JJNY : หวังหยุดวัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวล│หุ้นไทยปิดเช้าลบ 2.15 จุด│เชื่อมั่นอุตฯเม.ย.ร่วงต่อเนื่อง│อินโดฯเตือนภัยขั้นสูงสุด

กมธ.กฎหมาย. ตั้งคณะทำงานศึกษาเหตุสลายชุมนุม หวังหยุดวัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวล
https://www.matichon.co.th/politics/news_5189386
.
.
กมธ.กฎหมาย ตั้งคณะทำงานศึกษาข้อเท็จจริงเหตุการณ์สลายการชุมนุม หวัง หยุด วัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวล
.
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 19 พฤษภาคม ที่รัฐสภา น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ส.ส.กทม.พรรคประชาชน ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า กมธ.การกฎหมายฯ ได้ตั้งคณะทำงาน การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม สืบเนื่องจากเหตุการณ์วันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ที่มีการสลายการชุมนุมพี่น้องเสื้อแดง จากเหตุการณ์นี้จึงทำให้เรียนรู้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
.
น.ส.ศศินันท์ กล่าวต่อว่า จากการพูดคุยกับนายรอมฎอน ปันจอร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และ นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เห็นตรงกันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะพี่น้องเสื้อแดง หรือเหตุการณ์ตากใบที่เพิ่งหมดอายุความ มีความคล้ายคลึงกัน รวมถึงเหตุการณ์การสลายการชุมนุมต่าง ๆ คือ อำนาจรัฐ หรือเจ้าหน้าที่รัฐสลายการชุมนุมส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก เราจึงมองว่าผลพวงของเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ ทำให้มีคนจำนวนมากประสบชะตากรรมเดียวกัน และในฐานะส.ส.เรามองว่าสุดท้ายต้องใช้รัฐสภาเป็นเครื่องมือแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เพื่อหยุดยั้งหรือยุติการพ้นผิดลอยนวล ให้หมดไปจากสังคมไทย จึงมีการตั้งคณะทำงานคณะนี้ขึ้นมา
.
น.ส.ศศินันท์ กล่าวว่า คณะทำงานชุดนี้ ประกอบไปด้วยภาคสังคม นักวิชาการ ภาคการเมืองและภาคเอกชน ซึ่งมีความมุ่งมั่น ที่จะรวบรวมข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมต่อไป ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเป็นการเปลี่ยนแปลง ที่ไม่ได้ทำแค่รื้อฟื้นอดีตเท่านั้นแต่เป็นการ ปลดปล่อยอนาคตเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและไม่ได้ทำเพื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นการทำเพื่อศักดิ์ศรีของประชาชนทุกคน
.
ด้านนายศุภณัฐ บุญสด คณะทำงานฯ กล่าวว่า คณะทำงานฯ มุ่งมั่นที่จะรวบรวมข้อเท็จจริงความขัดแย้งทางการเมือง รวมถึงอุปสรรคทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้กระบวนการยุติธรรมในการหาผู้กระทำความผิดจากทุกกลุ่มการเมือง การที่จะก้าวไปข้างหน้าได้คิดว่าต้องรวบรวมข้อเท็จจริงจากผู้เสียหายในทุกส่วน คณะทำงานนี้จะทำงานอย่างปราศจากอคติ และรวบรวมข้อเท็จจริงของทุกคน ท้ายที่สุดรายงานฉบับนี้จะนำเสนอข้อเสนอที่เป็นรูปธรรมที่สุดในการปฏิรูปกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม เพื่อพาประเทศออกจากวัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวล และจะให้ทุกกลุ่มที่เสียหายจากการขัดแย้งทางการเมืองในรอบ 20 ปี ได้มีโอกาสหาผู้กระทำความผิดและได้รับความยุติธรรมจากรัฐสภา และนำประเทศไทยออกจากวังวนความขัดแย้งครั้งนี้
.

.
หุ้นไทยปิดเช้าลบ 2.15 จุด วอลุ่ม 2 หมื่นล้าน ไร้ปัจจัยใหม่หนุน แรงขาย DELTA กดดัน-เศรษฐกิจไทยยังน่าห่วง
.
