Ciao Svizzera!
Hello Switzerland!
ตอนสองของการเดินทางครั้งนี้ เราจะเริ่มต้นที่สวิสเซอร์แลนด์ดินแดนในฝัน
ติดตามตอนอื่นของ ไปให้ไกล ไปให้นาน กันได้นะคะ
ตอนที่ 1 ทะเลสาบโคโม (Lake Como) - ระเบียงอิตาลี (Balcony of Italy):
http://ppantip.com/topic/34051845
ตอนที่ 2 ก้าวแรกสู่สวิสเซอร์แลนด์ สายน้ำมรกต (Verzasca River) – หมู่บ้านกลางหุบเขา Grindelwald:
http://ppantip.com/topic/34064577
ตอนที่ 3 สบตา Jungfrau:
http://ppantip.com/topic/34389450
เวลาราวชั่วโมงครึ่งพาเราข้ามแดนจาก Menaggio ไปถึง
Valle Verzasca ในสวิสเซอร์แลนด์
ที่นี่เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่มีแม่น้ำเขียวมรกตไหลผ่านโขดหินมันวาว
เช้านี้ที่สวิสเซอร์แลนด์สดชื่นและสดใส ไม่มีรถรามากนักบนถนนแถบนี้
เราเดินเล่นชมหมู่บ้าน ก่อนจะข้าม
Ponte dei Salti (ฺBridge of Jumps) สะพานหินโค้ง เพื่อลงไปใกล้แม่น้ำยิ่งขึ้น
พื้นน้ำสีเขียวใสนั้นดูสงบนิ่ง แต่ลึกเร้นน่าค้นหา
ถึงขนาดต้องมีป้ายติดเตือนว่า "This river's beauty hides its danger"
คงกลัวว่าใครหลายคนจะหลงในความระยิบระยับของพื้นน้ำจนเผลอกระโดดลงไป
แต่ดูจากความลึกที่คาดคะเนไม่ได้ บวกกับอุณภูมิน้อยองศา ณ ตอนนั้น คงไม่มีใครคิดจะโดดลงไปแน่นอนค่ะ
ก่อนเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป เราแวะชมเขื่อน
Verzasca Dam
ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำฉากกระโดดบันจี้จัมพ์ใน James Bond ภาค Goldeneye
น่าเสียดายที่วันนั้นปิดให้บริการ ไม่เช่นนั้นอาจจะเผลอใจลองโดดดูสักครั้งในชีวิต
(007 Bungy Jump เปิดให้บริการเฉพาะช่วงบ่ายวันเสาร์-อาทิตย์
ตั้งแต่เมษายน-ตุลาคม ค่าบริการ 195-255 CHF ต่อครั้ง)
ถ้าใครได้ไปตอนที่เปิด ลองจัมพ์เผื่อดูซักทีนะคะ บอกลูกโม้หลานได้อีกนานเลยล่ะ
หลังจากนั้น ช่วงเวลาบนรถที่ยาวนานก็พาเราไปสู่หมู่บ้าน
Grindelwald ในเขต
Jungfrau Region
เป็นหมู่บ้านเล็กๆกลางหุบเขาที่มีสเน่ห์แบบเรียบง่าย ตึกอาคารดูทันสมัยแบบกะทัดรัด
สีสันสดใสตัดกับฉากหลังที่เป็นท้องฟ้าและภูเขา ดูเป็นความเข้ากันอย่างบอกไม่ถูกของธรรมชาติกับน้ำมือมนุษย์ค่ะ
เราแวะกินมื้อกลางวันแบบง่ายๆ จัดการซื้อตั๋วสำหรับขึ้น cable car
และตระเตรียมของเป็นเสบียงสำหรับขึ้นไปบนเขา
Schwarzhorn
เราเลือกซื้อตั๋วแบบเที่ยวเดียวเพื่อนั่ง cable car ไปลงที่สถานี
Bort
