ไล่ชื่อเป็นรองไม่เยอะ


เป็นอันว่า ผ่านพ้นห้วงระทึก “21/12/12” วันสิ้นโลกไปแล้ว โดยไม่มีอะไรในกอไผ่ เอาเข้าจริงก็แค่การปั่นกระแสลมๆแล้งๆในหมู่ “คนสติแตก” เท่านั้น

แต่ที่ระทึกอกระทึกใจเข้าไปทุกขณะ

ล่าสุดนับเป็น “ศพที่ 4” จากการที่ศาลอาญาอ่านคำสั่งไต่สวนชันสูตรศพคดีการเสียชีวิตของ ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ หรือ “อีซา” ในวันสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง นปช. โดยเหตุและพฤติการณ์ที่ตายเพราะถูกลูกกระสุนปืนซึ่งยิงจากเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตามคำสั่งของ ศอฉ.

กระชับสำนวน ข้อหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล

แน่นอนโดยรูปการณ์ที่ออกมาย่อมไม่เป็นผลดีกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และ “เทพเทือก” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการ ศอฉ.

ส่อเหนื่อยหนัก ชนักปักลึกเข้าไปทุกที

กับหลักคิดง่ายๆ “คนตาย” เพราะโดนกระทำแค่ศพเดียวยังต้องสอบสวนหาคนผิดเป็นคดีอาญา แต่นี่เกือบร้อยศพที่ตายเหมือนผักปลา จะไม่มีใครรับผิดชอบเลยเป็นไปไม่ได้

ไม่โทษทางอาญา ก็โทษทางสังคม

สถานการณ์ไหลมาถึงจุดนี้ ยากที่จะลอยลมลอยชายอยู่ได้

และก็เป็นอะไรที่โยงเป็นคนละเรื่องเดียวกัน ตามรูปการณ์ที่ออกมาก็ตัดทิ้งไปได้กับชื่อของนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกจัดให้เป็นแคนดิเดตชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.ของพรรคประชาธิปัตย์ เสียบแทน “คุณชายหมู” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.ที่ส่อจะโดนหักดิบ

แต่ในเมื่อสถานการณ์ของ “อภิสิทธิ์” ส่ออาการหนักในคดี 91 ศพเสื้อแดง ในฐานะเพื่อนรักออกซ์ฟอร์ด ที่ดีกรีไม่แพ้กัน “กรณ์” ก็ได้ลุ้นเสียบแทนจ่าฝูงประชาธิปัตย์

เปลี่ยนธงเล่นสนามใหญ่ต่อไป ไม่ลดชั้นไปเล่นสนามเล็กแน่

และนั่นก็ทำให้กระแสเปลี่ยนไปที่แคนดิเดตที่โผล่มาอีกคนก็คือจอมเก๋าอย่างนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกปล่อยชื่อออกมากั๊กไว้

ล็อกโควตาอยู่ในมือของทีมงานเมืองกรุง

ท่ามกลางข่าวลึกวงในให้น้ำหนักไปที่ตัวสอดแทรกที่มาแรงเลยก็คือนายอภิชัย เตชะอุบล อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แม้จะ “โนเนม” ในกระแสการเมือง

แต่เบื้องหลังในวงการรู้กันดีว่าเป็นนักธุรกิจ “หน้าตักหนา”

โดยเฉพาะได้รับแรงหนุนแบบสุดกำลังจาก “เสี่ยจ้อน” นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค แท็กทีมกับ “เสี่ยต่อ” นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ออกแรงดันหลังเต็มที่ โดยมีสมาชิกในกลุ่มหัวก้าวหน้าในพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่เอาด้วยกับแนวคิดอนุรักษนิยมของพรรค ที่ล็อกสิทธิให้เจ้าของโควตาคนเดิม ให้เกียรติคนเก่าก่อน

แน่นอน ตามรูปการณ์จนถึงนาทีนี้ก็ยังเคาะโต๊ะไม่ได้

และโดยสไตล์การประลองกำลังภายในของค่ายประชาธิปัตย์ อาจถึงขั้นต้องโหวตฟันธง ตามคิวที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ที่ “น้าหยัด” นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กุนซือจอมเก๋า ของพรรคนั่งเป็นประธาน ต้องได้คำตอบสุดท้ายในวันที่ 24 ธันวาคม

ในอารมณ์ที่คุณชายสุขุมพันธุ์เองก็เริ่มไม่ชัวร์กับตั๋วรอบสอง จากการสั่งยกเลิกแผนงานแถลงข่าวเปิดนโยบายที่จะใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ต่ออีกสมัย ภายใต้สโลแกน “สานงานต่อก่องานใหม่กับสุขุมพันธุ์” ตามมุกที่นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม.คู่ใจ ได้ส่งเอสเอ็มเอสแจ้งนักข่าวอ้างว่า ผู้ว่าฯกทม.เจ็บคอ ไม่มีเสียง

แต่เรื่องของเรื่องเลย มันยังไร้ความชัดเจนจากพรรคประชาธิปัตย์

ขืนรีบรวบรัด มีโอกาสหน้าแตกได้

โดยรูปการณ์เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องฟัดกันเองหนักๆในยกแรกก่อนขึ้นเวที ตามเดิมพันแชมป์เก่า ประชาธิปัตย์ล็อกคำตอบเดียว “แพ้ไม่ได้”

ในสถานการณ์ของมวยรองที่แพ้ก็ไม่มีอะไรเสียหาย ล่าสุดนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกตัวกั๊กเป็นเชิงดึงเช็ง ยังไม่ได้ข้อสรุปตัวบุคคลของพรรคเพื่อไทย แต่ยอมรับมีแคนดิเดตหลายคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม รวมถึง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.และเลขาธิการสำนักงาน ป.ป.ส.

ดึงเกมรอความชัดเจนจากพรรคประชาธิปัตย์ให้หงายไพ่ก่อน

ที่แน่ๆไล่ตามชื่อที่โผล่มา เพื่อไทยไม่เป็นรองแบบสุดกู่ก็แล้วกัน.

ทีมข่าวการเมือง

ไทยรัฐออนไลน์

    โดย ทีมข่าวการเมือง
    22 ธันวาคม 2555, 05:03 น.