7 หุ้น อาณาจักร 'อัศวโภคิน' เป็นผู้ก่อตั้งและขับเคลื่อน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญมาต่อเนื่องหลายสิบปี ไตรมาส 1/68 ฟันกำไร 4.5 พันล้านบาท

หากพูดถึงกลุ่มตระกูลนักธุรกิจระดับประเทศ ชื่อของ "อัศวโภคิน" ถือเป็นอีกหนึ่งตระกูลที่โดดเด่นอย่างมากในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย เป็นแลนด์ลอร์ดเบอร์ต้น ๆ ของประเทศไทย และ โดย "อัศวโภคิน" เป็นผู้ก่อตั้งและขับเคลื่อน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญมาต่อเนื่องหลายสิบปี และต่อยอดขยายอาณาจักรออกไปสู่ธุรกิจอื่น ๆ เช่น ศูนย์สุขภาพ โรงแรม และกองทุนอสังหาฯ  มึมูลค่าทรัพย์สินรวม ๆ แล้วนับหมื่นล้านบาท ทั้งนี้ "กรุงเทพธุกิจ" พาไปเปิดผลงาน 7 หุ้น ไตรมาส 1/68 รวมกำไร 4,482.72 ล้านบาท

1.บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO 

วีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ

มาร์เก็ตแคป 100,606.66 ล้านบาท

กำไรไตรมาส 1/68 ที่ 1,707.38 ล้านบาท ลดลง 0.32% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,712.84 ล้านบาท

รายได้ไตรมาส 1/68 ที่ 18,660.11 ล้านบาท ลดลง 0.72% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 18,795.54 ล้านบาท

ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี -18.62%

เงินปันผล YTD 5.64%

ราคาปิด 7.65 บาท

บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน  3,975,878,432 หุ้น สัดส่วน 30.23%

บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)  ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 จำนวน  2,613,023,098 หุ้น สัดส่วน 19.87%

บล.เอเชีย พลัส ระบุว่า HMPRO คาดแนวโน้มกำไรในไตรมาส 2/68 มีโอกาสหดตัวทั้ง QoQ และ YoY จากปัจจัยฤดูกาล และ SSSG ที่หดตัว ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรปี 2568 ที่ 6.6 พันล้านบาท +2%YoY และคงราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 9.10 บาท อิงระดับ PER ที่ 18.0 เท่า คงคำแนะนำ “Neutral” แม้ยังขาดปัจจัยบวกระยะสั้น แต่ยังคาดหวังปันผลที่จูงใจสำหรับปี 2568 – 2569 ราว 5.1% -5.2% และมี upside จากการตัดหุ้นซื้อคืน ไม่เกิน 6% ของหุ้นที่มีอยู่หลังจาก 3 เดือนนับจากการซื้อหุ้นคืนเสร็จสิ้น โดยมีกำหนดจะซื้อหุ้นคืนจบภายใน 30 ก.ย.2568

ทั้งนี้ คาดยังไม่มีจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะเข้ามาช่วงหนุนกำลังซื้อในปีนี้ พร้อมปรับกลยุทธ์ธุรกิจ โดยเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพ และประหยัดค่าใช้จ่าย ส่วนแผนการขยายสาขา จะเปลี่ยนเป็นโมเดลผสมมากขึ้น สาขาที่มีทั้ง Homepro และ Mega Home ในสาขาเดียว พื่อดึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายขึ้น และลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร โดยเป้าหมาย

ปี 2568 จะมีการเปิดสาขาใหม่ 11 สาขาเป็นแบบผสม 7 สาขา และ Mega Home 4 สาขา

2.บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH 

วิทย์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ

มาร์เก็ตแคป 47,798.85 ล้านบาท

กำไรไตรมาส 1/68 ที่ 837.40 ล้านบาท ลดลง 31.98% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,231.02 ล้านบาท

รายได้ไตรมาส 1/68 ที่ 4,896.51 ล้านบาท ลดลง 29.33% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6,928.63 ล้านบาท

ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี -20.79%

เงินปันผล YTD 8.00%

ราคาปิด 4.00 บาท

นาย อนันต์ อัศวโภคิน  ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน  2,894,883,427 หุ้น สัดส่วน 24.23%