แล้วเดินกลับมาที่
Grindelwald (ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร) ค่ะ
เมื่อขึ้นสู่ด้านบน อากาศและลมบนที่สูงพาเอาความหนาวมาเจอกันแบบไม่ทันตั้งตัวเลยทีเดียว
แสงแดดยามบ่ายพอจะช่วยให้อุ่นขึ้นได้มาก แต่ที่อบอุ่นใจที่สุด คงจะเป็นเค้กวันเกิดก้อนน้อยๆ ที่เพื่อนๆ เตรียมไว้ให้
วันนั้น.. เป็นวันคล้ายวันเกิดของเรา เพื่อนเลยอุตส่าห์หอบเค้กขึ้นไปให้ไปเป่าบนเขา เป็นเซอร์ไพรส์ที่น่ารักมากๆ
เราเดินทางห่างจากบ้านมาไกล เค้กก้อนนี้จึงเป็นเสมือนอ้อมกอดอันอบอุ่นของเพื่อนร่วมทางในวันสำคัญสำหรับเรา
(ถ้าไม่นับลมบนเขาที่ช่วยเป่าเทียนอยู่ตลอดเวลา คาดว่าจะต้องเป็นฉากที่ซึ้งน้ำตาไหลของทริปเลยล่ะ)
หลังจากฉลองกันพอเป็นพิธี เราก็ค่อยๆเดินลงมา(ไม่)ตามทาง ใช่.. เราเลือกเส้นทางลัดเลาะแทนเส้นทางหลัก
ด้วยความเชื่อที่ว่าเส้นทางอาจจะสั้นกว่า หรืออาจจะเจอบางอย่างที่น่าสนใจมากกว่า
แม้ความเชื่อของเราจะไม่ถูกนัก แต่เราก็เพลิดเพลินไปกับบทสนทนา การถ่ายรูป และกิจกรรมสันทนาการ
ที่เราช่วยกันคิดเรียกเสียงหัวเราะกันได้ตลอดเส้นทางอย่างกับว่ามีเรี่ยวแรงกันไม่รู้หมด
เราใช้เวลาเกินหนึ่งชั่วโมง (ซึ่งหนึ่งชั่วโมงเนี่ยคงพอแล้วสำหรับคนอื่น) เพื่อมาถึงปลายทาง
หลังการเดินเท้าอันยาวนาน เราก็เข้าที่พัก
Valley Hostel ซึ่งนับเป็นประสบการณ์การพัก Hostel ครั้งแรกของเรา
ห้องแม้จะมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่เตียงสองชั้นสำหรับสี่คนก็ทำให้เหลือพื้นที่สำหรับวางของและนั่งเล่นได้แบบไม่อึดอัด
ห้องน้ำสะอาด แบ่งสัดส่วนเป็นห้องอาบน้ำและห้องส้วมอย่างชัดเจน
มีห้องอาหารและห้องครัวกว้างขวางพอที่จะรองรับผู้มาเยือน
รู้สึกอุ่นและปลอดภัยไม่น้อยไปกว่าการพักที่โรงแรมหรืออพาร์ทเมนท์เลย
วันที่สองนี้เราใช้เวลาค่อนข้างนานกับการอยู่บนรถ
ใครเลือกจะขับตามเส้นทางนี้ อย่าลืมหาเพลย์ลิสต์ดีๆไปเปิดฟังระหว่างทางด้วยนะคะ จะอินมากกก
อดใจรอสักพักนะคะ ครั้งหน้า.. จะพาไปสบตากับ Jungfrau ในตอนที่ 3 ค่ะ
Special Thx: รูปบางส่วนและคลิปนี้จากพี่เอื้อ.. เพื่อนร่วมทางที่แสนดี๊แสนดี
ไว้จะมาแนะนำแต่ละคนให้รู้จักนะคะ
--------------------------
FB:
https://www.facebook.com/ggonjourney
IG: ggonjourney
[CR] ไปให้ไกล ไปให้นาน (ตอนที่ 2): ก้าวแรกสู่สวิสเซอร์แลนด์ดินแดนในฝัน นั่งชิวริมสายน้ำมรกต ก่อนขึ้นรถไปเดินเล่น Grindelwald
Hello Switzerland!
