จขกท. เคยดูหนังเรื่องนี้มาตั้งนานแล้วค่ะ จำไม่ได้แล้วว่านานแค่ไหน แต่รู้สึกสมัยยุคนั้นยังไม่ค่อยจะอินตามหนังซักเท่าไหร แต่รวมๆแล้วก็โอเคนะ ไม่เสียดายที่ได้ดู (สงสัยตอนนั้นยัง แอ๊บแบ๊ว ใสๆ ปัญญาอ่อนอยู่ ฮ่าๆ)
แต่วันนี้พึ่งจะไปค้นพบ (โดยบังเอิญ) มาค่ะ ว่าเคยซื้อ DVD เก็บไว้ คือบ้าน จขกท. หนังเยอะมาก เยอะจนขี้เกียจจะจัด เลยต้องพบกับปัญหา หนังหาย เป็นประจำ แต่วันนี้โชคดีมากๆ บังเอิญไปเจอมาพอเห็นหน้า ลุงทอม แฮงค์ ก็ลืมทุกสิ่งอย่างเอาไปเปิดดูทันที
ดูไปแค่ฉากแรกเราก็ร้อง อ๋อ รู้ละทำไมชาวพันธิปถึงชอบถามกันว่า ทำไมเรื่องนี้พลาดออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมให้กับ พ่อ Shakespeare in Love คือเราไม่ได้เข้าข้างหนังเรื่องไหนนะ แต่คือพอจะเข้าใจ เพราะเราก็แอบชอบเรื่องนี้มากกว่า Shakespeare เหมือนกันแหละ ฮ่าๆ ปกติไม่ค่อยชอบดูหนังครามเท่าไหรหรอกค่ะ เพราะดูแล้วรู้สึกเครียด อย่าง Hurt Locker นี้ อร๊ายยยยย นั่งบีบขมับกันทั้งเรื่อง แต่บางเรื่องก็ ช๊อบ ชอบ อย่าง Letter From Iwo Jima แต่เรื่องนี้ขอยกให้ เป็นหนังสงครามที่ปลื้มที่สุดเท่าที่เคยดูมา มันมีหมด ทั้งเครียด ลุ้น สนุก เศร้า ดราม่า เอคชั่น มากันอย่างจัดเต็ม
โผล่มาฉาก แรกๆที่ยกพลขึ้นหาด อร๊ายยยยย เครียดกันสุดทีนค่ะ ยิงกันหูดับตับไหม้ เลือดพุ่งปรี๊ดดดดด ตับไตไส้พุงนี้ ทะลักออกมาให้เห็นกันเต็มๆ ดูไปขมวดคิ้วไป พอดูมาเรื่อยๆยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ค่ะ รู้สึกเป็นหนังที่สามารถถ่ายทอดบรรยากาศสงครามได้สมจริง สุดๆ มันทั้งเครียด ทั้งลุ้น ทั้งโหด ทั้งเศร้า ต้องยกเครดิตให้กับ ผกก. ขั้นเทพอย่าง Steven Spielberg ยอดเยี่ยมสมรางวัลค่ะ และก็นักแสดงทุกๆคนเลย เล่นดีกันมากๆ เป็นอีกเรื่องที่ ปลื้มลุง ทอม มากๆ ลุงแกสุดยอดจริงๆ
Saving Private Ryan เล่าเรื่องราวถึง ทหารกลุ่มหนึ่งที่ได้รับภาระกิจให้ตามหา พลทหารชื่อ เจมส์ ไรอัน(Matt Damon สมัยยังเอ๊าะๆ ฮ่าๆๆ) และพาเค้ากลับบ้าน เนื่องจากว่าพี่น้องของเค้าทั้งสามคนเสียชีวิตในสงครามกันหมดแล้ว เพื่อเป็นการบรรเทาความเจ็บปวดให้แม่ของเค้า นำทีมโดย ผู้กอง จอห์น มิลเลอร์ (ลุง Tom Hanks)
มีฉากมากมายที่เราประทับใจ สุดๆกับหนังเรื่องนี้ อย่างฉากยกพลขึ้นหาด (สงสัยเราจะซาดิสท์ ฮ่าๆ) เครียดได้ใจ ฉากที่ผู้กองถามจ่า Horvath ว่ารู้มั้ยว่าเค้าเสียทหารใต้บังคับบัญชาไปแล้วกี่คน และเค้าก็บอกประมาณว่า นั่นเท่ากับเค้าสามารถช่วยคนอื่นได้อีกเท่าตัว นั่นเป็นวิธีคิดของเค้า ฉากตอนที่หมอ ถูกยิงแล้วทุกคนไปรุมกันช่วยกดแผล และก็ถามประมาณว่าจะให้เราช่วยนายยังไง ดูแล้วแบบอะไรจะขนาดนั้น(ร้องไห้) จากนั้นก็ ดราม่ากันเลยค่ะ ที่ Reiben