ผมเป็นลูกชายคนโตครับ อายุ 34ปี...มีน้องชายกะน้องสาว อายุ27 กับ26ปี คุณแม่อายุ63ปี ทำธุรกิจ ส่วนคุณพ่ออายุ 65ปี รับราชการ
รายได้หลักของครอบครัวในช่วง10ปีที่ผ่านมา มาจาก คุณแม่ที่ประกอบธุรกิจ ประมาณ100,000-150,000/เดือน ส่วนพ่อของผม ท่านเกษียณแล้ว กินบำนาญเดือนละ 30,000 ใช่คนเดียวหมด ไม่มีเงินเก็บไม่มีสมบัติ คุณแม่เป็นคนรับผิดชอบค่ากินอยู่ของที่บ้านมาตลอด
ธุรกิจที่คุณแม่ทำ คือส่งออก ซึ่งดีถึงดีมากๆ ในช่วงปี2540-2545
แต่มาในช่วง10ปีหลัง คู่แข่งเยอะขึ้น ลูกค้าน้อยลง แม้จะพยายามปรับเปลี่ยนกลยุทธ แต่ก็สู้ค่าแรงคนจีนไม่ไหว....อีกทั้งช่วงหลัง ค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนไม่มีเงินจ่ายค่าแรงคนงาน จากเดิมคนงานเกือบร้อย ปัจจุบัน ลดขนาดบริษัท เหลือ ไม่ถึง20คน...
พื้นที่บริษัทเดิม เช่าเขาเอาเดือนละ80,000บาท แต่เนื่องจากเจ้าของต้องการใช้ที่ทำธุรกิจเอง...จึงต้องย้ายโรงงงานมาอยู่ที่บ้านซึ่งปัจจุบัน ผ่อนอยู่ เหลือเงินต้นอีก6.7ล้านบาท สัญญาผ่อน 35ปี เงินต้น 15,000 ดอก 39,700 รวมถึงตึกแถวใกล้บ้านบริษัทเช่าเป็นโกดังเก็บของ ราคา3.5ล้าน ผ่อนมาได้500,000 เหลือเงินต้นอีก3ล้าน ลูกๆช่วยกัน3คน ตกคนละ5000บาท บริษัทจ่ายค่าเช่า15,000
แม่ผมไม่เคยปริปากบอกหรือบ่น หรือขอความช่วยเหลือจากลูกๆเลย น้องทั้งสองคน คนึงจบ IT อีกคนนึงจบ สถาปัตย์ออกแบบผลิตภัณฑ์ หลังจากบริษัทต้องลดขนาดลง ก็มาช่วยงานที่บ้านตลอด กินเงินเดือน 25,000บาท ค่าใช้จ่ายอื่นเบิกบริษัทหมด
ตัวเจ้าของกระทู้เองเพิ่งเรียนต่อโทจบ รายได้ช่วงเรียนต่อเดือนละ2-30,000บาท จบมาก็เริ่มรับงานนู่นนี่ วิ่งไปวิ่งมา ทำงานสัปดาห์ละ7วัน รายได้ประจำ 40,000บาท part time 150,000 รวมเฉลี่ย 180,000-250,000/เดือน
มีเรื่องจะปรึกษาครับ เพราะปรึกษากันเองก็ทะเลาะกันทุกที ธุรกิจครอบครัว...ละเอียดอ่อนนะครับ ผมเอง ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้เลย เพราะบอกกับแม่ตลอดว่า เราจะไม่ยุ่งนะ เพราะเราคิดว่าผลประกอบการดี อีกทั้งคิดว่าถ้าตัวเราเองหาเงินไปอีกทาง ก็ยิ่งเพิ่มรายได้....แต่ความเป็นจริงในตอนนี้ บัญชีบริษัทติดตัวแดงมาตลอด ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมพึ่งจะมาค้นพบเมื่อ1เดือนที่ผ่านมานี้เอง
โดยจริงๆแล้วผมวางแผนประหยัดเงิน ตั้งใจจะออมให้ได้เดือนละ150,000
ส่วนค่าใช้จ่ายส่วนตัวคือ
ค่าน้ำมัน 15,000
ค่าอาหารใน+นอกบ้าน 8,000
เงินส่งให้แม่+น้อง 20,000บาท
ผ่อนรถและประกัน 5000บาท
รวม48,000/เดือน+- อีก10,000บาท
ทีนี้แผนเดิมคือ ลงทุนในกองทุนรวม ด้วยเหตุผลลดภาษีเป็นหลัก หุ้นไม่เคยเล่น แต่ปรึกษาเพื่อนๆที่รู้จักกันหลายท่าน แนะนำว่ามือยังใหม่ ตอนนี้setสูงแล้ว อย่าเล่นเลย...LTFมีmarginให้ขาดทุนได้30%(ฐานภาษี) ส่วนเงินส่วนที่เหลือ ฝากประจำกับลงทุนในตราสารหนี้
แต่พอจะลงทุนหรือซื้อประกันหรือตราสารหนี้....สิ่งที่ไม่สบายใจก็คือ....แล้วหนี้ผ่อนบ้านกับหนี้ผ่อนอาคารพาณิขย์ละ? เราจะปล่อยไว้เฉยๆหรือ....ผมเป็นลูกคนโตนะ????
