เอามาให้อ่านเล่น ๆ อย่ามาด่าผมนะ ไม่เกี่ยว เอามาให้อ่านเฉย ๆ คิดยังใง ไม่เกี่ยว
http://news.mthai.com/headline-news/208998.htmlณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา จวกเละ! นโยบายรถคันแรกไร้ประโยชน์
ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา นักแสดงชื่อดัง ได้แสดงความเห็นเป็นภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ โครงการรถคันแรก นโยบายประชานิยมของรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในอินสตาแกรม ระบุว่า
ประเทศที่พัฒนาแล้ว นโยบายของรัฐบาลจะมุ่งเน้นในเรื่องของคุณภาพชีวิตประชากรภายในประเทศ เช่น การศึกษา, การสาธารณสุข และระบบโครงสร้างพื้นฐานอย่างระบบการคมนาคมสาธารณะ แต่ในประเทศกำลังพัฒนา รัฐบาลกลับมุ่งเน้นนโยบายในเรื่องของการยกระดับคุณภาพชีวิตส่วนบุคคล และธุรกิจของตัวเอง ประชาชนยังไร้การศึกษา, มัวเมา และถูกหลอกลวงกับสิ่งที่ฟังดูเหมือนจะเป็นนโยบายเพื่อประชาชน เช่น การยกเว้นภาษีให้กับรถคันแรก และก็มีเพียงประเทศกำลังพัฒนาประเทศเดียวในภูมิภาคนี้ที่ออกนโยบายบนความเชื่อผิดๆ นี้ ขอพระเจ้าโปรดคุ้มครองเราทุกคนด้วย!ตื่นได้แล้วประเทศไทย
นอกจากนี้ ณัฏฐ์ ยังได้โพสต์ข้อความอธิบายอย่างละเอียด ตอบโต้กับผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า
1.นโยบายนี้มุ่งเน้นให้โอกาสคนชั้นกลางตั้งตัวหรอครับ คุณเอาอะไรมาวัด? ผมถามหน่อยทำไมไม่มีการตรวจประวัติการเงินคนซื้อ รวมถึงฐานเงินเดือนให้ไปเลยล่ะ? ถ้าไม่งั้นใครที่ไม่เคยซื้อรถก็ซื้อได้สิครับ! แล้วมันจะแฟร์ตรงไหน?
2.ต่อเนื่องจากการที่ใครก็ได้สามารถซื้อรถได้ลดราคา ถ้าเป็นคันแรก ปี 2555 ปีนี้ปีเดียวมีรถออกมาวิ่งบนถนนกรุงเทพฯ มากขึ้นถึง 1 ล้านคันโดยประมาณ (จากสถิติยอดจอง) มากกว่าปีที่ไม่มีนโยบายนี้ถึง 4 เท่า (250,000 คัน) ผมไม่เถียงว่ามันเป็นกลไกตลาดให้อุสาหกรรมรถยนต์โตขึ้น แต่เม็ดเงินมันไปไหนละครับ มันก็ไหลออกอยู่ดี เพราะประเทศเราไม่มีแบรนด์รถยนต์ของเราเองอยู่ดี ส่วนเม็ดเงินที่เหลือก็เข้ากระเป๋าธุรกิจส่วนประกอบรถยนต์ภายในประเทศ..ซึ่งผมจะบอกอะไรให้นะ..มากกว่า 50% นำเข้าวัตถุดิบ เงินอีกส่วนก็สะพัดในตลาดแรงงาน
3. ในเมื่อไร้การควบคุมปริมาณรถที่ออกสู่ท้องถนนโดยไร้หลักการผลคืออะไรครับ? รถติดไงครับ รถติดมหาศาลแบบทุกช่วงเวลาของวัน ู้คุณขับรถรึเปล่า แต่ถ้าคุณเป็นคนนึงที่นั่งรถเมล์ (ซึ่งตอนเรียนผมก็เคยนั่งมาแล้วทั้ง ครีมแดง ขาวน้ำเงิน รถร่วม รถเล็ก ปอ.) มันร้อนและทรมานขึ้นขนาดไหนครับ? ถนนในกรุงเทพมีพอให้รถวิ่งหรอครับ?? ถ้าคุณดูประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่น