เปิดประเด็นว่าทำไมนายไรอัน นี้จะต้องได้รับความช่วยเหลือด้วย หมอ กับ Caparzo (สองคนที่ตายไป) เค้าก็มีแม่เหมือนกัน และพูดประมาณว่าภารกิจนี้ โค ตร เฮงซวยเลย กำลังจะเดินหนีไปจนจ่า Horvath ต้องไปจ่อปืนห้าม จนในที่สุด ผู้กอง เลยตัดสินใจบอกความลับที่ว่า เค้าทำอาชีพอะไรมาก่อน (พนันกันไว้) บอกว่าเค้าเคยเป็น ครงสอนภาษาอังกฤษมาก่อน และพูดประมาณว่าเค้าไม่รู้หรอกว่า นายไรอันเหนี่ยเป็นใคร ไม่สนใจด้วย แต่ถ้าเค้าทำภารกิจนี้แล้วทำให้เค้ามีโอกาสกลับบ้าน นั่นแล้วที่เค้าสนใจ และก็เดินไปฝังสมหมอ แบบอร๊ายยยยย อินเวอร์
อีกอย่างพึ่งรู้เมื่อกี้นี้เองว่า FUBAR ที่พูดกันในหนังว่าเป็นภาษาเยอรมันหมายถึงอะไร อิอิ
ฉากที่นายไรอัน บอกว่ามันไม่ยุติธรรมทำไมเค้าถึงต้องได้กลับบ้านด้วยทั้งๆที่คนอื่นเค้าก็มีครอบครัวรอเค้าอยู่เหมือนกัน ละยืนยันว่าจะไม่กลับไปแม่เค้าต้องเข้าใจ ฉากที่หมู่ Upham กลัวไม่กล้าขึ้นไปช่วย Mellish จนโดนแทงตายแบบ ฉากนี้บีบอารมณ์กันมากๆ รู้เลยว่าอารมณ์ที่อยากจะช่วยคนอื่นแต่ก็กลัวตัวเองจะไม่รอดเป็นไง จนมาฉากสุดท้าย ตรงสะพานทหารเยอรมันกำลังจะยกทัพข้ามสะพานมาได้ และผู้กองก็ คลานเข้าไปจะกดระเบิดสะพาน แต่โดนยิงก่อน ทั้งๆที่กำลังจะตายยังไม่วายชักปืนพกมายิงรถถัง (ฟังไม่ผิดหรอก) อารมณ์หน้าลุงทอมตอนนั้นแบบ พระเอกมาก จนสุดท้ายก่อนตายก็กระซิบข้างหูนายไรอันด้วยประโยคที่โดนใจเรามากว่า "อยู่ให้คุ้มนะ"
ดู Saving Private Ryan แล้วนั่งร้องไห้ เราผิดปกติรึปล่าว ฮ่าๆๆๆ [หนังสงครามที่ชอบมากที่สุดเท่าที่เคยดูมา เอิ๊กๆๆ]
แต่วันนี้พึ่งจะไปค้นพบ (โดยบังเอิญ) มาค่ะ ว่าเคยซื้อ DVD เก็บไว้ คือบ้าน จขกท. หนังเยอะมาก เยอะจนขี้เกียจจะจัด เลยต้องพบกับปัญหา หนังหาย เป็นประจำ แต่วันนี้โชคดีมากๆ บังเอิญไปเจอมาพอเห็นหน้า ลุงทอม แฮงค์ ก็ลืมทุกสิ่งอย่างเอาไปเปิดดูทันที
ดูไปแค่ฉากแรกเราก็ร้อง อ๋อ รู้ละทำไมชาวพันธิปถึงชอบถามกันว่า ทำไมเรื่องนี้พลาดออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมให้กับ พ่อ Shakespeare in Love คือเราไม่ได้เข้าข้างหนังเรื่องไหนนะ แต่คือพอจะเข้าใจ เพราะเราก็แอบชอบเรื่องนี้มากกว่า Shakespeare เหมือนกันแหละ ฮ่าๆ ปกติไม่ค่อยชอบดูหนังครามเท่าไหรหรอกค่ะ เพราะดูแล้วรู้สึกเครียด อย่าง Hurt Locker นี้ อร๊ายยยยย นั่งบีบขมับกันทั้งเรื่อง แต่บางเรื่องก็ ช๊อบ ชอบ อย่าง Letter From Iwo Jima แต่เรื่องนี้ขอยกให้ เป็นหนังสงครามที่ปลื้มที่สุดเท่าที่เคยดูมา มันมีหมด ทั้งเครียด ลุ้น สนุก เศร้า ดราม่า เอคชั่น มากันอย่างจัดเต็ม