หุ้นไทยปิดเช้าลบ 2.15 จุด วอลุ่ม 2 หมื่นล้าน ไร้ปัจจัยใหม่หนุน แรงขาย DELTA กดดัน-เศรษฐกิจไทยยังน่าห่วง
วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 SET ปิดเช้าที่ 1,193.62 จุด ลดลง 2.15 จุด (-0.18%) มูลค่าซื้อขาย 20,371 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งผันผวนในแดนลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,195.79 จุด และต่ำสุด 1,186.04 จุด
.
นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งลงออกข้างไร้ปัจจัยใหม่มาหนุนให้ฟื้นตัวได้ โดยมีแรงขายของหุ้น DELTA มากดดัน ประกอบกับตัวเลข GDP ของไทยไตรมาส 1/68 แม้ออกมาดีกว่าคาดเล็กน้อย แต่ประมาณการช่วงที่เหลือของปีถูกปรับลง และผลประกอบการ บจ.ในไตรมาส 1/68 ไม่ได้ดีกว่าคาด ส่วนภาพรวมการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯเริ่มมีความเสี่ยงหลังจากสหรัฐฯยืนยันความต้องการกำหนดอัตราภาษีเองในการเจรจา อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ไม่ได้ปรับตัวลงมากเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ส่วนปรับตัวลง
แนวโน้มช่วงบ่ายตลาดยังไร้ปัจจัยใหม่ จึงคาดว่าจะเหวี่ยงออกข้างเหมือนช่วงเช้า แนะติดตามข่าวการเจรจาการค้าสหรัฐกับประเทศต่างๆเพิ่มเติม ให้แนวต้าน 1,195 จุด และแนวรับ 1,186 จุด
.
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
.
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,599.62 ล้านบาท ปิดที่ 164.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 1,049.78 ล้านบาท ปิดที่ 3.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 803.68 ล้านบาท ปิดที่ 31.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 764.52 ล้านบาท ปิดที่ 295.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 756.14 ล้านบาท ปิดที่ 51.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
#หุ้นไทย #ข่าววันนี้ #ภาษีทรัมป์ #DELTA #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์


.
เชื่อมั่นอุตฯเม.ย.ร่วงต่อเนื่อง ภาษีทรัมป์ทุบชิ้นส่วนรถ เหล็ก แผงโซลาร์ ชงรัฐ 3 ข้อช่วยด่วน
https://www.matichon.co.th/economy/news_5189426
.
เชื่อมั่นอุตฯเม.ย.ร่วงต่อเนื่อง ภาษีทรัมป์ทุบชิ้นส่วนรถ เหล็ก แผงโซลาร์ ชงรัฐ 3 ข้อช่วยด่วน
.
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม นายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนเมษายน 2568 อยู่ที่ระดับ 89.9 ปรับตัวลดลงจาก 91.8 ในเดือนมีนาคม 2568 และลดลงต่อเนื่องเดือนที่ 2 เป็นผลจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอตัวจากวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ส่งผลให้จำนวนวันทำงานลดลง ประกอบกับมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ กระทบการส่งออก เช่น อัตราภาษีนำเข้าเฉพาะกลุ่มสินค้า (Sectoral Tariff) 25% ในกลุ่มสินค้าชิ้นส่วนและอะไหล่ยนต์, เหล็กและอลูมิเนียม และการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน (AD/CVD) ในสินค้าแผงโซลาร์เซลล์ 375% (เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568)
.
รวมถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวส่งผลให้เกิดการชะลอการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์แนวดิ่ง และกระทบต่อความเชื่อมั่นในภาคอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้งสินค้านำเข้าจากจีนและปัญหาการสวมสิทธิ์ถิ่นกำเนิดสินค้าไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สะท้อนจากมูลค่าการนำเข้าสินค้าจากจีนที่เพิ่มขึ้นคิดเป็น 20.07%YoY (ณ ช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม 2568) กระทบภาคการผลิตในประเทศ
.
อีกปัจจัยที่ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนนี้ ปรับตัวลดลง คือ เรื่องของการส่งออกรถยนต์มีแนวโน้มลดลง โดยในเดือนมีนาคม 2568 การส่งออกลดลง -9.36% (YoY) จากมาตรการขึ้นภาษีรถยนต์
.