เค้ามีกฏหมายควบคุมปริมาณรถในเมืองชัดเจนนั่นคือ ภาษี ครับ ภาษีในที่นี้เลือกเก็บครับ เก็บจากเฉพาะคนรวย คนที่มีเงินพอจะซื้อรถแพงๆ หรือรถนำเข้าจ่ายหนักหน่อย ส่วนคนซื้อรถญี่ปุ่นรักชาติเสียน้อยหน่อย แต่ภาษีและข้อบังคับที่ไม่ว่าจะจนจะรวยต้องจ่ายเหมือนกัน คือภาษีที่จอดครับ และถ้าคุณอยากซื้อรถแต่ไม่มีที่จอดก็ซื้อรถไม่ได้ครับต่อให้มีเงิน
4.ผมไม่เถียงเลยครับว่าใครๆ ก็อยากมีรถ เพราะอะไรครับ? เพราะอากาศบ้านเรามันร้อน มลภาวะเยอะ และที่สำคัญระบบขนส่งมวลชนมันห่วยครับ!!! ไม่นับรถไฟฟ้าและเอ็มอาร์ทีนะครับ เพราะประเทศพัฒนาแล้วเค้ามีมาเป็นสิบๆ ปีแล้วครับ ผมกำลังพูดถึงรถเมล์และรถไฟครับ คงไม่ต้องพูดมาก ถ้าคุณนั่งรถเมล์และรถไฟคุณจะรู้ว่ามันไม่มีการลงทุนพัฒนาเลย รถเก่า ซอมซ่อ ก่อมลภาวะ ควันดำ วิ่งเร็ว มารยาทในการขับ จอด เทียบป้าย เป็นไงละครับ ถ้าคุณเคยไปต่างประเทศคุณจะรู้ว่ารถเมล์บ้านเราซกมกสุดแล้วครับ มันเป็นรุ่นเก่าดึกดำบรรพ์มาก ต่างจากต่างประเทศที่เป็นแอร์หมด น่านั่งกว่าล้านเท่า ผมถามหน่อยครับ ทำไมไม่มีการลงทุนทำให้รถเมล์รถไฟน่านั่งขึ้น คนจะได้ใช้มากขึ้น จะได้มีรายได้มากขึ้นและไม่ต้องมาอ้างว่า ขาดทุนทุกปีและต้องให้รัฐอุ้ม ผมเห็นใจคนตาดำที่ยังต้องนั่งรถเมล์อยู่ครับ
5.จริงแล้วผมเห็นด้วยกับคนที่อยากจะซื้อรถคันแรกและจะได้ลดละภาษีเพื่อตั้งตัว แต่มันต้องมีการตรวจสอบประวัติการเงินและฐานเงินเดือนอย่างจริงจังครับ จะได้เป็นประโยชน์แก่ ผู้ได้รับ การเว้นภาษี รวมถึง ผู้ให้ เว้นภาษี คนมีเงินแล้วจะได้มาชุบมือเปิบกับนโยบายนี้ครับ จะว่าเลือกปฏิบัติก็ได้ เพราะคุณอย่าลืมว่าชนชั้นกลางบ้านเราไม่ได้มีเยอะนะครับ ชนชั้นรากหญ้าต่างหาก ที่มีมากที่สุด ถามว่า เค้ามีส่วนได้ส่วนเสียกับนโยบายนี้มั้ย คุณอาจจะมองว่าไม่ แต่ผมตอบเลยว่ามีเต็มๆ คุณรู้มั้ยปีนีรัฐบาลละเว้นภาษีรถ 1 ล้านคันโดยประมาณ ยังไม่รวมปีหน้านะ เป็นเงินทั้งสิ้น 1 แสนล้านบาท
ถามว่าทำไมไม่จ่ายคืนคนซื้อรถทันทีเลย คำตอบคือรัฐบาลไม่มีเงินครับ ต้องทยอยคืน ถามต่อ แล้วในเมื่อรัฐบาลไม่มีเงิน แถมยังเป็นหนี้อยู่ จะละเว้นภาษีสิ้นเปลืองนี้ทำไมละครับ??? เงินตั้งแสนล้านเอาไปพัฒนาอะไรได้ตั้งเยอะ ส่งเด็กเรียนฟรีให้จบมัธยม 6 ชมทุกคนสิครับ ประกันสุขภาพคนจนก็ทำให้ดีขึ้นสิครับ ไปอุ้มชูชาวนา และเกษตรกร กระดูกสันหลังของชาติสิครับ จะมาละเว้นภาษีให้คนชั้นกลางกับคนรวยทำไม ในเมื่อชนชั้นล่างยังต้องนั่งจ่ายภาษีแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย แถมราคาผลผลิตทางการเกษตรก็ยังถูกดต่ำจนไม่รู้จะต่ำยังไง!!! สรุปนโยบายนี้ไม่ได้ช่วยให้ประเทศเราเจริญขึ้นเลยครับ ถ้ามองจากข้อเสียซึ่งมีมากกว่าข้อดีแล้วหวังว่าคุณคงเข้าใจกระจ่างแจ้งมากขึ้นแล้วนะครับ ขอบคุณครับที่ถาม