บริษัท เมย์แลนด์ จำกัด ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 จำนวน  677,000,069 หุ้น สัดส่วน 5.67%

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2/68 บริษัทฯ มีการขายสินทรัพย์ในสหรัฐฯ อพาร์ทเม้นท์ Parc at Pruneyard และ Revere เมือง Campbell รัฐแคลิฟอร์เนีย มูลค่าราว 7.9 พันล้านบาท และจะบันทึกกำไรพิเศษจากธุรกรรมดังกล่าวราว 560 ล้านบาท หลังหักภาษี 

ทั้งนี้ คงประมาณการปีนี้คาดกำไรปกติที่ 3.9 พันล้านบาท -4%YoY ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่กำลังซื้ออ่อนแอลง  และการรักษา Market share สินค้าแนวราบของบริษัทค่อนข้างท้าทาย

สำหรับราคาเหมาะสมสิ้นปีนี้ที่ 4.56 บาท และคงคำแนะนำ “TRADING” เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการผลตอบแทนจากเงินปันผล ปัจจุบันส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจร่วมค้า ปี 2567 มีสัดส่วนมากกว่า60% ของผลประกอบการ และการขายสินทรัพย์ระหว่างปีถือเป็นตัวแปรสำคัญของการเติบโตและการจ่ายเงินปันผลที่ราว 6% ต่อปี

3.บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP  

อนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

มาร์เก็ตแคป 21,234.82 ล้านบาท

กำไรไตรมาส 1/68 ที่ 863.72 ล้านบาท ลดลง 14.34% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,008.33 ล้านบาท

รายได้ไตรมาส 1/68 ที่ 7,758.81 ล้านบาท ลดลง 2.63% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7,968.31 ล้านบาท

ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี -16.67%

เงินปันผล YTD 8.89%

ราคาปิด 6.75 บาท

นาย อนุพงษ์ อัศวโภคิน ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน  676,984,861 หุ้น สัดส่วน 21.52%

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดผลประกอบการไตรมาส 2/68  ลดลง YoY ตามตลาดฯ ที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม คาดสามารถฟื้นตัว QoQ จาก ยอด Presales ไตรมาส 1/68 ที่เร่งตัวขึ้น และเป็นแนวราบถึง 9.5 พันล้านบาท +42% QoQ, +40%YoY ซึ่งคาดทยอยส่งมอบในไตรมาส 2/68 แลแนวสูงที่มีกำหนดการสร้างเสร็จและเริ่มโอน 3 โครงการมูลค่ารวม 8.1 พันล้านบาท ได้แก่ Aspire Arun Prive มูลค่า 500 ล้านบาท Presales 90% และโครงการ JV 2 แห่ง ที่จะเข้ามาหนุนส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมได้แก่ Aspire  Onnut  Station มูลค่า 3.0 พันล้านบาท Presales 84% และ Aspire Sukhumvit-Rama 4 มูลค่า 4.6 พันล้านบาท Presales 78%

ทั้งนี้ คงประมาณการกำไรปีนี้ที่ 4.5 พันล้านบาท -10%YoY ชะลอตัว YoY ตามตลาดอสังหาฯ ที่โดนกดดันจากปัจจัยมหภาคทั้งกำลังซื้ออ่อนแอ และสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อใหม่ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการดำเนินงานและการรักษาระดับยอดขายและโอนของ AP ยังโดดเด่นกว่ากลุ่มฯ จากสินค้าหลากหลายและแนวทางในการรับมือต่างๆจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเหมาะสมสิ้นปีนี้ที่ 8.90 บาท

4.บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG 

วรวุฒน์ โตเจริญธนาผล กรรมการผู้จัดการ

มาร์เก็ตแคป 16,311.42 ล้านบาท

กำไรไตรมาส 1/68 ที่ 569.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.97% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 399.20 ล้านบาท

รายได้ดอกเบี้ยสุทธิจํานวน 1,829.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2567

ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี -1.28%

เงินปันผล YTD 3.90%

ราคาปิด 0.77 บาท

บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 จำนวน  4,634,761,967 หุ้น สัดส่วน 21.88%

บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 จำนวน  2,910,199,375 หุ้น สัดส่วน 13.74%

