรุษของตนหลายชั่วคนก่อนหน้านี้ ไม่มีใครทำได้
ส่วนหนังสือ The Silmarillion ถูกเขียนขึ้นมาก่อน The Hobbit และ LotR แต่ตีพิมพ์ทีหลัง
ในหนังสือ LotR เล่ม 3 ในส่วนของภาคผนวก มีเล่าจนถึงตอนที่กิมลีออกเรือไปกับเลโกลัสค่ะ
ชาวนูเมนอร์เดิมเคยอาศัยบนเกาะใหญ่ทางตะวันตกสุดของโลก และมีอายุยืนยาวกว่ามนุษย์ธรรมดาในมิดเดิ้ล-เอิร์ธประมาณ 3 เท่า
กษัตริย์นูเมนอร์ซึ่งสืบสายเลือดมาจาก เอลรอส ปฐมกษัตริย์ของอาณาจักรที่แต่เดิมเป็นกึ่งเอลฟ์กึ่งมนุษย์ (เป็นพี่ชายของเอลรอนด์) ก็สามารถเลือกจะสละชีวิตตอนไหนก็ได้
ต่อมาเกาะนั้นจมทะเลไป เหลือผู้ที่รอดชีวิตขึ้นเรือหนีมายังมิดเดิ้ล-เอิร์ธได้เพียงจำนวนหนึ่ง
และชาวนูเมนอร์พลัดถิ่นก็ตั้งตนเป็นกษัตริย์ ตั้งอาณาจักรอานอร์ทางเหนือของเอเรียดอร์ และอาณาจักรกอนดอร์ทางใต้
อารากอร์นเป็นทายาทของเอเลนดิลและอิซิลดูร์ซึ่งปกครองอานอร์ แต่ต่อมาอาณาจักรนี้ถูกแบ่งเป็นแคว้นย่อยสามแคว้น ทำสงครามกัน
จนในที่สุดก็ล่มสลาย พวกเชื้อพระวงศ์ที่เหลืออยู่ต้องใช้ชีวิตในป่า แต่เอลรอนด์รับอุปการะทายาทของเอเลนดิลอย่างลับๆในริเวนเดลล์
อารากอร์นแต่เดิมมีนามว่า เอสเทลล์ แปลว่า ความหวัง เป็นนามที่มารดาของเขาตั้งให้
และกว่าอารากอร์นจะรู้ฐานะที่แท้จริงของตน ก็เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว
เรามองว่า แม้อารากอร์นจะเป็นคนกล้าหาญ แต่ก็ถ่อมตนอย่างยิ่งยวด เพราะถึงจะมีบรรดาศักดิ์เป็นทายาทกษัตริย์ แต่ก็เป็นเพียงทายาทที่ไร้บัลลังก์
เพราะในสมัยที่อารากอร์นเป็นหนุ่ม อาณาจักรอานอร์ก็สูญสลายไปนานมากแล้ว อาณาจักรกอนดอร์ก็ไม่ยอมรับทายาทของอาณาจักรเหนือ
คนที่ไม่รู้ก็เรียกอดีตเชื้อพระวงศ์เหล่านี้ว่า คนจร ด้วยคิดว่าเป็นเพียงชาวป่ายากจน
จนเมื่ออารากอร์นไปรักกับอาร์เวน แล้วถูกเอลรอนด์ยื่นข้อเสนอมานั่นแหละ เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของเขาเลยทีเดียว
ข้อเสนอที่ว่านั้นคือ เอลรอนด์จะอนุญาตให้อาร์เวนครองคู่กับอารากอร์นได้ก็ต่อเมื่อ อารากอร์นได้เป็นกษัตริย์
เรื่องนี้ทำให้อารากอร์นหนักใจ เป็นข้อเสนอที่สาหัสสากรรจ์แทบจะไม่หย่อนไปกว่าเมื่อครั้งที่กษัตริย์ธิงโกลบอกให้เบเรนไปชิงซิลมาริลออกจากมงกุฎเหล็กของมอร์กอธเลย
เขาจึงออกจากริเวนเดลล์ไปพิสูจน์ตนเองในโลกภายนอกอยู่หลายสิบปี
เรามองว่า ถึงอารากอร์นจะถ่อมตน แต่เขาก็ยังคงความภาคภูมิใจในสายเลือดอันยิ่งใหญ่ของตนด้วย (แม้จะเจือด้วยความสำนึกผิดที่อิซิลดูร์ซึ่งเป็นบรรพบุรุษไม่ยอมทำลายแหวน เมื่อมีโอกาส)
ภายหลัง เมื่ออารากอร์นได้เป็นกษัตริย์ เมื่อแก่ชราลงเขาก็เลือกที่จะสละชีวิตและร่างกาย โดยไม่ยอมให้ตนเองต้องแก่เฒ่าลงอยู่ในสภาพที่น่าเวทนา
แล้วก็อารากอร์นนี่เอง ที่สามารถสละชีวิตเมื่อต้องการได้ตามแบบชาวนูเมนอร์ดั้งเดิม ทั้งที่บรรพบุรุษของตนหลายชั่วคนก่อนหน้านี้ ไม่มีใครทำได้
ส่วนหนังสือ The Silmarillion ถูกเขียนขึ้นมาก่อน The Hobbit และ LotR แต่ตีพิมพ์ทีหลัง
ในหนังสือ LotR เล่ม 3 ในส่วนของภาคผนวก มีเล่าจนถึงตอนที่กิมลีออกเรือไปกับเลโกลัสค่ะ
แสดงความคิดเห็น
สปอย อาร่กอนเป็นคนยังไงคะ
มีอายุยืนยาวมาก 87 ปีใน lotr
ร่วมรบกับปู่ของกษัตริยโรฮาน
แล้วถูกเลี้ยงโดยเอลฟ ที่ริเวนเดล
ตั้งแต่เด็ก
อีกเรื่องคะ หนังสือ similian
มาก่อน hobbit หรือ หลัง
Lotr มีตอนที่กิมลี
ใช้ helmdeep สร้างอาณาจักร
จนได้ไปเกาะ undying land
กับ legolas ไหมคะ