สุดท้ายนี้บ้านผมจะมีรถกี่คันไม่ใช่ประเด็นครับ เอาเป็นว่าผมเป็นประชาชนชั้นกลางคนนึง ชึ่งเสียภาษีแบบถูกต้องและผมก็ภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ประชาชนคนหนึ่ง แต่ผมจะภูมิใจกว่านี้ถ้าเงินภาษีที่ผมจ่ายไปจะถูกนำไปใช้ประโยชน์ให้มากกว่านี้ ผมว่าพวกเราเพิกเฉยกับปัญหาเล่านี้มานานแล้วครับ ตื่นเถิดชาวไทย มาร่วมใจกันปฏิเสธอะไรที่ไม่ถูต้องเถอะครับ เพราะเสียงของพวกเราทุกคนคืออธิปไตยของเรา ก่อนจะเลือกใครหรืออะไรซักอย่างเราต้องศึกษาข้อมูลให้ดีครับ คนดีดูแค่เปลือกไม่ได้หรอกครับ
MThai News เนื้อหาแปลจาก โพสท์ทูเดย์
แท็ก : ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา, นโยบายรถคันแรก
ติดต่อทีมข่าว :
news@mthai.com ข่าวด่วนถึงมือคุณ MThai SMS News ทันทุกเหตุการณ์ ไม่พลาดทุกข่าวร้อน
สนใจรับข่าวกด *48259080066 แล้วโทรออก
เอาข่าวเล็ก ๆ มาฝาก
http://news.mthai.com/headline-news/208998.html
ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา จวกเละ! นโยบายรถคันแรกไร้ประโยชน์
ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา นักแสดงชื่อดัง ได้แสดงความเห็นเป็นภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ โครงการรถคันแรก นโยบายประชานิยมของรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในอินสตาแกรม ระบุว่า
ประเทศที่พัฒนาแล้ว นโยบายของรัฐบาลจะมุ่งเน้นในเรื่องของคุณภาพชีวิตประชากรภายในประเทศ เช่น การศึกษา, การสาธารณสุข และระบบโครงสร้างพื้นฐานอย่างระบบการคมนาคมสาธารณะ แต่ในประเทศกำลังพัฒนา รัฐบาลกลับมุ่งเน้นนโยบายในเรื่องของการยกระดับคุณภาพชีวิตส่วนบุคคล และธุรกิจของตัวเอง ประชาชนยังไร้การศึกษา, มัวเมา และถูกหลอกลวงกับสิ่งที่ฟังดูเหมือนจะเป็นนโยบายเพื่อประชาชน เช่น การยกเว้นภาษีให้กับรถคันแรก และก็มีเพียงประเทศกำลังพัฒนาประเทศเดียวในภูมิภาคนี้ที่ออกนโยบายบนความเชื่อผิดๆ นี้ ขอพระเจ้าโปรดคุ้มครองเราทุกคนด้วย!ตื่นได้แล้วประเทศไทย
นอกจากนี้ ณัฏฐ์ ยังได้โพสต์ข้อความอธิบายอย่างละเอียด ตอบโต้กับผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า
1.นโยบายนี้มุ่งเน้นให้โอกาสคนชั้นกลางตั้งตัวหรอครับ คุณเอาอะไรมาวัด? ผมถามหน่อยทำไมไม่มีการตรวจประวัติการเงินคนซื้อ รวมถึงฐานเงินเดือนให้ไปเลยล่ะ? ถ้าไม่งั้นใครที่ไม่เคยซื้อรถก็ซื้อได้สิครับ! แล้วมันจะแฟร์ตรงไหน?