ตอนสองของการเดินทางครั้งนี้ เราจะเริ่มต้นที่สวิสเซอร์แลนด์ดินแดนในฝัน
ติดตามตอนอื่นของ ไปให้ไกล ไปให้นาน กันได้นะคะ
ตอนที่ 1 ทะเลสาบโคโม (Lake Como) - ระเบียงอิตาลี (Balcony of Italy): http://ppantip.com/topic/34051845
ตอนที่ 2 ก้าวแรกสู่สวิสเซอร์แลนด์ สายน้ำมรกต (Verzasca River) – หมู่บ้านกลางหุบเขา Grindelwald: http://ppantip.com/topic/34064577
ตอนที่ 3 สบตา Jungfrau: http://ppantip.com/topic/34389450
เวลาราวชั่วโมงครึ่งพาเราข้ามแดนจาก Menaggio ไปถึง Valle Verzasca ในสวิสเซอร์แลนด์
ที่นี่เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่มีแม่น้ำเขียวมรกตไหลผ่านโขดหินมันวาว
เช้านี้ที่สวิสเซอร์แลนด์สดชื่นและสดใส ไม่มีรถรามากนักบนถนนแถบนี้
เราเดินเล่นชมหมู่บ้าน ก่อนจะข้าม Ponte dei Salti (ฺBridge of Jumps) สะพานหินโค้ง เพื่อลงไปใกล้แม่น้ำยิ่งขึ้น
พื้นน้ำสีเขียวใสนั้นดูสงบนิ่ง แต่ลึกเร้นน่าค้นหา
ถึงขนาดต้องมีป้ายติดเตือนว่า "This river's beauty hides its danger"
คงกลัวว่าใครหลายคนจะหลงในความระยิบระยับของพื้นน้ำจนเผลอกระโดดลงไป
แต่ดูจากความลึกที่คาดคะเนไม่ได้ บวกกับอุณภูมิน้อยองศา ณ ตอนนั้น คงไม่มีใครคิดจะโดดลงไปแน่นอนค่ะ
ก่อนเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป เราแวะชมเขื่อน Verzasca Dam
ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำฉากกระโดดบันจี้จัมพ์ใน James Bond ภาค Goldeneye
น่าเสียดายที่วันนั้นปิดให้บริการ ไม่เช่นนั้นอาจจะเผลอใจลองโดดดูสักครั้งในชีวิต
(007 Bungy Jump เปิดให้บริการเฉพาะช่วงบ่ายวันเสาร์-อาทิตย์
ตั้งแต่เมษายน-ตุลาคม ค่าบริการ 195-255 CHF ต่อครั้ง)
ถ้าใครได้ไปตอนที่เปิด ลองจัมพ์เผื่อดูซักทีนะคะ บอกลูกโม้หลานได้อีกนานเลยล่ะ
หลังจากนั้น ช่วงเวลาบนรถที่ยาวนานก็พาเราไปสู่หมู่บ้าน Grindelwald ในเขต Jungfrau Region
เป็นหมู่บ้านเล็กๆกลางหุบเขาที่มีสเน่ห์แบบเรียบง่าย ตึกอาคารดูทันสมัยแบบกะทัดรัด
สีสันสดใสตัดกับฉากหลังที่เป็นท้องฟ้าและภูเขา ดูเป็นความเข้ากันอย่างบอกไม่ถูกของธรรมชาติกับน้ำมือมนุษย์ค่ะ
เราแวะกินมื้อกลางวันแบบง่ายๆ จัดการซื้อตั๋วสำหรับขึ้น cable car
และตระเตรียมของเป็นเสบียงสำหรับขึ้นไปบนเขา Schwarzhorn