ทีนี้ก็เลยสรุปประเด็นคร่าวๆมากถามเพื่อนๆพี่ๆนะครับคือ
1.เรื่องหนี้ผ่อนบ้านเนี่ย ควรทำอย่างไรดี เพราะแม่ตั้งใจให้ลูกทั้ง3คน มาปลูกเรือนหอและอยู่ด้วยกัน แต่ลูกๆก็อยากมีเงินเก็บไว้สร้างครอบครัวและลงทุน
2.บริษัทแม่ที่มีปัญหา บวกกับเศรษฐกิจในตอนนี้...ถึงเวลาจะต้องยอมแพ้หรือยัง?
3.น้องทั้งสองคนควรทำงานกับแม่ต่อหรือไม่ เพราะถ้ามองในเรื่องศักยภาพ ทั้ง2คนมีมาก ขยันและสู้งาน แต่ก็เป็นเงินเดือนของบริษัททที่ขาดทุนตลอด หนี้บริษัทก็เพิ่มเรื่อยๆ....ครั้นจะให้ออก ก็หาคนแทนยาก สงสารแม่มากๆ แต่ถ้าออกไปอยู่บริษัทอื่น เงินเดือนและประสบการณ์ก็น่าจะมากกว่านี้
4.ผมวางแผนจะแต่งงานมีครอบครัวปีหน้า เพราะอายุก็มากแล้ว แต่เงินสู่ขอ+เงินจัดงาน ผมตั้งใจจะเป็นคนออกทั้งหมด เพราะลำพังบริษัทแม่ก็แย่มากแล้ว จำนวนเงินก็ร่วม1ล้านบาท ไม่สบายใจครับ...เพราะเหมือนกับเราจะแต่งงานมีความสุข แต่แม่และน้องก็ทุกข์กับบริษัทที่ผลประกอบการแย่มากๆ และลำบากอย่างนี้.....
ผมควรทำอย่างไรดีครับ...
ผมควรทำอย่างไรดีครับ...
รายได้หลักของครอบครัวในช่วง10ปีที่ผ่านมา มาจาก คุณแม่ที่ประกอบธุรกิจ ประมาณ100,000-150,000/เดือน ส่วนพ่อของผม ท่านเกษียณแล้ว กินบำนาญเดือนละ 30,000 ใช่คนเดียวหมด ไม่มีเงินเก็บไม่มีสมบัติ คุณแม่เป็นคนรับผิดชอบค่ากินอยู่ของที่บ้านมาตลอด
ธุรกิจที่คุณแม่ทำ คือส่งออก ซึ่งดีถึงดีมากๆ ในช่วงปี2540-2545
แต่มาในช่วง10ปีหลัง คู่แข่งเยอะขึ้น ลูกค้าน้อยลง แม้จะพยายามปรับเปลี่ยนกลยุทธ แต่ก็สู้ค่าแรงคนจีนไม่ไหว....อีกทั้งช่วงหลัง ค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนไม่มีเงินจ่ายค่าแรงคนงาน จากเดิมคนงานเกือบร้อย ปัจจุบัน ลดขนาดบริษัท เหลือ ไม่ถึง20คน...