นาย อนุพงษ์ อัศวโภคิน ถือหุ้นใหญ่อันดับ 6 จำนวน  97,986,233 หุ้น สัดส่วน 0.46%

ขณะที่ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสุทธิจํานวน 350.4 ล้านบาท ลดลง 34.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของกําไร (ขาดทุน) สุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกําไรหรือขาดทุน และรายได้จากการดําเนินงานอื่น และลดลง 7.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของกําไร (ขาดทุน) สุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกําไรหรือขาดทุน และกําไรจากเงินลงทุน

ส่วนค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานอื่นจํานวน 1,118.7 ล้านบาท ลดลง 23.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของค่าใช้จ่ายอื่นๆ และเพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคาร สถานที่และอุปกรณ์

5.บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH

เฉลิม เกียรติธนะบำรุง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ

มาร์เก็ตแคป 15,535.85 ล้านบาท

กำไรไตรมาส 1/68 ที่ 402.01 ล้านบาท ลดลง 17.97% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 490.09 ล้านบาท

รายได้ไตรมาส 1/68 ที่ 1,423.79 ล้านบาท ลดลง 20.81% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,797.84 ล้านบาท

ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี -15.70%

เงินปันผล YTD 7.59%

ราคาปิด 1.45 บาท

บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน  2,675,945,601 หุ้น สัดส่วน 24.98%

บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ไตรมาส 2/68 ยังไม่มีเปิดโครงการใหม่แนวโน้มยอดขายชะลอลง q-q จากยอดที่หายไปในช่วง เม.ย. แต่จะมียอดโอนสูงขึ้น q-q จาก Backlog ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะคอนโด Q1-Sukhumvit จะโอนได้ 5 ยูนิต มูลค่ากว่า 280 ล้านบาท (ไตรมาส 1/68 ไม่มีโอน) มี GPM สูงขึ้น จาก Q1-Sukhumvitมี GPM สูงแนวโน้มกำไรสูงขึ้น q-q แต่ยังอ่อนตัวหากเทียบ y-y 

6.บริษัท  Q-CON

ณรงค์เวทย์ วจนพานิช กรรมการผู้จัดการ

มาร์เก็ตแคป 2,980.00 ล้านบาท

กำไรไตรมาส 1/68 ที่ 88.33 ล้านบาท ลดลง 55.71% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 199.42 ล้านบาท

รายได้ไตรมาส 1/68 ที่ 512.04 ล้านบาท ลดลง 30.36% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 735.21 ล้านบาท

ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี -18.13%

เงินปันผล YTD 8.72%

ราคาปิด 1.45 บาท

บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)  ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 จำนวน  84,627,680 หุ้น สัดส่วน 21.16%

ณรงค์เวทย์ วจนพานิช กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ในปีนี้ตั้งเป้าต้องการขยายส่วนแบ่งการตลาดจากอิฐ แบ่งเป็นตลาดอิฐมวลเบา 35% อิฐแดงราว 30-35% ที่เหลือเป็นผนังอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันมูลค่าตลาดอิฐทั้งหมออยู่ที่ 100 ล้านตารางเมตร ขณะเดียวกันบริษัท โรงงานขยายกำลังการผลิตอีก 3.9 ล้านตารางเมตร ที่จังหวัดสงขลาจะแล้วเสร็จช่วงกลางปีนี้ ซึ่งจะเป็นไปเพื่อรองรับความต้องการในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต ซึ่งขณะนี้อสังหาริมทรัพย์ขยายตัวอย่างมาก และจะช่วยลดต้นทุนในการขนส่ง ส่งผลดีต่ออัตราทำกำไร

7.บริษัท แมนดารินโฮเต็ล จำกัด (มหาชน) หรือ MANRIN  

สุวรรณา พุทธประสาท ประธานกรรมการ 

มาร์เก็ตแคป 583.85 ล้านบาท

กำไรไตรมาส 1/68 ที่ 14.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.32% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 13.79 ล้านบาท

รายได้ไตรมาส 1/68 ที่ 97.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.75% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 93.46 ล้านบาท

ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี -28.85%

เงินปันผล YTD -%

ราคาปิด 21.70 บาท (ณ วันที่ 13 พ.ค.2568)

Cr. https://www.bangkokbiznews.com/finance/stock/1181559