โผล่มาฉาก แรกๆที่ยกพลขึ้นหาด อร๊ายยยยย เครียดกันสุดทีนค่ะ ยิงกันหูดับตับไหม้ เลือดพุ่งปรี๊ดดดดด ตับไตไส้พุงนี้ ทะลักออกมาให้เห็นกันเต็มๆ ดูไปขมวดคิ้วไป พอดูมาเรื่อยๆยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ค่ะ รู้สึกเป็นหนังที่สามารถถ่ายทอดบรรยากาศสงครามได้สมจริง สุดๆ มันทั้งเครียด ทั้งลุ้น ทั้งโหด ทั้งเศร้า ต้องยกเครดิตให้กับ ผกก. ขั้นเทพอย่าง Steven Spielberg ยอดเยี่ยมสมรางวัลค่ะ และก็นักแสดงทุกๆคนเลย เล่นดีกันมากๆ เป็นอีกเรื่องที่ ปลื้มลุง ทอม มากๆ ลุงแกสุดยอดจริงๆ
Saving Private Ryan เล่าเรื่องราวถึง ทหารกลุ่มหนึ่งที่ได้รับภาระกิจให้ตามหา พลทหารชื่อ เจมส์ ไรอัน(Matt Damon สมัยยังเอ๊าะๆ ฮ่าๆๆ) และพาเค้ากลับบ้าน เนื่องจากว่าพี่น้องของเค้าทั้งสามคนเสียชีวิตในสงครามกันหมดแล้ว เพื่อเป็นการบรรเทาความเจ็บปวดให้แม่ของเค้า นำทีมโดย ผู้กอง จอห์น มิลเลอร์ (ลุง Tom Hanks)
มีฉากมากมายที่เราประทับใจ สุดๆกับหนังเรื่องนี้ อย่างฉากยกพลขึ้นหาด (สงสัยเราจะซาดิสท์ ฮ่าๆ) เครียดได้ใจ ฉากที่ผู้กองถามจ่า Horvath ว่ารู้มั้ยว่าเค้าเสียทหารใต้บังคับบัญชาไปแล้วกี่คน และเค้าก็บอกประมาณว่า นั่นเท่ากับเค้าสามารถช่วยคนอื่นได้อีกเท่าตัว นั่นเป็นวิธีคิดของเค้า ฉากตอนที่หมอ ถูกยิงแล้วทุกคนไปรุมกันช่วยกดแผล และก็ถามประมาณว่าจะให้เราช่วยนายยังไง ดูแล้วแบบอะไรจะขนาดนั้น(ร้องไห้) จากนั้นก็ ดราม่ากันเลยค่ะ ที่ Reiben เปิดประเด็นว่าทำไมนายไรอัน นี้จะต้องได้รับความช่วยเหลือด้วย หมอ กับ Caparzo (สองคนที่ตายไป) เค้าก็มีแม่เหมือนกัน และพูดประมาณว่าภารกิจนี้ โค ตร เฮงซวยเลย กำลังจะเดินหนีไปจนจ่า Horvath ต้องไปจ่อปืนห้าม จนในที่สุด ผู้กอง เลยตัดสินใจบอกความลับที่ว่า เค้าทำอาชีพอะไรมาก่อน (พนันกันไว้) บอกว่าเค้าเคยเป็น ครงสอนภาษาอังกฤษมาก่อน และพูดประมาณว่าเค้าไม่รู้หรอกว่า นายไรอันเหนี่ยเป็นใคร ไม่สนใจด้วย แต่ถ้าเค้าทำภารกิจนี้แล้วทำให้เค้ามีโอกาสกลับบ้าน นั่นแล้วที่เค้าสนใจ และก็เดินไปฝังสมหมอ แบบอร๊ายยยยย อินเวอร์
อีกอย่างพึ่งรู้เมื่อกี้นี้เองว่า FUBAR ที่พูดกันในหนังว่าเป็นภาษาเยอรมันหมายถึงอะไร อิอิ
ฉากที่นายไรอัน บอกว่ามันไม่ยุติธรรมทำไมเค้าถึงต้องได้กลับบ้านด้วยทั้งๆที่คนอื่นเค้าก็มีครอบครัวรอเค้าอยู่เหมือนกัน ละยืนยันว่าจะไม่กลับไปแม่เค้าต้องเข้าใจ ฉากที่หมู่ Upham กลัวไม่กล้าขึ้นไปช่วย Mellish จนโดนแทงตายแบบ ฉากนี้บีบอารมณ์กันมากๆ รู้เลยว่าอารมณ์ที่อยากจะช่วยคนอื่นแต่ก็กลัวตัวเองจะไม่รอดเป็นไง จนมาฉากสุดท้าย ตรงสะพานทหารเยอรมันกำลังจะยกทัพข้ามสะพานมาได้ และผู้กองก็ คลานเข้าไปจะกดระเบิดสะพาน แต่โดนยิงก่อน ทั้งๆที่กำลังจะตายยังไม่วายชักปืนพกมายิงรถถัง (ฟังไม่ผิดหรอก) อารมณ์หน้าลุงทอมตอนนั้นแบบ พระเอกมาก จนสุดท้ายก่อนตายก็กระซิบข้างหูนายไรอันด้วยประโยคที่โดนใจเรามากว่า "อยู่ให้คุ้มนะ"