คลังสั่งเข้ม สรรพากรเดินเครื่องรีดภาษีผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ และบริษัทประกันภัยเต็มอัตราศึก คาดหนุนเก็บรายได้เพิ่มจากนโยบายรถคันแรก โตโยต้าโล่ง!! สรรพสามิตไฟเขียว นิววีออส ได้สิทธิ
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ด้านการจัดเก็บรายได้ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมสรรพากรเดินหน้าเก็บภาษีกับผู้ประกอบการรถยนต์ รวมถึงผู้ประกอบการชิ้นส่วนรถยนต์ทั้งหมด และบริษัทประกันภัยรถยนต์ เนื่องจากคาดว่าจะมีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมากจากนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลที่ยอดการใช้สิทธิสูงถึงเกือบ 1 ล้านคัน จากที่ประเมินไว้จะมีผู้มาใช้สิทธิ 8 แสนคันเท่านั้น
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมรถยนต์มีผู้ประกอบการชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก เมื่อการผลิตรถยนต์ขยายตัวอย่างก้าวกระโดด ทำให้บริษัทที่เกี่ยวข้องมีรายได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย จึงได้ขอให้กรมสรรพากรเร่งเข้าไปประเมินการจัดเก็บภาษีผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้เป็นพิเศษ
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการประกันภัยรถยนต์ ก็ได้รับประโยชน์จากนโยบายรถคันแรกด้วย เพราะส่วนใหญ่เป็นการซื้อเงินผ่อน และต้องทำประกันภัยชั้น 1 ทำให้บริษัทประกันจะมีรายได้และกำไรต้องเสียภาษีมากขึ้นเช่นกัน
การคืนเงินให้กับผู้ซื้อในโครงการรถคันแรกไม่มีปัญหา ทุกคนที่ใช้สิทธิจะได้เงินคืนตามกำหนดเอนไขที่กำหนดไว้ ซึ่งรัฐบาลจะต้องจัดสรรเงินงบประมาณคืนให้กับผู้ซื้อรถทั้งหมดตามนโยบายที่ประกาศไว้ นายรังสรรค์กล่าว
นายรังสรรค์กล่าวอีกว่า หากมีผู้ใช้สิทธิรถคันแรกถึง 1 ล้านคัน รัฐบาลจะต้องใช้เงินคืนประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเงินที่ต้องจ่ายคืนน้อยกว่าที่รัฐบาลเก็บภาษีได้ เพราะการคืนเงินให้กับผู้ซื้อรถเฉพาะในส่วนของภาษีสรรพสามิตไม่เกิน 1 แสนบาทเท่านั้น แต่รัฐบาลยังมีภาษีที่เก็บได้จากส่วนอื่น ไม่ว่าจะเป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีนิติบุคคล ที่เก็บได้เพิ่มขึ้น
"นโยบายรถคันแรก รัฐบาลไม่ขาดทุนแต่มีกำไร ซึ่งหลังปิดการใช้สิทธิ จะให้ทุกกรมภาษีเร่งประเมินภาษีที่เก็บได้เพิ่มขึ้นจากนโยบายรถคันแรก เพื่อรายงานให้ฝ่ายนโยบายทราบต่อไปว่า นโยบายนี้เดินมาถูกทางหรือไม่" นายรังสรรค์กล่าว
รายงานข่าวกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณี บริษัท โตโยต้า ว่า ปัจจุบันรถยนต์โตโยต้ารุ่นวีออสโฉมใหม่ หรือโมเดลเชนจ์ ถือว่าได้สิทธิคืนเงินในโครงการรถยนต์คันแรก เนื่องจากได้เสียภาษีสรรพสามิต และมีไลน์การผลิตแล้วประมาณ 70 คัน ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ว่าต้องผลิตและจำหน่ายภายในปีนี้ อย่างไรก็ดี กรมสรรพสามิตได้ประกาศข้อมูลยอดเงินสนับสนุนผ่านเว็บไซต์ เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า รถยนต์รุ่นดังกล่าวจะได้รับเงินคืนภาษีอยู่ที่ 100,000 บาท
&sp; สำหรับสิทธิของรถยนต์ดังกล่าว ถือว่าได้ทำตามกฎหมายและข้อเงื่อนไขที่ตั้งไว้ เพราะก่อนที่จะเริ่มโครงการได้แจ้งกับสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และบริษัทค่ายรถยนต์ทั้ง 13 ค่าย ให้แข่งขันบนเวทีเดียวกัน ที่จะต้องเสียภาษีสรรพสามิตและเปิดไลน์การผลิตในปี 2555 นี้ โดยขึ้นอยู่ว่าบริษัทใดสามารถทำได้ทันหรือไม่ เพราะการที่จะเปิดไลน์การผลิตใหม่ ทางบริษัทก็ต้องหยุดไลน์ผลิตเดิมด้วย รายงานข่าวระบุ
นอกจากนี้ กฎหมายของกรมสรรพสามิตไม่ได้เป็นช่องว่างที่จะให้บริษัทรถยนต์ใดได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะทุกค่ายสามารถแข่งขันตามกรอบที่แจ้งไว้ และบริษัท โตโยต้า สามารถผลิตรถยนต์ดังกล่าวไม่ใช่เป็นแค่รถยนต์ต้นแบบ แต่ทำได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดที่เริ่มลงไลน์ผลิตอย่างต่อเนื่อง จึงสามารถเปิดขายและจองได้ รวมทั้งยังมีเวลาเหลืออยู่อีก 15 วัน ก่อนที่จะสิ้นสุดโครงการรถคันแรกอีกด้วย.