อย่างไรก็ตาม ในเดือนเมษายน ยังคงมีปัจจัยบวกจากการชะลอการบังคับใช้ Reciprocal Tariff ออกไป 90 วัน (สิ้นสุดช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2568) โดยยังคงจัดเก็บภาษีนำเข้า Baseline Tariff 10% กับทุกประเทศ ส่งผลให้เกิดการเร่งนำเข้าสินค้าบางประเภทจากสหรัฐฯ เพื่อป้องกันการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน
.
ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น จากการจัดกิจกรรม Maha Songkran World Water Festival 2025 โดยในช่วงวันที่ 6–12 เมษายน 2568 มีนักท่องเที่ยวเข้าไทย 666,180 คน เพิ่มขึ้น 10.73% จากสัปดาห์ก่อนหน้า ช่วยหนุนการจับจ่ายใช้สอยและรายได้ท่องเที่ยวในประเทศ
.
รวมถึงมาตรการเยียวยาแผ่นดินไหว (วงเงินไม่เกิน 49,500 บาทต่อหลัง) และลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนองเหลือ 0.01% (เริ่มวันที่ 22 เมษายน 2568) ส่งผลดีต่อคลัสเตอร์วัสดุก่อสร้างจากการใช้จ่ายในการซ่อมแซมอาคารที่ได้รับความเสียหาย รวมถึงช่วยรักษาระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง
.
จากการสำรวจผู้ประกอบการ 1,359 ราย ครอบคลุม 47 กลุ่มอุตสาหกรรมของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในเดือนเมษายน 2568 พบว่าปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้น ได้แก่ เศรษฐกิจในประเทศ 58.4% เศรษฐกิจโลก 58.0% และสถานการณ์การเมืองในประเทศ 44.0% อัตราแลกเปลี่ยน (มุมมองผู้ส่งออก) 36.2% ส่วนปัจจัยที่มีความกังวลลดลง ได้แก่ ราคาน้ำมัน 25.0% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 14.9%
.
ขณะที่ดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวลดลงเช่นกัน อยู่ที่ระดับ 93.3 ลดลงจาก 95.7 ในเดือนมีนาคม 2568 เนื่องจากผู้ประกอบยังคงห่วงกังวลในเรื่อง ความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ภาคการผลิตอุตสาหกรรม มีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง และนักลงทุนอาจชะลอการลงทุนโดยเฉพาะในภาคการผลิตอุตสาหกรรม ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มชะลอตัว สะท้อนจากตัวเลข GDP สหรัฐฯ ไตรมาส 1 อยู่ที่ -0.3% และสภาพอากาศที่แปรปรวนส่งผลกระทบต่อปัญหาอุทกภัยในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้
.
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยสนับสนุนที่คาดว่าจะมาจากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 1.75% ต่อปี ช่วยลดต้นทุนทางการเงินให้กับผู้ประกอบการและเพิ่มกระแสเงินสดให้กับธุรกิจ
ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ
.
1. เสนอให้ภาครัฐเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าจากต่างประเทศที่เข้ามาสวมสิทธิ์ใช้ประเทศไทยในการส่งออก เช่น การออกใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (C/O) การตรวจสอบกระบวนการผลิตและการนำเข้า/ส่งออกสินค้าสำเร็จรูปในพิกัดศุลกากรเดียวกัน และติดตามพฤติกรรมการค้าของผู้ประกอบการที่มีการส่งออกไปสหรัฐฯ
.
2. เสนอให้ภาครัฐจัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาด้านการตลาดและการส่งออกครบวงจรในระดับภูมิภาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ในการเข้าถึงตลาด รวมทั้งการส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงการใช้วัตถุดิบภายในประเทศ (Local content)
.
3. สนับสนุนภาครัฐในการเจรจาความร่วมมือความตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement – FTA) ตามแผนเพื่อเปิดตลาดสินค้า การค้าและการลงทุนในระดับสูง เช่น ไทย –สหภาพยุโรป (EU), ไทย – เกาหลีใต้ (KTEPA), ไทย – สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (CEPA) และ อาเซียน – แคนาดา (ACAFTA)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่