เราเลือกซื้อตั๋วแบบเที่ยวเดียวเพื่อนั่ง cable car ไปลงที่สถานี Bort
แล้วเดินกลับมาที่ Grindelwald (ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร) ค่ะ
เมื่อขึ้นสู่ด้านบน อากาศและลมบนที่สูงพาเอาความหนาวมาเจอกันแบบไม่ทันตั้งตัวเลยทีเดียว
แสงแดดยามบ่ายพอจะช่วยให้อุ่นขึ้นได้มาก แต่ที่อบอุ่นใจที่สุด คงจะเป็นเค้กวันเกิดก้อนน้อยๆ ที่เพื่อนๆ เตรียมไว้ให้
วันนั้น.. เป็นวันคล้ายวันเกิดของเรา เพื่อนเลยอุตส่าห์หอบเค้กขึ้นไปให้ไปเป่าบนเขา เป็นเซอร์ไพรส์ที่น่ารักมากๆ
เราเดินทางห่างจากบ้านมาไกล เค้กก้อนนี้จึงเป็นเสมือนอ้อมกอดอันอบอุ่นของเพื่อนร่วมทางในวันสำคัญสำหรับเรา
(ถ้าไม่นับลมบนเขาที่ช่วยเป่าเทียนอยู่ตลอดเวลา คาดว่าจะต้องเป็นฉากที่ซึ้งน้ำตาไหลของทริปเลยล่ะ)
หลังจากฉลองกันพอเป็นพิธี เราก็ค่อยๆเดินลงมา(ไม่)ตามทาง ใช่.. เราเลือกเส้นทางลัดเลาะแทนเส้นทางหลัก
ด้วยความเชื่อที่ว่าเส้นทางอาจจะสั้นกว่า หรืออาจจะเจอบางอย่างที่น่าสนใจมากกว่า
แม้ความเชื่อของเราจะไม่ถูกนัก แต่เราก็เพลิดเพลินไปกับบทสนทนา การถ่ายรูป และกิจกรรมสันทนาการ
ที่เราช่วยกันคิดเรียกเสียงหัวเราะกันได้ตลอดเส้นทางอย่างกับว่ามีเรี่ยวแรงกันไม่รู้หมด
เราใช้เวลาเกินหนึ่งชั่วโมง (ซึ่งหนึ่งชั่วโมงเนี่ยคงพอแล้วสำหรับคนอื่น) เพื่อมาถึงปลายทาง
หลังการเดินเท้าอันยาวนาน เราก็เข้าที่พัก Valley Hostel ซึ่งนับเป็นประสบการณ์การพัก Hostel ครั้งแรกของเรา
ห้องแม้จะมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่เตียงสองชั้นสำหรับสี่คนก็ทำให้เหลือพื้นที่สำหรับวางของและนั่งเล่นได้แบบไม่อึดอัด
ห้องน้ำสะอาด แบ่งสัดส่วนเป็นห้องอาบน้ำและห้องส้วมอย่างชัดเจน
มีห้องอาหารและห้องครัวกว้างขวางพอที่จะรองรับผู้มาเยือน
รู้สึกอุ่นและปลอดภัยไม่น้อยไปกว่าการพักที่โรงแรมหรืออพาร์ทเมนท์เลย
วันที่สองนี้เราใช้เวลาค่อนข้างนานกับการอยู่บนรถ
ใครเลือกจะขับตามเส้นทางนี้ อย่าลืมหาเพลย์ลิสต์ดีๆไปเปิดฟังระหว่างทางด้วยนะคะ จะอินมากกก
อดใจรอสักพักนะคะ ครั้งหน้า.. จะพาไปสบตากับ Jungfrau ในตอนที่ 3 ค่ะ
Special Thx: รูปบางส่วนและคลิปนี้จากพี่เอื้อ.. เพื่อนร่วมทางที่แสนดี๊แสนดี
ไว้จะมาแนะนำแต่ละคนให้รู้จักนะคะ
--------------------------
FB: https://www.facebook.com/ggonjourney
IG: ggonjourney