พื้นที่บริษัทเดิม เช่าเขาเอาเดือนละ80,000บาท แต่เนื่องจากเจ้าของต้องการใช้ที่ทำธุรกิจเอง...จึงต้องย้ายโรงงงานมาอยู่ที่บ้านซึ่งปัจจุบัน ผ่อนอยู่ เหลือเงินต้นอีก6.7ล้านบาท สัญญาผ่อน 35ปี เงินต้น 15,000 ดอก 39,700 รวมถึงตึกแถวใกล้บ้านบริษัทเช่าเป็นโกดังเก็บของ ราคา3.5ล้าน ผ่อนมาได้500,000 เหลือเงินต้นอีก3ล้าน ลูกๆช่วยกัน3คน ตกคนละ5000บาท บริษัทจ่ายค่าเช่า15,000
แม่ผมไม่เคยปริปากบอกหรือบ่น หรือขอความช่วยเหลือจากลูกๆเลย น้องทั้งสองคน คนึงจบ IT อีกคนนึงจบ สถาปัตย์ออกแบบผลิตภัณฑ์ หลังจากบริษัทต้องลดขนาดลง ก็มาช่วยงานที่บ้านตลอด กินเงินเดือน 25,000บาท ค่าใช้จ่ายอื่นเบิกบริษัทหมด
ตัวเจ้าของกระทู้เองเพิ่งเรียนต่อโทจบ รายได้ช่วงเรียนต่อเดือนละ2-30,000บาท จบมาก็เริ่มรับงานนู่นนี่ วิ่งไปวิ่งมา ทำงานสัปดาห์ละ7วัน รายได้ประจำ 40,000บาท part time 150,000 รวมเฉลี่ย 180,000-250,000/เดือน
มีเรื่องจะปรึกษาครับ เพราะปรึกษากันเองก็ทะเลาะกันทุกที ธุรกิจครอบครัว...ละเอียดอ่อนนะครับ ผมเอง ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้เลย เพราะบอกกับแม่ตลอดว่า เราจะไม่ยุ่งนะ เพราะเราคิดว่าผลประกอบการดี อีกทั้งคิดว่าถ้าตัวเราเองหาเงินไปอีกทาง ก็ยิ่งเพิ่มรายได้....แต่ความเป็นจริงในตอนนี้ บัญชีบริษัทติดตัวแดงมาตลอด ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมพึ่งจะมาค้นพบเมื่อ1เดือนที่ผ่านมานี้เอง
โดยจริงๆแล้วผมวางแผนประหยัดเงิน ตั้งใจจะออมให้ได้เดือนละ150,000
ส่วนค่าใช้จ่ายส่วนตัวคือ
ค่าน้ำมัน 15,000
ค่าอาหารใน+นอกบ้าน 8,000
เงินส่งให้แม่+น้อง 20,000บาท
ผ่อนรถและประกัน 5000บาท
รวม48,000/เดือน+- อีก10,000บาท
ทีนี้แผนเดิมคือ ลงทุนในกองทุนรวม ด้วยเหตุผลลดภาษีเป็นหลัก หุ้นไม่เคยเล่น แต่ปรึกษาเพื่อนๆที่รู้จักกันหลายท่าน แนะนำว่ามือยังใหม่ ตอนนี้setสูงแล้ว อย่าเล่นเลย...LTFมีmarginให้ขาดทุนได้30%(ฐานภาษี) ส่วนเงินส่วนที่เหลือ ฝากประจำกับลงทุนในตราสารหนี้
แต่พอจะลงทุนหรือซื้อประกันหรือตราสารหนี้....สิ่งที่ไม่สบายใจก็คือ....แล้วหนี้ผ่อนบ้านกับหนี้ผ่อนอาคารพาณิขย์ละ? เราจะปล่อยไว้เฉยๆหรือ....ผมเป็นลูกคนโตนะ????
ทีนี้ก็เลยสรุปประเด็นคร่าวๆมากถามเพื่อนๆพี่ๆนะครับคือ
1.เรื่องหนี้ผ่อนบ้านเนี่ย ควรทำอย่างไรดี เพราะแม่ตั้งใจให้ลูกทั้ง3คน มาปลูกเรือนหอและอยู่ด้วยกัน แต่ลูกๆก็อยากมีเงินเก็บไว้สร้างครอบครัวและลงทุน
2.บริษัทแม่ที่มีปัญหา บวกกับเศรษฐกิจในตอนนี้...ถึงเวลาจะต้องยอมแพ้หรือยัง?
3.น้องทั้งสองคนควรทำงานกับแม่ต่อหรือไม่ เพราะถ้ามองในเรื่องศักยภาพ ทั้ง2คนมีมาก ขยันและสู้งาน แต่ก็เป็นเงินเดือนของบริษัททที่ขาดทุนตลอด หนี้บริษัทก็เพิ่มเรื่อยๆ....ครั้นจะให้ออก ก็หาคนแทนยาก สงสารแม่มากๆ แต่ถ้าออกไปอยู่บริษัทอื่น เงินเดือนและประสบการณ์ก็น่าจะมากกว่านี้
4.ผมวางแผนจะแต่งงานมีครอบครัวปีหน้า เพราะอายุก็มากแล้ว แต่เงินสู่ขอ+เงินจัดงาน ผมตั้งใจจะเป็นคนออกทั้งหมด เพราะลำพังบริษัทแม่ก็แย่มากแล้ว จำนวนเงินก็ร่วม1ล้านบาท ไม่สบายใจครับ...เพราะเหมือนกับเราจะแต่งงานมีความสุข แต่แม่และน้องก็ทุกข์กับบริษัทที่ผลประกอบการแย่มากๆ และลำบากอย่างนี้.....
ผมควรทำอย่างไรดีครับ...