2.ต่อเนื่องจากการที่ใครก็ได้สามารถซื้อรถได้ลดราคา ถ้าเป็นคันแรก ปี 2555 ปีนี้ปีเดียวมีรถออกมาวิ่งบนถนนกรุงเทพฯ มากขึ้นถึง 1 ล้านคันโดยประมาณ (จากสถิติยอดจอง) มากกว่าปีที่ไม่มีนโยบายนี้ถึง 4 เท่า (250,000 คัน) ผมไม่เถียงว่ามันเป็นกลไกตลาดให้อุสาหกรรมรถยนต์โตขึ้น แต่เม็ดเงินมันไปไหนละครับ มันก็ไหลออกอยู่ดี เพราะประเทศเราไม่มีแบรนด์รถยนต์ของเราเองอยู่ดี ส่วนเม็ดเงินที่เหลือก็เข้ากระเป๋าธุรกิจส่วนประกอบรถยนต์ภายในประเทศ..ซึ่งผมจะบอกอะไรให้นะ..มากกว่า 50% นำเข้าวัตถุดิบ เงินอีกส่วนก็สะพัดในตลาดแรงงาน
3. ในเมื่อไร้การควบคุมปริมาณรถที่ออกสู่ท้องถนนโดยไร้หลักการผลคืออะไรครับ? รถติดไงครับ รถติดมหาศาลแบบทุกช่วงเวลาของวัน ู้คุณขับรถรึเปล่า แต่ถ้าคุณเป็นคนนึงที่นั่งรถเมล์ (ซึ่งตอนเรียนผมก็เคยนั่งมาแล้วทั้ง ครีมแดง ขาวน้ำเงิน รถร่วม รถเล็ก ปอ.) มันร้อนและทรมานขึ้นขนาดไหนครับ? ถนนในกรุงเทพมีพอให้รถวิ่งหรอครับ?? ถ้าคุณดูประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่น เค้ามีกฏหมายควบคุมปริมาณรถในเมืองชัดเจนนั่นคือ ภาษี ครับ ภาษีในที่นี้เลือกเก็บครับ เก็บจากเฉพาะคนรวย คนที่มีเงินพอจะซื้อรถแพงๆ หรือรถนำเข้าจ่ายหนักหน่อย ส่วนคนซื้อรถญี่ปุ่นรักชาติเสียน้อยหน่อย แต่ภาษีและข้อบังคับที่ไม่ว่าจะจนจะรวยต้องจ่ายเหมือนกัน คือภาษีที่จอดครับ และถ้าคุณอยากซื้อรถแต่ไม่มีที่จอดก็ซื้อรถไม่ได้ครับต่อให้มีเงิน
4.ผมไม่เถียงเลยครับว่าใครๆ ก็อยากมีรถ เพราะอะไรครับ? เพราะอากาศบ้านเรามันร้อน มลภาวะเยอะ และที่สำคัญระบบขนส่งมวลชนมันห่วยครับ!!! ไม่นับรถไฟฟ้าและเอ็มอาร์ทีนะครับ เพราะประเทศพัฒนาแล้วเค้ามีมาเป็นสิบๆ ปีแล้วครับ ผมกำลังพูดถึงรถเมล์และรถไฟครับ คงไม่ต้องพูดมาก ถ้าคุณนั่งรถเมล์และรถไฟคุณจะรู้ว่ามันไม่มีการลงทุนพัฒนาเลย รถเก่า ซอมซ่อ ก่อมลภาวะ ควันดำ วิ่งเร็ว มารยาทในการขับ จอด เทียบป้าย เป็นไงละครับ ถ้าคุณเคยไปต่างประเทศคุณจะรู้ว่ารถเมล์บ้านเราซกมกสุดแล้วครับ มันเป็นรุ่นเก่าดึกดำบรรพ์มาก ต่างจากต่างประเทศที่เป็นแอร์หมด น่านั่งกว่าล้านเท่า ผมถามหน่อยครับ ทำไมไม่มีการลงทุนทำให้รถเมล์รถไฟน่านั่งขึ้น คนจะได้ใช้มากขึ้น จะได้มีรายได้มากขึ้นและไม่ต้องมาอ้างว่า ขาดทุนทุกปีและต้องให้รัฐอุ้ม ผมเห็นใจคนตาดำที่ยังต้องนั่งรถเมล์อยู่ครับ