http://thaipost.net/news/181212/66779
คลังจี้รีดภาษีธุรกิจโยงรถคันแรก ผลิตชิ้นส่วน-ประกันโดน 'นิววีออส'เฮได้รับสิทธิ์
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ด้านการจัดเก็บรายได้ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมสรรพากรเดินหน้าเก็บภาษีกับผู้ประกอบการรถยนต์ รวมถึงผู้ประกอบการชิ้นส่วนรถยนต์ทั้งหมด และบริษัทประกันภัยรถยนต์ เนื่องจากคาดว่าจะมีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมากจากนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลที่ยอดการใช้สิทธิสูงถึงเกือบ 1 ล้านคัน จากที่ประเมินไว้จะมีผู้มาใช้สิทธิ 8 แสนคันเท่านั้น
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมรถยนต์มีผู้ประกอบการชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก เมื่อการผลิตรถยนต์ขยายตัวอย่างก้าวกระโดด ทำให้บริษัทที่เกี่ยวข้องมีรายได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย จึงได้ขอให้กรมสรรพากรเร่งเข้าไปประเมินการจัดเก็บภาษีผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้เป็นพิเศษ
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการประกันภัยรถยนต์ ก็ได้รับประโยชน์จากนโยบายรถคันแรกด้วย เพราะส่วนใหญ่เป็นการซื้อเงินผ่อน และต้องทำประกันภัยชั้น 1 ทำให้บริษัทประกันจะมีรายได้และกำไรต้องเสียภาษีมากขึ้นเช่นกัน
การคืนเงินให้กับผู้ซื้อในโครงการรถคันแรกไม่มีปัญหา ทุกคนที่ใช้สิทธิจะได้เงินคืนตามกำหนดเอนไขที่กำหนดไว้ ซึ่งรัฐบาลจะต้องจัดสรรเงินงบประมาณคืนให้กับผู้ซื้อรถทั้งหมดตามนโยบายที่ประกาศไว้ นายรังสรรค์กล่าว
นายรังสรรค์กล่าวอีกว่า หากมีผู้ใช้สิทธิรถคันแรกถึง 1 ล้านคัน รัฐบาลจะต้องใช้เงินคืนประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเงินที่ต้องจ่ายคืนน้อยกว่าที่รัฐบาลเก็บภาษีได้ เพราะการคืนเงินให้กับผู้ซื้อรถเฉพาะในส่วนของภาษีสรรพสามิตไม่เกิน 1 แสนบาทเท่านั้น แต่รัฐบาลยังมีภาษีที่เก็บได้จากส่วนอื่น ไม่ว่าจะเป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีนิติบุคคล ที่เก็บได้เพิ่มขึ้น
"นโยบายรถคันแรก รัฐบาลไม่ขาดทุนแต่มีกำไร ซึ่งหลังปิดการใช้สิทธิ จะให้ทุกกรมภาษีเร่งประเมินภาษีที่เก็บได้เพิ่มขึ้นจากนโยบายรถคันแรก เพื่อรายงานให้ฝ่ายนโยบายทราบต่อไปว่า นโยบายนี้เดินมาถูกทางหรือไม่" นายรังสรรค์กล่าว
รายงานข่าวกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณี บริษัท โตโยต้า ว่า ปัจจุบันรถยนต์โตโยต้ารุ่นวีออสโฉมใหม่ หรือโมเดลเชนจ์ ถือว่าได้สิทธิคืนเงินในโครงการรถยนต์คันแรก เนื่องจากได้เสียภาษีสรรพสามิต และมีไลน์การผลิตแล้วประมาณ 70 คัน ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ว่าต้องผลิตและจำหน่ายภายในปีนี้ อย่างไรก็ดี กรมสรรพสามิตได้ประกาศข้อมูลยอดเงินสนับสนุนผ่านเว็บไซต์ เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า รถยนต์รุ่นดังกล่าวจะได้รับเงินคืนภาษีอยู่ที่ 100,000 บาท
&sp; สำหรับสิทธิของรถยนต์ดังกล่าว ถือว่าได้ทำตามกฎหมายและข้อเงื่อนไขที่ตั้งไว้ เพราะก่อนที่จะเริ่มโครงการได้แจ้งกับสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และบริษัทค่ายรถยนต์ทั้ง 13 ค่าย ให้แข่งขันบนเวทีเดียวกัน ที่จะต้องเสียภาษีสรรพสามิตและเปิดไลน์การผลิตในปี 2555 นี้ โดยขึ้นอยู่ว่าบริษัทใดสามารถทำได้ทันหรือไม่ เพราะการที่จะเปิดไลน์การผลิตใหม่ ทางบริษัทก็ต้องหยุดไลน์ผลิตเดิมด้วย รายงานข่าวระบุ
นอกจากนี้ กฎหมายของกรมสรรพสามิตไม่ได้เป็นช่องว่างที่จะให้บริษัทรถยนต์ใดได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะทุกค่ายสามารถแข่งขันตามกรอบที่แจ้งไว้ และบริษัท โตโยต้า สามารถผลิตรถยนต์ดังกล่าวไม่ใช่เป็นแค่รถยนต์ต้นแบบ แต่ทำได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดที่เริ่มลงไลน์ผลิตอย่างต่อเนื่อง จึงสามารถเปิดขายและจองได้ รวมทั้งยังมีเวลาเหลืออยู่อีก 15 วัน ก่อนที่จะสิ้นสุดโครงการรถคันแรกอีกด้วย.
http://thaipost.net/news/181212/66779