5.จริงแล้วผมเห็นด้วยกับคนที่อยากจะซื้อรถคันแรกและจะได้ลดละภาษีเพื่อตั้งตัว แต่มันต้องมีการตรวจสอบประวัติการเงินและฐานเงินเดือนอย่างจริงจังครับ จะได้เป็นประโยชน์แก่ ผู้ได้รับ การเว้นภาษี รวมถึง ผู้ให้ เว้นภาษี คนมีเงินแล้วจะได้มาชุบมือเปิบกับนโยบายนี้ครับ จะว่าเลือกปฏิบัติก็ได้ เพราะคุณอย่าลืมว่าชนชั้นกลางบ้านเราไม่ได้มีเยอะนะครับ ชนชั้นรากหญ้าต่างหาก ที่มีมากที่สุด ถามว่า เค้ามีส่วนได้ส่วนเสียกับนโยบายนี้มั้ย คุณอาจจะมองว่าไม่ แต่ผมตอบเลยว่ามีเต็มๆ คุณรู้มั้ยปีนีรัฐบาลละเว้นภาษีรถ 1 ล้านคันโดยประมาณ ยังไม่รวมปีหน้านะ เป็นเงินทั้งสิ้น 1 แสนล้านบาท
ถามว่าทำไมไม่จ่ายคืนคนซื้อรถทันทีเลย คำตอบคือรัฐบาลไม่มีเงินครับ ต้องทยอยคืน ถามต่อ แล้วในเมื่อรัฐบาลไม่มีเงิน แถมยังเป็นหนี้อยู่ จะละเว้นภาษีสิ้นเปลืองนี้ทำไมละครับ??? เงินตั้งแสนล้านเอาไปพัฒนาอะไรได้ตั้งเยอะ ส่งเด็กเรียนฟรีให้จบมัธยม 6 ชมทุกคนสิครับ ประกันสุขภาพคนจนก็ทำให้ดีขึ้นสิครับ ไปอุ้มชูชาวนา และเกษตรกร กระดูกสันหลังของชาติสิครับ จะมาละเว้นภาษีให้คนชั้นกลางกับคนรวยทำไม ในเมื่อชนชั้นล่างยังต้องนั่งจ่ายภาษีแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย แถมราคาผลผลิตทางการเกษตรก็ยังถูกดต่ำจนไม่รู้จะต่ำยังไง!!! สรุปนโยบายนี้ไม่ได้ช่วยให้ประเทศเราเจริญขึ้นเลยครับ ถ้ามองจากข้อเสียซึ่งมีมากกว่าข้อดีแล้วหวังว่าคุณคงเข้าใจกระจ่างแจ้งมากขึ้นแล้วนะครับ ขอบคุณครับที่ถาม
สุดท้ายนี้บ้านผมจะมีรถกี่คันไม่ใช่ประเด็นครับ เอาเป็นว่าผมเป็นประชาชนชั้นกลางคนนึง ชึ่งเสียภาษีแบบถูกต้องและผมก็ภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ประชาชนคนหนึ่ง แต่ผมจะภูมิใจกว่านี้ถ้าเงินภาษีที่ผมจ่ายไปจะถูกนำไปใช้ประโยชน์ให้มากกว่านี้ ผมว่าพวกเราเพิกเฉยกับปัญหาเล่านี้มานานแล้วครับ ตื่นเถิดชาวไทย มาร่วมใจกันปฏิเสธอะไรที่ไม่ถูต้องเถอะครับ เพราะเสียงของพวกเราทุกคนคืออธิปไตยของเรา ก่อนจะเลือกใครหรืออะไรซักอย่างเราต้องศึกษาข้อมูลให้ดีครับ คนดีดูแค่เปลือกไม่ได้หรอกครับ
MThai News เนื้อหาแปลจาก โพสท์ทูเดย์
แท็ก : ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา, นโยบายรถคันแรก
ติดต่อทีมข่าว : news@mthai.com
ข่าวด่วนถึงมือคุณ MThai SMS News ทันทุกเหตุการณ์ ไม่พลาดทุกข่าวร้อน
สนใจรับข่าวกด *48259080066 แล้วโทรออก